เสียง “ โฮก ฮึ่ม...” ดังขึ้นมาในมโนสำนึก กึ่งฝัน กึ่งตื่น กึ่งหลับ กึ่งรู้สึกตัว ของชายหนุ่ม สิ่งที่ชายหนุ่มได้เห็นอยู่ต่อหน้าต่อตาก็คือเสือขนาดใหญ่หนึ่งตัว ที่กำลังเยื้องย่างเข้ามาหาในความฝันนั้น ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนร่างกายขยับได้ไม่ถนัดนักแต่เื่ที่น่าแปลกก็คือ เขากลับไม่รู้สึกหวาดกลัว ต่อเ้าป่าที่กำลังเยื้องย่างเข้ามา สิ่งที่เขากระทำเพียงมองเข้าไปสบสายตากับเ้าป่าตัวนั้นที่กำลังขยับเข้ามาหาเขาช้าๆ
น่าแปลกที่ดวงตาของเ้าป่ากลับสื่อถึงความรู้สึกบางอย่างซึ่งไม่ปรากฏถึงความดุร้าย หรือ อาการอาฆาตมาดร้ายใดๆทั้งสิ้น ดวงตาของเ้าป่ากลับรู้สึกถึงความสุขสงบและเป็มิตรอย่างบอกไม่ถูกจนเสือใหญ่ได้เข้ามาถึงตัวแล้ว มือของชายหนุ่มก็ได้แตะไปที่ใบหน้าของเสือใหญ่ตัวนั้น ในขณะที่เสือใหญ่ก็หลับตาพริ้มลงไปอย่างสงบ....ก่อนที่จะชายหนุ่ม จะพูดขึ้นมากับตัวเองช้าๆ เหมือนกับ รำพึงรำพัน ในความฝันว่า....
“ยินดีต้อนรับ กลับมานะ...“
ก่อนที่ชายหนุ่มจะลืมตาตื่นขึ้นช้าๆแล้วพบว่า ตัวเองยังคงอยู่บนที่นอนของตัวเอง ตามปกติ เขาได้แต่สลัดศีรษะเบาๆ ให้คลายความงัวเงียก่อนจะเอื้อมมือไปที่โทรศัพท์มือถือของตัวเอง แล้วก็ได้แต่บ่นกับตัวเองว่า
“เจ็ดโมงกว่า แล้วหรือเนี่ย...คงต้องตื่นแล้วแฮะ เดี๋ยวไปรวมตัวสาย “
ชายหนุ่มลุกขึ้นไปอาบน้ำและแต่งตัวเป็ชุดลำลองสบายๆ และหยิบกระเป๋าเดินทางที่ดูเหมือนจะมีการเตรียมตัวเก็บของไปต่างจังหวัดมาก่อนล่วงหน้านี้แล้ว ก่อนจะออกไปเปิดประตูที่หน้าบ้าน อย่างคล่องแคล่วก่อนเดินออกไปทางหน้าบ้าน ที่จะมีท่าน้ำติดริมแม่น้ำสายเล็กๆ ดูสวยงาม เขาได้เดินไปที่สะพานท่าน้ำ แล้วมองลงไปที่กระแสน้ำ แล้ว พูดเบาๆ เหมือนกับ รำพึงกับตัวเอง ว่า
“ ไปก่อนนะ... ฝากดูแลที่หน้าบ้านนี่ด้วยนะ ลูมิ... “
แล้วก็ดูเหมือนจะมีกระแสความเปลี่ยนแปลงที่กระแสน้ำ เป็ลักษณะระลอกคลิ่นที่หมุนวนผิดธรรมชาติขึ้นมาเบาๆ เหมือนตอบรับกับคำพูดแบบนั้น และชายหนุ่มก็ยิ้มมุมปากขึ้นมาเบาๆ เหมือนกับว่าตัวของเขาเองได้เห็นอะไรซักอย่างหนึ่ง ที่มีไม่กี่คนในโลกที่จะมองเห็นได้เหมือนกับเขา ก่อนที่เขาจะฮัมเพลงเบาๆ ดึงผ้าปิดลูกตามาปิดตาข้างซ้ายเอาไว้ แล้วเดินออกจากบ้านไปอย่างอารมณ์ดี
ชายหนุ่มเดินทางดุ่มๆออกมาซักระยะหนึ่งก็มาถึงที่บริเวณปั๊มน้ำมันสีสันสวยสดแห่งหนึ่ง ที่มีชื่อเป็ภาษาอังกฤษว่า “ ปั๊มน้ำมัน Tiger Oil Station “ ซึ่งปั๊มนี้ก็ตั้งอยู่ใกล้ๆบ้าน ของชายหนุ่มนั่นแหล่ะ พลางะโเรียกหาใครซักคนหนึ่งด้วยเสียงที่ไม่ดังนักอย่างออกจะเกรงใจนิดๆ ว่า
“เฮ้....เทียร์ วู้ ... เสร็จหรือยัง ตะวันโด่ง แล้วนะ...เดี๋ยวก็ไปไม่ทันเพื่อนหรอกกก....“
ฉับพลันชายหนุ่มก็รู้สึกเหมือนที่ส่วนหัวจะถูกของแข็งฟาดเอาดังบึ๊ก...ชายหนุ่มถึงกับ เข่าทรุดไปในบัดดล ก่อนจะค่อยๆทยอยลุกขึ้นยืนตรงได้อีกครั้งซึ่งการถูกฟาดครั้งนี้นั้น มาพร้อมกับเสียงพูดที่ใสกังวานของหญิงสาวรุปร่างสูงโปร่งคนหนึ่งว่า
“อยู่นี่ย่ะ...อีตาบื้อ มายืนรออยู่ ตรงนี้ตั้งนานแล้ว... มีตาก็ดูให้มันดีๆหน่อยดิ....“
ชายหนุ่มจึงหันมาพูดแบบมึนๆ งงๆ นิดหนึ่งพลางบ่นอุบว่า...
“เธอเอ๊ยย...มารออยู่แล้วก็ให้สุ้มให้เสียงกันหน่อยซิ ฉันจะได้ไม่ต้องชะเง้อเรียกให้เสียเวลาอีก
แล้วนี่ตบทัก ก็ตบซะแรงเลย ยัยพลังช้างเอ๊ย เจ็บใช้ได้เลยนะเนี่ย หนังหัวฉันจะหลุดไหมเนี่ย “
สีหน้าและแววตาของสาวน้อยที่น่าจะต่อยได้หนักมีแววตา ที่สลดวูบลง นิดหนึ่ง เป็ ่สั้นๆ ซึ่งชายหนุ่มก็ได้ทันสังเกตเห็นดังนั้นชายหนุ่มที่เริ่มหายจากอาการฉุนอยู่ชั่วขณะจึงเอ่ยคำพูดสั้น ๆ ว่า
“เอิ่ม...ขอโทษนะ ที่เราอาจจะพูดแรงไปหน่อย...ขอโทษที ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ“
หญิงสาว ได้แต่ยิ้มนิดๆ แล้วก็พูดว่า...
“เอาเถอะฉันเองก็ทำเกินไปหน่อย...จริงๆ ก็ตั้งใจจะแกล้งนั่นแหล่ะ...แบบนี้โดนดุซะบ้างก็สมควร “
หญิงสาวพูดตัดบท ชายหนุ่มมองดูหญิงสาวด้วยความรู้สึกเอ็นดู ร่างสูงระหงพร้อมด้วยผมที่ยาวสลวย ใบหน้ารูปไข่ และมีทรงผมที่ยาวสยายไปถึงแผ่นหลัง กับฟันที่มีรูปร่างเป็เขี้ยวเล็กๆ ที่มองเห็นได้ในยามที่หญิงสาวแย้มยิ้ม ทำให้เธอจัดได้ว่า เป็หญิงสาวที่มีความสวย แบบคมคาย คนหนึ่งเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามด้วยความที่สนิทสนมกันมานานั้แ่เป็เด็กแล้วทำให้เขาเอง ก็ยังไม่กล้าแสดงออกอะไรมากนัก อีกทั้งตัวของหญิงสาวเองก็มีความลับอยู่บางอย่างที่เขาเองก็รู้อยู่กับตัวเองและคนที่รู้จักสนิทกันจริงๆอีกไม่กี่คนอีกด้วย ทำให้ส่วนใหญ่แล้วความคำนึงถึงหญิงสาวคนนี้ จะเป็ในลักษณะของความเป็ห่วงเป็ใยคล้ายๆกับพี่ที่มีต่อน้องสาวหรือเพื่อนสนิทมากกว่า แต่เขาก็ยังไม่แน่ใจนัก มันอาจจะเป็ความรักแบบหนุ่มสาวในอีกรูปแบบหนึ่งก็เป็ไปได้ อย่างน้อยๆตอนที่หญิงสาวแสดงตนต่อหน้าคนอื่นว่าเป็เหมือนคนรัก เขาก็ไม่เคยปฏิเสธล่ะนะ
เขาเดินตามหญิงสาวที่เดินนำหน้าไปอย่างเงียบๆ ในใจกำลังคิดว่าจะคุยถึงเื่ความฝันที่เขาได้ฝันถึงเมื่อคืนดีหรือไม่....หรือจะปล่อยให้มันผ่านไปอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้นเสียดีกว่า ที่จะไปพูดให้เกิดความกังวลไปกับคนอื่นเปล่า ๆ ... บางทีความฝันของเขา มันอาจจะไม่ได้มีเื่อะไรที่เป็จริงก็ได้เพราะว่าพวกความฝันไร้สาระ เองเขาก็เคยฝัน แต่ความฝันเมื่อคืนมันช่างดูเหมือนจริง และ จริงจังมากกว่าในหลายๆครั้ง แต่เขาก็ยังคงจะลังเล ที่จะบอกอยู่ดี....
“อืมส์...เมื่อคืนนี่ ฉัน....“
ชายหนุ่มเอ่ยปาก ขึ้นเพื่อจะคุยกับหญิงสาว เกี่ยวกับความฝันเมื่อคืน
“ ฝันถึง ฉันเหรอคะ.... แอบคิดอะไรไม่ดีหรือเปล่าเนี่ย...? “
หญิงสาวหันกลับมาแลบลิ้นใส่และยักคิ้วหลิ่วตาใส่ชายหนุ่มอย่างขี้เล่น พร้อมกับเร่งฝีเท้าวิ่งไปข้างหน้า ก่อนจะหยุดกึ๊กลงอย่างทันทีทันใด ทำเอาชายหนุ่มแทบเบรคตัวไม่ทัน เกือบจะเดินชนเข้ากับหญิงสาวเสียแล้วและก็มีคำพูดเบาๆออกมาจากริมฝีปาก ของเธอว่า
“ต่ะเองฝันถึงฉันในสภาพมีสองขาแบบมนุษย์ อย่างในตอนนี้ หรือ อีตอนที่ฉันมี สี่ขา แล้วมีเขี้ยวยาวๆงอกออกมา ล่ะ...แฮ่...“
หญิงสาวหันหน้ากลับมาหาชายหนุ่มช้าๆ พร้อมกับสะแหยะยิ้ม ด้วยดวงตาที่มีสีสันที่เปลี่ยนไป คล้ายกับดวงตาของแมวแต่ทรงอำนาจกว่ามาก และมีสีสันของริ้วรอยบางอย่าง ขึ้นอยู่ที่ ใบหน้าและเขี้ยวที่ยาวขึ้น พร้อมกับฝ่ามือที่กางขึ้นมา และ...เล็บที่ดูเหมือนจะยาวและแข็งขึ้นมาทันตาเห็น...ชายหนุ่มถึงกับผงะไปเมื่อเห็นสีหน้าเช่นนั้นก่อนบรรจงใช้ฝ่ามือที่แข็งปั๋ง โบกเข้าที่หน้าผากของหญิงสาวเสียงดัง “ป๊าบบบ” เป็เชิงสั่งสอน ปนอารมณ์ในิดๆ...
“โป๊กกกกก....โอ๊ยยยยยย ... เจ็บอ่ะ ผู้ชาย อะไร รังแกผู้หญิง “
เทียร์ บ่นอุบอิบขึ้นมา...
“ก็ดันเล่นอะไรที่ไม่ควรจะเล่น เองนี่นา...“
ชายหนุ่มกล่าวด้วยความใ ปนโมโหนิดๆ
หญิงสาวซึ่งตอนนี้กลับมาอยู่ในสภาพปกติเรียบร้อยแล้วได้แต่แลบลิ้นปลิ้นตาใส่ชายหนุ่ม แบบเชิงล้อเลียนสุดขีดแล้วก็รีบวิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ก่อนจะร้องะโว่า....
“เมื่อคืนฉันก็ฝันเห็นต่ะเองเหมือนกันนะ แต่ตัวฉันก็ไม่ใช่เหมือนตัวฉันตอนนี้หรอกนะ สภาพดูไม่ได้เลยอยู่ในสภาพสี่ขาแหล่ะ...แต่อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดเนาะ ห้ามกันไม่ได้หรอก...“
ชายหนุ่มรู้สึกเป็กังวลขึ้นมาว่าการเดินทางไปออกค่ายพัฒนาชนบทในครั้งนี้ เห็นทีน่าจะมีอะไรซักอย่างเกิดขึ้นเสียแล้วเพราะว่าเวลาเขาฝันถึงอะไรแปลกๆอย่างนี้ บางทีก็มักจะเกิดเื่คล้ายๆกับในฝันขึ้นอยู่บ่อยๆ ซึ่งเขาก็ไม่แน่ใจว่านี่เป็ลางสังหรณ์พิเศษอะไรหรือไม่ ได้แต่ขยับเปิดกระเป๋าที่เตรียมมาแล้วเช็คความเรียบร้อยอีกที ในนั้นมีวัตถุสีดำ ขนาดกำลังกระทัดรัดใช่แล้วล่ะมันคือ “ ปืน” ซึ่งเมื่อเขาเปิดดูะุในรังเพลิงก็พบว่าะุยังอยู่เรียบร้อยดี มันเป็ะุเงิน ที่มีเอาไว้สำหรับปลิดชีพสมิงโดยเฉพาะในฐานะผู้ดูแลมนุษย์สมิง ซึ่งถ้ามนุษย์สมิงหลุดจากการควบคุมและขาดสติจนไม่อาจคืนร่างกายเป็คนเมื่อไหร่ก็เป็ความรับผิดชอบในฐานะของเขา ที่จะต้องทำการ “ ปลิดชีพ “ และกำจัดซากของสมิงให้เรียบร้อยซะตามหน้าที่นั่นเอง...ซึ่งเขาก็ได้ภาวนากับตัวเองเอาไว้ว่า ขออย่าให้ต้องใช้สิ่งนี้ในซักวันหนึ่งเลย
เขาหลับตานึกถึงภาพของเพื่อนในวัยเด็กคนนี้ ในวันที่เธอมีอาการป่วยด้วยโรคร้ายเกี่ยวกับเม็ดเืในร่างกายจนตัวซูบผอม ใช่...มันคือโรคที่ร้ายแรงจนการรักษาทางวิทยาศาสตร์นั้นแทบจะไม่ได้ผลแล้วได้แต่ประคองร่างกายผอมโซให้อยู่รอดไปได้วันๆ และคงไม่นานที่เธอคงจะต้องจากโลกนี้ไป ซึ่งเขาก็ทำได้แค่ไปเยี่ยมและให้กำลังใจเธอตามประสาเพื่อนบ้านที่สนิทสนมกันมานานเท่านั้น จนกระทั่งในวันหนึ่งที่มีพระภิกษุรูปหนึ่งที่มีความชำนาญทั้งทางด้านพุทธคุณ และทางด้านไสยศาสตร์ ได้มาหาหญิงสาวแล้วก็ญาติๆ ซึ่งอันที่จริงแล้ว พระภิกษุรูปนี้ก็คือ คุณพ่อของสาว “ เทียร์ “ เองนั่นแหล่ะ แต่มีเหตุบางประการที่ทำให้ไม่ได้อยู่อาศัยร่วมกันกับหญิงสาวและแม่ของเธอที่ได้เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้นานแล้ว ซึ่งเมื่อพระภิกษุที่เป็คุณพ่อของเธอทราบถึงอาการป่วยอันหนักหนาของหญิงสาว จึงได้ตัดสินใจ ใช้เวทย์ทางไสยศาสตร์ ผนึกจิติญญาของเสือตัวหนึ่งเข้าไปไว้ที่ในตัวเธอเพื่อให้พลังทางไสยเวทย์ช่วยพยุงชีวิตของเธอเอาไว้ โดยแลกกับการเป็กึ่งมนุษย์ - กึ่งอสูรไปชั่วชีวิต และด้วยความที่ พระท่านได้ดูดวงชะตาของ “ พาฝัน “ แล้ว พบว่าเป็ผู้ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการ เป็ “ ผู้ดูแลสมิง “ ซึ่งด้วยความรักที่มีต่อเพื่อนสาวคนนี้เป็อย่างมากและก็ยังเป็เด็กอยู่ ก็ทำให้เขาไม่ได้คิดมากอะไร กับการยอมรับปากกับพระภิกษุรูปนั้นว่าจะทำในสิ่งนี้ให้และก็จะขอดูแลหญิงสาวตลอดไป
เหมือนเป็คำสัจสาบานของลูกผู้ชายเลยก็ว่าได้ เพราะว่าตอนนี้แม่ของหญิงสาวก็ได้ตายจากไปแล้ว และตอนนี้ที่มีคนดูแลอยู่ ก็เป็แค่ลุงกับป้าซึ่งเด็กสาวเองก็มีเพื่อนข้างบ้านก็แค่ตัวของเขา กับเพื่อนๆแถวนั้นอีกไม่กี่คนเท่านั้นเอง
“อาตมาต้องขอโทษโยมหลานชายที่ต้องมาแบกรับภาระ ที่หนักอึ้งเช่นนี้ด้วยนะ แต่อาตมาพินิจพิเคราะห์หลายสิ่งหลายอย่างแล้วคนที่เหมาะสมที่สุดก็มีแต่โยมหลานชายคนเดียวเท่านั้น ทั้งๆที่จริงๆแล้วโยมหลานชายเอง ก็มีชะตากรรมผูกพันกับิญญาในด้านอื่น ที่เยอะอยู่แล้ว “
“หลวงพ่อทำพิธีเถอะครับ ผมยินดีช่วยเขาทุกอย่าง เขาก็คือเพื่อนที่ดีที่สุดคนหนึ่งของผมเหมือนกัน “
“ผมเคยเห็นเพื่อนของผมคนหนึ่งต้องจากไปแบบที่ผมไม่สามารถช่วยอะไรได้ มาครั้งหนึ่งแล้ว คนๆนั้นเขายังไม่โชคดีขนาดนี้ ถ้าหลวงพ่อสามารถช่วยเหลืออะไร “ เทียร์ “ เขาได้ ก็ทำได้เลยครับ ผมยอมช่วยทุกวิธี !!!“
พระภิกษุผู้ที่จริงๆแล้ว คือ พ่อของ “เทียร์“ จึง ยิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยน และ หลังจากนั้น พิธีกรรมแห่งศาสตร์มืดที่นำพาพลังแห่งสัตว์ร้ายเข้าสิงร่างของหญิงสาวคราวนี้ จึงเริ่มขึ้นั้แ่ขั้นตอนการสักยันต์เล็กๆลงบนแผ่นหลังของหญิงสาวและใช้เวทย์ทางไสยศาสตร์ อัญเชิญิญญาของเสือตัวหนึ่งมาสิงสถิตอยู่ในตัวหญิงสาวเอาไว้ ซึ่งเสือตัวนี้เป็เสือกำพร้าที่พระภิกษุและคนที่วัดที่พระภิกษุได้พำนักอยู่ ได้เคยเลี้ยงเอาไว้แล้วมันได้ตายลงไปในตอนนั้นพอดี ประจวบเหมาะกับการที่หลวงพ่อทราบเื่ของ “เทียร์“ ในเวลานั้น จึงได้เก็บจิตของเ้าเสือกำพร้าเอาไว้ ซึ่งปกติแล้วเื่ทางนี้เป็เื่ทางไสยศาสตร์ที่ไม่ใช่ด้านสว่างเลยแท้ๆ แต่กลับเป็ทางเดียว ที่จะทำให้เพื่อนสาวที่น่าสงสารของเขายังรอดอยู่ได้ก็เกิดขึ้น และเป็ความลับที่ถูกปกปิดเอาไว้ จากสังคมภายนอก ระหว่างคนสองคน เพื่อช่วยเหลือคนหนึ่งคนให้ยังคงรอดชีวิตได้มาจนถึงในปัจจุบันนี้....
“แล้วนี่ตอนออกมาได้บอกยัยพรายน้ำขี้อ้อนที่ท่าน้ำหน้าบ้านหรือยังล่ะ...ว่าจะไปเที่ยวต่างจังหวัดกันน่ะ...เดี๋ยวไม่บอกละจะพาลง้องอนต้องตามไปง้ออีกนะ“
ชายหนุ่มจึงตื่นจากภวังค์ ในความคำนึงถึงเื่ในอดีต แล้วก็ตอบสาวเ้าไปว่า ....
“อืมส์...ก็บอกไปแล้วล่ะ ...คงไม่มีปัญหาอะไรหรอกมั้ง“
หญิงสาว จึงยิ้มและคุยมาอย่างหน้าทะเล้นว่า
“ก็ดี...เดี๋ยวก็ทำบุญไปฝากเขาเยอะๆก็แล้วกัน จะได้อิ่มบุญเยอะๆ“
ชายหนุ่มได้แต่เกาหัวแกรกๆ นี่ขนาดแต่ละคนที่อีกคนก็กลายเป็ิญญาไปแล้ว อีกคน ก็กึ่งมนุษย์ กึ่งอสูร ก็ยังจะแอบมีแซว มีแขวะกันนิดๆหน่อยๆ เหมือนครั้นยังเป็คนอยู่ด้วยกันตอนเด็กๆ ก็ไม่ปาน ซึ่งคนที่คอยห้ามทัพ ก็ไม่ใช่ใครอื่น ก็เป็เขานี่แหล่ะ น่าถอนหายใจ อีตรงชะตากรรมของเพื่อนสาวคนสนิทแต่ละคนนี่ ถึงอีตอนนี้นี่ก็ไม่ปกติซักคน มันจะยังไงกันต่อไปดีนะ...นี่ถ้ารวมกับอีกหนึ่งสาวที่น่าจะได้เจอกันในเร็วๆนี้นะยิ่งป่วนกันแบบคูณสามเลยล่ะ
“แล้วนี่จะใส่ผ้าปิดตาเอาไว้ ตอนไปเที่ยวจริงๆหรือ ?“
หญิงสาวถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ทำเอาชายหนุ่ม ยกมือขึ้นลูบไปที่ใบหน้า ของตัวเอง แล้วัักับผ้าปิดตาอันเล็กที่คาดปิดด้วยตาข้างซ้ายเอาไว้เฉยๆ ก่อนที่ชายหนุ่มจะใช้ความคิดอย่างหนักในการครุ่นคิด ว่าควรจะใส่หรือไม่ใส่ผ้าปิดตาดี
“บางทีมันก็ไม่อยากจะเห็นพวกิญญาตามที่ต่างๆอ่ะนะ ยิ่งถ้าเป็แถวในละแวกบ้าน ที่ตัวเองอยู่ นี่ยิ่งไม่ชอบเท่าไหร่จริงๆ ความรู้สึกประเภทตื่นมาแล้วเห็น มีิญญามาล่องลอยตามหน้าต่าง หรือบริเวณบ้านแบบนั้นมันเป็อะไรที่ ไม่ค่อยจะดีเอาซะเลย“
แต่แล้วหญิงสาวก็พูดขึ้นมาว่า
“ตามปกติแล้วถ้าต่ะเองอยู่ข้างนอก แล้วไปเที่ยวกับเพื่อนๆแบบที่เรากำลังจะไปนี้ ต่ะเองก็ไม่ได้ใส่นี่ฉันว่าเธออย่าใส่เลยมันแปลกๆ ถ้าเดินอยู่แถวบ้านหรืออยู่ที่บ้านจะใส่ก็คงไม่เป็ไร ฉันว่าเพื่อนๆ เราคงไม่คุ้นเท่าไหร่หรอก ที่สำคัญพอถ่ายรูปออกมาจะดูเหมือนโจรสลัดมากกว่า นักท่องเที่ยว หรือ คนทำกิจกรรมเพื่อสังคมน๊า ถอดออกเถอะ เค้าเองก็มีความสามารถในการเห็นพวกิญญาเหมือนกัน ั้แ่ได้พลังของสมิงมาก็พยายามทำใจจนชินแล้ว เห็นก็เห็นไป จริงๆพวกนั้นเขาก็ไม่ได้มาทำอะไรเราเสียหน่อยอย่างมากก็มาขอส่วนบุญเท่านั้นเอง เป็ฉันก็คงทำใจไม่คิดปิดตาของตัวเองหรอก...“
พอพูดมาถึงท่อนนี้แล้ว ชายหนุ่มก็เงยหน้าขึ้นฟ้า แล้วก็หัวเราะดังก๊าก
“โอ๊ย...นี่ต่ะเอง...ไม่ได้เห็นิญญาอยู่ที่ตาข้างเดียวแบบของเขานี่ๆมองเห็นเต็มๆสองตาเลยแล้วจะใส่ผ้าปิดตาสองข้างเดินได้ยังไงล่ะ จะใช้ไม้เท้าคลำทาง ป๊อกๆแป๊กๆ ไปหรือยังไง ขืนทำแบบนั้น เวลาเธอปวดเบา เค้ามิต้องมาจูงตัวเองไปห้องน้ำ ทำธุระส่วนตัว หรือ ต้อง มาคอยเปลี่ยนผ้าอนามัยให้อีตอนที่วันนั้นของเดือนมาเหรอ...แอ๊กกกกกกกกกก...!!!!“
ก็เพราะว่าปากเป็แบบนี้แหล่ะ ชายหนุ่มรู้สึกตัวอีกทีก็กองกับพื้นไปละล่ะครับท่านผู้ชม...ด้วยท่อนขาของหญิงสาวที่เหน็บเข้าที่ชายโครง อย่างกับโดนนักมวยไทยเตะ ดังพลั่ก !!! แถมเบิ๊ดเข้าที่กระโหลกแบบไม่ใช่ มะม่วง ก็ร่วงได้... ด้วยพลังฝ่ามือที่ขยายไปใหญ่กว่าชามข้าว แถมมีเล็บงอกออกมาเต็มที่ ของมนุษย์ที่มีพลังของสมิงสถิตอยู่ ชายหนุ่มจึงร่วงไปกอง กับพื้นแบบกรรมการไม่ต้องนับเลยทีเดียวบอกได้เลย งานนี้เืหัวนี่ออกซิบๆ กระดูกซี่โครงแทบหัก
“อ๋อยยย...แค่แซวขำๆนิดเดียวเองอัดเราซะเต็มที่เลย... ผู้หญิงอะไรเนี่ย โหดชะมัดเลย...อูยส์...”
ชายหนุ่มได้แต่คิดในใจนี่ขนาดยังไม่ได้เป็แต่งงานกัน น้องยังโหดขนาดนี้ ถ้าแต่งงานกันแล้วกลับมาบ้านผิดเวลานี่ตรูจะมิพ้นกลายเป็เหยื่อสมิงสาว โดนขบหัวไปแทะเล่นเป็ของขบเคี้ยวเล่นๆ แก้ฟันเหลืองกันเลยเหรอ ก็เธอโหดซะขนาดนี้นี่นาแต่ยังไงก็นะ จิตใจก็รักและผูกพันกันอยู่ดี อนาคตจะเป็อย่างไร ก็ขอให้มันเป็ไปตามแต่ชะตากรรมจะนำพาไปเถอะ...
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้