หลังจากคิดว่าคนคนนี้ก่อปัญหาให้เธอเรื่อยมาและแถมยังกล้าหยอกล้อเธอหลิ่วปิงปิงจึงเต็มไปด้วยความเดือดดาล เธอไม่ได้คิดเื่การปล่อยตัวฉินเฟิงและหลังจากคิดสักพักหนึ่ง รอยยิ้มแย้มแจ่มใสก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของเธอ
สีหน้าที่มีเสน่ห์โผล่ขึ้นบนใบหน้าที่เ็าของหลิ่วปิงปิงทันทีเธอส่ายรูปร่างที่ยั่วยวนขณะเดินมาหาฉินเฟิง
“นายน้อยฉินคะ คุณฉลาดมากเลยที่ฉันพาคุณมาที่นี่วันนี้ก็เพราะฉันอยากจะเต้นรำกับคุณ”เสียงของหลิ่วปิงปิงที่ปกติจะเ็าอย่างเหลือเชื่อ ตอนนี้เมื่อเขาได้ยินมันฉินเฟิงก็รู้สึกขนลุกทั้งตัว
แน่นอนว่าเขาไม่โง่พอที่จะคิดว่าหลิ่วปิงปิงตกหลุมรักเขาจริงๆและอยากจะเต้นรำกับเขา อย่างไรก็ตามเขายิ้มอย่างลามกขณะที่จ้องหน้าอกของหลิ่วปิงปิง “พี่หลิ่วคนสวยเต้นรำมันน่าเบื่อไป ให้ผมสอนเต้นส่ายอกที่ผมคิดค้นขึ้นมาเป็ไง?”
เมื่อหลิ่วปิงปิงได้ยินชื่อท่าเต้นสีหน้าก็เ็าอีกครั้ง แต่เพื่อที่จะจัดการฉินเฟิงรอยยิ้มอบอุ่นก็โผล่ขึ้นบนใบหน้าอีกครั้ง “แน่นอนๆ งั้นสอนฉันสิ”
“พี่หลิ่วคนสวย จริงๆ แล้วพี่ค่อนข้างมีพร์ในการเรียนท่าเต้นท่านี้นะมันมีข้อกำหนดที่เข้มงวดสำหรับผู้เต้น ด้วยรูปร่างที่ไร้ที่ติของพี่พี่แค่จำไว้ว่าพี่ต้องส่ายหน้าอกของพี่ให้มากที่สุด”
ฉินเฟิงดูจริงใจมากขณะเดินเข้าหาหลิ่วปิงปิงและเริ่มช่วยเธอถอดเสื้อออร่าน้ำแข็งแผ่ออกมาจากตัวของหลิ่วปิงปิง แต่เธอก็กัดฟันทนไว้ อย่างไรซะถ้าฉินเฟิงไปไกลมากกว่านี้ เธอสาบานว่าจะยิงมันตรงนี้แน่นอน
ฉินเฟิงปลดกระดุมเสื้อแจ็กเก็ตของหลิ่วปิงปิงอย่างเชี่ยวชาญและช่วยเธอถอดมันออกแต่ไม่ไปไกลกว่านั้นข้างในหลิ่วปิงปิงใส่เสื้อเบลาส์สีขาวซึ่งสามารถเห็นสายบราสีดำบางๆ
“พี่หลิ่วคนสวย ถ้าจะให้ดีถอดเสื้อออกให้หมดจะดีกว่านะถ้าพี่อยากจะเต้นท่านี้ให้ถูกต้องผมจะช่วยพี่เอง” หลังจากถอดแจ็คเก็ตของเธอ ฉินเฟิงก็เริ่มช่วยเธอถอดเสื้อเบลาส์
หลิ่วปิงปิงทนไม่ไหวอีกต่อไปและโชคดีที่ขณะนี้ได้มีเสียงฝีเท้าดังเข้ามาในห้องสอบสวนเธอมองดูและเห็นว่าเป็คนคุ้มกันของตระกูลฉินที่กำลังนำคนกลุ่มใหญ่มาและั์ตาของเธอก็ฉายแววขบขัน
เธอจับมือของฉินเฟิงและกดกับหน้าอกของตัวเองขณะที่โน้มตัวไปหาอ้อมกอดของฉินเฟิงและเริ่มกรีดร้อง
“กรี๊ด! ไอ้อันธพาลบ้ากาม ปล่อยฉันนะ! นายกล้าลวนลามฉันเหรอ? ช่วยด้วย! ใครก็ได้ช่วยด้วย! มีคนหื่นกามอยู่ที่นี่!”
ปัง!
ประตูห้องสืบสวนถูกเปิดออกและลุงฝูก็เดินเข้ามาพร้อมกับจอมยุทธ์ของตระกูลฉินจำนวนหนึ่งทุกคนรวมถึงลุงฝูมีาแเล็กน้อยและเสื้อผ้าก็ขาดนิดหน่อยเหมือนกับว่าเพิ่งมาจากการต่อสู้ ข้างหลังของลุงฝูเป็หัวหน้าสำนักงานย่อยเขตเหนือหัวหน้าจาง
พวกเขาได้ยินเสียงข้างในห้องสืบสวนแต่ฉากที่ปรากฏขึ้นในสายตาของพวกเขาทำให้พวกเขาตกตะลึง
ตำรวจสาวสวยหัวร้อนหลิ่วปิงปิงกำลังนอนอยู่ในอ้อมกอดของฉินเฟิงพร้อมกับแจ็คเก็ตที่ถูกถอดออกและกระดุมสองเม็ดบนเสื้อเบลาส์ที่ถูกปลดแถมมือของฉินเฟิงยังกดที่หน้าอกข้างหนึ่งของเธอ
หลังจากที่คนพวกนั้นเข้ามาหลิ่วปิงปิงก็ทำสีหน้าใและรีบวิ่งไปหาหัวหน้าจาง เธอสะอึกสะอื้นและพูดว่า“หัวหน้าจางคะ พวกคุณมาก็ดีแล้วพวกคุณทุกคนก็เห็นแล้วว่าฉินเฟิงกล้าลวนลามฉันในห้องสืบสวนคนคนนี้แย่ยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน ถึงขนาดกล้าคิดจะข่มขืนเ้าหน้าที่ตำรวจหัวหน้าจางคะ คุณต้องจับเขาและให้ความยุติธรรมแก่ฉันนะคะ”
ใบหน้าของหัวหน้าจางคล้ำลงเขาถูกสั่งให้มาที่นี่โดยหัวหน้าหม่าแห่งกรมสันติบาลสาธารณะของเมืองเว่ยเฉิงเพื่อปล่อยตัวฉินเฟิง
อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นว่าฉินเฟิงกล้าทำอะไรอย่างนี้กับหลิ่วปิงปิงหัวหน้าจางก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออก หัวหน้าจางรู้จักเื้ัของหลิ่วปิงปิงถ้าเื่นี้แพร่กระจายไปยังตระกูลหลิ่วในเมืองหลวงและอดีตหัวหน้าหลิ่วได้พบว่าหลานสาวที่ล้ำค่าของเขาถูกนายน้อยเ้าสำราญลวนลามในสำนักงานที่อยู่ในความรับผิดชอบของหัวหน้าหม่าเขาจบสิ้นแน่
หัวหน้าจางมองลุงฝูด้วยสีหน้าจริงจัง“อาฝู คุณก็เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ผะ...ผมจะแกล้งทำเป็ไม่เห็นไม่ได้”
สีหน้าของลุงฝูก็หนักหนาด้วยเช่นกันเขาไม่รู้ว่าจะปกป้องฉินเฟิงอย่างไร เขาค่อนข้างหมดหวังนิสัยเก่าของนายน้อยฉินดันมาเป็เอาตอนนี้ แถมทำใครไม่ทำดันมาทำตำรวจหญิง เฮ้อ
แถมเป็ตำรวจหญิงที่มีเื้ัทรงอิทธิพลด้วย
“หัวหน้าจางคะ ถ้าคุณไม่มีปัญหา ฉันอยากจะจับฉินเฟิงข้อหาข่มขืนซึ่งระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ถ้าคุณตัดสินใจไม่ได้ฉันจะโทรหาคุณปู่ให้ตัดสินใจเอง”
หลิ่วปิงปิงตั้งใจจะจัดการฉินเฟิงในครั้งนี้และหยิบโทรศัพท์ออกมาเตรียมที่จะโทรหาครอบครัวของเธอ หัวหน้าจางกลัวจนเหงื่อหยดทั้งตัวหลังจากเห็นว่าเขาไม่มีทางเลือก เขาทำได้แค่พูดกับลูกน้อง 2 คนข้างหลัง “พาฉินเฟิงไปขัง”
ชาย 2 คนกำลังเดินไปหาฉินเฟิง และลุงฝูก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรทว่าฉินเฟิงได้บิดี้เีขณะพูดแบบลวกๆ
“เฮ้อ สำนักงานย่อยเขตเหนือของพวกคุณนี่เปิดหูเปิดตานายน้อยผู้นี้จริงๆตำรวจหญิงคนสวยคนนี้พยายามจะล่วงเกินผม แต่ผมก็ยังใจแข็งปฏิเสธเธอสุดท้ายเธอก็ตัดสินใจใส่ร้ายผมและส่งผมเข้าคุก”
“แต่ผมล่ะไม่เข้าใจจริงๆ มือของผมถูกใส่กุญแจมืออย่างนี้ผมจะข่มขืนเธอได้ยังไง? ด้วยฝีมือของเธอผมว่าเธอคงจะทำให้ผมเป็คนพิการก่อนแน่นอน”
ฉินเฟิงเดินมาหาหัวหน้าจางกับหลิ่วปิงปิงและขยับมือออกจากกันแสดงกุญแจมือสีเงินบนข้อมือของเขา
สีหน้าของหลิ่วปิงปิงเปลี่ยนไปทันทีขณะที่เอื้อมไปจับข้างหลังของเธอและพบว่ากุญแจมือของเธอหายไปแล้วและตอนนี้อยู่บนข้อมือของฉินเฟิงแทน
“นาย...นาย...” หลิ่วปิงปิงโกรธจนหน้าซีด แต่ก็พูดอะไรไม่ออก
ั์ตาของลุงฝูส่องประกายขึ้นและรีบพูด“ฮ่าๆ ดูเหมือนว่าเื่ทั้งหมดนี้จะเป็การเข้าใจผิดนะ ท่านรองหลิ่วนายน้อยตระกูลเรามักจะเล่นซนและชอบพูดอะไรที่อยากพูดแต่เขาก็เป็คนใจดีและไม่มีเจตนาร้ายใดๆถ้าเขาหาเื่คุณเข้าก็โปรดยกโทษให้เขาด้วย”
หลังจากพูดให้ดูเป็มารยาทกับหลิ่วปิงปิงลุงฝูก็หันไปมองหัวหน้าจาง “หัวหน้าจางในเมื่อเื่นี้เป็เื่เข้าใจผิดทั้งหมด ผมต้องขอพานายน้อยกลับก่อนเพราะหลังจากที่ได้ยินว่านายน้อยถูกพาตัวมาอีกครั้งนายท่านฉินค่อนข้างเป็ห่วงทีเดียว และตอนนี้ก็กำลังรอนายน้อยอยู่”
“ฮ่าๆ ใช่แล้วครับ ในเมื่อเื่เข้าใจผิดถูกไขกระจ่างแล้วตอนนี้ฉินเฟิงสามารถออกไปได้แล้วครับ ส่วนอุบัติเหตุที่ร้านอาหารดูจากหลักฐานทั้งหมดแล้ว เราสรุปได้ว่าฮ่าวหนานพยายามจะทำร้ายฉินเฟิงด้วยรถยนต์และฉินเฟิงก็เป็ผู้เคราะห์ร้ายผมต้องขออภัยอย่างสุดซึ้งด้วยที่ไม่สามารถปกป้องเขาได้”
หัวหน้าจางเองก็บอกได้ว่าหลิ่วปิงปิงเกลียดฉินเฟิงเข้ากระดูกและอยากจะใส่ร้ายเขาอย่างไรก็ตาม เขาไม่เคยคิดว่าฉินเฟิงจะสามารถพลิกสถานการณ์ได้และไม่ใช่แค่เขาเอาเปรียบเธอ เขายังทำตัวเป็ผู้เคราะห์ร้ายอีกด้วย
ในเมื่อเื่นี้ถูกแก้ปัญหาลงแล้วหัวหน้าจางที่กังวลอยู่ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเขาโบกมือให้หนึ่งในเ้าหน้าที่ตำรวจด้านหลัง คนที่ถือธงสดุดีไว้
“ฉินเฟิง นี่คือธงสดุดีที่ทำให้เธอโดยเฉพาะเพื่อขอบคุณที่เธอจับผู้ร้ายข้ามแดนอย่างจางเฟยได้เราไม่คิดเลยว่าเขาจะซ่อนตัวอยู่ในเมืองเว่ยเฉิงและปลอมตัวเป็พ่อบ้านของตระกูลฮ่าวโชคดีที่เธอค้นพบเื่นี้ความกล้าหาญและชาญฉลาดของเธอจะเป็สิ่งที่ประชาชนชาวจีนทุกคนได้เรียนรู้จากมัน
“และนี่ก็เป็บัตรที่มีเงิน 100,000 หยวนในฐานะรางวัลที่จับจางเฟยได้”
หัวหน้าจางมอบธงและบัตรธนาคารให้แก่ฉินเฟิงอย่างยินดีซึ่งฉินเฟิงก็เต็มใจรับไว้ หลิ่วปิงปิงรู้สึกอยากจะกระอักเืเมื่อได้เห็นภาพนี้
เธอพาเขามาที่นี่เพื่อจะยัดเขาเข้าตารางแต่กลายเป็ว่าตอนนี้เขาออกไปพร้อมกับธงสดุดีและเงินรางวัล
ฉินเฟิงมองไปที่ใบหน้าเ็าของหลิ่วปิงปิงขณะเดินมาหาเธอและใช้แขนโอบเธอเขาชูธงสีแดงขึ้นและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ลุงฝู ถ่ายรูปเราหน่อย”
“ครั้งก่อนถ้าไม่ใช่ท่านรองหลิ่วรีบมาที่วังัพลอยม่วงและควบคุมที่เกิดเหตุให้ผมผมคงจะไม่สามารถกลับมาแบบมีชีวิตได้ ด้วยเหตุนี้ความดีความชอบครึ่งหนึ่งควรจะเป็ของคุณหลิ่วคนสวย”
ท่าทีของฉินเฟิงทำให้หลิ่วปิงปิงสะดุ้งใและเมื่อเธอกำลังจะจู่โจมเขา ลุงฝูก็หยิบโทรศัพท์ออกมาและเริ่มถ่ายภาพเธอจึงทำได้แค่มองมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
แชะ!
หลังจากถ่ายรูปแล้วฉินเฟิงก็รีบขยับออกห่างจากหลิ่วปิงปิงทันที แม้ว่าเธออยากคิดบัญชีแต่เธอก็ไม่มีโอกาสแล้ว
“ท่านรองหลิ่ว ผมกับลุงฝูต้องไปแล้ว พ่อของผมค่อนข้างจะขี้เป็ห่วงดังนั้นครั้งหน้าผมจะมาสอนคุณเต้นใหม่นะ!”
ฉินเฟิงยิ้มให้หลิ่วปิงปิงและก่อนที่เธอจะปะทุออกมา เขาก็รีบพาคนของตระกูลฉินออกไปกับเขาทันที
หลังจากเห็นใบหน้าที่ดูร่าเริงของฉินเฟิงั์ตาของหลิ่วปิงปิงก็ลุกเป็ไฟขณะที่สาปแช่งบรรพบุรุษของเขา 18 ชั่วโคตรในใจ
“ลุงฝู เกิดอะไรขึ้นกับพวกลุงน่ะ?” เมื่อพวกเขาออกจากสถานีตำรวจสายตาของฉินเฟิงก็จริงจังขณะที่มองดูาแบนตัวของลุงฝู
ชุดคลุมสีดำที่ลุงฝูใส่ขาดและเต็มไปด้วยรูมีรอยเืที่ไหลตามแขนและขา และมีรอยฟันเล็กๆ บนใบหน้ามันเป็ครั้งแรกที่ฉินเฟิงเห็นลุงฝูในสภาพแบบนี้
อย่างไรก็ตามลุงฝูหัวเราะชัดเจน “มันก็แค่แผลถลอก ผมไม่เป็ไรหรอกเรากำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดกับตระกูลฮ่าวเมื่อเราได้รับโทรศัพท์จากนายท่านฉินว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับนายน้อยเราจึงรีบทำให้จบ
ฉินเฟิงไม่ได้ให้ความใส่ใจกับการต่อสู้ระหว่างตระกูลฉินและตระกูลฮ่าวมากนักเขารู้สึกว่าชีวิตของเขาไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรเลยและเขาก็อยู่อย่างปกติเหมือนที่ผ่านมา
แต่หลังจากที่เห็นสภาพของลุงฝูและผู้คุ้มกันของตระกูลฉินฉินเฟิงได้ตระหนักว่าชีวิตที่สงบสุขของเขาได้แลกกับความพยายามและความตายของคนพวกนี้“ลุงฝู สถานการณ์เป็ยังไงบ้าง?”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้