กลิ่นฝุ่น
แสงแดดจางๆ ที่ลอดผ่านม่านสีซีด
เสียงพัดลมเก่าๆ ที่หมุนเอื่อยๆ อยู่มุมห้อง
ทุกอย่างดู…คุ้นเคยจนน่าขนลุก
ไมร่าลืมตาขึ้นช้าๆ ลมหายใจติดขัดในลำคอ ภาพสุดท้ายที่ยังหลงเหลือในหัวคือคลื่นกระแทกตัวเธอกระจายกลางลำน้ำ กลิ่นน้ำมันเครื่องบนเรือ เสียงกรีดร้อง เสียงทะเลาะ และเื—เืของเธอเองที่ไหลอุ่นรินลงบนพื้นไม้ยอร์ชที่แวววาว
เธอจำได้ว่าเธอะโ จำได้ว่าเธอจะหนี จำได้ว่าเธอกำโทรศัพท์ไว้แน่นและจะส่งคลิปเสียงออกไป แต่เสียงสุดท้ายที่ได้ยิน…คือคำว่า “ขอโทษนะไมร่า” จากผู้หญิงที่เธอเคยรักเหมือนพี่สาว ที่เธอไว้ใจมากจนให้เค้ามาเป็ผู้จัดการส่วนตัวของเธอ
แล้ว…ทุกอย่างก็มืดลง ไมร่ากระพริบตา น้ำในหูยังอื้ออึง มือของเธอสั่นสะท้านเมื่อควานหาผ้าห่มที่กรังฝุ่น เตียงเก่า ผ้าห่มลายหมีพูห์ พัดลมตั้งพื้นใบพัดหักหนึ่งข้าง
หน้าต่างที่เปิดทิ้งไว้จนผ้าม่านปลิวไหว เธอรู้จักทุกสิ่งในห้องนี้
นี่คือห้องนอนของเธอั้แ่เธอยังเด็กๆๆ ตอนที่เธออาศัยอยู่กับพ่อที่บ้านเก่า
“นี่มัน…ห้องเก่าฉัน?” เธอพึมพำ น้ำเสียงแหบพร่าและเบากว่าเดิมราวกับมาจากอีกชีวิตหนึ่ง เธอลุกขึ้นช้าๆ หัวใจเต้นแรงแทบหลุดออกจากอก พื้นไม้ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดเมื่อเธอก้าวเท้า เสียงนั่น เธอจำได้แม่น มันเป็รอยต่อไม้ของบ้านหลังเดิมที่ฉันเคยอยู่เมื่อตอนเด็ก
ไมร่าเปิดลิ้นชักโต๊ะเขียนหนังสือ พบแฟ้มเอกสารเก่า สมุดวาดเขียน และบัตรนักเรียนมัธยมต้นของเธอเอง
ชื่อ: ไมร่า พงษ์ธารา
โรงเรียน: รัตนินวิทยา
ระดับชั้น: ม.3
“ไม่จริง…” เธอพึมพำ
เธอรีบควานหาโทรศัพท์ พบมือถือรุ่นเก่าหน้าจอเล็กที่ต้องกดปุ่มอย่างแรง มันคือเครื่องที่เธอเคยใช้อยู่จริงในปีนั้น…มีสติ๊กเกอร์โดเรม่อนติดที่ฝาหลัง
วันที่แสดงบนหน้าจอ “ 9 มิถุนายน 2548 ”
“เรา…ย้อนเวลากลับมา?”
เสียงหัวใจของเธอดังรัวเหมือนกลองศึก เหงื่อไหลซึมเต็มฝ่ามือ ความกลัว ความใ และความหวังหลั่งไหลเข้ามาพร้อมกันราวพายุ
“นี่ไม่ใช่ฝัน…ไม่ใช่นรก…ไม่ใช่์…” เธอพูดกับตัวเองในกระจกเงาบนผนัง
ภาพในกระจกไม่ใช่หญิงสาววัย 35 ปี ผู้ผ่านความทุกข์มาทุกรูปแบบ ไม่ใช่ดาราที่เต็มไปด้วยข่าวฉาวและคำครหา มันคือภาพของเด็กสาววัย 15 ปี
หน้าตาสดใสแต่ดวงตาเศร้าลึก เสียงเรียกดังขึ้นจากด้านล่าง
“ไมร่า! จะกินข้าวเลยมั้ยลูก?” เธอแทบหยุดหายใจ เสียงนั้นคือเสียงของพ่อ
คนที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปอดเมื่อไมร่าอายุ 33
คนที่เธอไม่มีโอกาสได้ร่ำลาอย่างแท้จริง
“พ่อ…” เธอถลาลงบันไดไม้ เสียงเท้าตัวเองดังก้องเหมือนในความฝัน และแล้ว…เธอก็เห็นเขา ชายวัยกลางคน ผิวคล้ำ ผอมบาง ใส่เสื้อยืดเก่าๆ กำลังทำไข่เจียวในครัวให้เธอทานเหมือนเดิม
เขาหันมามองเธอ ยิ้มอบอุ่นเหมือนทุกเช้า“ตื่นแล้วเหรอลูก? เหงื่อออกเต็มเลย เป็อะไรไป...ฝันร้ายเหรอ?” ไมร่าไม่ตอบ เธอพุ่งเข้าไปกอดพ่อแน่น น้ำตารื้นพรั่งพรูออกมาราวกับเขื่อนแตก ไหลจากหัวใจที่โหยหาเขามาตลอดหลายปี เธอไม่ได้กอดเขาแบบนี้มานานแค่ไหนแล้วนะ? นานเกินกว่าจะจำได้ ในอกของเธอ…เต็มไปด้วยความอัดอั้น ทั้งความเสียใจ ความคิดถึง และความรู้สึกผิด
นี่คือโอกาสครั้งที่สอง เธอจะไม่มีวันยอมให้ทุกอย่างพังเหมือนเดิมอีก
“หนู...ขอโทษนะคะพ่อ ขอโทษที่เคยทำให้พ่อเสียใจ…” เสียงของไมร่าสั่นเครือขณะพูดออกมา มือก็กอดพ่อไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
พ่อหัวเราะเบา ๆ แล้วลูบหัวเธออย่างอ่อนโยน“อะไรกัน ยัยไมร่า พูดอะไรแบบนั้นล่ะ พ่อยังไม่ทันได้งอนเลยนะ”
ไมร่ากอดแน่นขึ้นอีก น้ำตายังไหลไม่หยุด“หนูคิดถึงข้าวฝีมือพ่อมากเลยค่ะ... หนูฝันร้าย หนูหาพ่อไม่เจอเลยในฝันนั้น มันน่ากลัวมาก แต่ตอนนี้หนูเจอพ่อแล้ว หนูจะไม่ปล่อยพ่อไปไหนอีกแล้วนะคะ”
เสียงของเธอเบาเหมือนกระซิบ แต่มั่นคงและจริงใจเธอยังคงกอดแขนของพ่อไว้แน่นเหมือนกลัวว่า...ถ้าปล่อย เขาจะหายไปอีกครั้ง
พ่อหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะลูบศีรษะของไมร่าอย่างอ่อนโยน“พ่ออยู่นี่นะลูก... พ่อจะไม่หายไปไหนแน่นอน ไม่ต้องกังวล มาๆ มากินข้าวเถอะ พ่อทอดไข่เจียวไว้ให้แล้ว”
ไมร่าคลายมือที่จับแขนพ่อแน่น ก่อนจะนั่งลงข้าง ๆ อย่างว่าง่ายเธอมองจานข้าวตรงหน้า ใจยังคงสั่นระรัว ความคิดในหัวปะทะกันวุ่นวาย เธอมีข้อมูลมากมายจากอนาคตที่กำลังจะไหลย้อนกลับออกมา เธอรู้ว่าเธอควรรีบจดบันทึก…ทุกอย่างก่อนจะลืม
คราวนี้ เธอจะไม่ยอมเสียพ่อไปอีกเธอจะใช้ความรู้ ความจำ และทุกโอกาสที่มี สร้างรายได้ สร้างทางรอด และช่วยพ่อให้ห่างไกลโรคร้าย
แม้ในปากจะเคี้ยวข้าว แต่ใจเธอ...กำลังคิดเป็พันเื่ไมร่าหันไปยิ้มทั้งน้ำตาให้พ่อเบา ๆ
“คราวนี้...ไมร่าจะไม่ให้พ่อป่วยอีกนะคะ”
หลังอาหารเช้า ไมร่านั่งเหม่อมองลานดินหลังบ้าน ดอกเฟื่องฟ้าบานสะพรั่งอยู่ริมรั้ว ความทรงจำในวัยเด็กผุดขึ้นราวกับฟองอากาศ
มือของเธอลูบไปบนโทรศัพท์ปุ่มกดเก่า ๆ ที่ตอนนี้กลายเป็เหมือนเครื่องย้อนเวลาส่วนตัว
เธอรู้ดีว่าต้องทำอะไรต่อไป
1. ต้องปกป้องพ่อจากโรคมะเร็ง—ครั้งนี้ เธอจะไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไปเฉยๆ เธอจะพาเขาตรวจร่างกายล่วงหน้า เปลี่ยนอาหารทุกอย่าง และขอให้เขาเลิกบุหรี่ให้ได้
2. ต้องไม่สนิทกับ “นีรญา” เหมือนในชาติก่อน ไม่ให้โอกาสใดๆ ที่จะถูกหักหลังซ้ำ
3. ต้องวางแผนอนาคตใหม่ทั้งหมด ทั้งการเรียน ชีวิตในวงการ และเพื่อนร่วมทาง
และที่สำคัญที่สุด เธอต้อง “จำทุกอย่างให้ได้”เพราะความทรงจำเ่าั้คืออาวุธเดียวที่เธอมี
ไมร่าเปิดสมุดจด เปลี่ยนหน้าแรกให้กลายเป็แผนชีวิตใหม่
“Reset Life Plan”
ตรวจสุขภาพพ่อ: พาไปโรงพยาบาลสัปดาห์หน้า
เลิกคบกับนีรญา: อย่าสนิท อย่าไว้ใจ
เรียนให้ดีเพื่อคว้าทุน
อย่าเข้าสู่วงการบันเทิงแบบเดิม หาทางอื่นให้ดีกว่า
บันทึกความทรงจำจากอดีตทุกอย่าง
อย่าใจอ่อน
อย่าหลงชื่อเสียง
อย่าไว้ใจใครง่ายๆ อีก
ขณะที่เธอกำลังเขียนถึงข้อสุดท้าย เสียงโทรศัพท์บ้านก็ดังขึ้น
กริ๊งงงงงงง…
ไมร่าหันไปมองอย่างหวั่นใจ ทำนองเสียงเรียกนี้ เธอจำได้แม่น—เสียงนี้เคยนำพาบางสิ่งบางอย่างเข้ามาในชีวิตเธอครั้งก่อน
เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะลุกไปรับ
“ฮัลโหล…” เสียงเธอสั่นนิดๆ
“ไมร่าเหรอ? เรานีรญานะ เพื่อนห้อง B จำเราได้มั้ย? แม่เราบอกว่าเธออยู่แถวนี้พอดี เลยโทรมาหา อยากคุยด้วยหน่อย…”
เธอแทบลืมหายใจ
“นีรญา…”
และนั่นคือจุดเริ่มต้นของบทใหม่ในชีวิตบทใหม่ที่เธอ…จะไม่มีวันเดินซ้ำรอยเดิมอีกเป็อันขาด
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้