“เ้าคือโอกาส เป็จุดเริ่มต้นของการกำเนิด” สือซินเหลือบมองหนิงเทียนแล้วยิ้มอย่างมีเลศนัย
“ช่างไร้สาระ เ้ารู้ว่าข้าเป็คนทำให้ตนถือกำเนิดขึ้นมา แต่ยังแสร้งทำเป็บ้าและโง่ ข้าเหนื่อยจนเหงื่อไหลหยดแล้วนะ” หนิงเทียนไม่ชอบใจและโกรธเล็กน้อย
สือซินกล่าวว่า “ความทรงจำของข้าต้องเปิดใช้หลังจากกายศักดิ์สิทธิ์เก้าเส้นลมปราณเปิดใช้งานเต็มที่แล้ว มันจะค่อยๆ ฟื้นคืน ถ้าไม่ใช่เพราะเ้า อาจต้องใช้เวลาหลายพันปีกว่าข้าจะฟื้นความทรงจำได้อย่างแท้จริง”
“ดังนั้น เ้าควรจะซาบซึ้งใจ แทนที่จะโจมตีผู้มีพระคุณสิ” หนิงเทียนจ้องสือซินอย่างไม่พอใจ
“เ้าคือผู้ให้โอกาสและเ้ามีสิ่งที่ต้องรับผิดชอบ”
“หยุดพูดเื่นี้ได้แล้ว เ้ามีสมบัติล้ำค่าอะไรบ้าง จงนำออกมาให้หมด”
สือซินยักไหล่และพูดว่า “โลงศพ ถ้าเ้า้าก็เอาไป”
“ให้มันน้อยๆ หน่อย ต้องมีสมบัติบางอย่างซ่อนอยู่ในนี้แน่”
“ข้านี่แหละคือสมบัติ”
หนิงเทียนสบถ “ชิ! เ้าเป็มนุษย์หินที่ไม่ใช่ทั้งชายหรือหญิง!”
“เ้าด่าเทพ เ้าควรถูกเฆี่ยนตี!”
“หึ ใครกลัวกัน?”
ทั้งสองฝ่ายไม่ยอมแพ้ ในไม่ช้าก็เริ่มสู้กันอีกครั้ง
ครานี้สือซินเพิ่มการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในการเคลื่อนไหว พยายามปราบปรามหนิงเทียน ทว่ายังคงล้มเหลว
หลังจากเคลื่อนไหวนับพันครั้งหนิงเทียนก็ะโ “ไม่สู้แล้ว! เ้าช่างไร้ยางอาย ทำมือข้าเจ็บไปหมดแล้ว!”
สือซินโต้กลับ “ตนเองอ่อนแอยังคิดโทษผู้อื่นอีก!”
“ข้าไม่อยากลดตัวไปทะเลาะคนอย่างเ้า!”
“นี่เป็คำทั่วไปที่คนอ่อนแอชอบอ้าง”
“เ้าไม่สามารถแข็งแกร่งกว่านี้ได้อีกแล้ว!”
“อย่างน้อยก็ดีกว่าเ้านิดหน่อย”
“นั่นคือสิ่งที่ข้าทำให้เกิดขึ้น เ้าโง่!”
ทั้งสองยังคงทะเลาะและต่อสู้ต่อไป หนิงเทียนและสือซินต่างต่อสู้หรือไม่ก็โต้เถียงกัน ในท้ายที่สุดพวกเขาก็เหนื่อยจนนั่งหันหลังชนกัน
“ข้าว่านะเ้าหินน้อย...”
“อย่าเรียกข้าว่าหินน้อย!”
“ข้าจะเรียก! เ้าหินน้อย ทำไมเ้าถึงอยู่ที่นี่?”
“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน ข้าจำได้แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก่อนที่จะเข้ามาในปราสาทหิน ทว่าเหตุใดปราสาทหินจึงปรากฏในดินแดนหยวนซิงนั้นข้าเองก็ไม่รู้”
“มนุษย์หินเช่นพวกเ้าไร้เืเนื้อ เช่นนั้นสืบสานต่อลูกหลานกันได้อย่างไร?”
“ไปให้พ้น! ถ้าถามอีกข้าจะตีเ้าให้ตาย!”
หนิงเทียนพูดกลั้วหัวเราะ “เ้าออกมาจากไข่หิน ทั้งยังไม่ใช่ทั้งชายและหญิง”
“เ้าหนิงเทียนหน้าเหม็น! เ้าหาเื่หรือ?”
“หาเื่? ใครกลัวเล่า?”
ปัง! ปัง! ตุบ! ตุบ!
หลังจากเกิดเหตุะเิหลายครั้ง ในที่สุดภายในโลงศพก็กลับสู่ความสงบอีกครั้ง
“หินน้อยไปกับข้าเถอะ ข้าจะปกป้องเ้าเอง”
“ฝันไปเถอะ! ออกไปได้แล้ว”
หนิงเทียนอยากชักชวนสือซินให้ไปกับตน แต่สือซินไม่เห็นด้วย และเขาอยากอยู่ที่นี่ เขาจึงเสียใจมาก ความสามารถของสือซินสามารถเอาชนะคนรอบข้างของเขาได้ หากอีกฝ่ายยอมเป็น้องชายของตน นั่นจะช่วยเขาได้มากในอนาคตอย่างแน่นอน
“ข้างบนนั้นยังมีปราสาทอยู่อีกนะ เ้าไม่อยากไปกับข้าจริงหรือ?”
สือซินกล่าวว่า “จงมุ่งมั่นและเที่ยงตรง อย่าโลภมากเกินไป”
“โง่ก็คือโง่ เหตุใดจึงพูดเป็นัยเช่นนั้น?”
หนิงเทียนเปิดกำไลหยกหยวนก่อนจะหยิบกำไลข้อมือคู่หนึ่งออกมาแล้วโยนให้สือซิน
“ให้เ้า ถือเสียว่านี่คือของขวัญพบหน้า”
สือซินรับกำไลข้อมือมา มีหินหยกสี่ก้อนอยู่บนนั้นซึ่งสลักคำว่า “น้องเป็น้ำหนึ่งใจเดียวกัน” เอาไว้ด้วย
“ออกแบบได้ไม่เลว ข้าชอบ”
หนิงเทียนยังไม่อยากถอดใจ ทว่าเขาก็ยอมโบกมือ “ดูแลตัวเองด้วย หวังว่าอีกไม่นานเราจะได้พบกันอีกครั้ง”
สือซินโบกมือกลับและพูดว่า “ครั้งต่อไปข้าต้องจัดการเ้าได้แน่”
“นึกถึงความฝันอันน่าพิศวงเ่าั้ให้น้อยลงหน่อยเถอะ” หนิงเทียนหันหลังกลับแล้วย้อนไปตามทางที่มา
ต้นไม้แห้งเหี่ยวสูงทะลุชั้นฟ้าภายนอกปราสาทหิน มีอีกกิ่งหนึ่งที่แบ่งวิหารหินขนาดใหญ่ไว้
หนิงเทียนยืนอยู่บนยอดปราสาทหิน เขามองปราสาทหินอีกแห่งอย่างไม่รู้เลยว่าตนอยู่ในปราสาทหินมาเกือบทั้งวันแล้ว
...
เป็วันที่สองแล้วหลังจากที่หนิงเทียนเดินออกจากประตูสู่์ แดนลับในูเาไป่หลิงเปิดออกและมีพระราชวังอันยิ่งใหญ่ปรากฏขึ้นกลางอากาศ
เรือจันทราลำหนึ่งลอยอยู่เหนือพระราชวังอันงดงาม โดยมีัเขียว เสือขาว หงส์แดง และเต่าดำคอยเฝ้าทั้งสี่ด้าน นอกจากนี้ยังมีต้นไม้ั์ ดอกไม้แปลกๆ หญ้าสีเขียว และไม้เลื้อยล้อมรอบ ซึ่งดึงดูดยอดฝีมือซิงซิว หยวนซิว และจื๋อซิวให้เข้ามาตรวจสอบ
ทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกับการเกิดขึ้นของสือซินในปราสาทหิน ทว่าหนิงเทียนไม่เข้าใจเื่นี้ และเขาไม่รู้ว่าพระราชวังอันงดงามแห่งนี้ตั้งอยู่บนยอดต้นไม้แห้งเหี่ยวแทงสูงทะลุฟ้า
เมื่อมองปราสาทหินที่อยู่ในแนวทแยง้า หนิงเทียนก็ทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า เขาเต็มไปด้วยพลังงาน ทั้งร่างเปล่งประกายด้วยแสงทองอร่าม ราวกับดวงอาทิตย์ที่กำลังขึ้นในทิศตะวันออก
ปราสาทหินเงียบสงัดและไม่สามารถมองเห็นสิ่งผิดปกติจากภายนอกได้เลย
หนิงเทียนลอยวนไปรอบๆ ปราสาทหินสามครั้ง ในที่สุดก็หยุดลงที่หน้าปราสาท
ประตูปราสาทแห่งนี้สูงร้อยจั้ง ซึ่งตอกย้ำถึงความเล็กจ้อยของหนิงเทียน
ประตูปราสาทปิดอยู่ ช่องว่างเต็มไปด้วยแสงแห่งความโกลาหล ตราบใดที่เข้าใกล้ย่อมััได้ถึงพลังแห่งการทำลายล้าง
หนิงเทียนใช้คัมภีร์หลิงฮวงปกป้องร่างและเข้าไปในช่องว่างของประตูปราสาท หมอกที่ลอยเป็ลูกคลื่นบรรจุแสงแห่งการทำลายล้าง บังคับให้คัมภีร์หลิงฮวงเปิดออกโดยพลัน
เมื่อผ่านประตูปราสาทเข้ามาแล้วดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยแสงสว่าง ดวงิญญาจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังเต้นรำและวนเวียนอยู่ภายในมากถึงหลายร้อยล้านดวง
แสงแห่งิญญาเหล่านี้ประกอบด้วยอารมณ์เชิงลบอย่างความไม่พอใจ ความชั่วร้าย ความโหดร้าย และความโลภ พวกมันก้าวร้าวและมีพลังกัดกร่อนมหาศาล หากไม่ระวังอาจล้มคนให้ตายอยู่ที่นี่ได้
หนิงเทียนนึกถึงต้นไม้สังเวยิญญา ช่องว่างเต็มไปด้วยแสงแห่งความโกลาหล ม่านตาคู่ผสานกับวิชาแปลงิญญาซึ่งช่วยให้เขาเห็นิญญาทีละดวง
มีิญญาเจ็ดดวงในร่างกายของหนิงเทียน แต่ละดวงตั้งอยู่บนแผนที่จิติญญาทั้งเจ็ด
แสงิญญาชนิดนี้เกิดขึ้นจากการผสานของิญญา ซึ่งเป็องค์ประกอบที่ดีที่สุดสำหรับการปรับแต่งอาวุธิญญาจื๋อซิว
หนิงเทียนเรียนรู้เส้นทางิญญาจากต้นไม้สังเวยิญญาโบราณ แต่เนื่องจากไม่มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม เขาจึงไม่เคยใช้มัน
ปราสาทหินตรงหน้ามีแสงิญญาจำนวนนับไม่ถ้วน ซึ่งเหมาะสำหรับการฝึกฝนเส้นทางิญญาและดำเนินการทักษะคุมิญญาและวิชาแปลงิญญาของหนิงเทียน
ปราสาทหินมีขนาดใหญ่โตมโหฬาร ความขุ่นเคืองของจิติญญาแปรเปลี่ยนเป็เสียงคำสาปที่สะท้อนไปทุกทิศทาง
หนิงเทียนเปิดประตูสู่์และรักษาจิตใจของตนอย่างแ่า ความขุ่นเคืองของิญญาเ่าั้จึงไม่สามารถทำร้ายเขาได้เลย
เขาก้าวไปข้างหน้าอย่างระมัดระวังและสนใจกับสถานการณ์ข้างหน้า ราวกับมีกลุ่มเปลวเพลิงกำลังเบ่งบานในห้องโถง
ความรู้สึกถึงวิกฤตอย่างรุนแรงในสถานที่แห่งนี้ค่อนข้างน่ากลัว ซึ่งกระตุ้นการรับรู้ของกล้วยไม้เซียนเก้าชีวิตในร่างของหนิงเทียนได้เป็อย่างดี
หนิงเทียนเห็นหลุมบนพื้นตรงกลางห้องโถง กลุ่มเปลวเพลิงสีเขียวลอยออกมาจากพื้น เปลวเพลิงสูงประมาณหนึ่งจั้งเต็มไปด้วยเสียงปะทุดังเปรี๊ยะ
บริเวณใกล้เคียงมีแสงแห่งิญญาติดอยู่ในเปลวเพลิง และทันใดนั้นก็มีเสียงกรีดร้องโหยหวนดังออกมา พลังงานต้องสาปในจิติญญาถูกดูดซับโดยแก่นแท้เปลวเพลิงทันที ก่อนจะกลายเป็แสงแห่งจิติญญาอันบริสุทธิ์
“มหัศจรรย์มาก! นี่เป็ความปรารถนาของ์ ์ช่วยข้าแล้ว!” หนิงเทียนรู้สึกยินดีเป็อย่างยิ่ง แสงิญญาบริสุทธิ์เป็องค์ประกอบที่ดีที่สุดสำหรับการปรับแต่งอาวุธ และนั่นคือสิ่งที่เขาใฝ่ฝันถึงอย่างแท้จริง
แสงิญญาบริสุทธิ์ทะลุเข้าไปในขวดหยกขาว หมอกขาวพวยพุ่งออกมาจากปากขวด ก่อนที่ยันต์ด้านในจะบรรจุอักขระิญญา
หนิงเทียนมองขวดหยกขาวอย่างตื่นเต้น เขาเข้าหาขวดนั้นโดยไม่รู้ตัว ทว่ากลับััได้ถึงเจตนาสังหารที่อธิบายไม่ได้
หนิงเทียนถอยกลับอย่างรุนแรง ก่อนที่รังสีแห่งิญญาจะแปรเปลี่ยนเป็ปราณกระบี่ แล้วพุ่งเข้าทำลายตำแหน่งที่เขาเคยอยู่ก่อนหน้านี้
พลังจากปราณกระบี่นี้ช่างมืดมน แปลกประหลาด ชั่วร้าย และโเี้ ซึ่งพุ่งมาจากอีกทิศทางหนึ่ง
หนิงเทียนสังเกตเห็นและพบว่าห่างจากเปลวเพลิงสีเขียวไปอีกสามร้อยจั้งยังมีเปลวเพลิงสีดำซึ่งถูกแสงแห่งิญญาหลากสีบังไว้
เปลวเพลิงสีดำนี้โผล่ออกมาจากพื้นดินเช่นกัน มันสูงประมาณหนึ่งจั้ง แสงิญญาจำนวนมากถูกดึงเข้ามาและเผาไหม้ ทำให้เกิดเสียงคำรามหวีดแหลมและกลายเป็ปีศาจร้ายที่น่าสะพรึงกลัวมากยิ่งขึ้น
เปลวเพลิงสีเขียวมีเพื่อชำระล้างให้บริสุทธิ์ ส่วนเปลวเพลิงสีดำมีเพื่อความชั่วร้าย ทั้งสองต่างต่อต้านกันอย่างเด็ดเดี่ยวและไม่ยอมซึ่งกันและกัน
แสงิญญาชั่วร้ายเ่าั้ทะลุเข้าไปในขวดสีดำจนหมอกทมิฬล้นออกมาจากปากขวด ลวดลายอักขระแปรเปลี่ยนเป็ใบหน้าบูดบึ้งที่คอยบั่นทอนจิตใจ
“แสงิญญาชั่วร้าย! ต้นไม้สังเวยิญญาโบราณกล่าวว่ามีอาวุธิญญาพิเศษบางอย่างที่ต้องขัดเกลาด้วยแสงิญญาชั่วร้าย ซึ่งมันสามารถกลายเป็อาวุธชั่วร้ายและมีพลังคำสาปที่แข็งแกร่งมากอีกด้วย” ดวงตาของหนิงเทียนเปล่งประกาย ไม่ว่าจะเป็แสงิญญาบริสุทธิ์หรือแสงิญญาชั่วร้าย ทั้งสองล้วนเป็วัสดุที่หายากและดีสำหรับเขา
แต่จะได้มันมาอย่างไร?
หนิงเทียนเชี่ยวชาญในวิชาแปลงิญญา ซึ่งสามารถปรับพลังแห่งคำสาปในจิติญญาได้ แต่กระบวนการนี้ต้องใช้พลังงานจำนวนมากและความเร็วไม่เร็วเท่ากับเปลวเพลิงสีเขียว
ยามนี้ ณ ที่แห่งนี้มีสิ่งที่ไม่ต่างจากของสำเร็จรูปไว้แล้ว เขาย่อมไม่โง่พอที่จะชำระล้างมันเองอย่างแน่นอน
หนิงเทียนวางแผนที่จะเริ่มต้นด้วยขวดหยกขาวซึ่งมีแสงิญญาอันบริสุทธิ์มากมายเก็บไว้ หากสามารถคว้ามาได้สิ่งนี้จะเป็ประโยชน์อย่างมากสำหรับเขาในการขัดเกลาอาวุธ
ขณะเปิดใช้งานคัมภีร์หลิงฮวง หนิงเทียนก็เข้าหาขวดหยกขาวอย่างระมัดระวัง ขณะเดียวกันก็ป้องกันการลอบโจมตีของขวดหยกดำไปพร้อมกัน
เมื่อเข้ามาใกล้ขวดหยกขาวในระยะห้าจั้ง ขวดหยกดำก็ปล่อยแสงแห่งิญญาออกมาทันที ซึ่งกลายเป็ปราณกระบี่ที่บังคับให้หนิงเทียนต้องล่าถอยไปอย่างรวดเร็ว
“เ้าผีหัวโตนี่! บ้าเอ๊ย!” หนิงเทียนด่าทอ จากนั้นเขาก็คิดว่าควรลองใช้วิธีอื่นและเริ่มด้วยขวดหยกดำดีหรือไม่
ใครจะคิดว่าคราวนี้ขวดหยกดำไม่ได้โจมตี แต่เป็ขวดหยกขาวที่ส่องแสงแห่งิญญาก่อนแปรเป็ปราณกระบี่ที่เกือบแยกร่างของหนิงเทียนออกจากกัน
“ให้ตายเถอะ! ช่างไร้ยางอายยิ่งนัก พวกมันยับยั้งซึ่งกันและกันได้จริงๆ” หนิงเทียนถอยห่างออกไปสิบจั้งด้วยความโกรธจนแทบบ้า
ข้อจำกัดเช่นนี้ค่อนข้างแปลก ทำให้มุ่งความสนใจไปที่สิ่งหนึ่ง ไม่ใช่สิ่งอื่น และเป็การยากที่จะมีความหวังในความสำเร็จ
หนิงเทียนสังเกตบริเวณที่มีเปลวเพลิงและขวดหยกอย่างระมัดระวังด้วยการใช้ทักษะเก้าเนตร์ และในไม่ช้าก็ค้นพบบางอย่าง
“มีข้อจำกัดลึกลับอยู่บนพื้น นี่คือรูปแบบลูกโซ่ หากกำหนดเป้าหมายไปที่เดียว เ้าจะไม่สามารถทำลายมันได้”
หลังจากหนิงเทียนเข้าใจสถานการณ์ทั่วไปแล้ว เขาก็เริ่มต้นการอนุมานด้วยเลขเก้าหลัก คัมภีร์หลิงฮวงเหนือศีรษะหมุนวนและสั่นะเื แสงิญญานับหมื่นดวงลอยลงมา สุดท้ายเขาใช้เวลาครึ่งชั่วยามในการสรุปวิธีแก้ปัญหาได้จนสำเร็จ
“เป็ข้อจำกัดที่ซับซ้อนยิ่งนัก ด้วยระดับปัจจุบันข้าไม่สามารถทำลายมันได้แม้จะรู้วิธีทำลายมันก็ตาม ข้าทำอะไรกับมันได้บ้าง?”
หนิงเทียนกำลังครุ่นคิด ในไม่ช้าก็นึกถึงจิตรกรรมิญญาแล้วหยิบพู่กันเจ็ดสีออกมา จากนั้นเถาน้ำเต้าก็ถูกวาดไว้ในห้องโถงใหญ่
หนิงเทียนดึงเถาวัลย์น้ำเต้าออกมาทั้งหมดหนึ่งร้อยแปดเถา ซึ่งทั้งหมดเป็อสูริญญาระดับสาม จากนั้นเขาก็เปิดใช้งานน้ำเต้าเจ็ดสีพร้อมกับเถาน้ำเต้าทั้งหมดเพื่อให้พวกมันร่วมกันกระตุ้นน้ำเต้าเจ็ดสีให้เริ่มทำงาน
นี่เป็กลอุบายที่ให้ผลลัพธ์ดีมาก แต่ก็ยังล้มเหลวในครั้งแรก
หนิงเทียนไม่ท้อแท้แต่มองเห็นความหวัง เขาดึงเถาวัลย์ออกมาเพิ่ม พยายามครั้งแล้วครั้งเล่า โดยใช้ร่วมกับทักษะคุมิญญา หลังจากผ่านไปสองชั่วยามในที่สุดเขาก็ปลดข้อจำกัดบนพื้นออกได้
ขณะนั้นทั้งห้องโถงใหญ่สั่นะเื เปลวเพลิงสีเขียวและสีดำทะยานสูงขึ้นหลายร้อยจั้ง กลืนกินแสงิญญาอย่างดุเดือด ทั้งชำระล้างและแปรสภาพเป็ความชั่วร้ายตามลำดับ
หนิงเทียนถูกพักจนตัวปลิวและต้องซ่อนตัวอยู่ข้างๆ
ิญญากลางอากาศคำรามและกรีดร้องทั้งยังพุ่งเข้าหาเปลวเพลิงทั้งสองอย่างไม่เต็มใจ ก่อนจะหายเข้าไปในขวดหยกขาวและดำในเวลาเพียงหนึ่งก้านธูป
หนิงเทียนเดินเข้าหาขวดหยกขาวอย่างระมัดระวัง สูงไม่เกินครึ่งชุ่นและดูเล็กมาก แต่ถึงแม้ว่าหนิงเทียนจะพยายามดูดกลืนมันอย่างเต็มที่ แต่เขาไม่สามารถสั่นคลอนมันได้แม้แต่น้อย
“บ้าจริง! นี่ล้อเล่นข้าหรือ?” หนิงเทียนะโ นี่ไม่ใช่การกลั่นแกล้งใช่ไหม?
สามารถมองเห็นได้ สามารถััได้ แต่กลับไม่สามารถเคลื่อนมันออกมาได้
