บทที่ 33 ฉันนี่แหละที่มาหานาย
เซียวไห่ช่วยมามากขนาดนี้ เย่จื่อเฉินจึงคิดว่าจะต้องตอบแทนน้ำใจนี้โดยเร็วแล้ว
พอเปิดวีแชทกลุ่มขึ้นมา เื่เล่าในกลุ่มล้วนแต่เป็เื่ที่เขากับยี่หนึงจินกุนประชันฝีปากกันในตอนนั้น
เซียนบางคนที่ไม่รู้เื่ก็ถามนู่นถามนี่ด้วยความอยากรู้ ดูท่าว่าเทพเซียนก็เป็แบบนี้เหมือนกัน ไฟแห่งการนินทาไม่มีวันมอดดับ
เทพสายฟ้า : เซียนผู้นั้นปรากฏตัวราวกับดอกถานฮวาในยามค่ำคืน ั้แ่ที่ประชันฝีมือกับยี่หนึงจินกุนในครั้งนั้นก็ไม่ปรากฏตัวออกมาอีกเลย
นางฟ้าลูกท้อ : นั่นน่ะสิ เซียนผู้นั้นเป็ไอดอลของพี่สาวน้องสาวข้าตั้งหลายคนเชียวนะ
เง็กเซียนเท้าเปลือย[1] : กล้าที่จะต่อสู้กับนักรบเยี่ยงยี่หนึงจินกุน ต้องเจ๋งและเก่งกาจเป็แน่(อิโมติคอนรูปนิ้วหัวแม่มือสามอันต่อท้ายประโยค)
นางฟ้าลูกท้อ : เห็นด้วย
เทพสายฟ้า : เห็นด้วย+1
อู๋กัง[2] : เห็นด้วย+2
เกิดการก่อตัวเป็กลุ่มขึ้นมาทันที เย่จื่อเฉินออกจากกลุ่มด้วยความระอาใจ และเลื่อนไปที่แชทของาาวานร
หลายวันมานี้เ้านี่ไม่ทักมาหาเขาเลย ซึ่งมันดูไม่ใช่นิสัยของาาวานร
เมื่อคิดดูแล้ว เย่จื่อเฉินจึงส่งข้อความไปถามข่าวคราว
"ท่านซุนหงอคง ยุ่งอะไรอยู่เหรอ?"
ไม่ตอบ!
ประหลาดเกินไปแล้ว เมื่อก่อนนี้เขาต้องตอบกลับในทันทีเลย
ติ๊ง!
จู่ๆ โทรศัพท์ก็สั่นขึ้นมา เย่จื่อเฉินเปิดแชทกลุ่มเหมือนเป็ปฏิกิริยาที่ตอบสนองอัตโนมัติ
อั่งเปาซองสีแดงนอนนิ่งอยู่บนหน้าจอจริงๆ ด้วย คนที่ส่งอั่งเปามายังคงเป็ไท่ซางเหล่าจวิน
แย่ง
กดช้าไป อั่งเปาโดนแย่งไปแล้ว
เพียะ! ตบขาตัวเองเล็กน้อย
อั่งเปาที่ไท่ซางเหล่าจินส่งมาเป็ของที่เย่จื่อเฉินกำลัง้าพอดี ให้ตายสิ แย่งมาไม่ได้
เมื่อมองดูโชคของคนอื่น
ให้ตายเถอะ เป็ยาวิเศษจริงๆ ด้วย
ติ๊ง!
มีอั่งเปาส่งมาอีกรอบ
กด
ขอโทษค่ะ อั่งเปาโดนแย่งหมดแล้ว
เพียงครู่เดียว ก็มีอั่งเปาส่งมาอีก
ฉันจะแย่ง!
คุณได้รับอั่งเปาของไท่ซางเหล่าจวิน
ยาวิเศษ x3
แย่งมาได้แล้ว
เย่จื่อเฉินตัวสั่น แย่งมาได้สักที
แต่เขาก็รู้สึกสงสัยขึ้นมาอีกครั้ง ว่าทำไมไท่ซางเหล่าจวินถึงได้ส่งอั่งเปามาโดยที่ไม่พูดอะไรเลย แถมยังส่งมาตั้งเยอะ
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือในกลุ่มเงียบจนน่ากลัว ไม่มีใครพูดอะไรเลย
เมื่อเลื่อนดูประวัติการแชท เย่จื่อเฉินถึงได้เห็นว่า
ไท่ซางเหล่าจวิน : ทุกคนหยุด เงินเดือนออกแล้ว
เงินเดือนออก
เย่จื่อเฉินที่รู้สึกมึนงงนึกถึงคำพูดของซุนหงอคงในตอนนั้นขึ้นมา ยาวิเศษของไท่ซางเหล่าจวินเอาให้นักรบ์กินเป็ลูกอม
ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง
ถ้าเป็ไปตามที่พูดล่ะก็ ไม่แน่ว่าอาจจะยังส่งมาอีก...
จริงอย่างที่คิด หลังจากนั้นไท่ซางเหล่าจวินก็ส่งอั่งเปามาอีกสิบกว่าซอง
เย่จื่อเฉินพยายามที่จะแย่งมาสุดชีวิต แต่ก็ต้องหงุดหงิดเมื่อแย่งไม่ได้เลยสักซอง
"จื่อเฉิน ทำไมเธอถึงเล่นแต่โทรศัพท์?"
เซียวอี้เหม่ยนั่งลง เย่จื่อเฉินจึงแกว่งโทรศัพท์ไปมาต่อหน้าเธอ
"แย่งอั่งเปาไง"
พรูดดด!
เซียวอี้เหม่ยกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่ได้ "เธอจนขนาดไหนกันเนี่ย ถ้าไม่มีเงินจริงๆ ฉันให้เธอก็ได้นะ"
พูดจบเซียวอี้เหม่ยก็หยิบบัตรเครดิตออกมา แต่เย่จื่อเฉินก็รีบดันกลับไปให้เธอ
"ทำอะไร นี่คุณจะเลี้ยงคนเก่งกาจอย่างผมเหรอ? อย่าลืมสิว่าเงินของคุณมาจากหินก้อนนั้นที่ผมช่วยคุณหานะ"
"จริงด้วยสิ จื่อเฉินของเราเก่งจังเลยนะ" เซียวอี้เหม่ยระบายยิ้ม เย่จื่อเฉินที่เห็นก็นิ่งไปทันที มือก็สอดเข้าไปในเสื้ออย่างควบคุมไม่ได้
"อย่ากวนสิ เถียนเถียนก็อยู่ด้วยนะ" เซียวอี้เหม่ยตีมือเย่จื่อเฉินออกไป เย่จื่อเฉินจึงเกาหัวและยิ้มให้อย่างรู้สึกผิด แต่เซียวอี้เหม่ยกลับเบียดเข้าไปพูดข้างหูของเขา "คืนนี้ไปที่บ้านฉันสิ"
ตู้มมม!
พลังที่อัดแน่นอยู่ในร่างกายพรั่งพรูออกมาทันที เมื่อมองดวงตาที่แฝงไว้ด้วยความยั่วยวนของเซียวอี้เหม่ย เย่จื่อเฉินก็ถึงกับกลืนน้ำลาย
"คุณพ่อคุณแม่คะ เถียนเถียนอิ่มแล้ว"
และไม่รู้ว่าทำไมเถียนเถียนตัวน้อยถึงได้ชอบโผล่มาได้จังหวะแบบนี้ประจำ
"กินอิ่มแล้ว งั้นเดี๋ยวแม่พาเถียนเถียนไปล้างมือนะคะ" ตอนที่เซียวอี้เหม่ยพาเถียนเถียนลุกออกไปก็ยังส่งยิ้มมีความนัยให้เย่จื่อเฉินด้วย
"จิ้งจอกสาวตัวนี้นี่นะ..."
ตอนออกมาจากร้านอาหาร ผู้จัดการร้านและพนักงานก็มายืนเรียงแถวรอส่งเย่จื่อเฉินออกจากร้าน
การกระทำแบบนี้ทำให้เย่จื่อเฉินตั้งตัวรับไม่ทัน ผิดกับเซียวอี้เหม่ยที่ดูสุขุมเยือกเย็น
บ่งบอกชัดเจนว่าเธอชินกับสถานการณ์แบบนี้แล้ว
"จะไปบ้านฉันไหม?" เซียวอี้เหม่ยหันไปยิ้มให้เย่จื่อเฉิน ดวงตาดึงดูดคนเจือไว้ด้วยความหวังจางๆ
"คุณคิดว่าไงล่ะ?" เย่จื่อเฉินเกี่ยวเอวคอดกิ่วเข้าหาตัวอย่างไม่ลังเล ให้ตายเถอะ ยั่วฉันขนาดนี้ ถ้าไม่ไปนี่ยังเป็ผู้ชายอยู่หรือเปล่า?
แต่ในเวลาสำคัญขนาดนี้ พี่ใหญ่คังเผิงดันโทรศัพท์มาหาเขา
"ว่าไง มีธุระอะไร? ถ้าไม่มีธุระอะไรจะวางแล้วนะ"
แม่เ้า โทรศัพท์มาเวลานี้ คิดจะถ่วงเวลาธุระสำคัญของเขาออกไปหรือไง!
"เย่จื่อ นายรีบมาเลย ถ้านายไม่กลับมา ฉันตายแน่"
คังเผิงร้องไห้กระซิกอยู่ในสายโทรศัพท์ ท่าทางแบบนั้นเหมือนกับโดนรุมตีเลย
เย่จื่อเฉินกวาดมองใบหน้าของเซียวอี้เหม่ย และได้ยินเสียงร้องไห้เ็ปของคังเผิงจากในสายอีกครั้ง...
"อยู่นั่นแหละ ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้"
"คาเฟ่อินเทอร์เน็ตชั้นสอง รีบมา"
"โอเค"
เมื่อโยนโทรศัพท์ใส่กระเป๋าแล้ว และกำลังจะอธิบายให้เซียวอี้เหม่ยเข้าใจ แต่อีกฝ่ายกลับเปิดปากพูดขึ้นก่อนแล้ว
"มีธุระด่วนเหรอ?"
"ดูเหมือนว่าเพื่อนที่หอจะมีปัญหา ผมจะไปดูหน่อย" เย่จื่อเฉินลูบหัว นิ้วมือลากผ่านแก้มของเซียวอี้เหม่ย "ครั้งหน้านะครับ ครั้งหน้าผมจะไปบ้านคุณ โอเคไหม?"
"เธอมีธุระก็ไปเถอะ ฉันเป็ของเธอ เธอมาหาได้ตลอดเวลาเลย" เซียวอี้เหม่ยยิ้มหวานก่อนจะจูบเบาๆ ลงบนปากของเย่จื่อเฉิน และก้มตัวเข้าไปในรถ
ลูบปากที่ยังคงทิ้งกลิ่นหอมหวานเอาไว้ เย่จื่อเฉินถึงกับถอนหายใจยาว
มามีเื่เวลาไหนดันไม่มี ดันมามีเอาตอนนี้...
มาถึงชั้นสองของร้านคาเฟ่อินเทอร์เน็ตด้วยความเดือดดาล คนที่จะมาที่นี่ในเวลานี้โดยส่วนใหญ่ก็จะเป็นักศึกษาที่อยู่แถวนี้ ทุกคนนั่งเล่นเกมอยู่ที่เก้าอี้ของตัวเอง ไม่ได้ดูเหมือนคนตีกันเลยสักนิด
กวาดตามองดูชั้นสองไปสองรอบ เย่จื่อเฉินก็เห็นคังเผิงนั่งอยู่ติดหน้าต่าง และกำลังเล่นเกมอยู่หน้าคอมเครื่องที่สองอย่างเมามัน
พรึบ
ฝ่ามือหนึ่งตบหูฟังของคังเผิงจนหลุดออก
"ใครวะ...เย่จื่อ นายกลับมาแล้วเหรอ"
คังเผิงเกาหัวแล้วยิ้มโง่ส่งให้ เย่จื่อเฉินโกรธจนแทบจะะเิแล้ว
ตอนที่ได้ยินคังเผิงร้องไห้ในโทรศัพท์ เขาคิดว่าโดนรุมกระทืบไปแล้วด้วยซ้ำ!
ให้ตายเถอะ หลอกเขาเหรอ?
ถ้าปกติคิดจะหลอกกันมันก็ได้ แต่เมื่อครู่นี้มัน...
เย่จื่อเฉินกัดฟันกำหมัดแน่น หน้าผากยับยู่ยี่จนแทบะเิ
"นาย อธิบายเหตุผลที่มันฟังขึ้นมาเลยนะ ไม่งั้น..."
กรอด
กำหมัดแน่นสุดแรง คังเผิงกลืนน้ำลายลงคอ แล้วพูด
"ไม่ใช่ฉันที่อยากเจอนาย แต่เป็คนอื่นที่อยากเจอนาย"
"ใคร บอกฉันมาว่าใครที่อยากเจอฉัน" เย่จื่อเฉินถลึงตา และกระชากคอเสื้อคังเผิง "นายรู้ไหมว่ามันกินเวลาธุระสำคัญของฉันขนาดไหน ฉันทิ้งเื่สำคัญมากเพื่อกลับมาเนี่ย!"
"เย่จื่อ นายอย่าเพิ่งวู่วาม สงบสติอารมณ์ก่อน"
คังเผิงหว่านล้อมไม่ให้เย่จื่อเฉินโมโห แล้วชี้ไปที่ตู้เกมตู้แรกทางด้านข้างที่ว่างอยู่
"เขามาหานาย"
"ใคร?"
"ฉันเอง!"
เสียงใสดังขึ้นข้างหลังเย่จื่อเฉิน เมื่อเขาหันไปก็เห็นเซี่ยเขอเข่อกำลังยืนยิ้มตาหยีอยู่ข้างหลังเขา
"ฉันนี่แหละที่มาหานาย"
___________________________________________________
[1] เง็กเซียนเท้าเปลือย เซียนตามตำนานพื้นบ้านของจีนและอยู่ในตำนานลัทธิเต๋า ตามตำนานกล่าวว่าเซียนเท้าเปลือยมักจะลงมายังโลกมนุษย์เพื่อช่วยปราบปีศาจ
[2] อู๋กัง เทพผู้ดูแลประตู์ เป็เทพที่โดนเง็กเซียนลงโทษให้คอยตัดต้นกุ้ย (ต้นดอกหอมหมื่นลี้) เมื่อไรที่โค่นต้นกุ้ยได้สำเร็จจึงจะพ้นโทษ