เิไท่?
ดวงตาของกู่ไห่กระตุกอย่างแรง หากชายคนนี้คือเิไท่ เช่นนั้นผู้ที่ต่อสู้กับข้าในดินแดนแรกสาบสูญ คือใครกัน?
“ยี่สิบปี? อึดหรือ?... หึ!” เิไท่หันไปมองหลี่เหว่ย เพื่อยืนยัน
ตอนที่มองอีกฝ่ายนั้น สีหน้าของเขาแสดงออกว่าเกลียดชัง ฝังลึกถึงกระดูก
“จ้องไปก็ไร้ประโยชน์ ขอแค่เ้าบอกสิ่งที่รู้มา ข้าจะปล่อยเ้า” หลี่เหว่ยกล่าว พลางยิ้มเย็น
“หลี่เหว่ยเอ๋ย หลี่เหว่ย! เ้าน่าจะรู้จักข้าดีที่สุด… ฮ่าๆๆๆ! เ้าคิดว่าข้าจะบอกหรือ?” เิไท่เอ่ย พลางถ่มน้ำลายใส่
“ปากแข็งนัก! ท่านหัวหน้าสังกัดติง ดูเหมือนว่าการเดินทางมาที่นี่ของท่าน จะสูญเปล่าอีกแล้วขอรับ”
ติงรุ่ยจ้องเิไท่อยู่นาน ก่อนพูด “หลี่ฮ่าวหรานแห่งกองทัพเฉินจีหยิงก็มาที่นี่ด้วย เราต้องหามันให้เจอก่อนเขา ดังนั้นเิไท่ วันนี้เ้าจงบอกเรามาเสีย!”
“เอ๊ะ?” ทุกคนหันไปมองติงรุ่ย
“หากเขาไม่ยอมบอก รอจนหลี่ฮ่าวหรานพบมันเข้า ถึงตอนนั้นก็ไร้ประโยชน์แล้ว หากตอนนี้เิไท่ไม่พูด เราจะเสียโอกาส ข้าไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากใช้กำลังบังคับ
แม้ว่าหลังจากนี้เ้าจะต้องเจ็บหนัก แต่มันคือสิ่งที่เ้าเลือกด้วยตัวเอง” ติงรุ่ยหันไปขู่เิไท่ในตอนท้าย
ทุกคนจ้องมองติงรุ่ยเป็ตาเดียว หญิงชราค่อยๆ หยิบป้ายพกออกมา
“ป้ายหัวหน้าสังกัดอัคคี?” กู่ไห่กล่าว ด้วยความประหลาดใจ
มันคล้ายกับป้ายหัวหน้าสังกัดวารีของเขา เพียงแต่มีรูปเปลวเพลิงอยู่บนนั้น แทนที่จะเป็หยดน้ำ
“ใช้ป้ายพกเพื่อเข้าไปในห้วงฝันของข้า?” ใบหน้าของเิไท่เปลี่ยนไปทันที
“เ้ายังจำได้หรือ? เิไท่ ป้ายหัวหน้าสังกัดของเรา มิใช่ป้ายพกธรรมดาๆ เ้ารู้ผลลัพธ์ของมันดี หากไม่พูดตอนนี้ เราจะเข้าไปในห้วงฝันของเ้า” ติงรุ่ยขู่
“ถุย!” เิไท่ถ่มน้ำลาย แม้จะมีแววตาตื่นตระหนก แต่ก็ยังไม่ยอมปริปาก
“นี่เ้าหาเื่ใส่ตัวเองนะ” ติงรุ่ยพูด พลางยื่นมือออกไป และเรียกใช้ป้ายหัวหน้าสังกัดอัคคี
พลัน แสงแห่งเปลวเพลิงก็ส่องสว่างไปทั่วถ้ำ ราวกับมีลูกไฟพุ่งใส่เิไท่
ตูม!
เมื่อแสงนั้นส่องมาที่ทุกคน ดูเหมือนพวกเขาจะตกสู่ภวังค์ทันที
ความจริงแล้ว ทุกอย่างในถ้ำยังคงเป็เช่นเดิม ทุกคนยังยืนอยู่กับที่ แต่ดวงจิตของพวกเขาได้เข้าไปอยู่ในโลกแห่งความฝันแล้ว
...
ในดินแดนแห่งความฝัน
มีทะเลอัคคีขนาดใหญ่อยู่ในนั้น
คนกลุ่มหนึ่งยืนอยู่ริมทะเลเพลิง ขณะที่เิไท่ถูกโซ่ล่าม และถูกเปลวไฟแผดเผาอยู่กลางทะเลอัคนี
“อ๊าก!” เขาดิ้นทุรนทุรายด้วยความเ็ป แต่ไม่อาจทำลายโซ่ที่ล่ามตัวเองได้ ไม่ว่าจะดิ้นรนแค่ไหนก็ตาม ร่างของเิไท่มีเปลวไฟลุกท่วม
“ติงรุ่ย เ้าทรยศหออี้ผิน เ้าจะต้องไม่ตายดีแน่!” เสียงร้องด้วยความเกลียดชังของเิไท่ ดังออกมาจากทะเลเพลิง
ติงรุ่ยจ้องมองอีกฝ่าย ด้วยสายตาอย่างเ็า ก่อนพูด “เิไท่ ภายใน ‘แดนห้วงฝันที่หนึ่ง’ ของเ้านี้ เพลิงศักดิ์สิทธิ์ของข้า จะแผดเผาจิติญญาของเ้า เมื่อจิติญญาลุกไหม้ มันจะแสดงภาพความทรงจำในอดีตของเ้าให้ข้าเห็น เมื่อจิติญญาถูกเผาจนหมดสิ้น เ้าจะกลายเป็เพียงคนบ้าใบ้ไร้สติ”
วิ้ง!
ทันใดนั้น ปรากฏวงคลื่นขึ้นใกล้ๆ ติงรุ่ย
“ไปกันเถอะ เราเข้าสู่ ‘แดนห้วงฝันที่สอง’ เพื่อดูความทรงจำของเิไท่กัน”
“ขอรับ!” ทุกคนขานรับ แล้วเดินตามหญิงชราเข้าไปในวงคลื่นนั้น
กู่ไห่เป็คนสุดท้ายที่เข้าไป เขามองภาพตรงหน้าอย่างตกตะลึง
บัดนี้ ทุกคนยืนอยู่ที่แดนห้วงฝันที่หนึ่งของเิไท่ ในแดนนี้ จิติญญาของเิไท่กำลังถูกเผาผลาญ ในขณะที่แดนห้วงฝันที่สองกำลังจะแสดงภาพความทรงจำในอดีตของเขา เช่นนั้นหรือ?
ป้ายประจำตำแหน่งหัวหน้าสังกัด?
... ข้าประเมินป้ายพกเหล่านี้ต่ำเกินไปแล้ว!
กู่ไห่มองเิไท่ที่ดิ้นทุรนทุรายกลางทะเลเพลิงครู่หนึ่ง ไม่ได้พูดสิ่งใด ก่อนจะก้าวเข้าสู่ห้วงฝันที่สองของเขา ตามคนอื่นๆ ไป
วูบ!
หลังจากก้าวเข้ามา จู่ๆ ก็ปรากฏตัวที่ห้องโถงขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง
ซึ่งเวลานี้เต็มไปด้วยผู้คน
“หัวหน้าสังกัดติง ผู้คนในแดนห้วงฝันที่สอง มองเห็นเราหรือไม่?” หัวหน้าสำนักซ่งเจี่ยเอ่ยถามด้วยความกังขา
“ทั้งหมดนี้ เป็เพียงภาพความทรงจำของเิไท่ เราทำได้เพียงเฝ้ามองเท่านั้น ไม่อาจเข้าไปข้องเกี่ยวได้ ปล่อยให้ข้าสังเกตดูเงียบๆ ข้าไม่อยากพลาดรายละเอียดใดไป หลังจากนี้ เิไท่อาจกลายเป็คนไร้สติ และข้าจะไม่สามารถเห็นเหตุการณ์เหล่านี้ได้อีกเป็ครั้งที่สอง” ติงรุ่ยตอบเสียงขุ่น
“ขอรับ!” ทุกคนรับปาก
...
ภายในแดนห้วงฝันที่สองนั้น เป็ห้องโถงที่กำลังจัดงานแต่ง ทั่วทั้งห้องประดับด้วยสีแดง
“เร็วเข้าๆ เ้าบ่าวและเ้าสาวกำลังจะมาแล้ว... เร็วๆ!” ทันใดนั้น เสียงะโอย่างมีความสุขก็ดังขึ้น
ภายในแดนห้วงฝันนั้น คนที่ะโอย่างมีความสุขที่สุด ก็คือหลี่เหว่ย ที่ยังมิได้ตาบอด ดวงตาทั้งสองข้างยังคงสมบูรณ์ดี ยามนี้ใบหน้าของเขาแย้มยิ้มอย่างมีความสุข
“ศิษย์พี่ ศิษย์พี่หญิง เร็วเข้า ได้ฤกษ์แล้ว!” หลี่เหว่ยร้องเรียกอย่างมีความสุข
เ้าสาวและเ้าบ่าวกำลังเดินมายังโถงจัดงาน พวกเขาค่อยๆ เข้าสู่กลางห้องโถงอย่างช้าๆ ใบหน้าของเ้าสาว ถูกคลุมด้วยผ้าคลุมสีแดง
เิไท่เดินนำเ้าสาวเข้ามา สีหน้ามีความสุขเหลือจะกล่าว
จู่ๆ หลี่เหว่ยก็ะโออกมา และเอ่ยกับแขกในงาน “ทุกท่าน โปรดอยู่ในความสงบ ข้าอยากจะกล่าวบางอย่าง... เงียบๆ ก่อน!”
แขกทุกคนพลันหยุดคุยทันที และหันไปมองหลี่เหว่ยเป็ตาเดียว เิไท่ก็มองดูหลี่เหว่ยอย่างสงสัยเช่นกัน
หลี่เหว่ยลากเด็กหญิงคนหนึ่งออกมาจากฝูงชน นางมิใช่ใครอื่น แต่เป็เยว่เหยา ที่กู่ไห่เคยเห็นเมื่อไม่นานมานี้
“หลี่เหว่ย… เ้าทำอะไรน่ะ?!” เยว่เหยาเอ็ดอย่างเขินอาย
“เยว่เหยามานี่ วันนี้เป็วันมงคลของศิษย์พี่ใหญ่ และศิษย์พี่หญิงรองของข้า เื่น่ายินดีของศิษย์พี่ทั้งสอง ย่อมเป็เื่น่ายินดีของเราด้วย” หลี่เหว่ยร้องเสียงดัง
เยว่เหยาพยักหน้า พร้อมรอยยิ้มกว้าง
“ศิษย์พี่ใหญ่ อาจารย์ของเราได้จากไปนานแล้ว ศิษย์พี่ดูแลพวกเราทั้งสามมาจนเติบใหญ่ ในใจของข้า หลี่เหว่ย รู้สึกซาบซึ้งยิ่ง ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ศิษย์พี่ใหญ่ดูแลเรามาเพียงลำพัง ข้ารู้สึกขอบคุณศิษย์พี่ใหญ่จริงๆ
ขอให้คู่ฟ้าประทาน เช่นศิษย์พี่ใหญ่และศิษย์พี่หญิงรอง มีความสุข
เช่นนั้น วันนี้ให้ข้าและเยว่เหยา เป็ประธานในพิธีแต่งงานของศิษย์พี่ทั้งสองดีหรือไม่? ไม่ต้องให้ผู้อื่นมาทำหน้าที่นี้ มอบให้เป็ธุระของข้าและเยว่เหยาเถอะ” หลี่เหว่ยกล่าวอย่างกระตือรือร้น
“ใช่! พี่เฟิงหลิง ข้าและหลี่เหว่ยจะเป็ประธานในพิธีแต่งงานของท่านเองเ้าค่ะ” จู่ๆ เยว่เหยาก็รู้สึกคึกคักขึ้นมาเช่นกัน
“ได้!” เิไท่กล่าว พร้อมยกยิ้ม
“หนึ่งคำนับฟ้าดิน! ขอบคุณ์ที่ประทานงานแต่งครานี้!” หลี่เหว่ยะโ
เิไท่ประคองแขนเ้าสาว และก้มคำนับฟ้าดิน
“สองคำนับสหายและครอบครัว! ขอบคุณสหายและครอบครัวที่ร่วมเป็สักขีพยาน!” เยว่เหยากล่าวเสียงดัง
เิไท่ประคองแขนเ้าสาว และก้มคำนับเพื่อนและครอบครัว
“เ้าสาวและเ้าบ่าวคำนับกันและกัน! อยู่ด้วยกันไม่มีวันพรากจาก!” หลี่เหว่ยและเยว่เหยาพูดเสียงดังพร้อมกัน
เิไท่และเ้าสาวโค้งคำนับกันและกัน
“ส่งตัวบ่าวสาวเข้าห้องหอ!” หลี่เหว่ยและเยว่เหยา ร้องบอกอย่างมีความสุข
คนกลุ่มหนึ่ง ไปส่งเิไท่และเ้าสาวเข้าหอ
พริบตา ก็เหลือเพียงบ่าวสาวเท่านั้น ที่อยู่ในห้องหอตามลำพัง
เิไท่ค่อยๆ เลิกผ้าคลุมสีแดงขึ้น เผยให้เห็นใบหน้างดงามของหญิงสาวผู้หนึ่ง
“เฟิงหลิงวันนี้เ้างามจริงๆ!” เิไท่กล่าว ใบหน้าแดงก่ำ
“ศิษย์พี่ใหญ่!” ดวงตาของเฟิงหลิง เต็มไปด้วยความอ่อนโยน
“ยังจะเรียกว่าศิษย์พี่ใหญ่อยู่อีกหรือ?” เิไท่ถาม พร้อมอมยิ้ม
“สามี!” เฟิงหลิงเรียกอย่างเขินอาย
“ภรรยา!” ดวงตาของเหมิ่งไท่ เต็มไปด้วยความรัก และค่อยๆ ดึงหญิงสาวเข้ามาในอ้อมกอด
...
ภาพความทรงจำยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ บางฉากบางตอนก็ข้ามไปเฉยๆ ความทรงจำคือสิ่งที่ฝังแน่นอย่างลึกซึ้ง เื่เล็กๆ น้อยๆในชีวิตประจำวัน เมื่อเวลาผ่านพ้นไป ย่อมเลือนหายเป็ธรรมดา
กู่ไห่เฝ้าดูทุกอย่างอย่างเงียบๆ ไม่คาดคิด ว่าเิไท่ หลี่เหว่ย และเยว่เหยา รวมทั้งเฟิงหลิง จะเป็ศิษย์พี่ศิษย์น้องกัน
จากนั้นไม่นาน ภาพแห่งความทรงจำก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง
เป็ห้องโถงใหญ่ห้องหนึ่ง
หลี่เหว่ยพุ่งเข้ามา ด้วยท่าทียินดียิ่ง
“ศิษย์พี่ ท่านกลับมาแล้ว?” หลี่เหว่ยกล่าวอย่างตื่นเต้น
เิไท่ยิ้มและพยักหน้า “หลี่เหว่ย พรรคต้าเฟิงเป็เช่นไรบ้าง?”
“มั่งคั่งยิ่ง ทุกวันเราทำเงินได้มากมาย โดยเฉพาะหลังจากเพิ่มลานประลอง และหน้ากากเ่าั้เข้าไป หินิญญาไหลเข้ากระเป๋าเราอย่างต่อเนื่องเลยขอรับ!” หลี่เหว่ยกล่าวอย่างดีใจ
“เช่นนั้นก็ดี หออี้ผินแม้จะดีงาม แต่ก็สุ่มเสี่ยงมาก เ้าจัดการเื่พรรคต้าเฟิงได้ดีมาก นี่คือรากฐานของเรา อาจารย์จากไปเร็วนัก น่าเสียดาย ที่ท่านไม่ทันได้เห็นพรรคต้าเฟิงตอนเจริญรุ่งเรือง” เิไท่ทอดถอนใจ
“ขอรับ! แล้วพี่สะใภ้ล่ะขอรับ?” หลี่เหว่ยถามด้วยความสงสัย
“ศิษย์พี่เฟิงหลิงของเ้าน่ะหรือ? นางกำลังสนทนาอยู่กับเยว่เหยาด้านนอกนู่น ไม่ได้เจอกันนาน ผู้หญิงหนอผู้หญิง จ้อกันไม่หยุด” เิไท่กล่าว พลางยิ้มอย่างหน่ายๆ
“ถูกต้องๆ!” หลี่เหว่ยเอ่ย พร้อมยกยิ้มซื่อ
“ใช่แล้ว! ข้าได้ยินมาว่าเ้ากับเยว่เหยากำลังจะแต่งงานกัน?” เิไท่มองศิษย์น้อง
จู่ๆ หลี่เหว่ยก็แสดงอาการเขินอาย “เยว่เหยาบอกท่านหรือ?”
“ข้าขอเตือน เยว่เหยาคือศิษย์น้องเล็กของข้าและเฟิงหลิง หากเ้ากล้ารังแกนาง เราทั้งสองจะไม่ปล่อยเ้าเอาไว้แน่!” เิไท่พูด สีหน้าจริงจัง
“ข้าจะรังแกเยว่เหยาได้อย่างไร? เป็นางมากกว่าที่จะรังแกข้า” หลี่เหว่ยพลันโพล่งเสียงดัง
“ดี!... จงจำไว้ให้ดีล่ะ!” เิไท่เอ่ย พร้อมยกยิ้ม
“ศิษย์พี่ ครานี้ที่ท่านกลับมาที่เกาะจิ๋วหวู่ มีเื่ใดหรือขอรับ?” หลี่เหว่ยถามด้วยความสงสัย
เิไท่พยักหน้า และกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “ใช่! มีเื่บางอย่าง ถังจู่กำลังจะนำกลุ่มศิษย์หออี้ผินทั้งหมดมาที่นี่ มันเป็เื่สำคัญมาก ถังจู่ถึงกับใช้ตราผนึกปิดปาก มิให้ผู้ใดแพร่งพรายเื่ราวออกไปได้!”
“ศิษย์พี่ไม่ต้องกังวล แค่ไม่กล่าวถึงก็พอ!” หลี่เหว่ยพูด พลางส่ายหน้า
มีเสียงหัวเราะคิกคักเบาๆ ดังมาจากประตูหลัง
เป็เฟิงหลิงและเยว่เหยา ที่กำลังเดินเข้ามา
“ศิษย์พี่ ท่านกลับมาครานี้ มีของฝากใดมาให้เราหรือไม่เ้าคะ?” จู่ๆ เยว่เหยาก็เอ่ยถาม
หลี่เหว่ยมองเยว่เหยา สีหน้าที่เต็มไปด้วยความรักใคร่
“รอถึงวันสำคัญของเ้าและหลี่เหว่ย ข้าจะมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้เ้า!” เิไท่กล่าว พร้อมยกยิ้มกว้าง
ภาพแห่งความทรงจำเปลี่ยนไปอีกครั้ง
คราวนี้เป็เหตุการณ์ภายในสวนเล็กๆ แห่งหนึ่ง
เิไท่และเฟิงหลิง กำลังแอบพลอดรักหลังก้อนหิน
“ไม่เอา!... ท่านพี่”
“น่า... จูบเดียว... แค่จูบเดียวเอง”
“ลดเสียงของท่านหน่อย มีคนมา!”
สองหนุ่มสาวต่างกลั้นหายใจ
“เป็หลี่เหว่ยและเยว่เหยาหรือไม่?” เิไท่กระซิบ
“พอแล้ว! อย่าพูด” เฟิงหลิงรีบปิดปากของอีกฝ่ายทันที
“เยว่เหยาที่รัก เหตุใดถึงทำหน้าตาบูดบึ้งอยู่เรื่อย เรากำลังจะแต่งงานกันเร็วๆ นี้แล้ว มีสิ่งใดทำให้เ้าไม่มีความสุขหรือ?” หลี่เหว่ยถาม พลางโอบกอดเยว่เหยา และพาไปนั่งที่ศาลาเล็กๆ หลังหนึ่ง
หญิงสาวกลับขมวดคิ้วมุ่น
“พี่หลี่เหว่ย ดูศิษย์พี่ใหญ่ แล้วดูตัวท่านสิ ตอนนี้ศิษย์พี่ใหญ่เป็ถึงหัวหน้าสังกัดปฐีแห่งหออี้ผิน อยู่เหนือคนนับหมื่น ไม่ว่าจะไปที่ใดในทะเลพันเกาะ ทุกสำนักต่างต้องค้อมศีรษะเคารพเขา ขณะที่ท่านเป็เพียงหัวหน้าพรรคเล็กๆ ในเกาะจิ๋วหวู่” เยว่เหยากล่าวอย่างไม่พอใจ
“วาสนาของศิษย์พี่ใหญ่และข้า จะเหมือนกันได้อย่างไร?” หลี่เหว่ยกล่าว พลางยิ้ม
“ข้าไม่สน เวลานี้ ไม่ว่าสามีของพี่เฟิงหลิงจะไปที่ใด ก็ถูกมองเป็คนสำคัญ สามีของข้า เยว่เหยา จะต้องไม่ด้อยไปกว่านาง พี่หลี่เหว่ย เราออกไปจากที่นี่ดีหรือไม่?” หญิงสาวพยายามโน้มน้าว
“เยว่เหยา จากที่ศิษย์พี่ใหญ่เคยเล่า แม้เขาจะมีฐานะอำนาจวาสนา แต่งานก็เสี่ยงมากเช่นกัน อีกทั้งข้ายังต้องช่วยศิษย์พี่ใหญ่ดูแลพรรคต้าเฟิง และหารายได้อีก เ้าอย่าได้คิดมากเลยนะ” ชายหนุ่มกล่อม น้ำเสียงอ่อนโยน
“ไม่สนๆ!... ข้าอยากเป็เ้าสาวของคนใหญ่คนโต มีชีวิตที่สุขสบาย มีหน้ามีตา ไม่อยากอยู่ในสถานที่ที่แม้แต่นกยังไม่บินมาถ่ายอุจจาระ[1]เช่นนี้” หญิงสาวงอแงอย่างเอาแต่ใจ
“เอาละ!… เ้าเป็ดั่งชีวิตของข้า หลังจากแต่งงานแล้ว เราค่อยไปคุยกับศิษย์พี่ใหญ่ และออกจากที่นี่กัน” หลี่เหว่ยปลอบ
“ดียิ่ง!” เยว่เหยาจุมพิตแก้มหลี่เหว่ยหนึ่งที
ใบหน้าชายหนุ่ม เต็มไปด้วยประกายแห่งความสุขในทันที
“พี่หลี่เหว่ย ไม่นานมานี้ ดูเหมือนจะมีคนมาที่เกาะจิ๋วหวู่มากมาย นอกจากสมาชิกหออี้ผินแล้ว ยังมีกลุ่มอำนาจอื่นด้วย ท่านคิดว่าพวกเขามาที่นี่เพราะเหตุใด?” หญิงสาวถามด้วยความสงสัย
“ไม่รู้สิ!”
“ท่านไม่รู้หรือ? เื่ใหญ่เช่นนี้ เหตุใดถึงไม่รู้?” เยว่เหยาจ้องอีกฝ่ายเขม็ง
“เอ๊ะ?”
“แต่ข้าพอรู้มานิดหน่อย” หญิงสาวยกยิ้มเ้าเล่ห์
“เ้ารู้หรือ? รู้อะไร?”
“รอดูเถอะ! ข้าได้ติดต่อกับคนใหญ่คนโตผู้หนึ่ง โดยใช้ชื่อของท่าน เื่นี้จบลงเมื่อใด รับประกันได้ ว่าท่านจะมีอำนาจวาสนาพอๆ กับศิษย์พี่ใหญ่... ไม่สิ! อาจจะยิ่งกว่าศิษย์พี่ใหญ่เสียอีก” เยว่เหยากล่าวอย่างเชื่อมั่น
“เื่อะไรหรือ? เยว่เหยาคนดี... บอกข้าเถอะ”
“ไม่! รอดูต่อไปก็พอ ท่านเป็สามีข้า และสามีข้าจะยิ่งใหญ่เหนือคนนับหมื่น! ถึงเวลานั้น ชื่อสามีของข้า จะต้องเป็ที่รู้จักของทุกสำนักในทะเลพันเกาะ และทุกคนจะต้องยำเกรงทุกครั้งที่ได้ยิน”
“เยว่เหยาที่รัก บอกมาเถอะ... ข้าอยากรู้จะแย่แล้ว”
“ไม่บอกๆ!… ท่านรอดูอยู่เฉยๆ ก็พอ… คิกๆๆ! อย่าจั๊กจี้ข้านะ… คิกๆๆ!”
…
ภาพเปลี่ยนไปอีกครั้ง ดูเหมือนเวลาจะผ่านไปนานพอสมควร
ภายในห้องโถงใหญ่ มีหญิงผู้หนึ่งกำลังยืนเอามือไพล่หลัง และหันหลังให้เิไท่อยู่
“เิไท่ เป็จริงตามข่าวใช่หรือไม่?” หญิงผู้นั้นเอ่ยถามอีกฝ่าย
“ขอรับ! ถังจู่โปรดวางใจ ข่าวนี้เชื่อถือได้แน่นอนขอรับ ครานี้หออี้ผินของเรา จะหาพบเป็กลุ่มแรกแน่นอนขอรับ!” เิไท่กล่าว แววตาเต็มไปด้วยความยินดี
“ดีมาก! หลังจากค้นหามาเป็เวลานาน ในที่สุดก็พบแล้ว แน่ใจหรือไม่ ว่าไม่มีผู้ใดรู้เื่นี้?” หญิงผู้นั้นกำมือแน่น ด้วยความตื่นเต้น
“มีเพียงคนในเท่านั้น ที่รู้เื่นี้ขอรับ!” เิไท่รายงานเสียงเคร่ง
“นี่เป็เื่ที่สำคัญมาก แม้ตาย ก็อย่าได้แพร่งพรายออกไป” หญิงผู้นั้นสั่งเสียงขรึม
“ขอรับ!” เิไท่ตอบรับ
...
ภาพเปลี่ยนไปอีกครั้ง เิไท่ค่อยๆ เดินเข้ามาในลานกว้างแห่งหนึ่ง
“เฟิงหลิงๆ เ้าอยู่ไหน?”
เิไท่ตามหาหญิงสาวไปทั่วทุกที่ ไม่นานก็เดินมาถึงลานกว้างแห่งหนึ่ง
แต่ภายในลานกว้าง บัดนี้กลับเละเทะ ราวกับเพิ่งมีการต่อสู้เกิดขึ้น
ชายหนุ่มหน้าถอดสีทันที เมื่อเห็นภรรยาที่ทั้งร่างเปลี่ยนเป็สีม่วง ตัวอ่อนปวกเปียก ข้างๆ มีเยว่เหยา ซึ่งถือกริชจ่อลำคอของเฟิงหลิง พลางจ้องเิไท่เขม็ง
“เยว่เหยา เ้ากำลังทำอะไร? ปล่อยเฟิงหลิงเสีย!” ชายหนุ่มคำราม สีหน้าเปลี่ยนไปในบัดดล
“ศิษย์พี่ใหญ่ อย่าเข้ามานะ!” เยว่เหยาะโ ท่าทางเคร่งเครียด
“เยว่เหยา ปล่อยเฟิงหลิง!” เิไท่มองภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้า ด้วยความตกตะลึง
“สามี! เร็ว… เร็วเข้า! กระเรียนสื่อสารถูกส่งออกไปแล้ว ข้อมูลเื่ชีพจรักำลังจะรั่วไหล รีบตามมันไป... เร็วเข้า!” เฟิงหลิงยกมือชี้ไปที่ขอบฟ้าไกลๆ อย่างอ่อนแรง
เหมิ่งไท่มองไปที่ขอบฟ้า เห็นกระเรียน์ตัวหนึ่ง คาบม้วนกระดาษไว้ในปาก พลางบินจากไปอย่างรวดเร็ว
“ข้อมูลถูกส่งออกไปแล้ว?” สีหน้าของเิไท่เปลี่ยนไปทันที เตรียมไล่ตามนกสื่อสารไป
“อย่าขยับ! ศิษย์พี่ใหญ่ หากท่านไล่ตามไป ข้า… ข้า… ข้าจะสังหารพี่เฟิงหลิง!” เยว่เหยาร้องะโ เนื้อตัวสั่นสะท้าน
“เยว่เหยา เ้ากำลังทำอะไรอยู่? บ้าไปแล้วหรือ?” เิไท่ตวาด
“ข้าไม่ได้บ้า ศิษย์พี่ใหญ่ ตอนนี้ท่านกลายเป็หัวหน้าสังกัดปฐีแห่งหออี้ผินแล้ว ได้ดิบได้ดี มีอำนาจยิ่งใหญ่อยู่ในกำมือ แต่เหตุใด... เหตุใดถึงไม่ส่งเสริมพี่หลี่เหว่ย เขาเป็ศิษย์น้องของท่านมิใช่หรือ พวกเราร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาหลายปี แต่ทำไมท่านไม่เหลียวแลพี่หลี่เหว่ยบ้าง?” เยว่เหยาร้องถาม พร้อมจ้องมองเิไท่
“เยว่เหยา อย่าได้ก่อเื่! เ้าส่งนกสื่อสารไปที่ใด?” เิไท่ถามอย่างกลัดกลุ้ม
“ศิษย์พี่ใหญ่ อย่าก้าวเข้ามา ปล่อยนกสื่อสารไป หากท่านไม่ช่วยพี่หลี่เหว่ย เช่นนั้น ข้าจะช่วยเขาเอง เดิมทีท่านมาที่เกาะจิ๋วหวู่เพื่อชีพจรัใช่หรือไม่?
ข้าได้ส่งข้อมูลไปให้นายท่านหลี่แล้ว พี่หลี่เหว่ยจะต้องกลายเป็คนใหญ่คนโตแน่นอน ศิษย์พี่ใหญ่ เห็นแก่ความสัมพันธ์ระหว่างศิษย์พี่ศิษย์น้องที่มีมาหลายปี โปรดอย่าไล่ตามมัน... อย่าไล่ตามมันไป!” เยว่เหยาตะเบ็งเสียงอย่างคลุ้มคลั่ง
”สามี รีบไล่ตามไป เฟิงหลิงขอโทษที่ทำให้ท่านลำบากเช่นนี้ รีบไปนำข้อมูลคืนมา หากท่านจับมันไม่ได้ พวกเราทุกคนจะตายกันหมด... เร็วสิ!... เร็วเข้า!” เฟิงหลิงร้องบอก ด้วยน้ำเสียงที่อ่อนแรง
“เยว่เหยา บ้าไปแล้วหรือ? เ้าไม่รู้ว่าเื่นี้จะส่งผลร้ายแรงเพียงใด!” เิไท่วิตกกังวลมาก ก้าวเท้าเตรียมพุ่งขึ้นฟ้า
“หากท่านไล่... ไล่ตามไป... ข้าจะฆ่าเฟิงหลิงเสีย!” เยว่เหยากดกริชในมือลงบนคอของเฟิงหลิง จนเืไหลซึม
“ไล่ตามไป... สามี เร็วเข้า!... ไล่ตามมันไป มิเช่นนั้นท่านต้องตาย... ไล่ตามไป!” เฟิงหลิงะโบอก
เิไท่มีสีหน้าลำบากใจ ไม่รู้จะทำอย่างไรดี
“สามี หากท่านไม่ไล่ตามมันไป ข้าจะฆ่าตัวตายต่อหน้าท่าน ข้าจะตายให้ท่านดู!” เฟิงหลิงกดลำคอของตนเข้ากับกริช
“ข้าจะไล่ตามไป!” เิไท่เตรียมทะยานจากไป ด้วยสีหน้าเ็ป
“ศิษย์พี่ใหญ่ ท่านรู้นิสัยข้าดี หากท่านไล่ตามมันไป ข้าจะสังหารพี่เฟิงหลิง!” เยว่เหยาแสดงสีหน้าโเี้
ขณะที่เิไท่กำลังจะพุ่งร่างไป เยว่เหยาก็มีสีหน้าเหี้ยมเกรียม เตรียมใช้กริชปาดคอเฟิงหลิง
ชิ้ง!
จู่ๆ เิไท่ก็ชักกระบี่ออกมา และตวัดออกไปหนึ่งครั้ง เยว่เหยาที่กำลังจะปาดคอเฟิงหลิง ถูกพลังที่พุ่งออกจากกระบี่ ตัดศีรษะทันที
ฟึ่บ!
ศีรษะของเยว่เหยาหลุดกระเด็น ภายในดวงตา มีแววไม่อยากเชื่อว่าตัวเองจะถูกฆ่าตาย กริชในมือหล่นลงพื้น
“เยว่เหยาๆ!” เฟิงหลิงรีบเข้าไปดูศิษย์น้อง ที่ถูกตัดศีรษะจนขาดกระเด็น ด้วยความใ
อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ มีเพียงแววตาไม่อยากจะเชื่อเท่านั้น ที่ยังคงปรากฏอยู่ในดวงตาของเยว่เหยา ศิษย์พี่ใหญ่ ผู้ที่เคยรักตนเองมาก บัดนี้กลับตวัดกระบี่บั่นศีรษะตน?
เฟิงหลิงที่กำลังอ่อนแรง เนื่องจากถูกวางยาพิษ มีแววตาตื่นตระหนกยิ่ง
ส่วนเิไท่ ก็รีบทะยานขึ้นฟ้า ไล่ตามนกสื่อสารไปอย่างรวดเร็ว เขาตวัดกระบี่สังหารมัน ก่อนดึงสารที่มันคาบอยู่ออกมา และเผาทำลายจนหมดสิ้น
เสร็จแล้ว ชายหนุ่มก็บินกลับมา
“สามี... สามี เยว่เหยาตายแล้ว!” เฟิงหลิงกำลังตกอยู่ในอาการหวาดกลัว
เิไท่มีแววตาเ็ป
“เยว่เหยา เด็กโง่นี่ทำตัวเอง! นางบ้าไปแล้ว!”
“ช่วยได้หรือไม่? ยังช่วยชีวิตนางได้หรือไม่?”
เิไท่มีแววตาเศร้าสร้อย แต่ไม่ได้พูดสิ่งใด
จากนั้นไม่นาน เิไท่ก็หาโลงศพมา เขาและเฟิงหลิงช่วยกันฝังศพเยว่เหยาอย่างเงียบๆ ไม่มีใครกล่าวอะไร เกรงว่าเื่นี้แม้แต่หลี่เหว่ยก็ยังไม่รู้
...
ภาพเปลี่ยนไปอีกครั้ง ความทรงจำของเิไท่ยังคงฉายต่อไป
กู่ไห่มองเหตุการณ์ที่เกิดตรงหน้า ด้วยความประหลาดใจ พลางชำเลืองมองหลี่เหว่ย เวลานี้ร่างของเขากำลังสั่นสะท้าน กำมือแน่น จ้องภาพตรงหน้าเขม็งอย่างไม่ละสายตา
แล้วกู่ไห่ก็หันไปมองพวกติงรุ่ย และหัวหน้าสำนักซ่งเจี่ย เกือบทุกคนจ้องมองเหตุการณ์ตรงหน้าเขม็ง และเมื่อได้ยินคำว่า ‘ชีพจรั’ ก็ยิ่งให้ความสนใจเป็พิเศษ
หลังจากนิ่งคิดสักพัก กู่ไห่ก็ค่อยๆ ถอยออกมา
วูบ!
เขาถอนตัวจากแดนห้วงฝันที่สองของเิไท่ และกลับมายังแดนห้วงฝันที่หนึ่งอีกครั้ง
“อ๊าก!”
เปลวเพลิงลุกโชน เิไท่กำลังถูกแผดเผา จิติญญากำลังมอดไหม้ เพื่อให้เปิดเผยภาพความทรงจำในอดีตออกมา
ชายหนุ่มมองเิไท่ที่อยู่กลางเปลวเพลิง ซึ่งกำลังโหมกระหน่ำ พลางชะงักไปครู่หนึ่ง
วูบ!
ทันใดนั้น มวลน้ำสีฟ้าลูกหนึ่ง ก็ปรากฏบนฝ่ามือของเขา
นี่คือสิ่งที่กู่ไห่เพิ่งสร้างขึ้นมา โดยการหลอมรวมจิตใจของตนเข้ากับป้ายหัวหน้าสังกัดวารี และด้วยพลังของแดนแห่งห้วงฝัน เขาจึงสามารถสร้างมวลน้ำขึ้นมาได้ลูกหนึ่ง
ฟิ้ว!
มวลน้ำถูกโยนลงไปในทะเลเพลิง ทำให้ร่างกายของเิไท่เปียกโชกในพริบตา
ชี่ๆๆๆ!
เสียงน้ำกำลังระเหยดังขึ้น
“พลังจากแดนห้วงฝัน สามารถนำมาใช้เช่นนี้ได้หรือ?” กู่ไห่มองมือตัวเอง ด้วยความประหลาดใจ
ที่โลกด้านนอก คงทำได้แค่คิดเท่านั้น แต่ในนี้กลับสามารถนำมาใช้ได้จริง นี่ทำให้กู่ไห่มีความสุขยิ่ง
“เ้าเป็ใคร? จึงสามารถสร้างมวลน้ำในแดนห้วงฝันเช่นนี้?” ดูเหมือนหลังจากได้มวลน้ำเข้าไป จะทำให้เิไท่รู้สึกดีขึ้นมาก
“หัวหน้าสังกัดวารีคนใหม่แห่งหออี้ผิน ขอคารวะหัวหน้าสังกัดปฐี” กู่ไห่กล่าว
-----------------------------------
[1] สถานที่ที่แม้แต่นกยังไม่บินมาถ่ายอุจจาระ หมายถึง ถิ่นทุรกันดาร พื้นที่ห่างไกล ไร้ความเจริญ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้