“แกหมายความว่าไง แกว่าตาสู้ตาแก่แซ่เฉานั่นไม่ได้เหรอ ให้เด็กนั่นมาให้เด็กนั่นมาหาตาที่นี่ ตาไม่ได้แค่จะให้มันมาที่โรงเรียนนะตาจะบ่มเพาะมันเป็ผู้ใหญ่ จัดการเ้าตัวอันตรายเพื่อเมืองอู่เฉิงเอง” หลี่สวินอวี้พูดเสียงดัง
“พี่เซิงจัดการคุณตาเรียบร้อยแล้วนะ อีกเดี๋ยวเราเจอกันที่ไหนดีคะเดี๋ยวหนูเอาหนังสือเข้าเรียนไปให้” หลี่เสี่ยวฮวาออกจากบ้านตาแก่หลี่แล้วโทรศัพท์หาหวังเซิงทันทีหลี่สวินอวี้ที่ยืนอยู่ชั้นสามหรี่ตามองหลานสาวตนเอง “เ้าเด็กนี่หาปัญหาใหญ่มาให้ฉันอีกจนได้”
“ถึงโรงเรียนอู่เฉิงแล้ว คนที่ต้องลงก็รีบลง” เป็เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงรถก็จอดเข้าที่ด้านนอกห่างจากประตูใหญ่โรงเรียนประมาณหนึ่งร้อยเมตร
“นี่ ถึงแล้ว เลิกหลับได้แล้ว รีบลงรถเร็ว” ซูเยี่ยมองกัวไฮว่ที่ผล็อยหลับไปแวบนึงใช้ปลายเท้าเตะเขา จากนั้นตัวเองลากถังซีลงไป
“โรงเรียนมัธยมแห่งมหาวิทยาลัยอู่เฉิง เขียนธรรมดามากเลยเดี๋ยวรอให้ฉันเรียนจบก่อนจะเขียนให้พวกเขาใหม่” กัวไฮว่พูดพลางเดินลงจากรถ
“นี่นี่นี่ หยุดก่อน หยุดก่อน ฉันหมายถึงเธอนั่นแหละ” ขณะที่กัวไฮว่คิดจะเดินเข้าไป ก็มีเสียงตี๊ดตี๊ดดังขึ้นมาจากนั้นรปภ.สามนายก็เดินออกมาจากในห้อง
“เธอไม่ใช่นักเรียนของที่นี่ มาทำอะไรที่นี่ฮะ” รปภ.นายหนึ่งวิ่งมายังเบื้องหน้าของกัวไฮว่แล้วพูดด้วยเสียงดัง
“คุณรู้ได้ยังไงว่าผมไม่ใช่นักเรียนของที่นี่” กัวไฮว่ชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดเสียงดังด้วยท่าทางหาเื่
“เด็กนี่ จะบอกเธอให้ก็ได้นักเรียนโรงเรียนมัธยมแห่งมหาวิทยาลัยอู่เฉิงทุกคนจะต้องพกเข็มโรงเรียนมา บนเข็มโรงเรียนจะมีเซ็นเซอร์อีกอย่างนะ เห็นกล้องวงจรปิดนั่นรึเปล่านั่นมันกล้องวงจรปิดที่ล้ำหน้าที่สุดในโลกเลยนะข้อมูลครูกับนักเรียนทั้งหมดของโรงเรียนเราบันทึกไว้ในคอมพิวเตอร์หมดแล้วถ้าคอมพิวเตอร์แยกแยะหน้าแกไม่ได้ ออดเตือนหน้าประตูใหญ่ก็จะดังขึ้นมา ไอ้หนู ต้องเรียนที่ไหนก็ไปที่นั่นสิ” รปภ.พูดเสียงดัง
“ผมจำคุณได้แล้ว นี่เป็หนังสือรับเข้าเรียนของผมตอนนี้ผมเป็นักเรียนของที่นี่ แต่แค่ยังจัดการขั้นตอนไม่ครบเท่านั้นเอง” กัวไฮว่ี้เีจะต่อล้อต่อเถียงกับรปภ.จึงรีบหยิบหนังสือรับเข้าเรียนออกมา
“ฮ่าๆ ไอ้หนู เอาของมารอบคอบดีนี่ รู้หรือเปล่าว่านี่เดือนอะไร เดือนเมษายนฉันจะบอกให้เอาบุญนะปกติแล้วทุกโรงเรียนในประเทศจีนของเราจะเปิดเทอมกันเดือนกันยายน รีบไสหัวไปเลยถ้ายังวุ่นวายอีกฉันจะจับแกไปโรงพัก” รปภ.พูดอย่างไม่สนใจใยดี
“หลี่สวินอวี้อยู่ไหน ให้เขาออกมา อันนี้เขาเป็คนให้ผมเอง รปภ.หลี่เวยผมจำคุณได้แล้ว คุณจำชื่อผมไว้ให้ดีแล้วกัน ผมชื่อกัวไฮว่” กัวไฮว่พูดพลางหรี่ตามองหลี่เวย
“หลี่เวย เกิดอะไรขึ้น” ในขณะที่พวกเขาทะเลาะกันอยู่นั้นผู้หญิงอายุราวสี่สิบปีก็ขับรถเข้ามาในโรงเรียน จากนั้นก็เดินมายังประตูใหญ่
“หัวหน้าเซวีย เด็กนี่เอาใบรับเข้าเรียนปลอมมาจะเข้ามาในโรงเรียนให้ได้พวกเรากำลังขวางเขาไว้เดี๋ยวจะลากเขาออกไปครับ” เมื่อหลี่เวยเห็นผู้หญิงคนนั้นเดินมาก็พูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“เธอคือกัวไฮว่เหรอ นักเรียนที่ผอ.หลี่บอกว่าย้ายมาจากโรงเรียนจิ่วอู่เฉิงเหรอ” เซวียหรูเหอมองกัวไฮว่แล้วพูดขึ้น “ทำไมถึงไม่ให้เธอเข้าไปในโรงเรียนกันนะคนพวกนี้ทำงานไม่ได้เื่จริงๆ”
“ผมคือกัวไฮว่ เมื่อก่อนเคยอยู่ที่โรงเรียนจิ่วอู่เฉิงอยู่พักหนึ่งตอนนี้ให้ผมเข้าไปในโรงเรียนได้แล้วใช่ไหมครับ” กัวไฮว่พูดพลางหรี่ดวงตามองหลี่เวย
“นี่เธอ เมื่อกี้พวกเราผิดเอง อย่าไปโทษพวกหลี่เวยเลยนะที่โรงเรียนก็มีกฎของโรงเรียน เื่ในวันนี้ฉันต้องขอโทษเธอด้วยนะแล้วฉันก็จะให้พวกหลี่เวยขอโทษเธอด้วย” เซวียหรูเหอพูดยิ้มๆ “เื่ที่เธอย้ายโรงเรียนผอ.หลี่บอกกับฉันแล้ว แล้วก็บอกว่าเธอรถชนเหมือนว่าจะาเ็หนักเลยฉันเลยยังไม่ได้บอกฝ่ายรปภ.เื่ที่เธอย้ายมาเข้าเรียนน่ะตอนนี้ร่างกายเป็ไงบ้าง”
“ฟื้นสมบูรณ์ดีแล้วครับ ไม่งั้นผมไม่มาเรียนหรอก” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “หัวหน้าเซวียหัวหน้าแบบคุณเนี่ยหาได้ไม่ง่ายนะ ยอมรับผิดกับนักเรียนก่อนเนี่ย”
“ทำผิดก็ต้องยอมรับสิ ไม่มีอะไรที่สำเร็จได้โดยไม่มีกฎเกณฑ์หรอกนะและฉันก็หวังว่าเธอจะเคารพกฎของโรงเรียนทุกข้อเหมือนกันตอนนี้เธอตามฉันไปฝ่ายการศึกษา จ่ายค่าเทอม ค่าหนังสือ ค่าชุดนักเรียนแล้วก็ทำตามขั้นตอนเข้าเรียนกันเถอะ” เซวียหรูเหอพูดยิ้มๆ
“ให้ตาย ไม่ใช้วิชาอ่านจิตไม่ไหวจริงๆ มึนไปเลย ผู้หญิงคนนี้ก็แปลกจริงขอโทษข้าเนี่ยนะ ต่อไปถ้าข้าทำผิดกฏโรงเรียนต้องมาจัดการข้าแน่เลย” ตอนนี้กัวไฮว่คืนสู่ิญญาเดิม
“หัวหน้าเซวีย ค่าเทอมเราใช้บัตรได้ใช่ไหม” กัวไฮว่ถามขึ้นเสียงเบาเขาไม่อยากให้เกิดเื่แบบบนรถเมล์อีก
“รูดบัตรได้ ทั้งหมดสามแสนสามหมื่นหนึ่งพันห้าร้อย เธอมีใช่ไหม” เซวียหรูเหอพูดแล้วอมยิ้มเงินสามแสนกว่าสำหรับสี่ตัวอันตรายแล้วคงเป็แค่เศษเงิน
“น่าจะพอมั้ง ถ้าไม่พอเดี๋ยวผมค่อยหาวิธีดู” กัวไฮว่พูดเบาๆจากนั้นก็เดินตามหลังเซวียหรูเหอไปยังฝ่ายการศึกษา
“เสี่ยวไฮว่ ฉันขอพูดเกี่ยวกับกฎของโรงเรียนให้เธอฟังก่อนคร่าวๆ แล้วกันั้แ่วันเข้าเรียนนักเรียนทุกคนจะมีสิบสองคะแนน ก็เหมือนกับใบขับขี่นั่นแหละถ้าละเมิดกฎโรงเรียนจะถูกหักคะแนน เช่น มาสายหนึ่งครั้งหักหนึ่งคะแนนทะเลาะหนึ่งครั้งหักหกคะแนน สอบได้ที่โหล่หนึ่งครั้งหักหนึ่งคะแนนถ้าคะแนนถูกหักหมดทั้งสิบสองคะแนน ทางโรงเรียนก็มีสิทธิ์ไล่ออก” เซวียหรูเหอพูดยิ้มๆ “นี่เป็หนังสือกฎของโรงเรียนเราน่าจะประมาณหนึ่งร้อยแปดสิบกว่าข้อ ถ้าทำผิดอย่างอื่นที่ไม่มีในกฎทางโรงเรียนจะตัดคะแนนตามความหนักเบาของสถานการณ์”
“อะแฮ่มๆ ผมเข้าใจแล้ว ผมจะตั้งใจศึกษากฎของโรงเรียนครับ” สุดท้ายกัวไฮว่ก็วางกฎของโรงเรียนไว้บนโต๊ะข้างๆ
“เงินไปจ่ายที่ฝ่ายการเงินนะ จากนั้นก็ไปให้ข้อมูลกับฝ่ายจัดการส่วนเข็มโรงเรียนไปรับที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ แล้วค่อยไปหาฝ่ายหอพักให้พวกเขาจัดการเื่ที่อยู่ให้เธอ จัดการเื่พวกนี้เสร็จแล้วก็กลับมาหาฉันฉันจะหาห้องเรียนให้เธอ” เซวียหรูเหอมองกัวไฮว่แล้วพูดยิ้มๆ
“วันนี้เธอมาเป็วันแรก ขอแค่เธอไม่ไปทะเลาะกับใคร จะโทรศัพท์หรืออะไรก็ตามแต่ฉันไม่หักคะแนนเธอหรอก รีบไปจัดการตามขั้นตอนเสียสิ” ในขณะที่กัวไฮว่ออกไปเซวียหรูเหอก็พูดตามหลัง
“มารดามันเถอะ คราวนั้นข้าบินไปยัง์บนสรวง์ไม่เห็นจะยุ่งยากแบบนี้เลย” กัวไฮว่อดไม่ได้ที่จะด่าไปประโยคหนึ่งก่อนจะหมุนตัวเดินไปยังฝ่ายการเงิน
“ผอ.หลี่ วันนี้กัวไฮว่มาแล้ว” เมื่อเซวียหรูเหอเดินไปไกลเซวียหรูเหอก็รีบดิ่งมายังห้องทำงานของหลี่สวินอวี้
“คงยังไม่ได้ก่อเื่อะไรหรอกใช่ไหม” หลี่สวินอวี้อึ้งก่อนไปครู่หนึ่งก่อนจะถามต่อว่า “วันที่เขารถชนฉันโทรศัพท์คุยกับหลิวอี้เตาเขาบอกว่าตอนแรกเกือบช่วยชีวิตเด็กนั่นไว้ไม่รอดไม่คิดว่าจะฟื้นได้เร็วขนาดนี้ หลิวอี้เตานี่จริงๆ เลย”
“ไม่ได้ก่อเื่ค่ะ เพียงแค่ตอนเข้าโรงเรียนมาฉันไม่ได้บอกรปภ.ไว้ก่อนหลี่เวยเลยห้ามเขาไว้ ทั้งสองคนเลยมีปากเสียงกัน” เซวียหรูเหอเล่าเื่ให้หลี่สวินอวี้ฟังอย่างละเอียด
“เฮ้อ เสี่ยวเวยนี่ก็ซื่อตรงจริงๆ ผมบอกเขาไปตั้งหลายรอบแล้วครั้งนี้ยังจะก่อปัญหาใหญ่อีก” หลี่สวินอวี้พูดพลางลูบเข้าที่ศีรษะอย่างจนใจ “หรูเหอ เดี๋ยวคุณไปหาเสี่ยวเวยนะให้เขาไปถอนเงินเดือนเดือนนี้ที่ฝ่ายการเงิน แล้วก็ให้ฝ่ายการเงินให้เขาอีกแสนนึงให้เขาหนีไปซุกหัวที่บ้านเกิด หวังว่าตอนนี้จะยังทันนะ”
“ผอ.คะ ฉันว่ากัวไฮว่ก็ไม่ได้เลวร้ายแบบที่ลือกันในเมืองอู่เฉิงนะคะเมื่อกี้ฉันคุยกับเขาไปหน่อยนึง ยังรู้สึกว่าเด็กคนนี้ไม่เลวเลย” เซวียหรูเหอพูดพลางอมยิ้ม
“นี่มันจุดที่น่ากลัวของสี่ตัวอันตรายต่างหากล่ะ รีบไปจัดการเถอะถ้าช้ากว่านี้กลัวว่าเสี่ยวเวยจะต้องรับโทษหนักนะ” หลี่สวินอวี้นึกถึงวิธีการจัดการของสี่ตัวอันตรายก่อนจะพูดพลางส่ายศีรษะ
“ผอ.คะ กลัวว่าตอนนี้จะสายไปแล้วล่ะค่ะ” ใน่ขณะที่เซวียหรูเหอจากไปก็เห็นกัวไฮว่กับหลี่เวยกำลังพูดอะไรบางอย่างจากทางหน้าต่าง
“พี่เวย ฝ่ายหอพักอยู่ตรงไหน บอกผมหน่อยได้ไหม” เมื่อกัวไฮว่ออกมาจากฝ่ายประชาสัมพันธ์นักเรียนทุกคนต่างเข้าเรียนกันอยู่เขาจึงต้องมายังฝ่ายรปภ.อีกครั้งอย่างช่วยไม่ได้ เขามาหาหลี่เวยแล้วก็ถามถึงที่ตั้งของฝ่ายหอพัก
“นี่ไอ้น้อง เมื่อกี้ขอโทษด้วยนะ ขอโทษด้วย” หลี่เวยเป็คนตรงไปตรงมาตัวเองผิดก็คือผิด เขากำลังจะไปหากัวไฮว่แต่กลับไม่คิดว่ากัวไฮว่จะมาหาตนเองจึงพูดให้ชัดเจนกันไป
“โรงเรียนมีรปภ.ที่รับผิดชอบดีแบบนี้ โชคดีจริงๆ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“นี่น้อง ตอนนี้ฉันว่า ฉันพานายไปฝ่ายหอพักดีกว่า ฉันคุ้นเคยที่นั่นดีน่ะ” หลี่เวยพูดพลางลากกัวไฮว่เดินไปทางฝ่ายหอพัก
“หลี่เวยคิดจะทำอะไรกันแน่ รีบไปดูเร็ว อย่าทำเื่โง่ๆ กับเด็กนี่เชียวนะ” หลี่สวินอวี้เดินลงมาจากข้างบน ด้วยคิดว่าหลี่เวยกับกัวไฮว่มีปัญหากันจึงพูดเสียงดังแล้วรีบวิ่งไปทางทั้งสองคน