### บทที่ 29: การเจรจาบนหอคอยและข้อเสนอที่ปฏิเสธไม่ได้
บรรยากาศภายในห้องทำงานที่หรูหราพลันเย็นเยียบลงในบัดดล!
คำพูดสุดท้ายของเม่ยเจินที่เอ่ยนาม "เย่เฟิง" ออกมานั้น เปรียบเสมือนสายฟ้าที่ฟาดลงมากลางจิตใจของเขา!
เคล็ดวิชามายาพันแปลงที่เขาภาคภูมิใจ...เกราะป้องกันตัวตนที่เขาคิดว่าสมบูรณ์แบบ...กลับถูกมองทะลุได้อย่างง่ายดาย!
ไอสังหารอันเยียบเย็นพวยพุ่งขึ้นมาในใจของเขาเพียงชั่ววูบ ก่อนจะถูกกดข่มลงไปอย่างรวดเร็วด้วยความเยือกเย็นที่ถูกหล่อหลอมมาจากความเป็ความตาย เขารู้ดีว่าการแสดงอาการตื่นตระหนกในตอนนี้มีแต่จะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง
เขาไม่ได้ปฏิเสธหรือยอมรับ เขายังคงยืนนิ่งในร่างของชายวัยกลางคน แล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เรียบที่สุด "ท่านผู้จัดการ...รู้ตัวตนของข้าได้อย่างไร?"
เม่ยเจินยกถ้วยชาขึ้นมาจิบอย่างสบายอารมณ์ รอยยิ้มที่มุมปากของนางดูมีเสน่ห์แต่กลับแฝงไว้ด้วยอันตราย "เคล็ดวิชาจำแลงกายของท่านนับว่ายอดเยี่ยมอย่างยิ่ง สามารถหลอกตาผู้ฝึกตนขั้นปราณจิตได้สบายๆ...แต่ท่านประเมิน 'เนตรประเมินค่า' ของหอหมื่นสมบัติเราต่ำเกินไป"
นางอธิบายอย่างไม่ปิดบัง "ทุกครั้งที่เราทำการประเมินสมบัติล้ำค่า เราไม่เพียงแต่ประเมินตัวสมบัติ แต่ยังแอบบันทึก 'กลิ่นอายแห่งิญญา' ที่เป็เอกลักษณ์ของลูกค้าไว้ด้วย...เพื่อความปลอดภัยและเพื่อการทำธุรกิจในอนาคต...เมื่อมีข่าวประกาศจับ 'เย่เฟิง' ผู้รอดชีวิตเพียงหนึ่งเดียวของสำนักกระบี่เมฆาคล้อยดังไปทั่วเมือง...เราก็เพียงแค่นำข้อมูลมาเปรียบเทียบ...แล้วก็ได้คำตอบ"
เย่เฟิงหัวใจดิ่งวูบ! หอหมื่นสมบัติช่างน่ากลัวเกินไปแล้ว! พวกเขามีวิธีการที่แยบยลและมองการณ์ไกลถึงเพียงนี้!
"ในเมื่อท่านรู้ตัวตนของข้าแล้ว...ท่านคิดจะทำอะไร?" เย่เฟิงถามอย่างตรงไปตรงมา "จับข้าส่งให้พรรคมารอสูรโลหิตอย่างนั้นรึ?"
เม่ยเจินหัวเราะออกมาเบาๆ เสียงหัวเราะของนางไพเราะน่าฟังแต่กลับทำให้เย่เฟิงรู้สึกเย็นสันหลังวาบ "ส่งมอบลูกค้าคนสำคัญที่สามารถนำ 'เศษเสี้ยวสมบัติ์ปฐี' ออกมาขายได้...เพื่อแลกกับรางวัลจากพรรคมารเล็กๆ งั้นรึ? คุณชายเย่...ท่านดูถูกสัญชาตญาณของพ่อค้าอย่างข้าเกินไปแล้ว"
นางวางถ้วยชาลง สายตาของนางจับจ้องมาที่เขาอย่างจริงจัง "สิ่งที่ข้าสนใจ...ไม่ใช่ค่าหัวของเ้า...แต่คือ 'แหล่งที่มา' ของสมบัติชิ้นนั้น...และ 'ผู้าุโ' ที่ยิ่งใหญ่ที่อยู่เื้ัของเ้าต่างหาก"
ในที่สุดนางก็เปิดเผยเจตนาที่แท้จริงออกมา! นางไม่ได้เชื่อเื่ที่เขาบังเอิญเจอสมบัติ แต่เชื่อว่าเขาต้องมีผู้ยิ่งใหญ่หนุนหลังอยู่!
"ข้าไม่เข้าใจว่าท่านกำลังพูดถึงเื่อะไร" เย่เฟิงยังคงปฏิเสธอย่างเยือกเย็น
เม่ยเจินยิ้มอีกครั้ง นางไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะยอมรับง่ายๆ "ไม่เป็ไร...เรามีเวลาอีกมาก" นางเปลี่ยนเื่ "เรามาพูดถึงสถานการณ์ปัจจุบันของเ้าดีกว่า...เ้ามีศัตรูที่แข็งแกร่งอยู่หน้าประตู...มีสหายที่าเ็สองคน...และไม่มีที่ไป"
"ข้ามีข้อเสนอให้เ้า"
นางกล่าวอย่างตรงไปตรงมา "หอหมื่นสมบัติของเรา...สามารถให้ที่พักพิงแก่พวกเ้าได้ เราจะรับรองความปลอดภัยให้ ตราบใดที่พวกเ้ายังอยู่ในเมืองเมฆาอรุณ จะไม่มีผู้ใดกล้าแตะต้องพวกเ้าแม้แต่ปลายเล็บ...เราจะจัดหาโอสถที่ดีที่สุดเพื่อรักษาสหายของเ้า...และยังสามารถให้ข้อมูลที่เ้า้าได้อีกด้วย"
ข้อเสนอนี้ช่างหอมหวานจนน่าเหลือเชื่อ...แต่เย่เฟิงรู้ดีว่าของฟรีไม่มีในโลก
"แล้วสิ่งที่ท่าน้า...คืออะไร?" เขาถาม
"ง่ายมาก" เม่ยเจินกล่าว "ข้า้าเพียงสองอย่าง"
"หนึ่ง...ในอนาคต หากเ้ามีสมบัติล้ำค่าใดๆ ที่้าจะขาย...เ้าจะต้องนำมาเสนอให้หอหมื่นสมบัติของเราก่อนเป็ที่แรก เราขอเพียงแค่ 'สิทธิ์ในการประเมินและยื่นข้อเสนอก่อน' เท่านั้น"
"และสอง..." นางจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของเขา "...เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมในอนาคต...ข้าจะขอให้เ้าช่วยทำอะไรบางอย่างให้หอของเราหนึ่งเื่...แน่นอนว่าต้องเป็เื่ที่อยู่ในขอบเขตความสามารถของเ้าในตอนนั้น"
เย่เฟิงนิ่งเงียบไป...นี่มันคือพันธสัญญาที่ผูกมัดอนาคต! เขาเข้าใจดีว่า "เื่หนึ่ง" ที่นางพูดถึงนั้นย่อมไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
แต่เมื่อเขามองไปยังศิษย์น้องหลินที่ยังคงาเ็...และเซี่ยหนิงฉางที่อ่อนแรง...เขาก็รู้ว่าตนเองไม่มีทางเลือกอื่น
การปฏิเสธ...หมายถึงความตายของพวกเขาทั้งสามคน
การยอมรับ...คือการเดิมพันกับอนาคตที่มองไม่เห็น...แต่อย่างน้อย...พวกเขาก็ยังมี "อนาคต" ให้เดิมพัน
"ตกลง"
เย่เฟิงตอบกลับไปเพียงคำเดียว แต่หนักแน่นราวดั่งขุนเขา
รอยยิ้มที่พึงพอใจอย่างยิ่งปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเม่ยเจินเป็ครั้งแรก "เป็การตัดสินใจที่ชาญฉลาด...คุณชายเย่"
นางลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปที่หน้าต่าง มองลงไปยังเหล่าผู้ฝึกตนจากสำนักคุ้มภัยพยัคฆ์ทมิฬที่ยังคงล้อมหอคอยอยู่เบื้องล่างด้วยสายตาที่เ็า
"ในเมื่อตอนนี้เราเป็พันธมิตรกันแล้ว...สิ่งแรกที่เราต้องทำก็คือ..."
แววตาของนางพลันปรากฏจิตสังหารอันเย็นเยียบขึ้นมาวูบหนึ่ง
"...จัดการกับ 'ขยะ' ที่อยู่หน้าประตูบ้านของเรา"
(จบตอนที่ 29)