รอยยิ้มของปิงหยวนกลายเป็แข็งทื่อ จากนั้นก็มีเสียงะเิดังขึ้นเนื่องจากกำแพงถล่ม จนห้องรับรองทั้งสามห้องที่ติดกันสามารถเห็นหน้ากันได้ชัดเจน
คนจากหมู่บ้านเสวี่ยอิงซานนำโดยปิงหยวน ส่วนนิกายเฮ่าเยว่ก็นำโดยคุณชายเตาเหลิ่งเยว่ แล้วยังมีอีกสามคนที่คั่นกลางระหว่างพวกเขา หนึ่งคนที่สวมหน้ากากกำลังยืนอยู่ และสองคนคือชายหนึ่งหญิงหนึ่งที่นั่งอย่างสงบ ไม่เคลื่อนไหวไปไหน นอกจากนี้ที่ใบหน้าของผู้หญิงก็มีผ้าคลุมหน้า ทำให้ความงามที่ฉาบฉายออกมามีเพียงเลือนราง
“ปิงหยวน... เ้ากล้าหัวเราะข้า?”
เหลิ่งเยว่กัดฟันกล่าว ปิงหยวนคอยยั่วยุเขามาตลอด เพราะ้าให้หลินเฟิงและเขาต่อสู้กัน แต่ผลที่ได้คือหลินเฟิงกลับทำให้เขาต้องอับอายไปด้วย
“หึ!”
ปิงหยวนยิ้มขึ้นมา เขาถูกหลินเฟิงทำให้อับอายขายหน้า แต่ในครั้งแรกที่พวกเขาพบกัน หลินเฟิงได้สังหารศิษย์ของหมู่บ้านเสวี่ยอิงซานไปคนหนึ่ง ทำให้เขาต้องขายหน้าและในครั้งสองก็ยังทำให้เขาต้องอับอายอีกครั้ง
“น้องเหลิ่งเยว่ เ้าว่าพวกเราควรกำจัดเขายังไงดี?” ปิงหยวนกล่าวอย่างชั่วร้ายและเตรียมพร้อมโจมตีหลินเฟิงอย่างไม่ลังเล
“ใครเป็น้องของเ้า? เขาพูดถูกแล้ว คนของหมู่บ้านเสวี่ยอิงซานเป็คนขี้ขลาด แล้วเ้ามีสิทธิ์อะไรมาเรียกข้าว่าน้อง?”
เหลิ่งเยว่กล่าว ทำให้ปิงหยวนถึงกับแข็งทื่ออยู่ตรงนั้น ทันใดนั้นเขากลับรู้สึกได้ว่าผู้คนด้านล่างกำลังมองมาทางเขา ทำให้เขารู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก
ทันใดนั้นได้มีเจตจำนงอันเยือกเย็นแผ่กระจายไปในอากาศ ทำให้ทั้งลานประมูลอยู่ภายใต้แรงกดดันมหาศาลนี้
“สุภาพบุรุษทั้งหลาย ตอนนี้การประมูลยังดำเนินอยู่ ความขัดแย้งของพวกท่านเอาไว้ค่อยสะสางหลังการประมูลเสร็จสิ้นลงเถิด”
ในขณะนั้นได้มีเสียงดังมาจากเวทีประมูล และเห็นหลันเจียวกำลังยิ้มอย่างอ่อนโยน เมื่อนางพูดจบบรรยากาศที่หดหู่ก็ค่อยๆ บรรเทาลง
“ก็ได้” ปิงหยวนกล่าวด้วยสีหน้าอย่างเ็าราวกับน้ำแข็ง
หลินเฟิงพยักหน้าให้หลันเจียวและยิ้มกลับให้นางอย่างสุภาพ
“ตอนนี้นายท่านเหลิ่งเยว่ได้เสนอราคาอยู่ที่ 12,000 หินหยวนระดับกลาง มีท่านใดจะให้มากกว่านี้ไหม?” หลันเจียวกล่าวขณะยิ้มให้ฝูงชน ทว่ากลับไม่มีใครตอบนางสักคน ด้วยราคา 12,000 หินหยวนระดับกลางต่ออาวุธจิติญญาระดับสูงหนึ่งชิ้น ถือว่าเป็ราคาที่สูงมาก
ด้วยหินหยวนจำนวนมากขนาดนี้ แม้แต่ผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตลี้ลับก็สามารถใช้ได้อีกนาน
“ถ้าไม่มีใครเสนอ งั้นหลันเจียวผู้นี้ก็ยินดีกับนายท่านเหลิ่งเยว่ด้วย มีดเสี้ยวจันทราตกเป็ของนายท่านเหลิ่งเยว่แล้ว”
หลันเจียวยิ้มจากนั้นก็กล่าวต่อว่า “ของชิ้นต่อไปที่จะนำมาประมูลก็คือหม้อ ซึ่งบนหม้อใบนี้ถูกแกะสลักรูปัเก้าตัว มันมีประวัติมาหลายหมื่นปีเป็อย่างน้อย และน่าจะเป็หม้อที่ใช้ในการสร้างอาวุธหรือกลั่นเม็ดยา อย่างไรก็ตามหม้อใบนี้ดูเหมือนจะไม่สมบูรณ์ ไม่มีใครรู้ว่ามันอยู่ระดับไหน แต่ท่านผู้าุโของหอประมูลได้แน่ใจแล้วว่า หากหม้อใบนี้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ อย่างน้อยก็น่าจะเป็สมบัติที่เป็อาวุธลี้ลับระดับกลางขึ้นไป”
“เพื่อให้ทุกท่านได้เห็นชัดเจนมากยิ่งขึ้นว่าอะไรขาดหายไป ดังนั้นพวกเราจะนำหม้อออกมาให้พวกท่านดู”
เมื่อหลันเจียวกล่าวจบ ทันใดนั้นก็มีสองคนยกหม้อหินขึ้นมา หม้อหินใบนี้สูงประมาณหนึ่งเมตร มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณหนึ่งเมตร แกะสลักลวดลายัทั้งเก้าตัวราวกับเป็ัจริง นอกจากนี้ัหนึ่งในนั้นกำลังแหงนหน้ามองท้องฟ้าและเปล่งเสียงคำรามออกมา เหมือนกับว่ามัน้าทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า แต่ัอีกแปดตัวนั้นแตกต่างออกไป ดูเหมือนว่านี่จะเป็สิ่งที่หลันเจียวบอกว่ามันยังไม่สมบูรณ์
นอกจากนี้เมื่อมองเพียงแวบแรก ทุกคนอาจรู้สึกว่าหม้อหินใบนี้ช่างเรียบง่าย ทว่าบนลวดลายที่แกะสลักเ่าั้กลับแผ่กลิ่นอายบางอย่างออกมา
“ทุกท่านโปรดไว้วางใจในตัวท่านผู้าุโของหอประมูล แม้หม้อหินใบนี้จะไม่สมบูรณ์ แต่มันย่อมไม่ใช่ของระดับต่ำ ในตอนนี้มันอาจใช้เป็หม้อกลั่นเม็ดยา แต่ถ้ามันสมบูรณ์ล่ะก็ มันจะต้องเป็อาวุธลี้ลับอย่างแน่นอน” หลันเจียวกล่าวด้วยน้ำเสียงฉะฉาน
อย่างไรก็ตามผู้คนก็ดูไม่ค่อยสนใจมากนัก เพราะเมืองเทียนลั้วมักจะมีวัตถุโบราณที่ไม่สมบูรณ์อยู่ทั่วไป แม้จะมีใครสามารถทำให้มันกลับคืนสภาพเดิมได้ แต่มันเป็เพียงหม้อหินที่แข็งแกร่งพอๆ กับอาวุธลี้ลับระสูงเท่านั้น นอกจากนั้นแล้วก็ไม่มีความสามารถในการโจมตีแต่อย่างใด
บางทีคงเป็ผู้ฝึกยุทธ์บางท่านที่สามารถกลั่นเม็ดยาเท่านั้นที่จะสนใจมัน
“ราคาเริ่มที่ 1,000 หินหยวนระดับกลาง” หลันเจียวกล่าวต่อทันที ทันใดนั้นผู้คนต่างก็ส่ายศีรษะ ด้วยราคา 1,000 หินหยวนระดับกลาง สำหรับหม้อหินนี้ถือว่าสูงมาก
เมื่อหลันเจียวเห็นฝูงชนต่างส่ายหัวอย่างระอาใจ ทำให้นางต้องยิ้มอย่างขมขื่น นางรู้ดีว่าหม้อหินใบนี้แม้จะเป็สมบัติล้ำค่า แต่มันก็เป็เื่ยากที่จะขายได้ในราคาดีๆ แต่มันก็เป็สมบัติที่ล้ำค่าจริงๆ
“ข้าขอเสนอราคาที่ 1,000 หินหยวนระดับกลาง”
ในขณะนั้นใครบางคนได้กล่าวขึ้นมา คนผู้นั้นเป็ชายชรา เห็นได้ชัดว่าเขาเป็ผู้กลั่นเม็ดยา แม้ว่าหม้อปรุงนี้จะไม่ค่อยมีประโยชน์นัก แต่ชายชราก็ให้ความสนใจต่อสมบัติล้ำค่าชิ้นนี้
นอกจากนี้เขาคิดว่าด้วย 1,000 หินหยวนระดับกลางนั้นไม่ใช่จำนวนที่มาก
“นั่น… ผู้าุโชื่อ ในเมื่อเขา้าก็ให้เขาไปเถอะ” ใครบางคนกล่าวด้วยเสียงแ่เบา ไม่มีใครให้ความสนใจกับหม้อหินใบนี้เลย ผู้คนไม่ได้สู้ราคากันเพราะมันไม่ใช่ของที่น่าสนใจพอ
ทุกคนต่างนิ่งเงียบ บรรยากาศการประมูลค่อนข้างอึดอัดเล็กน้อย
“หม้อหินใบนี้ มันก็ดูสวยดีเหมือนกัน ในเมื่อมันมีค่ามาก งั้นข้าขอเสนอราคาที่ 2,000 หินหยวนระดับกลาง”
หลินเฟิงกล่าวอย่างไม่แยแส ในตอนนี้มันเป็สินค้าชิ้นแรกที่เขาคิดว่ามันน่าสนใจ
หม้อัเก้า์... คาดไม่ถึงว่าหม้อัเก้า์ที่หายไปเป็หมื่นปีจะปรากฏที่เมืองเทียนลั้ว แต่ผู้คนกลับละเว้นและไม่สนใจมัน
ในความทรงจำที่หลินเฟิงได้รับมาจากบรรพบุรุษผู้ยิ่งใหญ่นั้น มีหนึ่งในความทรงจำที่ตราตรึงอยู่ในใจหลินเฟิง นั่นคือลวดลายบนหม้อที่มีชื่อเสียงที่สุดนั้นมีอยู่ 10 หม้อ โดยหม้อัเก้า์เป็อันดับที่เก้า ซึ่งมันสูญหายไปนับหมื่นปี ในสมัยก่อนนั้นมันเป็แค่ลวดลายที่สืบทอดต่อกันมา แต่ตอนนี้หม้อัเก้า์ได้มาปรากฏเบื้องหน้าของหลินเฟิงแล้ว ทว่ากลับไม่มีใครสนใจมัน
สินค้าชิ้นนี้มีค่าอย่างมาก แต่กลับไม่มีใครรู้เื่
หลินเฟิงเกือบจะเสนอราคาที่ 1,000 หินหยวนระดับกลาง แต่เขาย่อมไม่กล้าเสนอราคาสูงนัก เพราะมันอาจทำให้คนอื่นสงสัยได้
เมื่อผู้าุโชื่อฟาเห็นหลินเฟิง หลินเฟิงก็พยักหน้าและยิ้มให้เขาด้วยดวงตานิ่งสงบและไม่มีกระแสอารมณ์ใดๆ
“ในเมื่อพ่อหนุ่มสนใจมัน ข้าก็จะให้เ้า เพราะด้วยราคา 2,000 หินหยวนระดับกลางนั้น ถือว่าเป็ราคาที่สูงมาก” ผู้าุโชื่อฟากล่าว ทำให้ฝูงชนพยักหน้าช้าๆ และคงไม่มีใคร้าเสนอราคาต่อ
“โง่เง่า!”
ปิงหยวนกล่าวอย่างไม่แยแส แต่หลินเฟิงกลับไม่สนใจเขา แม้มันจะเป็แค่หม้อปรุงที่แกะสลักลายั แต่ด้วยราคา 2,000 หินหยวนระดับกลาง หลินเฟิงก็ไม่สนใจแม้ตนจะถูกเรียกว่าปัญญาอ่อนร้อยครั้งก็ตาม
“มีท่านใดอยากเสนอราคาอีกไหม?” หลันเจียวถามฝูงชนพอเป็พิธี ซึ่งก็ไม่มีใครส่งเสียงเสนอราคาอย่างที่คิด ดังนั้นหลันเจียวจึงไม่พยายามยืดเยื้อมันอีกต่อไป นางคิดว่า 2,000 หินหยวนระดับกลาง ก็เป็จำนวนที่มากแล้วสำหรับหม้อัเก้า์
“ข้าขอแสดงความยินดีกับนายท่านด้วย หม้อัเก้า์เป็ของท่านแล้ว” หลันเจียวกล่าวกับหลินเฟิงขณะโค้งคำนับเล็กน้อย ทันใดนั้นหน้าอกอันนุ่มนวลและขาวโพลนของนางกลับยิ่งดูใหญ่โตมากขึ้นขณะก้มลง ซึ่งทำให้ทุกคนต่างจ้องหน้าอกคู่โตของนางตาไม่กะพริบ
เมื่อหม้อัเก้า์ถูกยกลงไป ใบหน้าของหลันเจียวก็ปรากฏรอยยิ้มออกมาและกล่าวว่า “ของชิ้นสุดท้ายที่จะนำมาประมูลก็คือไฟปีศาจ ไฟปีศาจนั้นเป็ของจิ้งจอก 7 หาง ซึ่งเป็สัตว์อสูรปีศาจระดับลี้ลับ เชื่อว่าพวกท่านคงรู้กันดี งั้นข้าจะไม่พูดอะไรมาก”
“ไฟปีศาจ!”
หลินเฟิงประหลาดใจ เมื่อทักษะยุทธ์ถึงขอบเขตลี้ลับ เจินหยวนจะประกอบไปด้วยพลังที่แท้จริง ผู้ที่จิติญญาเปลวเพลิงจะมีเจินหยวนเป็ไฟ สามารถใช้เจินหยวนไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่นเดียวกับไฟปีศาจ จิ้งจอก 7 หางเป็สัตว์อสูรปีศาจแห่งเปลวเพลิง ไฟปีศาจที่อยู่ภายในร่างมันนั้นร้ายกาจอย่างมาก หากมันดูดซับเจินหยวนและกลั่นเป็ผลึกไฟได้ มันจะสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อหลันเจียวกล่าวจบ ทันใดนั้นไฟในดวงตาของผู้คนต่างก็ลุกโชน ไฟปีศาจที่อยู่ในตัวของจิ้งจอก 7 หางนั้นถือเป็สมบัติล้ำค่าในหมู่สัตว์อสูร มันถือว่าเป็สัตว์อสูรที่ทรงพลังอย่างมาก
สำหรับคุณสมบัติของเปลวเพลิงดังกล่าวนั้น ไม่ว่าจะเป็ผู้ฝึกยุทธ์หรือผู้กลั่นเม็ดยาต่างก็สนใจมันทั้งสิ้น
“ราคาประมูลเริ่มต้นที่ 2,000 หินหยวนระดับกลาง” หลันเจียวขานราคาเริ่มต้น มันสูงกว่ามีดเสี้ยวจันทราซึ่งเป็อาวุธจิติญญาระดับสูง หรือหม้อัเก้า์เสียอีก
นอกจากนี้ทุกคนต่าง้าเสนอราคา โดยไม่มีใครคิดว่าราคาเริ่มต้นของมันสูงเกินไป “3,000 หินหยวนระดับกลาง”
“4,000 หินหยวนระดับกลาง”
“…”
“10,000 หินหยวนระดับกลาง!”
ทุกคนต่างเสนอราคาออกมาจนราคาแตะที่ 10,000 หินหยวนระดับกลาง นอกจากนี้ราคาของมันก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
“20,000 หินหยวนระดับกลาง!” ตอนนี้เองได้มีเสียงเยือกเย็นดังขึ้น ทำให้บรรยากาศพลันเงียบสงัด 20,000! มีคนให้ราคาถึง 20,000 หินหยวนระดับกลาง! เ้าของราคาที่เสนอด้วยจำนวนมากขนาดนี้คือ... ปิงหยวน!