“นั่นสิ เจี้ยนเหวินเขาดีมากเลยนะ ตัวสูงใหญ่กำยำ หน้าตาก็ดี แถมยังเป็ทหาร เสี่ยวหยวนจะกล้าทิ้งผู้ชายแสนดีขนาดนั้นไปหาคนใหม่เหรอ?” สตรีที่มุงดูคนหนึ่งพูดขึ้นมาบ้าง บ้านเธออยู่ใกล้สกุลเฝิง รู้ดีว่าเฝิงเจี้ยนเหวินเป็บุรุษที่ยอดเยี่ยมแค่ไหน หากไม่ใช่เพราะเฝิงเจี้ยนเหวินหมั้นหมายกับเจิ้งหยวนก่อน เธอคงอยากให้ลูกสาวตนเองแต่งกับเขา ดังนั้นจึงไม่มีทางเชื่อว่าเจิ้งหยวนจะยอมทิ้งเฝิงเจี้ยนเหวินเพื่อผู้ชายคนอื่น
“เสี่ยวสยา ฉันว่านะ เธอไม่อยากแต่งกับคนขาพิการแซ่หลิว ก็ไม่เห็นต้องสาดโคลนใส่เสี่ยวหยวนเลย ทำลายชื่อเสียงกันแบบนี้ คนมันจะแห่กันมานินทาเอา!” เสียงผู้หญิงอีกคนดังขึ้น เธอเป็คนที่ดองญาติกับสกุลเฝิงนั่นเอง ลูกสาวเธอแต่งให้ลูกชายคนที่ห้าของสกุลเฝิง เฝิงเจี้ยนอู่
“ไม่ใช่นะ ป้าสะใภ้ใหญ่ คุณเชื่อฉันเถอะ มันไม่มีอะไรจริงๆ เป็เจิ้งหยวนต่างหากที่คบหากับคนในเมือง! คนจากโรงงานเครื่องจักรน่ะ คุณแม่ฉันไปสอบถามมาแล้ว ได้ยินว่าชื่อหลินเสี่ยวหยาง!” เจิ้งสยาไม่สนใจสิ่งใดอีกต่อไปแล้ว ขาเธอโดนเจิ้งหยวนลากลงหล่ม ขืนไม่ดึงเจิ้งหยวนลงมาด้วย คงไม่มีวันล้างข้อครหาให้ตนเองได้
มีทั้งชื่อและแซ่ ฟังดูมีเื่อะไรกันจริงๆ ตอนนี้ป้าสะใภ้เฉิงไม่รู้จริงๆ ว่าควรเชื่อใครดี เธอมองเจิ้งสยาที เจิ้งหยวนที
เจิ้งหยวนไม่ลุกลี้ลุกลนสักนิด เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พลันเบิกตากว้างและอุทานเสียงดังอย่างใ “พวกพี่ถึงขั้นไปหาสหายหลินเสี่ยวหยางที่โรงงานเครื่องจักรเลยเหรอ?พี่เสี่ยวสยา พวกพี่ทำแบบนี้ได้ยังไง แค่เห็นฉันพูดคุยกับหลินเสี่ยวหยาง รู้จักกับเขา ก็พยายามจะยัดเยียดให้ฉันกับสหายหลินเสี่ยวหยางมีความสัมพันธ์กันเกินเพื่อนปกติให้ได้เลยเหรอ? ยุคนี้มันไม่ใช่ยุคศักดินาสักหน่อย ทำไมฉันจะพูดคุยกับสหายผู้ชายไม่ได้แล้วล่ะ?” เธอเว้นวรรคชั่วครู่ ให้คนฟังได้มีเวลาย่อยข้อมูล “อีกอย่าง พี่บอกว่าคุณแม่พี่ไปสอบถามที่โรงงานเครื่องจักรมา หลินเสี่ยวหยางคนนั้นยอมรับความสัมพันธ์เกินเพื่อนกับฉันเหรอ?”
สีหน้าเจิ้งสยาเปลี่ยนไปฉับพลัน
เจิ้งหยวนเหยียดยิ้มเยาะ “เห็นไหม เขาไม่ยอมรับสิท่า?”
“เพราะเธอ... เพราะเธอไม่ให้เขายอมรับ!” เจิ้งสยานึกถึงการคาดเดาก่อนหน้านี้ของแม่เธอ แล้วชี้หน้าพูดใส่เจิ้งหยวน
เจิ้งหยวนปัดมือเธอออก “มันเป็เื่ปั้นแต่ง พี่จะให้คนเขายอมรับอะไร! พี่เสี่ยวสยา พี่บ้าไปแล้วเหรอ เพื่อจะแต่งงานกับพี่เจี้ยนเหวินแล้ว
พี่ก็ไม่รีรอที่จะกัดฉันเหมือนหมาบ้าเอาให้ได้!”
“ฉันเปล่านะ! ฉันเปล่า!”
เจิ้งหยวนทำสีหน้าจริงจัง ยกมือขวาแนบอก จ้องเสี่ยวสยาเขม็ง “งั้นพี่กล้าสาบานต่อประธานเหมาไหมว่าไม่เคยอยากแต่งให้พี่เจี้ยนเหวิน?”
เจิ้งสยาใบ้กินทันที เธอไม่กล้า เห็นดังนั้นเจิ้งหยวนจึงค่อยๆ ต้อนเจิ้งสยาทีละนิดๆ จนจนมุม เธอได้แต่เอ่ยตะกุกตะกัก“ฉะ... ฉัน ฉัน…”
หากเจิ้งหยวนยืนอยู่ในจุดเดียวกับญาติผู้พี่ ไม่ว่ากรรมจะตามสนองหรือไม่ก็ตาม เธอย่อมกล้าตบหน้าอกสาบานตนอยู่ดี เธอไม่เชื่อเื่ทำนองนี้อยู่แล้ว แต่เจิ้งสยาไม่ใช่เธอ คนยุคสมัยนี้ยังไร้เดียงสามากนัก ไฉนเลยจะมาคิดซับซ้อน และเข้าใจยากเช่นนี้ได้ สิ่งที่พูดออกมาเลยตรงไปตรงมา นอกจากนี้ เจิ้งสยายังเป็พวกไม่ถนัดจัดการกับคน เธอรวบรวมความกล้าลองดิ้นรนเพื่อตนเองสักครั้งก็ยากเย็นพอแล้ว ตอนนี้จึงพูดผิดพูดถูก จนทำตนเองตกอยู่ในสภาพจนตรอก
เจิ้งหยวนจงใจทำสายตาผิดหวังทิ้งท้าย ก่อนหันหลัง ลากเกวียนเดินจากไปช้าๆ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้