หญ้าจื่อหลันมีคุณประโยชน์มากมาย หนึ่งในนั้นก็คือมันเป็พิษร้ายแรงต่อสัตว์อสูรจำพวกวานร อสูรวานรระดับเงินทั่วไปไม่อาจทนพิษของมันได้
ในโลกใบนี้ย่อมมีสิ่งหนึ่งข่มอีกสิ่งหนึ่งได้เสมอ!
ทุกคนต่างงุนงงและแปลกใจ มองหน้ากันไปมา
มีเพียงหูเหยียนหลันรั่วและเยี่ยจื่ออวิ๋นที่รู้ว่าเนี่ยหลีใช้ยาบางอย่างทาที่ปลายลูกธนู
กระนั้นก็ตาม สามารถยิงวานรั์แขนเทาล้มได้ด้วยธนูดอกเดียวอย่างง่ายดาย นี่กลับเป็เื่ที่ไม่ง่ายเลย
เห็นเนี่ยหลีใช้หน้าไม้ฆ่าวานรั์แขนเทา เฉินหลินเจี้ยนะโเสียงดัง “ทุกคน หยิบหน้าไม้ออกมา!”
ลูกน้องของเฉินหลินเจี้ยนรีบหยิบหน้าไม้ออกมา พวกเขาสามารถใช้หน้าไม้กำจัดวานรั์แขนเทาได้
เสิ่นเยวี่ยก็หยิบหน้าไม้คันหนึ่งออกมา มองๆ หน้าไม้ในมือ ในใจก็รู้สึกขุ่นเคือง เหตุใดเนี่ยหลีจึงดีกว่าเขา? ั้แ่เนี่ยหลีโผล่เข้ามาในชีวิต เขารู้สึกว่านับวันก็ยิ่งห่างเหินจากเยี่ยจื่ออวิ๋น เยี่ยจื่ออวิ๋นเวลานี้เมินเฉยราวกับว่าเขาไม่มีตัวตนอยู่บนโลกใบนี้ ตรงกันข้ามกลับเนี่ยหลีซึ่งอยู่ในสายตาของเยี่ยจื่ออวิ๋น สิ่งนี้ทำให้ใจของเขาเต็มไปด้วยความริษยาจนแทบบ้า
ก็แค่ยิงวานรั์แขนเทาตัวหนึ่ง จะยากเย็นแค่ไหนกันเชียว?
เสิ่นเยวี่ยบรรจุลูกธนูลงในรางธนูและค่อยๆ คืบคลานเข้าไปที่ริมกำแพง หันหน้าไม้ไปที่วานรั์แขนเทาตัวหนึ่งซึ่งอยู่ไกลออกไป สีหน้าจริงจังจดจ่ออย่างยิ่ง เล็งหน้าไม้ไปทางวานรั์ตัวนั้น
เวลานี้ทุกคนกำลังกลั้นหายใจ สายตาจดจ่ออยู่ที่เสิ่นเยวี่ยตรงริมกำแพง
“เป้าหมายใหญ่โตอย่างวานรั์แขนเทาเช่นนี้ คิดจะยิงให้ถูกเป้าก็มิใช่เื่ยากเย็นอะไรสักหน่อย!” เสิ่นเยวี่ยเหนี่ยวไก ขณะที่แตะไกนั้นมือก็เผลอสั่นขึ้นมาทันที
ซู่ แสงวาบเป็ประกาย ตูม ครู่ต่อมา ลูกธนูปักลงบนโคนไม้ต้นหนึ่งห่างจากวานรั์แขนเทาตัวนั้นอยู่ราวห้าถึงหกหมี่
เวลานี้ใบหน้าของเสิ่นเยวี่ยชักกระตุกเล็กน้อย สีหน้ากลายเป็ซีดขาวน่าเกลียดนัก
เห็นเช่นนี้ สีหน้าของทุกคนแลดูประหลาดนัก พวกเขากลั้นหัวเราะเสียแทบแย่ หากหัวเราะดังออกมา เสิ่นเยวี่ยคงไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว พวกเขาเข้าใจดีว่าเสิ่นเยวี่ยคิดแข่งกับเนี่ยหลี ทว่าการจะแข่งขันนั้นย่อมทำได้ ส่วนจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จก็อย่าให้น่าหัวเราะถึงปานนี้กระมัง?
เสิ่นเยี่ยแทบบ้าแล้ว เขารู้สึกว่าตนสามารถยิงถูกเป้าได้แน่แท้ แต่เหตุไฉนลูกธนูจึงเบี่ยงไปหลังจากที่เขาเหนี่ยวไกเล่า?
เห็นรอยยิ้มของผู้คนรอบด้าน เสิ่นเยวี่ยรู้สึกอับอายยิ่งนัก ยังมองเห็นได้ลางๆ ถึงรอยยิ้มในดวงตาของเยี่ยจื่ออวิ๋น เป็แววดูแคลนอย่างหนึ่ง! “แม่จ๋าช่วยลูกด้วย ข้าไม่เชื่อหรอก” เสิ่นเยวี่ยพลันหยิบธนูดอกที่สองขึ้นมาเติมลงในราง มือไม้พัลวันรีบขึ้นลูกธนู จากนั้นก็เล็งหน้าไม้ไปทางวานรั์แขนเทาตัวหนึ่งซึ่งอยู่ไกลออกไป
ซู่!
ธนูดอกนั้นตัดผ่านอากาศวาดประกายแสงสีเงินเย็น ทว่าผ่านไปครู่หนึ่ง ราวกับมันสูญเสียกำลังและร่วงลงพื้นไป
เสิ่นเยวี่ยขึงหน้าไม้ไม่ถูกต้อง ดังนั้นพอลูกธนูพุ่งออกไปได้เพียงนิดเดียวก็ร่วงลงพื้นแล้ว
เวลานี้ทุกคนอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ในที่สุด ทักษะของเสิ่นเยวี่ยไม่ได้เื่เอาเสียจริง เขา้าเลียนแบบเนี่ยหลีด้วยการฆ่าวานรั์แขนเทา แต่ผลลัพธ์กลับตรงข้ามกับเนี่ยหลีอย่างสิ้นเชิง หรือเสิ่นเยวี่ยตั้งใจทำตลกหรือ?
เฉินหลินเจี้ยนฝืนกลั้นหัวเราะอย่างหนักและเดินไปข้างกายเสิ่นเยวี่ย เขาตบบ่าเสิ่นเยวี่ยและพูดว่า “น้องเสิ่นเยวี่ย ลืมมันเสียเถอะ ของเล่นชิ้นนี้ไม่เหมาะกับเ้าหรอก”
สีหน้าของเสิ่นเยวี่ยม่วงคล้ำไปหมดแล้ว เสียงหัวเราะของทุกคนฟังแล้วช่างบาดแก้วหูยิ่งนัก เขายิ่งชิงชังเนี่ยหลีเข้าไปอีก เป็เพราะเนี่ยหลีแท้ๆ เขาจึงต้องเสียหน้าต่อหน้าทุกคนถึงเพียงนี้!
หากเนี่ยหลีรู้ว่าเวลานี้เสิ่นเยวี่ยกำลังคิดอะไรอยู่ เขาคงต้องรู้สึกว่าตนเป็ผู้บริสุทธิ์อย่างยิ่ง เขาไม่ได้ทำอะไรผิดเสียหน่อย!
เสิ่นเยวี่ยถือหน้าไม้อยู่ในมือ หากจะเก็บเอาไว้ก็ไม่ถูกต้อง ไม่เก็บเอาไว้ก็ไม่ถูกต้อง ช่างน่าสลดจนอยากจะแทรกแผ่นดินหนี
ในชีวิตหนก่อนของเนี่ยหลี เสิ่นเยวี่ยเป็คนที่มีความภาคภูมิใจในตนเองสูงล้นและมักเยาะเย้ยถากถางเนี่ยหลี เมื่อคิดถึงเื่นี้มุมปากของเนี่ยหลีก็ยิ้มยกเ็าพูดขึ้นเบาๆ ว่า “มีบางเื่ราว ไม่ใช่ว่าข้าทำได้ เ้าก็จะทำได้!”
ได้ยินคำพูดของเนี่ยหลี ความโกรธแค้นในใจของเสิ่นเยวี่ยก็แทบจะะเิออกมาแล้ว เขาพูดใส่เนี่ยหลีว่า “ทุกอย่างเป็ความผิดของเ้า ข้าจะฆ่าเ้า!” ใบหน้าของเสิ่นเยวี่ยเขียวคล้ำปูดโปนด้วยเส้นเืและชูหน้าไม้ในมือไปทางเนี่ยหลี รู้สึกแทบบ้าคลั่งแล้ว ในฐานะสายเืตรงของตระกูลเสินเซิ่ง จิตใจของเสิ่นเยวี่ยเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ คำยั่วยุของเนี่ยหลีเมื่อครู่ทำให้เขาสูญเสียความมีเหตุผลทั้งมวลลง
เสียงตูมดังขึ้นคราหนึ่ง เฉินหลินเจี้ยนใช้ฝ่ามือข้างหนึ่งปัดหน้าไม้ในมือของเสิ่นเยวี่ยออกไปพร้อมตวาดเสียงต่ำ “พอแล้ว!”
พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นสีหน้าเ็าของเฉินหลินเจี้ยน เสิ่นเยวี่ยขวัญหนีดีฝ่อแล้ว เดี๋ยวนี้ทุกคนล้วนเข้าข้างเนี่ยหลี เขาได้แต่หมุนตัวเดินจากไปด้วยความเคืองใจ
ทุกคนมองตามแผ่นหลังของเสิ่นเยวี่ยและถกกันเสียงเศร้า
“คิดไม่ถึงว่าเสิ่นเยวี่ยจะเป็คนเช่นนี้”
“ไม่มีคุณสมบัติของชนชั้นสูงเลยสักนิด”
สายตาของเนี่ยหลีเ็าอย่างยิ่ง หวนนึกถึงตระกูลเสินเซิ่งที่ทอดทิ้งเมืองกวงฮุยในชาติที่แล้วกับการกระทำของเสิ่นเยวี่ย คนเช่นนี้ ครอบครัวเช่นนี้ สมควรจะถูกกวาดล้างเสีย และเนี่ยหลีก็ไม่มีความเห็นใจให้แม้แต่น้อย!
เยี่ยจื่ออวิ๋นจ้องมองแผ่นหลังอันเดียวดายของเสิ่นเยวี่ย นางเดินไปข้างกายเนี่ยหลีและพูดว่า “เนี่ยหลี เสิ่นเยวี่ยก็น่าสงสารนัก”
ได้ยินคำพูดของเยี่ยจื่ออวิ๋น เนี่ยหลีขมวดคิ้วมุ่น เขาคิดไม่ถึงว่าเยี่ยจื่ออวิ๋นจะเห็นใจเสิ่นเยวี่ย จื่ออวิ๋นใจอ่อนเกินไป ในชีวิตหนก่อน เยี่ยจื่ออวิ๋นตกลงหมั้นหมายตามคำวิงวอนของเสิ่นเยวี่ย สุดท้ายสองคนยังไม่ทันแต่งงาน เสิ่นเยวี่ยก็ทิ้งเมืองกวงฮุยหนีไปพร้อมกับตระกูลเสินเซิ่งแล้ว
กับคนเช่นนี้มีอะไรให้สมควรเห็นใจนัก
ในใจเนี่ยหลีเริ่มเดือดดาล จ้องมองเยี่ยจื่ออวิ๋นและพูดเสียงกระด้างว่า “มันมีอะไรให้น่าเห็นใจนักรึ? นับจากนี้ไปอย่าได้ไปเกี่ยวข้องกับมันอีก ไม่เช่นนั้นก็อย่ามาหาข้า คนชั่วช้าเช่นนี้ต่อให้ตายก็สมควรแล้ว!”
ได้ยินคำดุว่าของเนี่ยหลี เยี่ยจื่ออวิ๋นเบ้ปากให้ “เ้าก็มิใช่เพื่อนชายของข้าเสียหน่อย มีสิทธิอะไรไม่ยอมให้ข้าคบหากับผู้อื่น” แม้ในใจจะคิดเช่นนี้ แต่เยี่ยจื่ออวิ๋นกลับตัดสินใจ อนาคตข้างหน้าจะไม่ติดต่อกับเสิ่นเยวี่ยอีก ไม่เช่นนั้นก็อาจจะไม่ได้เป็เพื่อนกับเนี่ยหลีอีก นางรู้สึกกังวลกับความเห็นของเนี่ยหลีอย่างไม่รู้ตัว ทว่าก็ไม่เข้าใจแม้แต่น้อย เหตุใดเนี่ยหลีจึงเกลียดชังเสิ่นเยวี่ยถึงเพียงนี้ หรือว่าระหว่างทั้งสองฝ่ายมีความเกลียดชังชนิดที่ไม่อาจอยู่ร่วมโลกเดียวกันได้?
เนี่ยหลีผ่อนลมหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เมื่อครู่เขาหงุดหงิดเกินไปหน่อย น้ำเสียงจึงกระด้างอยู่บ้าง แต่ตักเตือนเยี่ยจื่ออวิ๋นสักนิดก็เป็การดี
ลูกน้องของเฉินหลินเจี้ยนเริ่มจัดการกับวานรั์แขนเทาด้วยหน้าไม้ แต่พวกเขาต้องพบว่าลูกธนูของตนไม่อาจทำอะไรพวกมันได้เลย เป็ความจริงที่วานรั์แขนเดียวนั้นร่างกายใหญ่โต อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวของพวกมันกลับว่องไวนัก พวกเขาพบทันทีว่าธนูที่ถูกยิงออกไป วานรั์แขนเทาก็สามารถกระโจนหนีได้ในทันที ทำให้ลูกธนูพลาดเป้า
บัดนี้พวกเขาจึงตระหนักแล้วว่าฝีมือยิงหน้าไม้ของเนี่ยหลีสูงส่งปานใด
เมื่อได้ค้นพบความสามารถอีกอย่างหนึ่งของเนี่ยหลี สายตาที่หูเหยียนหลันรั่วจ้องมองเนี่ยหลีก็เต็มไปด้วยประกายเสน่หา เวลาอยู่ข้างเนี่ยหลีบางครั้งก็วางท่ายั่วยวน อวดสัดส่วนชวนพิศวง ทรวงอกชูชันและร่องลึก
เนี่ยหลีรู้สึกอับจนคำพูดกับสตรีผู้นี้แล้ว นางสามารถเร่าร้อนขึ้นมาได้ทุกเมื่อ ยามเผชิญหน้ากับผู้อื่น นางทำสีหน้าเรียบเฉย ครั้นพออยู่ต่อหน้ากับเนี่ยหลี ราวกับมีความสนใจเป็พิเศษ
“น้องเนี่ยหลี พวกเราต้องรบกวนเ้าแล้ว!” เฉินหลินเจี้ยนทอดถอนใจ ในบรรดาคนทั้งหลาย มีเพียงเนี่ยหลีที่สามารถฆ่าวานรั์แขนเทาพวกนั้นได้
“อืม!” เนี่ยหลีตอบคำพร้อมพยักหน้าเล็กน้อย
เนี่ยหลีเริ่มจัดการกวาดล้างวานรั์แขนเทาไปตามทาง ฝีมือยิงหน้าไม้ของเขาแม่นยำถึงขนาดที่ไม่มีพลาดเป้า ทักษะการยิงหน้าไม้ของเขาล่วงเข้าถึงระดับสูงสุดในชีวิตชาติก่อน แม้ฝีมือยุทธ์ในเวลานี้เพิ่งอยู่ในระดับทองแดงหนึ่งดาว จัดการกับสัตว์อสูรระดับเงินทั่วไปถือว่ายิ่งกว่าพอ
ทุกคนพากันตะลึงงันกับฝีมือยิงหน้าไม้ของเนี่ยหลีแล้ว แม้ยอดฝีมือระดับเงินผู้หนึ่งอาจพูดว่าการหลบหน้าไม้ของเขามิใช่เื่ยาก แต่ทว่า ไม่ว่าวานรั์แขนเทาพวกนั้นจะพยายามหลบจากธนูของเนี่ยหลีอย่างไร ลูกศรพวกนั้นกลับดูเหมือนเงาที่ไล่ตามหลังพวกมันไป
ไม่รู้ว่าั้แ่เมื่อไหร่ที่เนี่ยหลีก็กลายเป็แกนหลักคนหนึ่งของคณะไปแล้ว
ชั่วขณะที่เนี่ยหลีและคณะเริ่มค่อยๆ รุดหน้าใกล้ถึงเป้าหมาย จำนวนวานรั์แขนเทาพลันเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน พวกมันมีจำนวนยี่สิบกว่าตัว ทุกตัวจับตามองเนี่ยหลีและพวก
“โฮว!”
เสียงคำรามสั่นสะท้อนสะท้านดังขึ้นคราหนึ่ง คนทั้งกลุ่มเริ่มตัวสั่นเทาอย่างแรง
แก้วหูราวกับถูกสั่นจนแทบฉีกขาด ทุกคนได้แต่มองหน้ากันไปมา
“มันคือสัตว์อสูรที่มีจิตอสูร!” เนี่ยหลีพูดอย่างตื่นตระหนก
สัตว์อสูรทั่วไปก็เหมือนมนุษย์ พวกมันแบ่งออกเป็ระดับทองแดง เงิน ทอง ทองดำ และระดับตำนาน อย่างไรก็ตาม ในบรรดาระดับเหล่านี้ยังแบ่งออกเป็พวกปกติ พวกที่มีจิตอสูร และระดับาา ตัวอย่างเช่นวานรั์แขนเทา วานรั์แขนเทาทั่วไปไม่อาจกำเนิดจิตอสูรในสมองของพวกมันได้ อย่างไรก็ตาม วานรั์แขนเทาที่มีจิตอสูรนั้นมีจิตอย่างหนึ่งถือกำเนิดขึ้นในสมองของมัน มันยังมีเชาวน์ปัญญาเทียบเท่ามนุษย์อายุสิบปี พลังของมันแข็งแกร่งกว่าวานรั์แขนเทาทั่วไปมาก ส่วนสัตว์อสูรระดับาานั้น จิตอสูรในสมองของมันได้กลายสภาพเป็ของเหลวและมีความสามารถในการแปลงร่างเป็มนุษย์ พลังของมันก็น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง
“พลังของมันเป็อย่างไร?” สีหน้าของเฉินหลินเจี้ยนแปรเปลี่ยนและเอ่ยถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงหวาดกลัว
“ระดับเงินห้าดาว ขาดอีกนิดเดียวก็ถึงระดับทองแล้ว!” เนี่ยหลีตอบ ฟังเสียงคำรามของวานรั์แขนเทาตัวนั้นเนี่ยหลีก็พลันยืนยันพลังของมันได้
เนี่ยหลีขมวดคิ้วมุ่นเล็กน้อย สัตว์อสูรทั่วไปในระดับเดียวกันกับมนุษย์ปกติแล้วมีความแข็งแกร่งกว่ามนุษย์เล็กน้อย โดยเฉพาะเมื่อเป็วานรั์แขนเทา พวกมันรับมือได้ยากมาก อีกทั้งวานรั์แขนเทาตัวนี้ยังมีพลังพอๆ กับยอดฝีมือระดับทองแล้ว!”
ด้วยระดับพลังของเนี่ยหลีในเวลานี้ พบกับสัตว์อสูรระดับนี้ถือว่ายากเกินไป
ส่วนกลุ่มของเฉินหลินเจี้ยน ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดก็เป็เพียงระดับเงินเท่านั้น!
ระดับเงินห้าดาว เฉินหลินเจี้ยนขมวดคิ้วมุ่น นึกไม่ถึงว่าจะต้องมาพบกับสัตว์อสูรที่มีจิตอสูรในสถานที่แห่งนี้ ทั้งยังเป็ระดับเงินห้าดาว เกรงว่าคงรับมือด้วยยากอย่างยิ่ง รอบๆ บริเวณนี้ก็ยังมีวานรั์แขนเทาธรรมดาจำนวนมากคอยเฝ้าดูพวกเขาอยู่ หากต้องต่อสู้กันจริงๆ ก็มีสิทธิที่พวกเขาทุกคนจะถูกฆ่า
“โฮว!”
ไกลออกไป วานรั์แขนเทาระดับจิตอสูรกระโจนขึ้นไปบนกำแพงสูง ยืนอยู่บนกำแพงจ้องมองพวกเนี่ยหลี สายตาดุร้ายนัก
“ไป ตามข้ามา!” เนี่ยหลีะโและพุ่งตัวเข้าไปในป่าข้างๆ พวกเขา
ทุกคนมองตากันและวิ่งสับสนตามหลังเนี่ยหลีไป เข้าซ่อนตัวในผืนป่า
วานรั์แขนเทาระดับจิตอสูรเห็นเช่นนั้นก็ทุบอกกระทืบเท้า ส่งเสียงคำรามโกรธเกรี้ยว เสียงคำรามสะท้านะเืเลื่อนลั่นดังขึ้นอีกคราหนึ่ง กลุ่มวานรั์แขนเทาธรรมดาเมื่อได้ยินเสียงสั่งของวานรั์แขนเทาระดับจิตอสูรเข้า ต่างก็พุ่งตัวไปยังทิศทางที่เนี่ยหลีและคณะวิ่งหนีไป
ป่าทึบเป็สถานที่ที่ไม่เหมาะกับพวกวานรั์แขนเทาซึ่งมาร่างกายใหญ่โต
“รวมกลุ่มกัน เร็วเข้า!” เฉินหลินเจี้ยนะโลั่นเกรี้ยวกราด กลุ่มนักสู้ระดับเงินรีบอาศัยต้นไม้หนาทึบรอบด้านรวมกลุ่มกันล้อมเป็วงและนำอาวุธของตนออกมา
ซู่ ซู่ ซู่!
วานรั์แขนเทาตัวหนึ่งพุ่งเข้ามา เนี่ยหลียกหน้าไม้ประทับ ลูกธนูดอกหนึ่งพุ่งลิ่วออกไป
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้