จ้าวเยี่ยน?
เมื่อครู่นี้เขาไม่ได้ออกไปกับฉางไทเฮาหรอกหรือ?
เหตุใดถึงได้กลับมาอีก?
ครั้นนึกถึงตอนที่อยู่ในห้อง ยามร่างกายของทั้งสองัักัน เหนียนยวี่พลันรู้สึกขยะแขยงขึ้นมาในใจทันทีโดยที่แทบจะไม่รู้ตัว
ความรังเกียจฉายชัดบนใบหน้านาง ในสายตาของชายหนุ่มที่ยืนอยู่ที่ประตู แม้ว่ารอยยิ้มสง่างามยังคงดูสงบนิ่งราบเรียบ ทว่าภายใต้แขนเสื้อนั้น มือของเขากลับกำแน่นขึ้นมาเล็กน้อย
“นายท่านเหนียน” จ้าวเยี่ยนก้าวเดินเข้าไปในลาน
เดิมทีเหนียนเย่ายืนหันหลังให้ประตูลาน ครั้นได้ยินเสียงนี้ เขาพลันรีบเร่งหันหน้ากลับไปมองทันที เห็นบุรุษชุดขาวเดินเข้ามาตรงหน้า ทำให้มิอาจปกปิดความรู้สึกแปลกประหลาดในใจได้
“ท่านอ๋องหลี...”เหนียนเย่าโค้งคำนับให้จ้าวเยี่ยนอย่างนอบน้อม ตามมาด้วยเสียงเอ่ยถามอย่างสงสัย “ท่าน...”
เมื่อครู่นี้ไม่ได้ออกไปแล้วหรือ เหตุใดถึงได้กลับมาอีก?
“นายท่านเหนียน รบกวนเสียแล้ว เปิ่นหวางมีเื่บางอย่างจึงได้มาหาคุณหนูยวี่” จ้าวเยี่ยนเอ่ยอย่างนุ่มนวล เสียงนั้นช่างไพเราะราวกับเสียงบรรเลงของกู่ฉินที่เขาเล่นก็มิปาน รอยยิ้มบนใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาราวกับสายลมในฤดูใบไม้ผลิ
จ้าวเยี่ยนแสดงเจตนาโดยไม่ปิดบังเช่นนี้ ไม่เพียงแต่เหนียนยวี่เท่านั้น แม้แต่เหนียนเย่าก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว
มาหายวี่เอ๋อร์หรือ?
เหตุใดหลีอ๋องจึงมาหายวี่เอ๋อร์?
ในใจของเหนียนเย่าใคร่อยากรู้ ทว่ากลับมิได้เอ่ยถามสิ่งใด เขาเหลือบมองเหนียนยวี่ จากนั้นจึงเอ่ยออกไปด้วยสีหน้ากระตือรือร้น “ไม่รบกวนพ่ะย่ะค่ะ ไม่รบกวนเลย เช่นนั้นกระหม่อมขอตัวก่อน ยวี่เอ๋อร์ ดูแลท่านอ๋องหลีเป็อย่างดีเล่า”
เหนียนเย่ากล่าว พลางโค้งคำนับให้จ้าวเยี่ยน แล้วจึงออกจากลานเซียนหลานไป
แต่ทันทีที่เขาเดินออกจากลานจวน ฝีเท้าของเขาพลันหยุดชะงักลง หันกลับไปมองในลาน เห็นเพียงร่างสูงของบุรุษชุดขาว รวมถึง...สายตาของเหนียนยวี่ที่มองมา...
ครั้นดวงตาสองคู่สบสายตากัน ร่างกายของเหนียนเย่าพลันชะงักค้าง จากนั้นก็รีบเร่งหันหลัง ก้าวเดินจากไปอย่างรวดเร็วเร่งรีบ
ณ ลานเซียนหลาน
หลังจากที่เหนียนเย่าออกไป สายตาของจ้าวเยี่ยนหยุดมองมาที่เหนียนยวี่ตลอด ไม่แม้แต่จะหลบเลี่ยง เหนียนยวี่ที่ถูกเขามอง ท่าทีสงบนิ่งอย่างมาก
ทั้งสองมิมีใครเอ่ยปาก ท่ามกลางความเงียบ บรรยากาศเริ่มแปลกประหลาด
หลังจากนั้นไม่นาน จ้าวเยี่ยนถอนสายตาออกไป เดินไปที่โต๊ะหินด้านข้างแล้วนั่งลง และวางบางอย่างลงบนโต๊ะหิน
“มานี่สิ” จ้าวเยี่ยนพูดทำลายความเงียบระหว่างทั้งสอง น้ำเสียงแตกต่างจากน้ำเสียงเดิม
เหนียนยวี่ประหลาดใจกับคำสั่งแปลกประหลาดของจ้าวเยี่ยน ทั้งยังประหลาดใจกับท่าทีของจ้าวเยี่ยน
"มานี่"
ราวกับเห็นเหนียนยวี่ไม่เคลื่อนไหว เสียงของจ้าวเยี่ยนจึงดังขึ้นอีกครั้ง และครานี้ น้ำเสียงของเขายังสูงขึ้นอีกด้วย
เหนียนยวี่ขมวดคิ้ว อดไม่ได้ที่จะแย้มยิ้มออกมา จ้าวเยี่ยนผู้นี้กลับมาเช่นนี้ เพียงเพื่อ้าออกคำสั่งนางหรือ?
เข้าไปหรือ?
ถ้านางไม่เข้าไปเล่า?
ยามที่เหนียนยวี่คิดเช่นนี้ จ้าวเยี่ยนพลันผุดลุกยืนขึ้น เขาพุ่งเข้าไปหาเหนียนยวี่และคว้าข้อมือของนาง ดึงนางไปที่โต๊ะหิน
ไอร้อนจากฝ่ามือใหญ่ที่แผ่เข้ามา เหนียนยวี่มิอาจทนััได้แม้เพียงครู่เดียว นางพยายามสะบัดออก ทว่าความแข็งแกร่งของจ้าวเยี่ยนนั้นมีมากกว่านาง
“ได้ยินว่าท่านอ๋องหลีเป็คนอ่อนโยนสง่างาม ปฏิบัติต่อผู้คนด้วยความกรุณา มิรู้มาก่อนเลยว่าจะมีด้านเช่นนี้ด้วย” เหนียนยวี่เอ่ยขึ้นมาอย่างไม่รีบร้อน มุมปากยกยิ้มราบเรียบ หันไปจ้องตาจ้าวเยี่ยน “ท่านอ๋องหลี ท่านทำข้าเจ็บ”
เพียงสบตาคู่นั้น หัวใจของจ้าวเยี่ยนพลันสั่นสะท้าน เขาปล่อยมือนางโดยไม่รู้ตัว
เมื่อคิดถึงสิ่งที่เขาทำ ดวงตาของจ้าวเยี่ยนลุกวาว อดไม่ได้ที่จะด่าทอตนเอง
อารมณ์ของเขาเมื่อครู่...
เขาไม่เคยปล่อยอารมณ์ตัวเองเลยสักครั้ง หลายปีมานี้ ภาพลักษณ์ไม่แยแสสิ่งใดนั้น ประหนึ่งสลักเข้าไปในกระดูกของเขา ทว่าเมื่อครู่นี้กลับ...เขากลับมิอาจควบคุมมันได้เมื่ออยู่ต่อหน้าเหนียนยวี่หรือ?
เหนียนยวี่...
มิรู้เพราะเหตุใด เหนียนอีหลานผู้นี้มักจะเข้ามาทำให้หัวใจของเขาสูญเสียความสงบอย่างแปลกประหลาด
จ้าวเยี่ยนสูดหายใจเข้าลึก สงบสติอารมณ์และนั่งลงบนม้านั่งที่ทำจากหิน
“ล่วงเกินแล้ว คุณหนูยวี่ เปิ่นหวางมิได้มีเจตนาร้าย เพียงแต่้าขอให้คุณหนูยวี่่ทำแผลให้เปิ่นหวางเสียหน่อยเท่านั้นเอง” น้ำเสียงของจ้าวเยี่ยนสงบลง ทว่าคำพูดที่เขาเอ่ยนั้นช่างฟังดูแปลกประหลาด
“ทำแผลหรือ?” เหนียนยวี่เหลือบมองรอยข่วนที่คอด้านข้างเขา สายตาจ้าวเยี่ยนก้มลงมองบางสิ่งบนโต๊ะหิน คิ้วพลางยกขึ้น
ท่านอ๋องหลีผู้นี้ช่างแปลกประหลาดเสียจริง ถึงขั้นพกยามาเพื่อให้นางทำแผลให้เลยหรือ?
แต่...
“ท่านอ๋องหลี เหนียนยวี่ไม่ใช่หมอ มือเท้านั้นก็ซุ่มซ่าม เกรงว่าคงจะมิสามารถช่วยเหลือท่านอ๋องหลีได้ เหนียนยวี่จะหาสาวใช้มาทำแผลให้ท่านอ๋องหลีแทนนะเพคะ” เหนียนยวี่กล่าว กำลังจะหันหลังและจากไป ทว่าจ้าวเยี่ยนกลับเอ่ยรั้งนางไว้ก่อน
"ช้าก่อน" ดวงตาจ้าวเยี่ยนฉายอารมณ์ไม่พอใจ จ้องมองเหนียนยวี่ที่ชะงักฝีเท้า คิดไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดจึงเอ่ยปากออกมาว่า "บอกข้าได้หรือไม่ แท้จริงแล้วนั้นข้าทำอะไรให้เ้าขุ่นเคือง เ้าถึงได้มิอยากพบหน้าข้าเพียงนี้? มากขนาด...รังเกียจ!"
น้ำเสียงของจ้าวเยี่ยน พูดไม่ได้ว่าตั้งใจ ทว่านี่เป็คำถามค้างคาอยู่ในใจของเขามาตลอด วันนี้เขาต้องถามเหนียนยวี่เพื่อหาคำตอบให้ได้
เหนียนยวี่รู้สึกถึงอารมณ์ที่ปั่นป่วนของชายที่อยู่ข้างหลังนาง มุมปากของนางยกยิ้มเย้ยหยัน นางเอ่ยทั้งมิได้หันหน้ากลับไป “เหนียนยวี่บุตรีอนุตัวเล็กๆ จะบังอาจไม่อยากพบท่านอ๋องหลีได้เยี่ยงไรเพคะ จะกล้ารังเกียจท่านได้อย่างไรเพคะ?”
“แล้วเหตุใดเ้าถึงปฏิเสธข้าครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งยังทำตัวห่างเหินเป็พันลี้เช่นนี้เล่า?”
จ้าวเยี่ยนหรี่ตา บุตรีอนุตัวเล็กๆ งั้นหรือ?
เหนียนยวี่ไหนเลยนางจะเป็แค่บุตรีอนุตัวเล็กนางนั้น?
นางปฏิบัติกับเขาอย่างเ็าห่างเหิน ทว่ากลับไม่เกรงกลัวเขามิใช่หรือ
“ท่านอ๋องหลีเข้าใจผิดแล้วเพคะ ท่านคือท่านอ๋องผู้สูงศักดิ์ เหนียนยวี่มิบังอาจทำตัวไม่เจียมตัวแน่นอนเพคะ” ถึงแม้ว่าเหนียนยวี่จะกล่าวเช่นนี้ ทว่าความห่างเหินในท่าทีที่แสดงออกนั้น สำหรับจ้าวเยี่ยนแล้ว กลายเป็ความไม่เจียมตัว
นางไม่กล้าทำตัวไม่เจียมตัวอีกงั้นหรือ?
จ้าวเยี่ยนพ่นลมหายใจแ่เบา “ท่านอ๋องผู้สูงศักดิ์? ข้าผู้เป็ท่านอ๋องสูงศักดิ์คนนี้ ในวันนั้นที่ทะเลสาบนิรนามรอคอยเ้าทั้งคืน ทว่ากลับไม่เห็นแม้แต่เงา คนที่เป็ท่านอ๋องเช่นข้าอีกคน จ้าวอี้เชิญเ้าไปที่จวนของเขา เ้ากลับดูมีความสุขนัก เ้ากับจ้าวอี้...เ้าสามารถสนิทชิดเชื้อกับเขาได้ ทว่าเหตุใดกับเปิ่นหวางเ้าถึงได้ไม่สนใจ?”
การทำตัวไม่สนใจเช่นนั้นทำให้เขาไม่พอใจ ยิ่งกว่านั้นมันยังทำให้เขารู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างติดอยู่ในใจ และเขามิอาจสงบลงได้หากไม่พบคำตอบ
จ้าวอี้หรือ?
แววตาเย้ยหยันพาดผ่านดวงตาของเหนียนยวี่ "ท่านอ๋องหลี ท่านต่างจากเขา!"
มู่อ๋องจ้าวอี้ใสซื่อบริสุทธิ์ั้แ่เกิด แต่หลีอ๋องจ้าวเยี่ยนเป็หมาป่าห่มหนังแกะ เขาซ่อนเจตนาชั่วร้ายและโเี้ ไหนเลยจ้าวเยี่ยนจะเทียบเคียงเขาได้?
ครั้นหวนนึกถึงเหตุการณ์ในชาติก่อน ความเกลียดชังของเหนียนยวี่ประหนึ่งติดตามมา นางที่หันหลังให้จ้าวเยี่ยน ดวงตาฉายความเ็า หากนางทำได้ นางอยากจะขุดหัวใจของเขาออกมาดูเสียจริงว่ามันเป็สีดำหรือไม่
แต่จ้าวเยี่ยนที่อยู่ข้างหลัง กลับไม่รู้ถึงความคิดในใจนาง
คำพูดของเหนียนยวี่ดังก้องอยู่ในหูของเขา
“ท่านต่างจากเขา”
ต่างหรือ?
เมื่อนึกถึงความใกล้ชิดระหว่างจ้าวอี้และเหนียนยวี่ จ้าวเยี่ยนพลันกำมือแน่น
ในสายตาของคนทั้งโลก จ้าวอี้เป็บุตรโดยสายเืของฮ่องเต้องค์ปัจจุบันและเป็องค์ชายผู้สูงศักดิ์ที่ได้รับการฝึกฝนให้เป็ผู้สืบต่อราชบัลลังก์ วันหนึ่งเขาจะนั่งบนบัลลังก์และควบคุมเป่ยฉี ทว่าเขา จ้าวเยี่ยนเล่า?
พระราชโอรสของฮ่องเต้องค์ก่อน แม้ว่าสถานะของเขาจะสูงส่ง แต่ก็เป็เพียงขุนนางชั้นสูง ทุกคนรู้ว่าเขาไม่สามารถนั่งในตำแหน่งนั้นได้ และจะเป็ได้เพียงองค์ชายผู้ไร้แก่นสารตลอดไป
ทว่าบัลลังก์แห่งเป่ยฉี เห็นได้ชัดว่าควรเป็ของเขา 'จ้าวเยี่ยน'!