แม่หม้ายหลี่เห็นหยกประดับถูกพบแล้ว ก็รีบกระโจนเข้าไปคว้า หมายแย่งชิงคืนมาจากมือของถังชิงหรู ทว่าถังชิงหรูกับถอยหลังหลบ พลางแค่นเสียงเยาะ มองอีกฝ่ายด้วยสายตาเ็า "ไหนบอกว่าไม่มี แล้วของสิ่งนี้จะอธิบายอย่างไร"
"นั่นเป็ของของข้า" แม่บ้านหลี่ร้องอย่างตื่นตระหนก "เอาคืนมานะ มิเช่นนั้นเ้ากับข้าไม่จบแค่นี้แน่"
ถังชิงหรูเอาป้ายหยกมาเช็ด พลางเอ่ยอย่างเดียดฉันท์ "ป้ายหยกดีๆ ตอนนี้ถูกเ้าทำสกปรกเสียแล้ว ญาติผู้พี่ของข้ายังขยะแขยงเลย"
"นั่นเป็ของข้า พวกเ้ามันหัวขโมยแย่งชิงของผู้อื่นไป" แม่ม่ายหลี่กอดขาของถังชิงหรู คิดจะแย่งของคืน
ถังชิงหรูเตะนางออกไป พลายเอ่ยปากอย่างหงุดหงิด "เคยเห็นคนหน้าหนามาก็มาก แต่ไร้ยางอายขนาดนี้มิเคยเห็นมาก่อน หากไม่ปล่อย อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ"
ฉินหวาเห็นท่าไม่ดี จึงย่องหนีออกมาเงียบๆ ตอนนี้เขาแขนหัก ยังต้องไปหาหมอรักษาแขนที่าเ็
แม่มายหลี่เสียหยกประดับไปก็ปวดใจยิ่งนัก นางไม่รู้ราคาของป้ายหยก แต่ของชิ้นนั้นแค่ดูจากสีสันก็รู้ได้ว่าต้องมีมูลค่าไม่น้อย นางกำลังจะเอาไปให้คู่ขาอีกคนช่วยเป็ธุระเอาออกไปขายให้ ไม่นึกว่ายังมิทันออกจากบ้านก็ถูกแย่งชิงไปเสียแล้ว ยามนี้จึงโกรธแค้นถังชิงหรูและน่าหลันหลิงเป็อย่างยิ่ง
ถังชิงหรูสลัดหญิงม่ายไม่หลุด จึงทำได้แต่เพียงเตะขาสะบัดออกไป แล้วนำหยกประดับเดินไปหาน่าหลันหลิง
น่าหลันหลิงไม่อยากรั้งอยู่ที่นี่แม้แต่ชั่วขณะจิต เขาจูงถังชิงหรูไปจากที่นั่นทันที
กว่าจะผ่านความอลวนมาได้ก็เย็นมากแล้ว จากที่นี่กว่าจะเดินไปถึงในเมืองเกรงว่าฟ้าจะมืดเสียก่อน ถังชิงหรูจ้างรถเทียมโคมาได้คันหนึ่ง ให้พาพวกเขาเข้าเมือง หลังจากนั้นก็ไปหาโรงเตี๊ยมพักค้างคืน ระหว่างที่พ่อบ้านหลินยังหาที่หาทางให้ไม่ได้ ่นี้พวกเขาก็ต้องอยู่โรงเตี๊ยมไปก่อน
เคราะห์ดีที่วันนี้นางพอจะหาเงินมาได้บ้าง มิเช่นนั้นคงต้องนอนข้างถนนกันแล้ว
"บะหมี่มาแล้วเ้าค่ะ" ถังชิงหรูยกชามบะหมี่เข้ามาในห้อง
น่าหลันหลิงยืนอยู่ที่หน้าต่าง ไม่รู้กำลังคิดสิ่งใดอยู่ พอได้ยินถังชิงหรู ก็หมุนตัวเดินเข้ามา เอื้อมมือมารับชามบะหมี่จากมือของนางพลางกล่าวว่า "ขอบใจนะ หรูเอ๋อร์"
"ท่านเป็อะไรไปหรือเปล่า" ถังชิงหรูอึ้งไปชั่วขณะก่อนมองเขาพลางเอ่ยถาม
"ข้ากำลังคิดว่าหากไม่มีหรูเอ๋อร์คอยดูแล ข้าคงจะตายไปหลายคราแล้ว" น่าหลันหลิงเอ่ยด้วยความสลดใจ "ข้านี่มันไร้ประโยชน์จริงๆ"
ถังชิงหรูลากน่าหลันหลิงมาที่โต๊ะ ตบๆ เก้าอี้ด้านข้าง "นั่งลงคุยกันเถอะเ้าค่ะ ท่านตัวสูงขนาดนี้ หากยืนคุยข้าคงเมื่อยคอแย่"
น่าหลันหลิงหัวเราะเบาๆ ก่อนหย่อนก้นลงนั่ง หยิบตะเกียบขึ้นมาคีบบะหมี่เข้าปากเสียงดังซู้ดๆ
"นี่เป็ฝีมือของหรูเอ๋อร์นี่" น่าหลันหลิงเอ่ยด้วยความประหลาดใจ "เ้าเหนื่อยมาทั้งวัน ให้เสี่ยวเอ้อส่งของกินขึ้นมาก็ได้ ไยต้องยุ่งยากเช่นนี้ด้วยเล่า"
"ท่านเป็คนกินง่ายเสียที่ไหน หากสั่งอะไรส่งขึ้นมามั่วซั่ว เกรงว่าคืนนี้ท่านคงต้องหิ้วท้องหิวทั้งคืนแน่" ถังชิงหรูยิ้มกล่าว "ท่านยังไม่สบายใจเื่วันนี้ใช่หรือไม่ ไม่จำเป็ต้องคิดมาก พรุ่งนี้ข้าจะไปหาพ่อบ้านหลิน ดูว่าเขาเตรียมร้านค้าไว้ให้แล้วหรือยัง หากเตรียมเสร็จแล้ว พวกเราก็จะย้ายไปที่นั่น"
"หรูเอ๋อร์..." น่าหลันหลิงขมวดคิ้ว "ข้าเป็กังวลยิ่งนัก แม้ชิ่งอ๋องจะอยู่แต่ในที่ศักดินาของตนเองไม่เคยกลับไปเมืองหลวง แต่ก็ยากรับประกันได้ว่าเขาไม่มีคนจากเมืองหลวงอยู่ข้างกาย หากข้าปรากฏตัวอยู่ข้างกายเ้าตลอดเวลา แล้วถูกพวกเขาจับสังเกตได้ ความลับที่ปกปิดไว้ย่อมรั่วไหล ถึงอย่างไรข้าก็เป็ทายาทของขุนนางต้องโทษที่ถูกตัดสินปะาล้างตระกูล"
"จะกังวลเื่เหล่านี้ไปทำไม ท่านยังไม่ได้เป็อันใดเสียหน่อย" ถังชิงหรูกล่าว "กินข้าวแล้วก็รีบพักผ่อนเร็วหน่อย เื่ที่ยังไม่เกิดขึ้นก็อย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้"
"หรูเอ๋อร์..." น่าหลันหลิงหยิบหยกประดับชิ้นนั้นออกมาส่งให้นางอย่างตะขิดตะขวงใจ "เ้าเก็บรักษามันไว้แทนข้าได้หรือไม่"
ถังชิงหรูเห็นเขาทำสีหน้าแบบนั้น ก็หัวเราะพรืดกล่าวว่า "คงไม่ใช่เพราะหญิงม่ายผู้นั้น..."
"หรูเอ๋อร์..." น่าหลันหลิงหน้าแดงเถือก ขึงตาใส่นางอย่างไม่สบอารมณ์ "อย่าทำเป็เล่นไป"
"ก็ได้ ข้าจะช่วยเก็บให้เอง" ถังชิงหรูรับมา
"เ้าเปลี่ยนไป" น่าหลันหลิงมองรอยยิ้มของนาง "ดวงตาของเ้าสุกสกาวดั่งดวงดาว ดูมีชีวิตชีวานัก เมื่อก่อนเ้าเอาแต่ก้มหน้าก้มตา ไม่กล้ามีปากมีเสียง"
ถังชิงหรูกินข้าวไปพลางก็นึกค่อนขอดอยู่ในใจ สาวใช้ส่วนมากของที่นี่ก็เป็แบบนี้ทั้งนั้น
วันรุ่งขึ้น น่าหลันหลิงกลับมาจากซื้อเซาปิ่ง[1]จากข้างนอก ยามถังชิงหรูเปิดประตูออกมา เห็นเขายืนอยู่หน้าประตู ไม่รู้ว่ามารออยู่นานเท่าไรแล้ว พอเห็นเซาปิ่งในมือของเขา หัวใจของนางพลันเกิดความรู้สึกตื้นตัน
"เมื่อครู่ตอนไปซื้อของ ได้ยินท่านป้าที่ขายเซาปิ่งบอกว่ามีครอบครัวใหญ่ตระกูลหนึ่ง้าเชิญอาจารย์ไปสอนที่บ้าน ข้าเลยคิดว่าอยากจะไปลองดู" น่าหลันหลิงกล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม "จะให้หรูเอ๋อร์หาเลี้ยงอยู่ฝ่ายเดียวไม่ได้ แบบนั้นจะทำให้ข้ารู้สึกแย่"
"ประเสริฐยิ่ง ด้วยความรู้ความสามารถของท่าน ไม่ว่าสิ่งใดล้วนทำได้ทั้งสิ้น" ถังชิงหรูผลิยิ้มน้อยๆ
น่าหลันหลิงได้ยินคำกล่าวของนาง ก็ยิ้มอย่างเบิกบานใจ นางเชิญเขาเข้ามาให้ห้อง ทั้งสองกินอาหารเช้าด้วยกัน หลังจากอิ่มแล้ว ต่างคนต่างก็ยุ่งกับงานของตนเอง
วันนี้ถังชิงหรูหาได้ไปตั้งแผงริมถนน นางต้องแก้ปัญหาเื่ร้านของตนเองก่อน จึงต้องไปปรนนิบัติเ้านายผู้นั้นอย่างดีหน่อย เช่นนี้ถึงจะมีที่อยู่อย่างปลอดภัย
จวนชิ่งอ๋อง ผู้คุ้มกันที่ประตูได้รับคำสั่งจากพ่อบ้านหลินนานแล้ว ว่าหากเห็นถังชิงหรูซึ่งเป็สตรีแต่งตัวเป็บุรุษให้ปล่อยเข้ามา
ถังชิงหรูจึงเข้าไปในจวนอ๋องได้โดยไร้อุปสรรค ยามนี้พ่อบ้านหลินได้ข่าวก็ออกมา พอเห็นนางก็เอ่ยปากอย่างเร่งร้อน "ท่านหมอเทวดา ในที่สุดท่านก็มาเสียที ท่านอ๋องของเราอาการแลดูดีขึ้นมาบ้าง แต่ยังไม่ฟื้นคืนสติ ท่านรีบเข้าไปดูหน่อยเถิด"
"เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี ก็แสดงว่าเทียบยาของข้าไม่มีปัญหา ท่านป้อนยาให้เขาต่อไปเรื่อยๆ ก็พอ เพียงแต่มีอยู่จุดหนึ่ง เมื่อท่านอ๋องถูกคนวางยาพิษบ่อยครั้ง ท่านก็ต้องระมัดระวังเป็พิเศษ ระหว่างนี้หากมีของไม่สะอาดปะปนเข้ามาในโอสถ ก็อย่ากล่าวหาว่าปัญหามาจากข้า หม้อดำ[2]ใบนี้ข้าไม่ขอแบกไว้หรอกนะ" ถังชิงหรูยกวาจาไม่น่าฟังมาพูดถึงก่อนอันดับแรก
"ขอรับๆๆ ท่านหมอโปรดวางใจ บ่าวไพร่ที่พวกเราใช้สอยล้วนมีความจงรักภักดีต่อท่านอ๋อง ไม่กล้าทำเื่ทรยศนายหรอกขอรับ" พ่อบ้านหลินกล่าว "เชิญทางนี้"
"เื่ร้านข้าที่ข้าเอ่ยถึงเมื่อวาน..." ถังชิงหรูมิรีบร้อนเข้าไปข้างใน แค่นางมาตรวจอาการให้ชิ่งอ๋องก็ทำให้พวกเขาเบาใจลงมาก ในจังหวะที่พวกเขายังกระตือรือร้น เื่ที่ควรทำก็ต้องจัดการให้เรียบร้อย
พ่อบ้านหลินยิ้มกล่าวตาหยี "ท่านหมอโปรดวางใจ ทุกอย่างจัดการเรียบร้อย นี่คือโฉนดอาคาร ข้าให้คนไปเก็บกวาดทำความสะอาดแล้ว ท่านสามารถหิ้วสัมภาระเข้าอยู่ได้เลย"
ถังชิงหรูเห็นที่ตั้งร้านค้า ก็รู้ว่านั่นเป็เขตเจริญรุ่งเรืองที่สุดของที่นี่ พ่อบ้านหลินคนนี้นับได้ว่าเป็คนใจป้ำกล้าลงทุนก้อนใหญ่หาที่บ้านทำเลดีขนาดนี้ให้แก่นาง
"ขอบคุณมาก"ถังชิงหรูกล่าวด้วยรอยยิ้ม
"เช่นนั้นตอนนี้ท่านคงเข้าไปดูอาการของท่านอ๋องได้แล้วกระมัง" พ่อบ้านหลินทำท่าเชื้อเชิญ
ถังชิงหรูเข้าไปในห้องนอนของชิ่งอ๋อง เห็นชายหนุ่มรูปงามนอนหลับตา ใบหน้าดูดีกว่าเมื่อวานเล็กน้อย ลมหายใจสม่ำเสมอ เพียงแต่ยังแสดงสีหน้าเ็ป และแค่นเสียงในลำคออยู่เป็พักๆ
นางจับชีพจรให้ หลังยืนยันสภาพร่างกายของเขาได้แล้วก็เอ่ยว่า "กินยาอีกสองวัน หากไม่เกิดเื่นอกเหนือจากความคาดหมายก็จะฟื้นขึ้นมาเอง เพียงแค่ฟื้นขึ้นมาก็หายห่วงได้แล้ว"
"เื่นอกเหนือจากความคาดหมาย?" พ่อบ้านหลินไม่อาจมองข้ามวาจาอันสละสลวยของนาง ชีวิตของชิ่งอ๋องเกี่ยวพันถึงชีวิตทุกคนในจวน จะประมาทเลินเล่อมิได้
"ก็อย่างเช่นสถานการณ์ที่ข้าเพิ่งกล่าวไปเมื่อครู่" หลังวินิจฉัยอาการให้ชิ่งอ๋องแล้ว เพื่อให้ตนเองดูสมกับเป็หมอที่มีค่าตัวสูงลิบลิ่ว นางจึงป้อนยาลูกกลอนให้ชิ่งอ๋องอีกเม็ด
พ่อบ้านหลินเห็นสีหน้าชิ่งอ๋องดูดีขึ้นไม่ทรมานแบบนั้นอีกแล้ว ก็กล่าวด้วยความซาบซึ้งใจ "ขอบคุณท่านหมอเทวดา"
"หากไม่มีเื่อื่นแล้วข้าขอตัวกลับไปเก็บข้าวของจัดเตรียมที่ร้านก่อนล่ะ ข้า้าซื้อสมุนไพรจำนวนมาก ดังนั้น่สองสามวันนี้จึงยังเปิดกิจการไม่ได้ หากท่านมีธุระอันใดก็ไปตามข้าที่นั่น แต่ถ้าทุกอย่างปรกติดี ข้าก็จะยังไม่มา เมื่อไรที่เขาฟื้นค่อยไปตามข้าก็ได้ ระหว่างนี้ที่ยังไม่ฟื้น ให้ใช้เทียบยาเดิมเป็เวลาสามวัน ไม่ต้องเปลี่ยน"
หลังกำชับพ่อบ้านหลินเรียบร้อย ถังชิงหรูก็นำโฉนดไปยังร้านค้าของพวกเขา ด้านในเก็บกวาดทำความสะอาดแล้วเหมือนเช่นที่พ่อบ้านหลินบอกไว้ สามารถเข้าพักได้เลย ไม่เสียแรงที่เป็จวนชิ่งอ๋อง คนรวยจะทำสิ่งใดย่อมไม่น่าเกลียด แม้แต่สิ่งของพวกผ้าห่มก็จัดเตรียมไว้อย่างพร้อมสรรพ นอกจากของใช้ในชีวิตประจำวันขั้นพื้นฐานแล้ว แม้แต่ในสวนยังมีวางกระถางดอกไม้ประดับตกแต่งไว้เป็พิเศษ
แต่น่าเสียดายชิ่งอ๋องผู้นั้นช่างน่ารังเกียจยิ่ง ตัวเองเป็บุรุษแท้ๆ แต่กลับดูแคลนสตรี หากชิ่งอ๋องไม่มากเื่ขนาดนั้น นางก็ยินดีคบหาสมาคมด้วย
ถังชิงหรูเริ่มมีทักษะในการจับจ่ายใช้สอย นางไปยังร้านค้าใหญ่ๆ ซื้อของมาไม่น้อย แล้วให้พวกเขานำมาส่งให้ที่ร้านโดยตรง เพียงครึ่งวันเท่านั้น ภายในร้านก็จัดวางอย่างที่นางคิดไว้
"เตรียมเสร็จแล้วหรือ" น่าหลันหลิงเดินเข้ามา "ตอนที่เถ้าแก่โรงเตี๊ยมนำสารที่เ้าทิ้งไว้มอบให้ข้า ข้าใแทบตาย หรูเอ๋อร์น้อยไปเรียนรู้วิธีเขียนอักษรั้แ่เมื่อไร"
ถังชิงหรูตะลึงงัน เ้าของร่างเดิมไม่รู้หนังสือหรือนี่? จริงสิ นางลืมไปได้อย่างไร ว่าเ้าของร่างเดิมเป็เพียงสาวใช้ ไหนเลยจะมีโอกาสเรียนหนังสือ
"เอ้อ..." ขณะที่ถังชิงหรูหาเหตุผลมาอธิบายไม่ได้ น่าหลันหลิงก็ถูกบรรยากาศภายในร้านดึงดูดเข้าเสียแล้ว
เขามองไปโดยรอบ มุ่นคิ้วขมวดกล่าวว่า "ร้านใหญ่ขนาดนี้ เกรงว่าเงินไม่กี่ร้อยตำลึงคงซื้อไม่ได้ หรูเอ๋อร์ พวกเราเป็ฝ่ายได้เปรียบอย่างมาก ต่อไปก็อย่าไปจวนชิ่งอ๋องบ่อยนักดีกว่า"
"คุณชายของข้า ต่อให้ข้าไม่อยากไป แต่รับของของผู้อื่นมาแล้ว เกรงว่าต่อไปคงลงจากเรือของพวกเขาไม่ได้เสียแล้ว แต่ท่านวางใจเถิด คนออกหน้าคือข้า ไม่เกี่ยวกับท่านสักหน่อย หากคนของจวนชิ่งอ๋องมาพบข้า ท่านเลี่ยงหลบเอาหน่อย อย่าให้พวกเขาเห็นเข้าเป็พอ"
"เ้านึกว่าข้าเป็คนรักตัวกลัวตายรึ ข้าเป็ห่วงเ้าต่างหาก ชิ่งอ๋องผู้นั้นมีอุปนิสัยประหลาดมาั้แ่เล็ก ตอนที่อยู่เมืองหลวงได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับตัวเขามาไม่น้อย" น่าหลันหลิงกล่าว "หากเ้าทำสิ่งใดไม่ถูกใจเขา เขาก็จะแกล้งสร้างความลำบากใจให้เ้า ที่นี่เขาเป็เ้าผู้ครองเมือง เขาอยากทำสิ่งใดก็ได้ทั้งสิ้น สังหารใครสักคนแค่เอ่ยวาจาเพียงประโยคเดียวเท่านั้น"
ถังชิงหรูผลักน่าหลันหลิงเข้าไปข้างใน จนมาถึงห้องพักผ่อนในเรือนด้านหลัง ที่นี่ด้านหน้าเป็ร้านค้าขนาดใหญ่ ส่วนด้านหลังก็มีห้องอยู่ไม่น้อย มีห้องนอนรวมทั้งหมดสี่ห้อง สวนก็กว้างขวาง สามารถปลูกผักหรือทำสวนสมุนไพรได้เลย
"เมื่อเช้านี้ที่ข้าบอกว่ามีคนตระกูลใหญ่บ้านหนึ่งกำลังหาอาจารย์สอนหนังสือ ข้าไปลองมาแล้ว พรุ่งนี้สามารถเริ่มงานได้เลย" น่าหลันหลิงพูดขึ้นระหว่างที่ถังชิงหรูกำลังทำความสะอาดลานบ้าน "ดังนั้น ต่อไปข้าอาจจะต้องไปอยู่ที่สกุลหลี่"
"ท่านหมายความว่า... ท่านจะย้ายไป ต่อไปไม่กลับมาอีกแล้วน่ะหรือ" ถังชิงหรูมองน่าหลันหลิงด้วยสีหน้าตื่นตระหนก
ใช่ว่านางรู้สึกอาลัยอาวรณ์มากมาย เพราะคนที่แอบมีใจให้เขาคือเ้าของร่างเดิม แต่แค่คาดไม่ถึงว่าจะต้องจากกันเร็วขนาดนี้
"ไม่ใช่ แค่มีเวลากลับมาน้อยลงเท่านั้น ข้าต้องสอนหนังสือให้เด็กสองสามคน ท่าทางดื้อรั้นเอาเื่ทีเดียว ่เริ่มต้น ข้าต้องซื้อใจพวกเขาให้ได้ก่อน จึงต้องใช้เวลามากหน่อย" น่าหลันหลิงหัวเราะเบาๆ "เมื่อก่อนเพื่อที่จะเอาชนะใจพวกเราพี่น้อง ่แรกอาจารย์ของข้าก็ต้องมากินอยู่ร่วมกับพวกเราเหมือนกัน ท้ายที่สุดพอได้การยอมรับ พวกเราถึงเห็นเขาเป็เหมือนญาติคนหนึ่ง ต่อให้ไม่เชื่อฟังบิดามารดา ก็ยังเชื่อคำอาจารย์ เขามีผลต่อพวกเราพี่น้องมากทีเดียว"
เมื่อเอ่ยถึงเื่ราวสมัยก่อน น่าหลันหลิงพลันรู้สึกหดหู่ ยามนึกถึงเหตุการณ์ในอดีต ความหม่นหมองก็ระบายบนสีหน้า
--------------------------------------------------------------------------------
[1] เซาปิ่ง หรือขนมแป้งอบโบราณของจีนด้านนอกเป็แป้งหรือแป้งผสมมันเทศบด มีไส้อยู่ด้านในอาจเป็ใส่ถั่วหรือไส้เผือก
[2] แบกหม้อดำ เป็สำนวนคล้ายกับแพะรับบาป หมายถึงคนที่ต้องรับผิดในสิ่งที่ตนเองไม่ได้ก่อแทนผู้อื่น
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้