เสียงร้องครวญครางในยามค่ำคืนของ หลานอวิ๋น แทรกซึมไปทั่วทั้งพระราชวัง ผู้คนต่างรู้สึกคุ้นหูกันดีเมื่อได้ยินเสียงนั้น “ฮู๊ยยย ฮ๊า... ฮ๊า...” มันคือเสียงร้องที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขและความพึงพอใจขององค์ฮองเฮา บ่าวรับใช้มากมายในวังล้วนแล้วแต่เคยได้ยินน้ำเสียงนี้ และทุกคนต่างก็เข้าใจดีว่ามันหมายถึงอะไร
แม้ว่าเสียงนั้นจะเต็มไปด้วยความเร่าร้อนและความดุเดือดมากมายสักเพียงไหน แต่ทุกคนก็ทำตัวเหมือนว่าตนเองไม่ได้ยินอะไรเลย พวกเขาทำหน้าที่ของตนต่อไป โดยไม่แสดงอาการใด ๆ เพราะในโลกของราชสำนัก ความลับนี้ต้องถูกเก็บเป็ความลับอย่างเคร่งครัด
แม้จะมีความสงสัยและอยากรู้อยากเห็นในใจ แต่ทุกคนกลับเลือกที่จะทำเป็ไม่รู้ไม่เห็น จนกระทั่งเสียงนั้นค่อย ๆ เงียบลงและคืนที่เงียบสงบกลับมาอีกครั้ง ราวกับว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นเลย
เสียงที่ก้องกังวานนั้นเป็เครื่องยืนยันถึงความรักและความเร่าร้อนที่เกิดขึ้นระหว่างองค์ฮ่องเต้และฮองเฮา แม้ว่ามันจะซ่อนอยู่ในเงามืดของพระราชวัง แต่ในใจของทุกคนต่างรู้ว่าความรู้สึกนี้จะอยู่กับพวกเขาเสมอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ทุกคนจึงทำได้เพียงแค่เงียบเสียงและรักษาความลับนี้ไว้อย่างแ่า
ใน่เช้าของวัน องค์ฮ่องเต้หยางิ ได้ทำหน้าที่ของพระองค์เช่นดังเดิม โดยวันนี้มีการประชุมบ้านเมืองกันแต่เช้าภายในโถงของพระราชวัง ขุนนางชั้นผู้ใหญ่ และ แม่ทัพนายกอง ต่างยืนอยู่กันพร้อมหน้า ทุกคนมีท่าทางสงบเสงี่ยมเรียบร้อย แต่สายตาของพวกเขากลับแอบจ้องมอง เรือนร่างขององค์ฮ่องเฮาหลานอวิ๋น ที่มีความเย้ายวนใจอย่างไม่อาจปฏิเสธได้
ใน่เวลานี้ องค์ฮองเฮานั่งอยู่ข้างกายขององค์ฮ่องเต้ โดยกิริยาท่าทางของนางแสดงถึงความสูงส่งและมีอำนาจเกินกว่าที่ผู้ใดจะเอื้อมถึง ดวงตาของนางส่องประกายมีเสน่ห์ ดึงดูดทุกสายตาที่อยู่ในห้องประชุม และแม้ว่าบรรยากาศจะเต็มไปด้วยความเคร่งขรึม แต่ความเย้ายวนของนางกลับทำให้ผู้คนไม่อาจละสายตาได้
องค์ฮ่องเต้ แอบจ้องมองพวกขุนนางด้วยความพึงพอใจที่เห็นว่าพวกเขากำลังหลงใหลในคนรักของตน สายตาของเขาเต็มไปด้วยความเร่าร้อนและความมั่นใจ
องค์ฮ่องเต้หยางิไม่เพียงแต่สังเกตเห็นสายตาของเหล่าขุนนางที่มองไปยัง องค์ฮองเฮาหลานอวิ๋น ด้วยความหลงใหลเท่านั้น แต่พระองค์ยังเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในร่างกายของพวกเขาอีกด้วย ท่อนเนื้อของเหล่าขุนนางและคนรับใช้กลับชูชันอย่างเด่นชัด จนแทบจะชี้ไปที่เบื้องหน้าของตนอยู่แล้ว ความเย้ายวนใจของนางนั้นเกินกว่าจะควบคุมจริง ๆ
ในขณะที่ความเร่าร้อนเริ่มกระจายไปทั่วห้องประชุม ฮ่องเต้กลับรู้สึกไม่เพียงแต่ไม่ถือสา แต่กลับรู้สึกพอใจกับการปรากฏตัวของนางมากขึ้น สตรีที่อยู่เคียงข้างเขาเป็ดั่งอาหารตาที่หากมีใครได้เห็นก็ย่อมไม่อาจละสายตาได้
“ในวันนี้ ข้าจะนำเสนอแผนการรักษาความปลอดภัยในแนวชายแดน” เสียงของฮ่องเต้ดังขึ้นในขณะที่ยังคงส่งสายตาอันแน่วแน่ไปที่เหล่าขุนนาง แม้แต่ในขณะนั้น องค์ฮ่องเฮายังคงนั่งอยู่ข้างกาย รอยยิ้มและกิริยาท่าทางที่สง่างามของนางสร้างความสั่นะเืในใจของผู้ที่มองอยู่
แม้ว่าเื่การเมืองจะสำคัญ แต่ความรู้สึกที่เกิดขึ้นในห้องนั้นกลับสร้างบรรยากาศที่เต็มไปด้วยอารมณ์และความเร่าร้อนที่ไม่มีใครกล้าปฏิเสธ ฮ่องเต้รู้ดีว่าความงามของนางไม่ได้เป็เพียงการดึงดูดสายตา แต่ยังเป็การปลุกเร้าความ้าในใจของทุกคนที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้
ในที่สุดการประชุมบ้านเมืองก็สิ้นสุดลง เหล่าขุนนางน้อยใหญ่ต่างรีบกลับไปที่บ้านพักของตน โดยที่หัวใจของพวกเขายังคงค้างคาอยู่กับภาพลักษณ์ของ องค์ฮองเฮาหลานอวิ๋น ที่ยังคงฝังแน่นอยู่ในจิตใจ ความเร่าร้อนของนางได้ทิ้งร่องรอยความปรารถนาเอาไว้ในจิตใจของพวกเขาอย่างไม่อาจปฏิเสธได้
เมื่อกลับถึงบ้าน พวกเขาต่างปลดปล่อยอารมณ์ของตนออกมาอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน ััที่มีอารมณ์ร้อนแรงผสมปนเปกันไปในอุ้งมือที่ร้อนรุ่ม ท่ามกลางความมืดมิดของห้องพัก ความคิดถึงองค์ฮองเฮากลายเป็แรงขับเคลื่อนให้พวกเขาัักับความ้าอันรุนแรงที่เกิดขึ้นในใจ
“หลานอวิ๋น...” เสียงกระซิบเบา ๆ เปล่งออกมาจากริมฝีปากของขุนนางคนหนึ่งขณะรำลึกถึงความงดงามและเสน่ห์อันเย้ายวนของนาง ขณะที่มือของเขาเคลื่อนไหวไปตามจินตนาการที่ถาโถมเข้ามาในหัวใจ
ในโลกแห่งความจริง พวกเขาอาจเป็ขุนนางที่มีอำนาจและอิทธิพล แต่ในโลกแห่งจินตนาการนั้น นางกลับเป็ทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเขา้า นางคือสตรีที่ทำให้ความรู้สึกของพวกเขาสูงขึ้นไปอีกระดับ ไม่เพียงแต่ในแง่ของความรัก แต่ยังเป็ตัวแทนของความเร่าร้อนที่พวกเขาไม่อาจแสดงออกมาในที่สาธารณะ
ในคืนอันมืดมิด ที่ผู้คนหลับใหลในพระราชวัง มีชายหนุ่มจำนวนมากที่ต้องต่อสู้กับความ้าและความเร่าร้อนที่อยู่ในใจ พวกเขาเฝ้ารอที่จะได้เห็น องค์ฮองเฮาหลานอวิ๋น ในทุก่เวลาในราชสำนักนั้นกลายเป็บ่อเกิดของจินตนาการที่เต็มไปด้วยความปรารถนา จนกระทั่งสุดท้าย ความปรารถนาเ่าั้กลายเป็สิ่งที่ไม่อาจห้ามได้
หลายครั้งที่ชายหนุ่มเ่าั้ต้องเผชิญกับความรู้สึกหงุดหงิดและโหยหา ในขณะที่พวกเขานึกถึงนาง ท่าทางที่สง่างามและความเย้ายวนขององค์ฮองเฮาได้จุดประกายความ้าที่อยู่ภายในจิตใจ พวกเขาไม่อาจละสายตาจากนางได้เลย แม้เพียงแค่ภาพลักษณ์ของนางในใจ ก็เพียงพอที่จะทำให้ความรู้สึกพุ่งสูงขึ้นจนไม่อาจต้านทานได้
“มันเกิดอะไรขึ้นกับเรา?” เสียงกระซิบจากชายหนุ่มคนหนึ่งในความมืด ยามที่เขาหมกมุ่นอยู่กับความคิดถึงองค์ฮองเฮา ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยความร้อนและความกระวนกระวาย “ทำไมถึงรู้สึกหวิวไหวแบบนี้?”
ในค่ำคืนที่เงียบสงบ เสียงกระซิบกระซาบแ่เบา ๆ แทรกผ่านความเงียบสงัด ความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากจินตนาการที่ไม่อาจต้านทานได้ ทำให้ชายหนุ่มบางคนใช้มือของตนในการปลดปล่อยอารมณ์ ความรู้สึกพึงพอใจที่เกิดขึ้นจากการัักับจินตนาการอันร้อนแรงขององค์ฮองเฮา กลายเป็การปลดปล่อยความกระหายอันแรงกล้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“หลานอวิ๋น…” ชายหนุ่มบางคนเปล่งเสียงออกมาขณะที่มือของเขาเคลื่อนไหวไปตามจินตนาการที่ร้อนแรงในใจ ราวกับว่าองค์ฮองเฮานั้นอยู่เคียงข้างเขาจริง ๆ ทุกััทุกแรงดึงดูดล้วนแต่ทำให้เขาเต็มไปด้วยอารมณ์ จนในที่สุด ความร้อนแรงที่บีบคั้นในอกนั้นก็หลั่งไหลออกมา
ในชั่วขณะนั้น เขาได้ััถึงความสุขที่มีแต่ความเร่าร้อนของนางเท่านั้นที่สามารถมอบให้ได้ ชายหนุ่มหลายคนมีความรู้สึกเดียวกัน เมื่อปลดปล่อยน้ำของตัวเองผ่านอุ้งมือของตนเอง เขากลับรู้สึกเหมือนเป็การปลดปล่อยจากความกดดันที่ต้องแบกรับในแต่ละวัน
“หากได้มีโอกาส… สักวันหนึ่ง…” ความคิดของพวกเขากลายเป็ความหวังที่ซ่อนอยู่ในใจ แม้ว่าจะรู้ว่าความสัมพันธ์กับองค์ฮองเฮานั้นเป็ไปไม่ได้ แต่ภาพลักษณ์และอารมณ์อันร้อนแรงของนางนั้นได้เปลี่ยนคืนอันเงียบสงบให้กลายเป็ค่ำคืนที่เต็มไปด้วยอารมณ์และความ้าที่ลึกซึ้ง
