เฉิงชิงและชุยเยี่ยนซึมเศร้าด้วยกันอยู่ครึ่งวัน ทั้งยังปลอบใจกันและกัน
“ไม่ได้ฮุ่ยหยวนก็ไม่ทำให้การสอบหน้าพระที่นั่งของศิษย์พี่เมิ่งล่าช้าเสียหน่อย สามารถได้อันดับที่หนึ่งติดต่อกันหกสนามย่อมดีที่สุด ถึงไม่ได้ตำแหน่งนี้ ศิษย์พี่เมิ่งก็เก่งกาจมากเช่นเดิม!”
ใช่ เป็เช่นนี้
เฉิงชิงกดความเสียดายลงไป กล่าวโน้มน้าวตนเอง
ไม่ใช่ว่าเมิ่งไหวจิ่นสอบไม่ได้ฮุ่ยหยวนแล้วจะล้มแล้วลุกขึ้นยืนไม่ได้อีก ศิษย์พี่ก็ยังคงเป็ศิษย์พี่ เจ๋งกว่านางและชุยเยี่ยน
การมอบชื่อเสียงหลังการตายที่ฮ่องเต้ทรงมีราชโองการลงมาย่อมนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงอย่างมากสู่ตระกูลเฉิง หลังจากรับราชโองการแล้ว เฉิงชิงทำเื่ใดก็เปลี่ยนไปราบรื่นอย่างมาก ไม่มีความรู้สึกถูกดึงรั้งในทุกที่เช่นก่อนหน้านี้แล้ว
สิ่งแรกคือแผนการปลูกดอกไม้บนเนินเขา
เดิมทีคนสวนดอกไม้ชราผู้นั้นยังมีความลังเล กลัวว่าพอทุ่มเทฝีมือไปแล้ว รอร่างกายที่ชราอ่อนแรงลงจนขยับตัวไม่ไหวก็จะถูกเฉิงชิงเตะออกไป พูดไปพูดมาก็คืออยากให้เฉิงชิงรับปากดูแลยามชรา
เฉิงชิงเวลาดำเนินการสิ่งต่างๆ มักจะถือว่ามีความสามารถมากเท่าไรก็จะได้รับโอกาสมากเท่านั้น ให้คนสวนดอกไม้ชราแสดงผลสำเร็จออกมาก่อนแล้วค่อยมาเจรจาอย่างอื่น
แผนการนี้เดิมกำหนดเมื่อปีที่แล้ว คาดไม่ถึงว่าในเดือนสิบสองปีที่แล้ว ทั้งครอบครัวเฉิงชิงจะถูกกักบริเวณกะทันหัน ซือโม่ที่รับผิดชอบการปลูกดอกไม้ที่เนินเขาเองก็ถูกเ้าเมืองอวี๋พาตัวไปด้วยเช่นกัน เมื่อไม่มีผู้นำดำเนินการ ชาวนาเ่าั้ของตระกูลเฉิงก็ตื่นตระหนก
ยามนั้นทุกคนต่างกระจายข่าวกันว่าครอบครัวเฉิงชิงต้องได้รับโทษ เหล่าชาวนาต่างกังวลใจ
หากได้รับโทษ การริบสมบัติตระกูลเป็เื่ที่ต้องเกิดขึ้นแน่นอน เคหาสน์พร้อมที่นาเองก็รักษาเอาไว้ไม่ได้…เหล่าชาวนายังไม่รู้อนาคตของครอบครัวตัวเองอยู่ที่ใด ย่อมไม่มีจิตใจจะทำงาน
กลับเป็คนสวนดอกไม้ชราผู้นั้นที่ไม่ได้รับผลกระทบยังคงทำงานของตัวเองต่อไป ยุ่งอยู่บนเนินเขาที่ได้รับการถางแล้วทุกวัน ไม่กล่าวถึงการที่ไม่ได้เอาเงินที่ซื่อโม่ให้แล้ววิ่งหนีไป ยังคงหาพันธุ์ดอกไม้และกิ่งแก่ทุกที่ด้วยตัวเอง รอเฉิงชิงเป็อิสระแล้ว ดอกกุหลาบชุดแรกที่คนสวนดอกไม้ชราย้ายมาปลูกก็มีหน่ออ่อนและดอกตูมเล็กๆ แล้ว
นั่นเป็เพียงแค่หน่ออ่อนและดอกตูมเท่านั้นหรือ?
มิใช่ หน่ออ่อนเหล่านี้คือเงินที่ขาวแวววาว
เฉิงชิงไปดูด้วยตนเองรอบหนึ่ง นางยิ้มจนหน้าบาน
ชุยเยี่ยนเดินตามก้นอยู่ด้านหลัง รองเท้าคู่ใหม่ย่ำโคลนไปเต็มเท้า ไม่รู้ว่าเฉิงชิงดีใจอะไรกัน
เฉิงชิงชอบดอกไม้?
ไม่เหมือนจะเป็เช่นนั้นนะ
หากรักดอกไม้จริง เขาสามารถเชิญเฉิงชิงไปเข้าร่วมงานชมดอกไม้ สวนดอกไม้ที่ปรับปรุงอย่างพิถีพิถันเ่าั้คิดหาวิธีแล้วก็สามารถไปได้ ดูดีกว่าดอกไม้กิ่งไม้ที่กระจัดกระจายเหล่านี้กว่ามาก
ทว่ารอยยิ้มของเฉิงชิงมองแล้วก็ดูดีอยู่เหมือนกัน
สายตาของชุยเยี่ยนสำรวจบนใบหน้าของเฉิงชิงรอบหนึ่งแล้วก็ถอนสายตาไปอย่างเร่งร้อน
จู่ๆ เฉิงชิงก็หันหน้ามองเขา
“ชุยเยี่ยน เ้าสนใจจะมาทำการค้ากับข้าหรือไม่?”
หืม?!
พวกเราต้องสอบเข้ารับราชการนะ ทำไมจู่ๆ กล่าวว่า้าทำการค้า?
“เ้าขาดเงินหรือ? หากเ้าตึงมือล่ะก็ ข้ายังพอมีอยู่ตรงนี้บ้าง——”
ชุยเยี่ยนมีเงินและมักจะแสดงอำนาจบาตรใหญ่ เฉิงชิงรีบตัดบทเขา “ไม่ ในมือข้ายังมีเงิน ราชสำนักให้เงินชดเชยแก่บ้านข้าก้อนหนึ่ง ใช้อย่างประหยัดหน่อย ก็สามารถช่วยเหลือข้าให้ไปสำนักศึกษาหลวงได้อย่างไม่มีปัญหา”
ชุยเยี่ยนไปตามแิของเฉิงชิง
“เมืองหลวงกว้างใหญ่ อาศัยอยู่ไม่ง่าย ไปสำนักศึกษาหลวงแล้วเงินในมือเ้าก็ไม่พอที่จะใช้แล้ว นอกจากไปงานเลี้ยงสังสรรค์ เ้ายังต้องเลี้ยงดูมารดา เตรียมการแต่งงานให้แก่พี่สาวทั้งสาม…”
เฉิงชิงหัวเราะ “ดังนั้นข้าเลยตัดสินใจล่วงหน้า หากรอให้เื่เกิดขึ้นแล้วค่อยไปหาเงินก็คงลำบากมากแน่”
ชุยเยี่ยนขมวดคิ้ว เขาสามารถให้เฉิงชิงยืมเงินเพื่อหมุนเวียนได้ แต่หากต้องเตรียมการแต่งงานให้พวกพี่สาวที่บ้านเฉิงชิง เงินส่วนตัวของชุยเยี่ยนก็ไม่พอแล้ว
บุตรสาวคนโตตระกูลเฉิงถูกถอนหมั้น กลับมีสินเดิมหนึ่งก้อนแล้ว ถ้าชุยเยี่ยนจำไม่ผิดคือห้าพันตำลึง
บุตรสาวคนโตตระกูลเฉิงมีสินเดิมห้าพันตำลึงเงิน บุตรสาวคนรองและบุตรสาวคนที่สามก็ไม่อาจมีแตกต่างกันเกินไปได้ ด้วยลักษณะนิสัยของเฉิงชิงจะต้องพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะให้ยุติธรรมกันได้แน่ นี่ก็คือช่องว่างหนึ่งหมื่นตำลึงเงิน เงินชดเชยเล็กน้อยนั้นที่ราชสำนักมอบให้ก็เป็แค่เศษเงิน!
คนในตระกูลเฉิงอาจช่วยสมทบให้เฉิงชิง แต่ก็ไม่อาจช่วยสมทบมากเกินไป
ถึงอย่างไรสาเหตุก็ยังคงเป็เพราะทรัพย์สินประจำครอบครัวเฉิงชิงเบาบางเกินไป
บุตรหลานตระกูลเฉิงไม่อดตายคือความจริง แต่เงื่อนไขความเป็อยู่ของแต่ละครอบครัวมีสูงมีต่ำ กล่าวโดยสรุปแล้วก็ต้องพึ่งพาการบริหารจัดการด้วยตนเองของแต่ละบ้าน ชุยเยี่ยนคือครอบครัวพ่อค้าใหญ่ เขามีประสบการณ์ลึกซึ้ง เงินเป็สิ่งที่ยิ่งหาก็ยิ่งมากขึ้น นั่งกินนอนกินไม่ยอมทำอะไรก็ยิ่งจนลงเรื่อยๆ
เฉิงชิงในตอนนี้ไม่ขาดเงิน แต่ในอนาคตมีสิ่งที่ต้องใช้จ่ายเงินมากมาย นี่คือการเตรียมการไว้ล่วงหน้า
เมื่อชุยเยี่ยนคิดจนทะลุปรุโปร่งแล้วก็ตกปากรับคำ
“ได้ เ้าว่าทำการค้าอะไร? ทางน้ำของหนานอี๋ปลอดโปร่ง ที่ท่าเรือใหญ่มีเรือสินค้าของพ่อค้าจากแต่ละที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนทุกวัน เ้าหาข้ารับใช้ที่เฉลียวฉลาดหนึ่งคน พ่อบ้านข้า้าผู้ช่วยที่มีประสบการณ์สองคน การค้าที่ซื้อราคาต่ำขายราคาสูงล้วนทำได้”
ชุยเยี่ยนนึกว่าเฉิงชิง้าเอาเงินสินเดิมของบุตรสาวคนโตมาเป็เงินทุนในการทำการค้า หากเฉิงชิงออกเงินห้าพันตำลึง ชุยเยี่ยนเองก็คิดจะออกเงินห้าพันตำลึงด้วย มีเงินทุนหนึ่งหมื่นตำลึง ไหนเลยต้องกังวลว่าจะทำการค้าไม่ได้?
ตระกูลชุยมีเบื้องลึกเื้ัไม่เท่าตระกูลเฉิงแห่งหนานอี๋ แต่หากกล่าวถึงการค้าขาย เขาเองก็มีความมั่นใจอย่างมาก
ความกังวลใจหลักของเขาคือกลัวว่าเรี่ยวแรงของเฉิงชิงจะกระจายหายไป ดังนั้นจึงเสนอให้จัดการผ่านทางข้ารับใช้ที่พึ่งพาได้ เขาและเฉิงชิงเพียงจับตาสั่งการก็ใช้ได้แล้ว
เฉิงชิงมองกิ่งดอกไม้ยังมีขนาดเติบโตไม่เต็มที่แล้วส่ายหน้า
“ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่ดี ต้องรออีกหลายเดือน หรืออาจต้องดูปีหน้า ข้าเพียงแค่ให้เ้าเตรียมตัวไว้ล่วงหน้า”
เป็หุ้นส่วนทางการค้ากับชุยเยี่ยน?
นางย่อมต้องหาเงินได้แน่
แต่เงินที่หามาได้เดิมเป็รายได้ของชุยเยี่ยน เป็นางที่หนังหน้าหนาควักเอาเงินจากในมือชุยเยี่ยน——เื่นี้เคยทำแล้วก็ไม่มีปัญหาอะไร หลังจากชุยเยี่ยนเสียแรงวิ่งเต้นเพื่อนาง เฉิงชิงก็ยกระดับชุยเยี่ยนเป็สหายที่แท้จริง
สหายที่แท้จริงไม่อาจเอารัดเอาเปรียบกัน เมื่อเวลาผ่านไปความเป็เพื่อนก็ย่อมไม่มีแล้ว หาก้าเป็หุ้นส่วนทำการค้า นางสามารถนำสินค้าที่แท้จริงออกมา ตระกูลชุยมีช่องทางการจำหน่ายสินค้า นางมีความคิดมีทักษะ นี่จึงจะเรียกว่ารูปแบบความร่วมมือที่ทั้งสองฝ่ายได้ผลประโยชน์อย่างเท่าเทียมกัน
เฉิงชิงเพียงกล่าวคำพูดแค่ครึ่งเดียว ชุยเยี่ยนก็เหมือนถูกกรงเล็บแมวแมวน้อยตะกุยเบาๆ อยู่ในใจ
นี่ไม่ใช่การยั่วน้ำลายหรือ?
เฮ้อ เขาไหนเลยจะหาเงินได้ขนาดนั้น เฉิงชิง้าทำการค้าด้วยกันกับเขา เขาถึงขนาดตื่นเต้นกว่าตอนสอบผ่านการสอบระดับอำเภอ
แต่ชุยเยี่ยนคาดเดาผิดแล้ว เฉิงชิงไม่มีความคิดที่จะนำเงินสินเดิมห้าพันตำลึงมาลงทุนโดยสิ้นเชิง
เื่ดีเื่ที่สองหลังจากขจัดมลทินให้เฉิงจือหย่วนได้แล้วก็คือมีคนยินยอมที่จะขายที่นาของตำบลอู่ซินแก่ตระกูลเฉิงแล้ว อยู่ด้านข้างกับเคหาสน์พร้อมที่นาภายใต้ชื่อของเฉิงชิง พอรวมที่นาเล็กๆ น้อยๆ ไม่กี่ผืนแล้วก็มีถึงสามร้อยกว่าหมู่ หลังการเจรจาของเฉิงชิงและบุตรสาวคนโตแล้วก็ซื้อโดยไม่ลังเล
สัญญาที่นาลงทะเบียนใต้ชื่อของเฉิงชิงชั่วคราว ไม่ใช่ว่า้าเอาสินเดิมของบุตรสาวคนโตมาเป็ของตนเอง เป็เพราะว่าที่นาอยู่ใต้ชื่อนางแล้วจ่ายภาษีได้น้อยกว่า——บัดนี้เฉิงชิงยังไม่อาจเพลิดเพลินกับสถานะในปัจจุบันนี้ รอนางสอบผ่านระดับสำนักศึกษาเป็บัณฑิตซิ่วไฉแล้วก็สามารถให้ที่ดินส่วนหนึ่งจ่ายภาษีน้อย ที่ดินอีกส่วนหนึ่งไม่จ่ายภาษีได้เลย
หากเป็บัณฑิตจวี่เหรินแล้ว บริเวณที่ดินที่สามารถยกเว้นภาษีได้ก็ยิ่งมากขึ้น เป็ช่องทางที่บัณฑิตจวี่เหรินมากมายกลายมาเป็คนร่ำรวย
ที่นาที่ซื้อครั้งนี้เป็สินเดิมของบุตรสาวคนโต เหตุผลที่ไม่มีที่นาซึ่งเป็สินเดิมจดไว้ภายใต้ชื่อนางเพราะภายในระยะเวลาปีสองปีนี้บุตรสาวคนโตก็ต้องออกเรือนแล้ว ยกเว้นจำนวนภาษีไม่ได้อนาคตก็จะลำบาก เริ่มแรกเฉิงชิงก็ไม่เห็นด้วย ทว่าบุตรสาวคนโตยิ้มตาโค้ง
“พี่สาวเชื่อฟังน้องชาย หากมีคนที่เหมาะสมก็จะออกเรือน ยังหาไม่ได้ชั่วคราวข้าก็ไม่รีบ ข้าอยู่บ้านศึกษาการดูแลที่ดิน น้องชายเ้าจะไล่พี่สาวออกจากบ้านได้หรือ?”
โอ้ ถูกงูกัดครั้งเดียวกลัวเชือกบ่อน้ำไปสิบปีหรือ เป็เพราะฉีหยียนซงเซ็งเคร็งเพียงคนเดียว บุตรสาวคนโตถึงขนาดไม่อยากออกเรือนแล้ว
แต่นี่ก็ถือว่าเป็เื่ดี
บุตรสาวคนโตก็ไม่ได้เอ่ยว่าจะตาย เมื่อพบบุคคลที่เหมาะสมก็ยังคงยินยอมที่จะออกเรือน สภาพจิตใจเช่นนี้ดีมาก ไม่ว่ายุคโบราณหรือว่ายุคปัจจุบัน สตรียามออกเรือนไปอย่างเลอะเลือนจะถูกหลอกได้ง่าย
เฉิงชิงรับรองทันทีแสดงท่าทีว่าในเื่การแต่งงานจะเคารพความเต็มใจของบุตรสาวคนโตอย่างแน่นอน
ดวงตาของบุตรสาวคนโตยิ่งหยีโค้ง
“...น้องชายเ้าช่างดีจริงๆ!”
