ภาพที่เห็นเบื้องหน้าทำให้หญิงสาวในชุดสาวจีนโบราณสีชมพูอ่อนหวานถึงกับก้าวเท้าไม่ออก ราวกับเท้าทั้งสองถูกตะปูตอกตรึงไว้ ชายหนุ่มที่เธอรักและเชื่อใจกำลังจูบดูดดื่มกับหญิงสาวอีกคน!
“ดาว ได้เวลาเข้าฉากแล้ว”
หญิงสาวเ้าของชื่อได้สติ แม้มีแต่เสียงะโเรียกแต่คนเรียกอยู่ไกลนักจึงไม่มีใครรู้ว่าในที่ลับตาคนมีพระเอกหนุ่มที่กำลังเป็ที่กล่าวถึงกับนางเอกสาวบุคลิกชวนให้คนทะนุถนอมกอดจูบดูดดื่มไม่สนใจฟ้าสนใจฟ้าดิน
เป็ชายหนุ่มที่ได้ยินเสียงะโนั้น ทำให้เขาชะงักและผละจากนางเอกสาวที่อ่อนระทวยในวงแขน เสี้ยววินาทีสั้น ๆ ‘พันดาว’ สบตากับ ‘ศรัณย์’ มีบางอย่างในดวงตาของเขาที่ทำให้เธอสะบัดหน้าหนีหันหลังเดินตัวตรงจากมาอย่างไม่คิดจะหันกลับไปมองอีก
ร่างเพรียวเดินมารับกระบี่ปลอม นักแสดงตัวประกอบหลายคนอยู่ในชุดจีนโบราณ และหลายคนที่เป็ทีมงานกองถ่ายภาพยนตร์ในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนสบาย ๆ ช่างเมคอัพเข้ามาแต่งหน้าให้พันดาวอีกเล็กน้อย อีกคนจูงม้าสีน้ำตาลสวยเข้ามาอย่างรู้คิวงาน ผู้ช่วยอีกคนเข้ามาซักซ้อมคิวการแสดง พันดาวมองเลยไปยังคู่พระเอกนางเอกที่เดินออกมาจากด้านหลังพร้อมกัน โดยไม่มีใครรู้ว่าสองคนนี้ไปทำอะไรกันมา แต่ดวงตาของพันดาวอดมองริมฝีปากที่เจ่อบวมเล็กน้อย เธอไม่ได้สนใจนางเอกสาวที่แต่งกายชุดเดียวกับเธอนัก ถ้าจะพูดให้ถูกคือเธอแต่งกายแบบเดียวกับนางเอกคนนั้น เพราะเธอกำลังเล่นเป็นางเอก
“ดาวพร้อมไหม!”
“พร้อมค่ะ”
เธอตอบแล้วตวัดสายตากลับ ตั้งสมาธิกับงานตรงหน้า เธอจะพลาดไม่ได้ เพราะนั้นหมายถึงชีวิตของเธอเอง
“เอาเทคเดียวผ่านเลยนะ”
พันดาวตอบด้วยรอยยิ้มเป็รอยยิ้มของคนที่มั่นใจตัวเอง เธอเป็สตั๊นต์เกิร์ลมาั้แ่อายุสิบแปด ตอนนี้อายุยี่สิบหก ประสบการณ์ล้นเหลือ เคยร่วมงานกับทีมภาพยนตร์ต่างประเทศหลายครั้ง เหมือนเช่นที่ครั้งนี้เดินทางมาไกลถึงประเทศจีน แต่กระนั้นหญิงสาวก็รวบรวมสมาธิไม่อยู่ในความประมาท
หญิงสาวมองสัญญาณจากผู้กำกับ แสงไฟ กล้องถ่ายภาพยนตร์กำลังทำงาน มันควรจะเป็แค่ฉากง่าย ๆ แค่ควบม้าผ่านะเิ และเปลวไฟเ่าั้ พันดาวจดจำจุดที่วางะเิได้แม่นยำ ก่อนถ่ายทำยังเดินสำรวจดูด้วยตนเองหลายรอบ ด้วยความที่ทำงานด้านนี้มานาน สนิทสนมกับฝ่ายเอฟเฟกต์อย่างดี และด้วยความอยากรู้อยากเห็นที่มีมาั้แ่เด็ก หากมีเวลาว่างก็มักจะเข้าไปคลุกคลีกับฝ่ายนี้ กลิ่นน้ำมัน กลิ่นดินปืน เทคนิกการะเิให้ปลอดภัย ทำให้เธอมั่นใจว่าตัวเองปลอดภัย
ความจริงมันควรเป็ฉากอันแสนสง่างาม นางเอกควบม้าไปช่วยพระเอกที่ติดพันศึกอยู่ทัพหน้า นั้นเป็เื่ราวในอดีตภพที่ทำให้ทั้งสองให้คำมั่นสัญญาจะรักกันไปทุกชาติ มันเป็เพียงฉากหนึ่งในภาพยนตร์ แต่บางเื่ราวที่เข้ามากระทบใจมันกรีดลึกลงเนื้อหัวใจของเธอ แผลที่มองไม่เห็น แต่กระนั้นก็ไม่แน่ใจว่าที่ตัวเองเจ็บนั้น เจ็บเพราะตัวเองโง่งมกับคำรักหวานหูหรือเพราะถูกหักหลัง
หญิงสาวบนหลังอาชาสีน้ำตาลแสนงามสง่า ม้าตัวนี้เป็ม้าสำหรับการแสดงจึงไม่ตื่นใง่าย ๆ และถูกฝึกซ้อมมาอย่างดี พันดาวควบม้าด้วยความชำนาญผ่านจุดะเิต่าง ๆ อย่างสวยงาม และคาดว่าจะได้มุมภาพที่ออกมาดูดีไม่ต้องมาถ่ายซ่อมอีก เหลือเพียงแค่ะโข้ามเพลิงกองนั้น ก่อนที่ม้าจะะโข้ามกองเพลิง หางตาเห็นความเคลื่อนไหวบางอย่าง แม้บังคับใจให้ไม่วอกแวก ทว่าสิ่งนั้นกลับกระโจนผ่านมาหยุดหน้าม้าของเธอ
สุนัขจิ้งจอกสีขาวพิสุทธิ์
ดวงตางามเบิกกว้างอย่างใ กลับมีเสียงะเิจากด้านข้าง ม้าตื่นใเสียจังหวะ เสียงะเิดังขึ้นซ้อนกันอีกหลายครั้งจนหญิงสาวหูอื้อ รู้สึกเพียงแค่ว่าร่างตัวเองกระเด็นออกจากหลังม้า
นั้นเป็ความรู้สึกสุดท้ายที่หญิงสาวจดจำได้.
.....
ดวงตาที่ปิดสนิทลืมขึ้นทันที คนผวาตื่นทำท่าเหมือนหายใจไม่ออก จ้องมองม่านมุ้งจนแน่ใจว่าตนเองนอนอยู่ที่ใดแล้วจึงระบายลมหายใจยาว เมื่อปรับลมหายใจของตนเองได้เป็ปกติแล้ว ร่างผอมบางก็ยันตัวเองลุกขึ้นจากที่นอน เพราะฝันซ้ำเื่เดิมทำให้ผวาตื่น เ้าของร่างยกหลังมือปาดเหงื่อที่ชื้นเต็มใบหน้าก่อนผลักม่านมุ้งออก
เสียงนกร้อง เสียงไก่ขัน และท้องฟ้าที่เริ่มระเรื่อด้วยแสงแห่งรุ่งอรุณ หญิงสาวเริ่มชินกับสถานที่แห่งใหม่นี่แล้ว ครบเดือนพอดีที่ ‘พันดาว’ ตื่นมาแล้วพบว่าตัวเองอยู่ในร่างของหญิงสาวผอมบางวัยสิบหกปีนาม ‘เหมยซิง’ หญิงสาวยังจำได้ดีว่าตอนที่ได้สตินั้น ยังคิดไปว่าเป็การหยอกเล่นกันสนุก ๆ ของทีมงานในกองถ่ายภาพยนตร์ แต่เมื่อกวาดตามองไปรอบ ๆ หากล้องที่อาจหลบซ่อนอยู่แล้วพบเพียงความว่างเปล่า อาการมึนงงเหมือนศีรษะถูกกระทบกระเทือนเป็เื่จริง และยังมีรอยช้ำตามเนื้อตัวเอีก นางก้มมองสภาพตัวเอง จัดฉากหรือสถานที่ได้ เสื้อผ้าย่อมเปลี่ยนได้ แต่รูปร่างหน้าตาเปลี่ยนไม่ได้ นางก้มมองสภาพตัวเองอย่างไม่อยากเชื่อ ถามหากระจกเหมือนคนโง่ แต่ใครจะรู้ว่าบ้านนี้ยากจนกระทั้งกระจกยังไม่มี ฉับพลันนึกถึงน้ำจึงวิ่งไปส่องเงาตัวเองในอ่างน้ำ ลูบคลำใบหน้าตนเองอย่างแน่ใจแล้วว่าไม่มีอะไรแปะทับใบหน้าตนเอง
ใบหน้านี้ละม้ายคล้ายกับใบหน้าของ ‘พันดาว’ ในวัยสิบหกปีจริง ๆ เพียงแต่เมื่อครั้งที่นางอายุสิบหกนั้นเป็นักเรียนมัธยมไว้ผมยาวประบ่า แต่เ้าของร่างนี้ผมยาวถึงกลางหลังซ้ำยังผอมแห้งจนแทบจะปลิวลมอีกต่างหาก
‘เหมยซิง’
พันดาวได้ยินเสียงชายวัยสี่สิบเรียกอย่างเป็ห่วง เมื่อเห็นใบหน้าคนเรียกที่ท่าทางเหมือนคนป่วย และยังเดินลากขาซ้ายอีก หัวใจที่ตื่นตระหนกก็ยิ่งหดเกร็ง
นี่มันอะไรกัน!
กว่าจะตั้งสติยอมรับความจริงที่เกิดขึ้นได้นั้น ก็ข้ามไปอีกวัน
ความฝันที่ฝันซ้ำ ๆ ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมาคือเื่จริงในอีกภพหนึ่งของพันดาว ความทรงจำสุดท้ายที่ก่อนจะลืมตามาที่โลกที่ไม่รู้จักแห่งนี้
หญิงสาวลุกขึ้นจากเตียงนอน พับที่นอนเรียบร้อยแล้วก็ใช้มือสางผมยาวยุ่งของตัวเองก่อนขมวดเป็มวยง่าย ๆ เสียบด้วยปิ่นไม้ที่เหลาเอง ในกระท่อมหลังน้อยแบ่งห้องนอนได้สองห้อง ห้องใหญ่เป็ของ ‘ติงเชา’ ที่นางและเด็กอีกสี่คนเรียก ‘พ่อบุญธรรม’ เด็ก ๆ ในบ้าน เป็ผู้ชายสามคนอายุไล่เลี่ยกันประมาณแปดขวบ คือ ติงหยี่ ติงเกา ติงปิง ส่วนเด็กหญิงตัวน้อยวัยหกขวบ ‘เหมยลี่’
แท้จริงแล้ว ‘พันดาว’ ไม่มีความทรงจำของ ‘เหมยซิง’ อยู่เลย อาศัยว่าตัวเองหมดสติไปสามวันสามคืน จำอะไรไม่ได้ทำให้ทุกคนค่อย ๆ เล่าที่มาที่ไปของตัวเอง และตัวนางด้วย