ทันทีที่ร่อนลง มู่จื่อหลิงก็ทนไม่ไหวอีก นางยกมือขึ้นเพื่อคลายเงื่อนรอบเอวที่ทำให้นางอึดอัดเป็ที่สุด แต่ทำอย่างไรก็แก้ไม่ได้
นางในยามนี้ศีรษะหนักอึ้ง ปลายเท้าเบาหวิว ใบหน้าซีดขาว เหงื่อชโลมกาย เจ็บบริเวณท้องเกินกว่าจะบรรยาย ราวกับว่าร่างกายกำลังจะถูกรัดเป็สองส่วน
ทันใดนั้นก็เกิดเสียงดัง ปึก เข็มขัดก็ขาดโดยไม่ทราบสาเหตุ
แน่นอน ร่างกายของมู่จื่อหลิงก็เหมือนหุ่นไม้ถูกถอดเชือกออกอย่างไรอย่างนั้น ทรุดนั่งอยู่บนพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง
ใบหน้าของหลงเซี่ยวอวี่มืดครึ้มและเ็า จ้องไปยังมู่จื่อหลิงที่กำลังคุกเข่าอยู่บริเวณเท้าของเขาเป็เวลานาน
เมื่อมองไปที่ร่างอ้อนแอ้นที่ขดตัวเป็วงกลม หลงเซี่ยวอวี่ก็อดที่จะเอื้อมมือไปปลอบประโลมนางไม่ได้ แต่สุดท้ายเขาก็วางมือลง กำหมัดแน่น
ศีรษะมู่จื่อหลิงฟุบอยู่บริเวณเข่า สองมือกุมท้อง ราวกับเด็กที่โดดเดี่ยวและไร้หนทาง ทว่ายังคงอดทนไม่ส่งเสียง ไม่มีใครรู้ว่านางกำลังคิดอะไรอยู่ในขณะนี้
หลังจากนั้นไม่นาน มู่จื่อหลิงก็โซเซลุกขึ้นมา เดินไปตำหนักอวี่หานอย่างไม่ลังเล โดยที่ไม่มองหลงเซี่ยวอวี่แม้แต่น้อย
ทว่า ก่อนที่นางจะก้าวออกไป หลงเซี่ยวอวี่ก็เอื้อมมือออกมาจับข้อมือเรียวของนางไว้ มือใหญ่ของเขาไม่อบอุ่นอ่อนนุ่มเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว
ในขณะนี้ มือของเขาเย็นเยียบราวกับน้ำแข็ง แข็งราวกับเหล็ก
ลมหายใจของเขาเ็าแข็งกร้าวทว่าเอาแต่ใจ ดวงตาที่เยือกเย็นลุ่มลึกราวกับทะเลสาบมีเพลิงโทสะ ซึ่งดูเหมือนเมื่อถูกแตะต้องก็พร้อมะเิออกมา
“ฉีหวางเฟยไม่คิดจะพูดอะไรกับเปิ่นหวางก็จะไปแล้ว?” เสียงของหลงเซี่ยวอวี่เย็นเยียบราวกับลมในสารทฤดูที่พัดผ่านใบไม้ส่งเสียงหวีดหวิว
พูดว่าอะไร? นางต้องพูดอะไร? นางสามารถพูดอะไรได้บ้าง?
ต้องยอมรับผิดกับเขา? ไม่ควรขัดคำสั่งเขาวิ่งออกไป?
แต่เขาคือฉีอ๋องผู้สูงส่งที่โเี้ไร้ความปรานี เขา้าการยอมรับผิดของผู้อื่นด้วยหรือ?
ฝ่าฝืนคำสั่งของฉีอ๋อง การขอร้องรับผิดมีประโยชน์ด้วยหรือ?
นอกจากนี้ นางจะออกไปข้างนอก ก็ไม่เคยคิดที่จะยอมรับความผิด
ั์ตางามของมู่จื่อหลิงปรากฏแววเสียดสีและหายไปในทันที
ก็ยังต้องพูดกับเขา...
มู่จื่อหลิงไม่ได้ดิ้นรนหรือขัดขืน นางเงยหน้าขึ้นมองหลงเซี่ยวอวี่ มุมปากยกเป็รอยยิ้มบางๆ "ขอบพระทัย...ขอบพระทัยท่านอ๋องที่สามารถมาส่งหม่อมฉันด้วยตนเองได้เพคะ"
มู่จื่อหลิงพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อควบคุมอารมณ์ที่ผันผวนในใจ ดวงตาที่สวยงามสงบไม่สั่นคลอน ใสกระจ่างไร้ร่องรอย
ใช่ ต้องขอบคุณเขา
ขอบคุณที่ไม่ทิ้งนางไว้ ขอบคุณเขาที่พานางกลับมาอย่างปลอดภัยในครั้งนี้
มิฉะนั้นนางคงจะถูกกักอยู่บนหลังคาสูงของตำหนักคุนหนิงในตอนกลางคืน โดยไม่สามารถกลับมาได้ และเธออาจไม่ต้องรอจนถึงรุ่งสางก็คงถูกพบเข้า ถูกสังหารในฐานะนักฆ่า
ยามราตรีเงียบจนน่าหวาดหวั่น! มืดมิดจนน่าหวาดกลัว!
อากาศโดยรอบก็ถูกกดดันจนหนักอึ้งอย่างไร้สุ้มเสียง ทำให้คนหายใจไม่ออก
ไม่คาดคิด ทันทีที่คำนี้ออกมา ความโกรธที่ซ่อนเร้นของหลงเซี่ยวอวี่ก็ถูกจุดขึ้นทันที ดวงตาเ็าของเขาที่คมปลาบราวกับใบมีดน้ำแข็งก็กลายเป็เฉียบขาด เ็า กระหายเื ทอประกายเย็นเยียบ เสียดแทงผู้คนราวกับเหยี่ยว
ดวงตาที่เ็าน่าสะพรึงกลัวของหลงเซี่ยวอวี่จ้องไปที่มู่จื่อหลิงเป็เวลานาน ถามออกมาทีละคำ "เ้า พูด ว่า อะไร?"
ดวงตาที่คมกริบราวกับใบมีดพุ่งตรงไปที่ั์ตาสงบนิ่งราวกับน้ำของมู่จื่อหลิง และดูเหมือนว่าเจาะชั้นที่สงบนิ่งเข้าไปในส่วนลึกของดวงตานางได้
มือใหญ่เย็นะเืของเขาแข็งราวกับคีมคีบเหล็ก รัดข้อมือเรียวของมู่จื่อหลิงไว้แน่น หลังมือที่ขาวชุ่มชื้นของเขามีเส้นเืปูดโปนขึ้นมา
์รู้ดีว่ามือเขามีพละกำลังมากเพียงใดในขณะนี้
มู่จื่อหลิงรู้สึกเพียงว่าฝ่ามือของนางไม่มีการไหลเวียนของเื ค่อยๆ เปลี่ยนเป็สีดำและสีม่วง เย็นเฉียบราวกับน้ำแข็ง ราวกับว่ามือข้างนั้นไม่ใช่ของนางอีกต่อไป
เขาโกรธอะไร? หรือว่าไม่ควรจะขอบคุณเขาหรือ?
ไม่ขอบคุณเขา? แล้วนางควรพูดอะไร?
หรือ...อยากให้นางยอมรับผิดจริงๆ?
ยอมรับผิด? ขอโทษนะ นางทำไม่ได้!
ราวกับมู่จื่อหลิงไม่รู้สึกเ็ปอย่างไรอย่างนั้น มองกลับไปที่เขาอย่างดื้อรั้น ดวงตาสงบนิ่งผลิรอยยิ้มออกมาบางๆ "ท่านอ๋อง จะปล่อยมือได้หรือยัง?"
ไม่เพียงแต่หลงเซี่ยวอวี่จะไม่ปล่อยมือ แขนยาวของเขากลับฉุดมู่จื่อหลิงเข้าไปในอ้อมแขนอย่างแรง
มือที่แข็งแรงคว้าแขนของเธอ นิ้วที่มีข้อต่อชัดเจนคู่หนึ่งก็ยกคางที่เรียวยาวของนางขึ้น บีบมันอย่างแรง
หลงเซี่ยวอวี่ที่อยู่ในห้วงของโทสะไม่ได้ตระหนักว่าในขณะที่เขาจับแขนมู่จื่อหลิงไว้แน่น การแสดงออกของสีหน้ามู่จื่อหลิงก็เคร่งขึ้นมาเล็กน้อย เม้มริมฝีปาก ราวกับว่ากำลังอดทนอะไรอยู่
หลงเซี่ยวอวี่มองไปที่ใบหน้าเล็กๆ ที่สงบนิ่ง ดวงตาเฉยชา ริมฝีปากเม้มแน่น ทำให้ความโกรธเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนควบคุมไม่อยู่ในอกของเขา และดูเหมือนจะะเิในวินาทีถัดมา
มู่จื่อหลิงยังไม่ทันตั้งตัว สติยังไม่กลับมา
เมื่อนางกลับมารู้สึกตัว...ทั้งร่างก็ถูกปกคลุมด้วยกลิ่นอายของเหมยเย็นๆ
กลิ่นอายทรงอำนาจแผ่ซ่านไปทั่วร่างของนางผ่านจมูก โจมตีหัวใจที่อ่อนไหว ไร้หนทางหลบเลี่ยง ไม่มีทางถอย
มู่จื่อหลิงข่มความเ็ป ออกแรงอย่างเต็มที่เพื่อดิ้นให้หลุด แต่กลับไม่ขยับแม้แต่น้อย ทั้งร่างกายดูเหมือนจะถูกเขาบดเบียดจนรวมเข้ากับเขา
แต่ยิ่งนางดิ้นรนต่อต้าน หลงเซี่ยวอวี่ก็ยิ่งโกรธ และไม่ยอมปล่อยนางไป กลับยิ่งแต่จะบีบไว้แน่นขึ้น ยิ่งกระตุ้นความโกรธที่ถูกข่มไว้ในใจของเขา
ในขณะนั้นเอง หลงเซี่ยวอวี่ก็โน้มกายลงมา ฝ่ามือใหญ่ล็อกท้ายทอยของนางไว้แน่น กลีบปากอ่อนนุ่มของนางอย่างรุนแรง
ลิ้นที่เหมือนงูงัดฟันที่กัดแน่นของนางออก ขบกัดอย่างบ้าคลั่ง เอาแต่ใจ
ลงโทษ ลงโทษหนัก ลงโทษอย่างรุนแรง!
ในชั่วพริบตา เขาได้ลิ้มรสเืสดที่ไหลออกมาจากปากของนางอย่างช้าๆ เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเบาบาง รสเค็มน้อยๆ ที่แฝงไปด้วยรสหวานบางๆ เขาดูดและขบกัดอย่างป่าเถื่อน
ลิ้นที่ยืดหยุ่นได้ขบกัดย่ำยีในปากของเธออย่างโเี้ ปราศจากความอ่อนหวาน ปราศจากความอ่อนโยนอันน่าหลงใหล ป่าเถื่อนและดุดัน
จุมพิตอันบ้าคลั่ง การลงทัณฑ์ที่โหมกระหน่ำก็เหมือนคลื่นลูกใหญ่ ซัดกระหน่ำครั้งแล้วครั้งเล่า ดูเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด
ลมหายใจที่เย็นะเืทรงพลัง ความทรงอำนาจที่แข็งแกร่งจนมิอาจฝ่าฝืน ความน่าเกรงขามที่ไม่อาจต้านทานได้
ในตอนนี้ มู่จื่อหลิงรู้สึกเพียงเจ็บ เ็ปนัก!
ความเจ็บอันแสบร้อน นางไม่รู้ว่าเจ็บตรงไหน เพราะดูเหมือนว่าจะเจ็บจนชา เจ็บจนแทบจะไร้ความรู้สึกแล้ว
หัวใจของนางทุกข์ทรมานนัก ที่มากไปกว่านั้นคือความโกรธ โกรธจนควบคุมไม่ได้
หลงเซี่ยวอวี่มีสิทธิ์อะไรมาลงโทษนางด้วยวิธีนี้ มีสิทธิ์อะไรมาทำกับนางตามใจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า
ความสัมพันธ์ของพวกเขาคืออะไร? สามีภรรยา?
เหอะ! พวกเขาใช่สามีและภรรยาหรือ? พวกเขาเป็สามีและภรรยาตามหลักของบ้านใดกัน?
สมรสที่ไทเฮาเฒ่า ‘มีใจ’ ประทานให้นับว่าเป็สมรสที่สมเหตุสมผลตรงใดกัน? แม้แต่มารับเ้าสาวก็ไม่มา กราบไหว้ฟ้าดินก็ไม่ได้ทำ นับเป็สามีภรรยาตามธรรมเนียมได้อย่างไร?
พิธีสมรสของคนเพียงคนเดียว จะมีสามีภรรยาได้อย่างไร?
สามีภรรยาอะไร? แม้แต่ตดสุนัขยังไม่ใช่!
เพียงเพราะเขาเป็ฉีอ๋องผู้ยิ่งใหญ่ ดังนั้นคำสั่งของเขาจึงไม่มีคนฝ่าฝืน
และนางอาจหาญขัดขืนคำสั่งของฉีอ๋อง จึงทำให้เขาโกรธหรือ?
ไม่สามารถขัดขืนได้ั้แ่ต้นจนจบ มู่จื่อหลิงจึงเรียกสติเส้นสุดท้าย กัดลิ้นที่ร้อนผ่าวและคล่องแคล่วที่บุกรุกในปากนางตามอำเภอใจราวกับระบายโทสะในใจ
หลงเซี่ยวอวี่แค่นเสียง ในชั่วพริบตา กลิ่นคาวเืก็อบอวลไปทั่วปากของคนทั้งคู่ที่เกี่ยวกระหวัดอยู่ด้วยกัน
ในชั่วแวบเดียวที่หลงเซี่ยวอวี่ถอนตัวจากปากของนางโดยสัญชาตญาณ เหตุผลในความบ้าคลั่งของเขาก็ถูกปลุกขึ้น แต่ความโกรธในดวงตากลับยิ่งลุกโชน เตรียมจะโน้มตัวลงไปอีกครั้ง
ทันใดนั้น คิ้วกระบี่ของหลงเซี่ยวอวี่ก็ขมวดเล็กน้อย เมื่อรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
เขาค่อยๆ ปล่อยฝ่ามือที่กำเรียวแขนของมู่จื่อหลิงแน่น
เห็นทั้งมือของเขา แขนเสื้อที่ขาวราวกับหิมะ แม้แต่บนตัวก็ยังเต็มไปด้วยคราบเืสีแดงที่เหนียวเหนอะ
อุณหภูมิของเืสีแดงสดบนฝ่ามือยังคงมีความอบอุ่นหลงเหลืออยู่
เพียงอุณหภูมิเบาบาง กลับทำให้หลงเซี่ยวอวี่รู้สึกร้อนลวกมือ ความร้อนผ่าวแผ่ซ่านจากฝ่ามือเข้าไปยังหัวใจของเขา ทำให้หัวใจที่เย็นเยียบของเขาร้อนลวก
สีแดงสดที่ทิ่มแทงสายตาบนแขนเสื้อและตามตัว เมื่ออยู่ในความมืดมิดอันน่าพิศวงก็เหมือนดั่งดอกฝิ่นสีแดงที่ผลิบาน ราวกับดอกป๊อปปี้สีแดงเบ่งบาน แผดเผาและแปลกประหลาด
มู่จื่อหลิง สวมเสื้อผ้ากลางคืนสีเข้ม บนตัวไม่เห็นคราบเืแม้แต่น้อย แต่นางก็เจ็บจนชาหนึบ ไร้ความรู้สึกอย่างสิ้นเชิง
“าเ็ที่ใด?” หลงเซี่ยวอวี่รีบปล่อยมู่จื่อหลิง เพลิงโทสะในใจจางหายไปในทันที ดวงตาที่เหมือนดั่งดวงดาวปรากฏความเ็ป
ในเวลานี้ หลงเซี่ยวอวี่ใช้สายตาที่เฉียบคมของเขา กวาดสายตาไปทั่วร่างของมู่จื่อหลิงอย่างรวดเร็ว จึงพบว่าแขนของนางที่ห้อยตามแรงโน้มถ่วง ปลายนิ้วข้างนั้นยังมีเืไหลหยดลงบนพื้นจนส่งเสียงติ๊งๆ หยดแล้วหยดเล่า
ใช่ เพราะแขนของมู่จื่อหลิงข้างที่โดนลูกศรถูกหลงเซี่ยวอวี่จับไว้แน่นเมื่อครู่ และหลังจากการดิ้นรนอันดุเดือด าแที่กำลังจะสมานก็ปริออกอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ นางไม่รู้สึกเจ็บอีกแล้ว ไม่รู้สึกเจ็บแม้แต่น้อย แม้กระทั่งที่ถูกเขารังแกเมื่อครู่นี้ ไฟโทสะในใจก็หายไปในชั่วพริบตา
เพราะนางเพิ่งเห็นความปวดใจที่วาบผ่านดวงตาของหลงเซี่ยวอวี่
เป็นางคิดผิดไปหรือ? เขาห่วงใยนางจริงๆ หรือ? หัวใจมู่จื่อหลิงในยามนี้เต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ไม่สามารถบอกได้ว่ารู้สึกเช่นไร
ควรบอกเขาหรือไม่? บอกว่าเกิดอะไรขึ้นกับนางในวันนั้น?
“ข้า...” มู่จื่อหลิงกำลังจะพูด
ทว่า...
“วันนั้นเปิ่นหวางมิได้บอกเ้าหรือ ให้เ้าอยู่ในจวนดีๆ ไม่อนุญาตให้ไปไหน?” ดวงตาลุ่มลึกของหลงเซี่ยวอวี่ทอประกายเ็า น้ำเสียงเฉยเมยเจือแววตำหนิ
เป็นางคิดมากเกินไปจริงๆ เป็นางเข้าใจผิดไปจริงๆ นอกจากจะเ็าเฉยเมยต่อนางแล้ว ตอนนี้เขากำลังโกรธเคือง
เขารู้สึกปวดใจกับนางได้อย่างไร? มีเพียงคนผู้เดียวเท่านั้นที่ส่งผลต่อความรู้สึกของเขา มีเพียงแค่สตรีอ่อนหวานที่งามล่มเมืองผู้นั้น
นางไหนเลยจะมีความสามารถที่ทำให้ฉีอ๋องรู้สึกปวดใจได้? มู่จื่อหลิงลอบยิ้มขื่นอย่างเย้ยหยันในใจ ฝ่ามือที่เืไหลค่อยๆ กำแน่นเป็กำปั้น
เขาตำหนิติเตียนนางยกใหญ่เพราะนางไม่เชื่อฟังคำสั่งของเขา นี่เขาคิดว่านางาเ็เพราะไม่เชื่อฟัง นี่นางสมควรจะได้รับาเ็หรือ?
ใช่! มู่จื่อหลิง เ้าสมควรแล้ว ทั้งๆ ที่ปกป้องใจไว้ดีแล้ว ทั้งๆ ที่พูดแล้วยังไม่เชื่ออีก
มู่จื่อหลิง ั้แ่เมื่อไหร่ที่หัวใจที่แข็งกระด้างของเ้าเปลี่ยนเป็อ่อนแอและเปราะบางเพียงนี้?
เพียงเพราะสายตาที่เข้าใจผิดไป ในใจก็เกือบจะจุดประกายความหวัง เกือบจะเชื่ออีกครั้ง ช่างโง่เขลาและน่าขบขันเหลือเกิน
มู่จื่อหลิง เ้าถูกทำให้ไขว้เขวจริงหรือ? าแหายก็ลืมความเ็ปเสียแล้ว แต่ยามนี้าแยังไม่หาย เ้ายังลืมความเ็ปได้อีก หิมะยังปกคลุมไม่หนาพอหรือ เ้าควรตื่นได้แล้ว
หลงเซี่ยวอวี่จับจ้องไปที่มู่จื่อหลิง เมื่อเห็นท่าทางของนางที่คล้ายว่าจะร้องไห้ก็ไม่ร้อง จะยิ้มก็ไม่ยิ้ม ดวงตาที่เหมือนเหยี่ยวของเขามืดลงอย่างคลุมเครือ ยากต่อการเข้าใจ
มู่จื่อหลิงโค้งริมฝีปากบวมแดง ราวกับดอกหมานจูซาฮวาที่ผลิบาน ในความงดงามแฝงไปด้วยความเยือกเย็น นางสบตาเขาอย่างเฉยเมย......
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้