การกลับบ้านเดิมของเสิ่นเยว่ผ่านไปด้วยดีทุกคนไม่มีใครสงสัยการแสดงละครของนางกับหลี่เซวียนสักนิด ท่านพ่อท่านแม่รวมทั้งพี่ชายทั้งห้าของเสิ่นเยว่เดินมาส่งนางขึ้นรถม้าที่หน้าจวน
“พวกท่านเข้าไปเถอะไม่ต้องส่งแล้ว คราวหน้าข้าจะกลับมาเยี่ยมพวกท่านใหม่”
เสิ่นเยว่บอกครอบครัวของนาง
“จะกลับมาบ่อยๆ ได้อย่างไรเ้าเป็สตรีที่ออกเรือนไปแล้วต้องอยู่ดูแลสามีของเ้าถึงจะถูก”
ฮูหยินเสิ่นเป็คนพูดขึ้นมาก่อน ทำให้พี่ชายทั้งห้าของเสิ่นเยว่ต่างไม่พอใจทำเสียงฮึดฮัด
“ทำไมน้องเล็กจะต้องไปดูแลเขาด้วย เขาเป็บุรุษโตเต็มวัยแข็งแรงขนาดนั้นเขาดูแลตัวเองไม่ได้หรือ”
เสิ่นซีห่าวพี่ห้าของเสิ่นเยว่บ่นขึ้นมาเบาๆ ฮูหยินเสิ่นที่ได้ยินเอื้อมมือจะไปตีแขนเขา เสิ่นซีห่าวรีบวิ่งไปหลบข้างหลังเสิ่นซีซวนคู่แฝดของตน
“พวกเ้าไปเถอะเดินทางดีๆ คราวหน้าค่อยแวะมาเยี่ยมพ่อกับแม่ใหม่”
เป็มหาเสนาบดีเสิ่นที่เอ่ยขึ้นขัดจังหวะการรบของสองแม่ลูก หลี่เซวียนพยุงเสิ่นเยว่ขึ้นรถม้า จากนั้นเขาก็กำหมัดคารวะครอบครัวตระกูลเสิ่นแล้วขึ้นรถม้าตามเสิ่นเยว่ไป
เมื่อรถม้าหยุดลงที่หน้าจวนสกุลหลี่บ่าวรับใช้ได้แจ้งให้ทั้งสองคนทราบว่ามาถึงแล้ว เสิ่นเยว่ไม่พูดกับหลี่เซวียนสักคำนางไม่รอให้เขาพยุงนางลงจากรถม้า นางรีบะโลงมาด้วยตนเองเหล่าสาวใช้ที่ตามนางกลับบ้านเดิมถึงกับใ
หลี่เซวียนที่เห็นเสิ่นเยว่เป็แบบนั้นก็รู้สึกโมโหขึ้นมาบ้างเหมือนกัน เขาไม่รู้ว่านางกำลังโกรธเขาเื่อะไร ทำไมนางถึงได้ทำท่าทีปั้นปึ่งเช่นนี้ ั้แ่เมื่อวานแล้วนางไม่ยอมพูดกับเขาสักคำ ไม่สิมันเป็แบบนี้ั้แ่ที่นางไม่ไปส่งข้าวให้เขาที่ค่ายทหารแล้ว หลี่เซวียนรีบเดินตามนางไปเพื่อที่จะคุยกับนางให้รู้เื่
ความจริงที่เสิ่นเยว่รีบลงจากรถม้าเพราะนาง้าที่จะไปหาชิงจู๋ถามเื่เ้าลู่ลู่ว่าได้นำจดหมายจากสหายของนางมาส่งให้หรือไม่ แต่หลี่เซวียนเข้าใจว่านางกำลังโกรธเขา
“หยุดก่อน”
หลี่เซวียนเดินมาขวางนางเอาไว้ เสิ่นเยว่มองเขาด้วยสายตามีคำถาม
“ท่านขวางทางข้าทำไม”
หลี่เซวียนไม่พูดอะไรเขาดึงแขนของเสิ่นเยว่ให้ตามเขาไป บ่าวในเรือนเห็นว่าทั้งสองมีท่าทีมึนตึงต่อกันก็คิดว่าเป็การทะเลาะของคู่ข้าวใหม่ปลามัน พวกเขาไม่กล้าเข้าไปยุ่งเพียงแต่แอบมองอยู่ห่างๆ
“ท่านคิดจะลากข้าไปไหนปล่อยข้าก่อน”
หลี่เซวียนไม่ตอบนางเขายังคงลากแขนเสิ่นเยว่เดินจ้ำอ้าวตรงไปที่ห้องหนังสือ ั้แ่ที่แต่งเข้ามาที่จวนสกุลหลี่ เสิ่นเยว่ไม่เคยเข้ามาที่ห้องหนังสือของหลี่เซวียนสักครั้งเพราะนางเคารพความเป็ส่วนตัวของเขา และนางเกรงว่าที่ห้องหนังสือของเขาจะมีความลับทางทหารอยู่ที่นั่น
หลี่เซวียนเปิดประตูห้องจากนั้นดึงแขนเสิ่นเยว่เข้าไปข้างในแล้วปิดประตูลงกลอนเสียงดัง
บ่าวที่ทำหน้าที่เฝ้าห้องหนังสือเห็นว่านายน้อยของเขาพาฮูหยินน้อยเข้าไปข้างใน พวกเขาก็รีบถอยห่างออกจากที่นั่นอย่างรู้ความ
“ท่านเป็อะไรกันแน่เหตุใดถึงได้ลากข้ามาที่นี่ท่านไม่อายบ่าวไพร่ในเรือนแต่ข้าอายนะทำอะไรคิดซะบ้างสิ”
เสิ่นเยว่เอ็ดเขาเสียงดัง หลี่เซวียนไม่ตอบคำถามเอาแต่จ้องหน้านางอยู่อย่างนั้นั้แ่เมื่อกี้แล้ว
“เ้ามีเื่อะไรที่ยังไม่ได้บอกข้าหรือไม่”
คำแรกที่หลี่เซวียนพูดขึ้นทำให้เสิ่นเยว่สะดุ้งสุดตัว หรือว่าเขาจะจับได้เื่จดหมายแล้วนะเขาถึงได้โมโหมากขนาดนี้ เสิ่นเยว่รู้สึกว่าตนเองตัวหดเล็กเหลือเท่านิ้วชี้แล้ว เพราะรู้ตัวว่าผิดนางจึงไม่ได้ตอบโต้เขา
“ทำไม่ถึงเงียบไปเล่าหรือว่าเ้ากำลังโกรธข้าเื่อะไร เ้ามีเื่สงสัยอันใดทำไมถึงไม่ถามข้าเหตุใดต้องให้สาวใช้ของเ้าเป็คนไปสืบ”
เอ๋!!!
เขาไม่ได้โมโหเื่ที่นางคุยกับสหายในความลับคนนั้น แต่เขาโมโหที่นางสืบเื่ของเขาอย่างนั้นหรือแล้วเขารู้ได้อย่างไร
เสิ่นเยว่เข้าใจในทันทีจากที่ตัวหดเล็กเท่านิ้วชี้นางรู้สึกว่าตนเองกำลังพองตัวขึ้นเท่าหลี่เซวียนแล้ว
“ถ้าข้าถามท่าน ท่านจะยอมตอบตามความจริงหรือ แต่ว่าความจริงเื่นี้ก็ไม่เกี่ยวกับข้า เพียงแต่ข้าเป็เหยื่อให้พวกนางแกล้งก็เพราะท่าน ข้าถูกพวกนางกลั่นแกล้งข้าก็ต้องรู้สาเหตุมิใช่หรือ
หลี่เซวียนถึงข้าจะไม่ค่อยได้ออกนอกจวน และไม่รู้เื่ซุบซิบของท่านกับแม่ดอกบัวทั้งหลายของท่าน แต่ข้าเสิ่นเยว่ไม่ใช่ตะเกียงไร้น้ำมัน ข้าไม่ยอมให้สตรีของท่านมารังแกข้าง่ายๆ หรอกนะจำเอาไว้ และฝากบอกพวกนางด้วยว่าแล้วข้าจะคิดบัญชีกับพวกนางทีหลัง”
เสิ่นเยว่เชิดหน้าท้าทายเขา หลี่เซวียนถอนหายใจออกมาอย่างจนใจ นี่นางกำลังเข้าใจผิดสินะ เอ๊ะ!!! นางเข้าใจผิดเื่สตรีอื่นตอนนี้นางกำลังโกรธเขาเพราะสตรีอื่นหรือว่า....
“เ้ากำลังโกรธหรือ”
หลี่เซวียนถามหยั่งเชิงนาง เสิ่นเยว่กอดอกเชิดหน้าไม่ยอมพูดกับเขา
“หรือว่าเ้ากำลังหึงข้ากันแน่”
เสิ่นเยว่หันขวับมาทันที
“ท่านกำลังพูดเื่เหลวไหลอันใด ทำไมข้าจะต้องหึงคนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับข้าด้วย”
เสิ่นเยว่ตวาดแหวออกไป
“ถ้าเช่นนั้น เ้าโกรธข้าเื่อะไรวันก่อนเ้าก็ไม่ไปส่งข้าวข้าที่ค่ายทหารเมื่อวานก็เอาแต่เงียบใส่ข้า สรุปว่าเ้ากำลังเป็อันใดกันแน่”
หลี่เซวียนถามนางเสียงอ่อน
“ข้า....”
นั่นสินางกำลังเป็อะไรกันแน่ หลี่เซวียนจะมีสตรีกี่คนแล้วมันเกี่ยวอันใดกับนาง นางก็เป็แค่คู่สัญญาที่แต่งงานกับเขาปลอมๆ อีกหนึ่งปีนางกับเขาก็ต้องหย่าขาดจากกัน จากนั้นนางก็จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขาแล้ว หรือว่าที่นางกำลังโกรธอยู่นี่เป็เพราะนางกำลังหึงจริงๆ เป็ไปไม่ได้ นางชอบสหายในจดหมายคนนั้นต่างหาก
เสิ่นเยว่ขวดคิ้วมุ่นอย่างยากจะหาคำตอบให้ตนเองได้ ใบหน้าของนางประเดี๋ยวเคร่งเครียดประเดี๋ยวมึนงง เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาจนน่าสงสัย
“เ้าทำไมหรือ”
หลี่เซวียนเห็นว่านางไม่ยอมพูดออกมาสักทีเอาแต่กลอกตาไปมาทำท่าทางคิดหนัก
“ข้าก็แค่ไม่ชอบที่ท่านทำเช่นนั้น ถึงเราสองคนจะแต่งงานกันปลอมๆ แต่ตอนนี้ข้าก็ขึ้นชื่อว่าเป็ฮูหยินน้อยของจวนสกุลหลี่ ท่านทำเช่นนั้นมันเป็การิ่เกียรติตระกูล เสิ่นของข้า อีกทั้ง....อีกทั้ง....”
หลี่เซวียนเลิกคิ้วขึ้นมองนางพูดวกไปวนมาอย่างหาทางออกให้ตนเอง นางกำลังเถียงข้างๆ คูๆ มีเื่ปิดบังอยู่จริงๆ สินะ
หลี่เซวียนไม่คิดว่าเื่นี้จะกลายมาเป็เื่ที่ทำให้เขาทั้งสองต้องมานั่งถกเถียงกันเช่นนี้ เขาถอนหายใจออกมาเบาๆ ตัดสินใจเล่าให้นางฟัง
“ความจริงเื่ที่เ้าให้สาวใช้ไปสืบมาเป็เพียงเื่เหลวไหลสมัยก่อนเท่านั้น”
เมื่อวานหลี่เซวียนได้ให้คนของเขาไปสืบเื่ของเสิ่นเยว่มาแล้ว เขาอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่นางอยู่ที่เรือนทั้งวัน แต่กลับไม่ไปส่งข้าวให้เขาในตอนเที่ยง เมื่อคนของเขากลับมารายงานจึงได้รู้ว่านางให้สาวใช้ของนางไปสืบเื่ของเขาเมื่อหลายปีก่อน และอีกเื่ที่เขาค่อนข้างใคือสาวใช้ข้างกายของนางล้วนเป็ผู้ฝึกยุทธทั้งนั้น เขารู้สึกสงสัยอยู่เหมือนกันว่าเหตุใดบุตรสาวของขุนนางจะต้องมีสาวใช้มีวรยุทธอยู่ข้างกายหลายคนเพียงนี้
“เื่เหลวไหลหรือ ท่านจะบอกว่าที่ท่านพูดกับพวกนางล้วนไม่เป็ความจริงอย่างนั้นหรือ”
เสิ่นเยว่มองเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“เื่ที่ข้าพูดในตอนนั้นเป็เื่จริง”
เสิ่นเยว่ใช้สายตาประณามเขา เห็นไหมล่ะเป็อย่างที่นางคิด หลี่เซวียนกลอกตาใส่นางอย่างเอือมระอา
“ฟังข้าพูดให้จบก่อนได้หรือไม่ ที่ข้าพูดเช่นนั้นมันมีสาเหตุ”
เสิ่นเยว่รอฟังคำแก้ตัวของเขา
“เื่ทั้งหมดมันเริ่มขึ้นเมื่อสามสี่ปีก่อน ตอนนั้นมีสตรีมากมายคอยวิ่งตามข้าไม่ว่าข้าจะไปที่ใดก็ล้วนจะต้องได้พบพวกนาง พวกนางคอยตามติดข้าไปทุกที่ทำให้การใช้ชีวิตของข้าต้องลำบาก
ตอนนั้นข้าแสดงท่าทีเ็าและหงุดหงิดเมื่อพวกนางเข้าใกล้ แต่ต่อมาก็มีคนเริ่มปล่อยข่าวลือเสียหายของข้ากับพวกนางไปทั่วเมืองหลวง พอหลายครั้งเข้าข้าก็เริ่มทนไม่ไหวจะต้องหาตัวการออกมา แต่ไป๋ชิงรุ่ยสหายของข้าเ้าเคยได้พบเขาแล้วได้ออกอุบายให้ข้าใช้ความอ่อนโยนและมีเหตุผลปฏิเสธพวกนางไม่ใช่ด้วยความเฉยชาหรือต่อว่าพวกนางเหมือนครั้งก่อน หลังจากที่ข้าทำตามที่ไป๋ชิงรุ่ยแนะนำก็มีสตรีคอยตามตอแยข้าน้อยลง”
เสิ่นเยว่นึกภาพตามดูท่าเขาคงจะลำบากไม่น้อย เพราะต้องคอยหลบเลี่ยงสตรีมากมายที่ตามตอแยเขา