กูเฟยเยี่ยนอารมณ์ดีอย่างยิ่ง นางะโโลดเต้นกลับไปยังห้องยาสำนักหมอหลวง
ใต้เท้าหนานกงกับเวินอวี่โหรวยืนอยู่หน้าประตูทางเข้าราวกับกำลังรอให้กูเฟยเยี่ยนกลับมา กูเฟยเยี่ยนฮัมเพลงเบาๆ พลางก้าวเดินโดยไม่ชะลอความเร็ว
ใต้เท้าหนานกงกับเวินอวี่โหรวต่างก็ประหลาดใจ ทั้งสองคนพากันมองหน้าเลิ่กลั่ก
เสนาบดีหลี่มาร้องเรียนจนฝ่าาเรียกตัวนางเข้าเฝ้า เห็นได้ชัดว่าจะสืบหาความรับผิดชอบ ดังนั้นกูเฟยเยี่ยนจะกลับมาอย่างปลอดภัยได้อย่างไร? ซึ่งกล่าวได้อีกนัยหนึ่งว่าถึงแม้ฝ่าาจะไม่ถามหาความรับผิดชอบจากนาง อย่างน้อยก็ต้องให้นางชดเชยยาจินชวงที่ขาดแคลนสิ เหตุใดนางจึงปราศจากความกังวล บัดนี้นางเหมือนกับได้พบเื่อะไรบางอย่างที่ทำให้อารมณ์ดีมาก?
กูเฟยเยี่ยนไม่ได้หยุดอยู่ตรงหน้าใต้เท้าหนานกงกับเวินอวี่โหรว นางกำลังจะเดินผ่านพวกเขา ใต้เท้าหนานกงจึงอดไม่ได้ที่จะสกัดกั้นนางไว้
“ศาสตราจารย์แพทย์กู ช้าก่อน ช้าก่อน !”
กูเฟยเยี่ยนหันกลับไปมอง “มีเื่อะไร? ”
ใต้เท้าหนานกงเอ่ยพูดตะกุกตะกัก “ศาสตราจารย์แพทย์กู ท่าน…ท่านก็ทราบว่าที่นี่ไม่เหมาะแก่การพูดคุย เอาเป็ว่าพวกเราไปคุยกันในห้อง? ”
กูเฟยเยี่ยนเลิกคิ้วมองเวินอวี่โหรว แต่ใครจะไปทราบว่าทันทีที่เวินอวี่โหรวเห็นนางมองไป เวินอวี่โหรวก็เผยถึงสีหน้าของความเหยียดหยามออกมาพลันหันหน้าไปทางอื่น
กูเฟยเยี่ยนเยาะเย้ยในใจ อย่าว่าแต่ให้นางไปขอร้องให้เวินอวี่โหรวจัดซื้อซานชีเ่าั้เลย เพราะต่อให้เวินอวี่โหรวขอร้องให้นางไปจัดซื้อซานชีเ่าั้ นางก็ไม่มีทางตอบตกลงแน่นอน!
กูเฟยเยี่ยนไม่ตอบใต้เท้าหนานกง นางมองด้วยความไม่พอใจก่อนจะหันหลังเดินออกไป
“ศาสตราจารย์แพทย์กู! ศาสตราจารย์แพทย์กู! ”
ใต้เท้าหนานกงไล่ตามไปไม่กี่ก้าว เขาไม่อาจหยุดนางไว้ได้จึงทำได้เพียงยอมแพ้ชั่วคราว เวินอวี่โหรวหันหน้ากลับมาพลางเอ่ยด้วยความเหยียดหยาม “ใต้เท้าหนานกง เ้าดูลักษณะท่าทีของนางสิ เดินยังไม่เดินดีๆเลย! นางมีลักษณะท่าทีของข้าราชการระดับหนึ่งเสียที่ใดกัน! นังคนชั้นต่ำ! ”
ใต้เท้าหนานกงไม่มีอารมณ์มาสนใจเื่เหล่านี้ เขายังคงสับสนมึนงง “นี่มันสถานการณ์แบบใดกัน? ”
เวินอวี่โหรวที่ได้ยินเช่นนี้จึงเอ่ยออกมา “ใต้เท้าหนานกง ขนาดนางยังไม่กังวลเลย ท่านจะกังวลไปทำไม? ”
ใต้เท้าหนานกงยังคงวิตกกังวลจึงเอ่ยโน้มน้าว “อาจารย์แพทย์เวิน ทางด้านของชายแดนตะวันออก้าสมุนไพรอย่างเร่งด่วน เหล่าฟูจะไม่กังวลได้อย่างไร? ”
เวินอวี่โหรวจึงโต้ถามกลับไป “เช่นนั้นฝ่าาจะไม่กังวลหรือ? ในความคิดของข้าคือ เื่นี้ยังไม่จบ! ”
ใต้เท้าหนานกงถอนหายใจออกมาอย่างหมดหนทาง “อาจารย์แพทย์เวิน เหตุใดเ้าถึงต้องโกรธด้วย? พวกเราต่างก็ทำงานในห้องยาสำนักหมอหลวง พวกเราควรที่จะสมานฉันท์สิ! เื่นี้เดิมทีก็อยู่ในความรับผิดชอบของเหล่าฟู บัดนี้ก็ไม่ใช่เวลามาผลักดันความรับผิดชอบ เื่เร่งด่วนในยามนี้คือการจัดซื้อสมุนไพรชุดนั้น! ”
เวินอวี่โหรวฟังออกถึงการตำหนิ นางทั้งน้อยใจและไม่พอใจ “ผู้ดูแลซ่างกวนกับพี่น้องหลายรายต่างก็ถูกกูเฟยเยี่ยนบีบบังคับให้ออกไป ใครกันแน่ที่ไม่สมานฉันท์! ถึงอย่างไรข้าก็ไม่สนใจ ถึงอย่างไรกูเฟยเยี่ยนก็ต้องมาขอร้องข้า! เว้นแต่ว่าค่ายทหารจะไม่้ายาชุดนั้นแล้ว ข้าจะไปคุยกับลูกพี่ลูกน้องของข้าเดี๋ยวนี้ ไม่ว่าใครหน้าไหนที่มาขอซื้อซานชีก็ห้ามขาย! ห้ามขายแม้แต่ต้นเดียว! ”
ทันทีที่เวินอวี่โหรวเอ่ยจบก็มีขันทีจากตำหนักเสวียนชิ่งเดินเข้ามา ใต้เท้าหนานกงรีบไปต้อนรับ เวินอวี่โหรวยืนมองอยู่ด้านข้างโดยไม่ปลีกตัวออกไป
ขันทีผู้นั้นเอ่ยด้วยความเกรงใจ “ใต้เท้าหนานกงโปรดมากับข้าพเ้าเถอะ ฝ่าา้าให้ท่านเข้าเฝ้าแล้ว”
สีหน้าของใต้เท้าหนานกงเปลี่ยนไปเล็กน้อย เวินอวี่โหรวรู้สึกประหลาดใจและไม่สบายใจ ความสามารถของนังคนชั้นต่ำอย่างกูเฟยเยี่ยนมีมากจริงๆ เื่ใหญ่ขนาดนี้นางยังหลุดพ้นได้!
เวินอวี่โหรวมีความลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะรีบก้าวขึ้นไปเอ่ยกระซิบต่อใต้เท้าหนานกง “ใต้เท้าหนานกง ท่านอย่ากลัวไปเลย ถ้ากูเฟยเยี่ยนผลักความรับผิดชอบมาให้ท่านจริงๆ ข้าจะช่วยท่านอย่างแน่นอน! ”
ซ่างกวนยิงหงออกไปแล้ว ดังนั้นไม่ว่าอย่างไรนางก็ต้องคว้าใต้เท้าหนานกงเอาไว้ให้ได้ มิฉะนั้นแล้ว นางจะอยู่ที่ห้องยาสำนักหมอหลวงต่อไปไม่ได้ นางต้องจ่ายค่าตอบแทนไปมากมายถึงจะได้รับการช่วยเหลือจากลูกพี่ลูกน้อง นางจะไม่มีวันจากไปอย่างง่ายดายแน่นอน!
กูเฟยเยี่ยนเห็นฉากเหล่านี้จากห้องด้านใน นางรู้อยู่แก่ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้น อารมณ์ของนางจึงดีมากขึ้นกว่าเดิม
นางเก็บกวาดข้าวของเครื่องใช้และไปมอบหมายงานเล็กน้อย จากนั้นจึงไปตรวจสอบบัญชีในอดีตของห้องยาสำนักหมอหลวง ถึงแม้ว่านางจะไม่คิดขุดคุ้ยเื่ราว แต่ถ้าหัวหน้าสมาคมหอการค้าเสวียนคง้าชำระสะสางเื่ราวในอดีตขึ้นมา นางจะได้เตรียมรับมือถูก กันไว้ดีกว่าแก้
ยามบ่าย เหมยกงกงมาอธิบายตารางการเดินทางด้วยตนเอง
หัวหน้าสมาคมหอการค้าเสวียนคงไม่ใช่ผู้ที่พบปะได้โดยง่าย พวกเขาต้องเดินทางไปที่กิจการใหญ่ของหอการค้าเสวียนคงเพื่อเยี่ยมเยียนถึงหน้าประตู ระยะเวลาคับขัน พวกเขาจึงจำเป็ต้องออกเดินทางเช้าวันพรุ่งนี้
เหมยกงกงเห็นกับตาว่ากูเฟยเยี่ยนเผชิญหน้าทุบโต๊ะกับเทียนอู่ฮ่องเต้ถึงสามครั้ง บัดนี้ท่าทีที่เขามีต่อกูเฟยเยี่ยนนั้นเรียกได้ว่าเคารพนับถือดั่งจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย แต่ละประโยคที่เขาเอ่ยออกมาหนีไม่พ้นคำว่า “ท่าน” กับ “นู๋ไฉ”
“ศาสตราจารย์แพทย์กู ทางด้านของจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยนั้น นู๋ไฉรายงานพระองค์เรียบร้อยแล้ว เมื่อถึงเวลานู๋ไฉจะมารับท่าน พวกเราจะไปรวมตัวกับจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยที่หน้าประตูเมืองทางใต้”
กูเฟยเยี่ยนแสร้งทำเป็เกรงใจพลางเอ่ยหยั่งเชิง “เื่ราวกะทันหัน จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยจะต้องแปลกใจใช่หรือไม่? ข้ากลัวว่าจะรบกวนเื่อื่นๆ ของพระองค์จริงๆ ”
ถึงแม้ว่าลักษณะท่าทีของเหมยกงกงจะนอบน้อม ทว่าเขาไม่ซื่อสัตย์จริงใจ “ศาสตราจารย์แพทย์กู กองทัพทหารมีความสำคัญ เตี้ยนเซี่ยจะเข้าใจแน่นอน”
กูเฟยเยี่ยนรู้ว่าหยั่งเชิงไปก็ไม่ได้อะไรกลับมา นางจึงพยักหน้าและไม่ถามถึงสิ่งใดอีก
กูเฟยเยี่ยนคำนวณเวลา กิจการใหญ่ของหอการค้าเสวียนคงอยู่ทางใต้ ตำแหน่งที่ตั้งอยู่ระหว่างสองมหาอำนาจอย่างตระกูลป้อมปราการหานกับตระกูลป้อมปราการซ่างกวน พวกเขาต้องใช้ระยะเวลายี่สิบวันถึงหนึ่งเดือนในการไปถึงที่นั่น ถ้าทางด้านของเวินอวี่โหรวกับใต้เท้าหนานกงดำเนินการได้อย่างราบรื่น เมื่อพวกเขาไปถึงหอการค้าเสวียนคง ซานชีชุดนั้นก็จะถูกโยกย้ายไปที่ค่ายทหารและทำเป็ยาตั้งนานแล้ว
กูเฟยเยี่ยนคิดว่าเทียนอู่ฮ่องเต้จะต้องให้ความสนใจเวินอวี่โหรวกับใต้เท้าหนานกง ดังนั้นนางจึงไม่จำเป็ต้องกังวล รอให้ข้าวสารหุงเป็ข้าวสุก สมุนไพรดิบเคี่ยวจนเป็ตัวยา [1] เพราะ่เวลานั้นจะเป็่เวลาที่ดีที่สุดในการสะสางเื่ราวในอดีต!
กูเฟยเยี่ยนมอบหมายงานที่ควรมอบหมายเรียบร้อย และมอบหมายงานบางอย่างแก่ใต้เท้าหนานกงโดยให้เหตุผลว่าจะต้องปลีกตัวออกไปที่หุบเขาเสินหนง
ในคืนนั้นกูเฟยเยี่ยนจัดเตรียมข้าวของเครื่องใช้เรียบร้อยแล้ว และวางแผนเข้านอนแต่หัวค่ำ ทว่าจู่ๆ นางก็นอนไม่หลับ นางหยิบจดหมายลับในใบสั่งยาของนายก้อนน้ำแข็งเหม็นออกมาพลางเดินไปรับลมบริเวณเรือนบ้าน
เฉียนโมโมะกำลังรับลมอยู่เช่นกัน ครั้นเห็นนางออกมาจึงรีบลุกขึ้นทันที “นายหญิงน้อย พรุ่งนี้จะต้องออกเดินทางไกลแล้ว ท่านต้องรีบพักผ่อนแต่หัวค่ำ”
กูเฟยเยี่ยนหาที่นั่งบริเวณเรือนบ้านพลางเอ่ยออกมา “เพิ่งจะก้าวเข้าสู่ฤดูร้อนก็ร้อนอบอ้าวถึงเพียงนี้ ต่อไปจะอยู่ได้อย่างไรกัน? ”
เฉียนโมโมะอมยิ้ม “นายหญิงน้อย ปัจจุบันนี้เพิ่งจะก้าวเข้าสู่ฤดูร้อนได้อย่างไรเ้าคะ วันนี้คือวันที่ยี่สิบสองเดือนห้าแล้ว! อีกไม่กี่วันก็จะเดือนหกแล้ว! ”
กูเฟยเยี่ยนงานเยอะจนลืมวันเวลา หญิงสาวพึมพำออกมาเบาๆ “เร็วจัง…ใกล้จะเดือนหกแล้วนี่นา”
วันคล้ายวันประสูติขององค์ชายแปดอยู่ในเดือนสี่ ในยามนั้นนางเคยได้ยินเซี่ยเสี่ยวหม่านพูดเอาไว้ว่าองค์ชายแปดมีอายุเทียบเท่าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย เขาประสูติก่อนจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยสองเดือน ดังนั้นจึงอยู่ในลำดับที่แปด ซึ่งกล่าวได้อีกนัยหนึ่งว่าวันคล้ายวันประสูติของจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยคือเดือนหก
กูเฟยเยี่ยนรีบคำนวณเวลา ถึงแม้ว่านางจะไม่รู้ว่าวันประสูติของจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยคือวันใด แต่จากวันประสูติของจวินฮั่นหยิ่นแล้ว นางสามารถคำนวณเวลาคร่าวๆ ได้ นางมั่นใจว่าในวันประสูติของจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย พวกเขายังอยู่ด้านนอก
กูเฟยเยี่ยนคำนวณเวลาด้วยความดีใจ ดูเหมือนว่าวันคล้ายวันประสูติของจิ้งหวางในปีนี้ นางจะสามารถอยู่ร่วมกับพระองค์ได้
เฉียนโมโมะเอ่ยถามด้วยความสงสัยทันทีที่เห็นรอยยิ้มของกูเฟยเยี่ยน “นายหญิงน้อย ท่านดีใจอะไรกัน? ”
นางจะได้ฉลองวันคล้ายวันประสูติกับเทพบุตร นางจะไม่แอบดีใจได้อย่างไร?
—————
เชิงอรรถ
[1] ข้าวสารหุงเป็ข้าวสุก สมุนไพรดิบเคี่ยวจนเป็ตัวยา หมายถึง เื่ราวมาไกลเกินกว่าที่จะไปแก้ไขได้แล้ว