เสือกลายพันธุ์กระโจนเข้าใส่หลินเว่ยด้วยความเร็วที่น่าใ กรงเล็บแหลมคมพุ่งตรงมายังลำคอของเขา หลินเว่ยใช้ ท่าัทะยานน้ำ หลบหลีกอย่างเฉียดฉิว ร่างกายเคลื่อนไหวราวกับไร้น้ำหนัก
"เฮือก!" เขาหอบหายใจ รู้สึกถึงลมจากกรงเล็บที่พลาดไปเพียงไม่กี่นิ้ว
เสือกลายพันธุ์ลงสู่พื้นอย่างนุ่มนวล หันกลับมาคำรามใส่หลินเว่ยอย่างดุร้าย ดวงตาสีเขียวอมเหลืองจ้องมองอย่างหิวกระหาย
หลินเว่ยเตรียมพลังชิวเสวียนใน ท่าัพ่นไฟ กำลังจะปล่อยพลังออกไป แต่จู่ๆ ก็ชะงัก เมื่อสังเกตเห็นบางสิ่งบนตัวเสือ
"รอยแผลเป็..." เขาพึมพำ เมื่อเห็นรอยแผลเป็ยาวพาดผ่านข้างลำตัวของเสือ "และสร้อยคอ?"
รอบคอของเสือกลายพันธุ์มีสร้อยที่ทำจากเชือกถักและลูกปัดไม้คล้องอยู่ นี่ไม่ใช่เสือป่าทั่วไป แต่เป็เสือที่เคยถูกเลี้ยงหรือฝึกฝนมาก่อน
เสือกำลังจะกระโจนใส่อีกครั้ง แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงผิวปากแหลมดังมาจากป่าลึก
"ฟี้ว! ฟี้ว! ฟี้ว!"
เสือชะงักทันที หูตั้งชันไปยังทิศทางของเสียง ก่อนจะหันไปมองต้นเสียงนั้น
"ิเฟย! มานี่!" เสียงเรียกดังขึ้น
เสือกลายพันธุ์หันกลับมามองหลินเว่ยอีกครั้งด้วยสายตาดุร้าย ก่อนจะค่อยๆ ถอยกลับเข้าป่าไปในทิศทางที่เสียงดังมา
หลินเว่ยยืนนิ่ง หายใจหอบ มองตามเสือที่เดินจากไป ก่อนจะได้ยินเสียงฝีเท้าและกิ่งไม้ดังกรอบแกรบ มีคนกำลังเข้ามาใกล้
เขาเตรียมพลังชิวเสวียนไว้ ไม่รู้ว่าผู้มาใหม่คือมิตรหรือศัตรู
จากเงามืดของป่า ร่างของชายชราปรากฏตัวขึ้น เขาสวมชุดสีน้ำตาลเข้มเรียบง่าย ถือไม้เท้าไผ่ยาว ผมและเคราสีขาวยาวถึงอก ดวงตาคมกริบจ้องมองหลินเว่ยอย่างพิจารณา ข้างกายมีเสือกลายพันธุ์ยืนอยู่อย่างเชื่องๆ
"น่าสนใจ..." ชายชราเอ่ยเสียงแหบแห้ง "มีไม่กี่คนที่จะรอดชีวิตจากการเผชิญหน้ากับิเฟย"
หลินเว่ยยังคงระแวดระวัง ไม่ลดการป้องกันลง "ท่านเป็ใคร?"
"คนที่เพิ่งช่วยชีวิตเ้าไว้" ชายชราตอบ ลูบหัวเสือกลายพันธุ์เบาๆ "ยินดีที่ได้พบ หลินเว่ย"
ดวงตาของหลินเว่ยเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ "ท่านรู้จักผม?"
ชายชรายิ้มบางๆ "ข่าวเกี่ยวกับเด็กหนุ่มที่ใช้พลังชิวเสวียนได้โดยไม่กลายพันธุ์แพร่สะพัดไปทั่วหุบเขานี้แล้ว" เขาเอียงศีรษะเล็กน้อย "และข่าวเื่การบุกวัดเมฆาอรุณก็ด้วย"
หลินเว่ยยังคงระมัดระวัง "ท่านเป็พวกองค์กรเทียนซื่อหรือ?"
ชายชราหัวเราะเบาๆ "ไม่ใช่" เขาตอบ "ข้าคือ อาจารย์เหลียงเจิน หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า 'ปรมาจารย์แห่งูเาหลิงซาน' ข้าอาศัยอยู่บนูเาแห่งนี้มาหลายสิบปี"
"แล้วท่านรู้เื่องค์กรเทียนซื่อได้อย่างไร?" หลินเว่ยถาม
"ข้ารู้มากกว่าที่เ้าคิด เด็กหนุ่ม" อาจารย์เหลียงเจินตอบ "แต่นี่ไม่ใช่สถานที่ปลอดภัยที่จะพูดคุย" เขาชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า ที่เฮลิคอปเตอร์ขององค์กรเทียนซื่อยังคงบินวนอยู่ห่างๆ
"ตามข้ามา" เขาพูดพลางหันหลังเดินนำเข้าไปในป่าทึบ เสือกลายพันธุ์เดินตามไปอย่างเชื่องๆ
หลินเว่ยลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ไม่แน่ใจว่าควรไว้ใจชายชราคนนี้หรือไม่ แต่เสียงของเฮลิคอปเตอร์ที่ดังใกล้เข้ามาทำให้เขาตัดสินใจติดตามอาจารย์เหลียงเจินไป
พวกเขาเดินลัดเลาะผ่านป่าทึบ อาจารย์เหลียงเจินดูคุ้นเคยกับเส้นทางเป็อย่างดี เขานำทางด้วยก้าวย่างที่คล่องแคล่วแม้จะมีอายุมาก เสือกลายพันธุ์ชื่อิเฟยเดินอยู่ข้างๆ คอยสำรวจอันตรายรอบทิศ
"เพื่อนๆ ของผม..." หลินเว่ยเอ่ยขึ้นระหว่างเดินทาง "พวกเขาหายไประหว่างลอยไปตามกระแสน้ำในถ้ำ"
"อีกกลุ่มที่หลุดออกจากถ้ำทางทิศใต้ใช่ไหม?" อาจารย์เหลียงเจินถาม
"ท่านรู้?" หลินเว่ยถามอย่างตื่นเต้น "พวกเขาปลอดภัยไหม?"
"ข้ายังไม่ได้พบพวกเขาโดยตรง" อาจารย์เหลียงเจินตอบ "แต่มีข่าวจากสัตว์ป่าว่ามีกลุ่มคนหลุดออกมาจากถ้ำน้ำทางใต้ของูเาเมื่อไม่นานมานี้"
"สัตว์ป่า?" หลินเว่ยงุนงง
อาจารย์เหลียงเจินยิ้มบางๆ "เมื่อเ้าอยู่กับธรรมชาตินานพอ เ้าจะเรียนรู้วิธีสื่อสารกับสิ่งมีชีวิตรอบตัว" เขาลูบหัวเสือิเฟยเบาๆ "โดยเฉพาะหลังการระบาดของพลังชิวเสวียน สัตว์หลายชนิดพัฒนาความฉลาดขึ้นมาก"
หลินเว่ยพยักหน้า ก่อนจะสังเกตเห็นบ้านไม้เล็กๆ ซ่อนอยู่กลางป่าเบื้องหน้า
"นั่นคือบ้านของท่าน?" เขาถาม
"ใช่" อาจารย์เหลียงเจินตอบ พาหลินเว่ยเข้าไปในบ้านไม้ที่เรียบง่ายแต่แข็งแรง
ภายในบ้านมีเฟอร์นิเจอร์ไม้ เรียบง่าย มีชั้นวางหนังสือเต็มไปด้วยคัมภีร์โบราณ และสมุนไพรแห้งแขวนอยู่ตามเพดาน กลิ่นอายของสมุนไพรอบอวลไปทั่วบ้าน
"นั่งลงเถอะ" อาจารย์เหลียงเจินชี้ไปที่เก้าอี้ไม้ "เ้าดูเหนื่อยมาก และาเ็ด้วย"
หลินเว่ยนั่งลง รู้สึกเจ็บระบมไปทั้งร่างจากการตกจากหน้าผาและการต่อสู้ที่ผ่านมา
อาจารย์เหลียงเจินจุดเตาไฟเล็กๆ ต้มน้ำ และหยิบสมุนไพรแห้งหลายชนิดมาบดในโกร่งหิน "เล่าให้ข้าฟังสิว่าเกิดอะไรขึ้นที่วัดเมฆาอรุณ"
หลินเว่ยลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ไม่แน่ใจว่าควรเปิดเผยเื่คัมภีร์ครอบงำจิตให้คนแปลกหน้ารู้หรือไม่ แต่สัญชาตญาณบอกเขาว่าอาจารย์เหลียงเจินไม่ใช่คนเลว
"พวกเราหนีออกจากวัดเมฆาอรุณหลังจากที่องค์กรเทียนซื่อบุกเข้ามา" หลินเว่ยเริ่มเล่า "พวกเขาฆ่าภิกษุเกือบทั้งหมด แต่ประมุขเจิ้งลี่หัวพาพวกเราหนีออกมาได้ทางอุโมงค์ลับ"
อาจารย์เหลียงเจินพยักหน้า ขณะคนยาสมุนไพรในชาม "ประมุขเจิ้งลี่หัวเป็คนดี เป็เพื่อนเก่าของข้า...แต่ท่านน่าจะเล่าอีกมากที่ไม่ได้บอกข้า"
หลินเว่ยสังเกตสายตาของอาจารย์เหลียงเจินที่จับจ้องมาที่กระเป๋าที่เขาใส่คัมภีร์ไว้ เขาจึงตัดสินใจเล่าความจริง
"องค์กรเทียนซื่อบุกเข้าวัดเพราะ้าคัมภีร์ครอบงำจิต ซึ่งประมุขเจิ้งลี่หัวเป็ผู้เก็บรักษาไว้"
"คัมภีร์ครอบงำจิต..." อาจารย์เหลียงเจินพึมพำ ดวงตาฉายแววประหลาดใจ "มันยังมีอยู่จริงๆ หรือ"
"ท่านรู้จักคัมภีร์นี้?" หลินเว่ยถามอย่างใ
"มันเป็ตำนานในหมู่ผู้ฝึกพลังชิวเสวียนโบราณ..." อาจารย์เหลียงเจินตอบ ขณะนำยาสมุนไพรที่บดเสร็จแล้วผสมกับน้ำร้อน "คัมภีร์ที่สามารถควบคุมจิตใจและพลังของผู้อื่นได้ ข้าไม่คิดว่ามันจะมีอยู่จริง"
"มันอยู่กับผม" หลินเว่ยยอมรับ หยิบห่อผ้าออกจากกระเป๋าเสื้อ "ประมุขเจิ้งลี่หัวมอบให้ผมดูแล"
อาจารย์เหลียงเจินมองห่อผ้าด้วยสายตาที่ผสมระหว่างความอยากรู้และหวาดระแวง "ข้าเข้าใจแล้วว่าทำไมองค์กรเทียนซื่อถึงไล่ล่าพวกเ้า" เขาส่งชามยาสมุนไพรให้หลินเว่ย "ดื่มนี่ซะ จะช่วยรักษาาแและฟื้นฟูพลังชิวเสวียน"
หลินเว่ยรับชามมา ดมกลิ่นหอมแปลกๆ ก่อนจะตัดสินใจดื่ม รสชาติขมปร่าแต่มีความหวานตามมาทีหลัง ทันทีที่ดื่มเข้าไป เขารู้สึกถึงความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วร่าง แผลถลอกและรอยฟกช้ำเริ่มจางหายไปอย่างน่าอัศจรรย์
"นี่มัน..." หลินเว่ยอุทานด้วยความประหลาดใจ
"ตำรับโบราณที่ข้าพัฒนาขึ้นเอง" อาจารย์เหลียงเจินยิ้มบางๆ "เหมาะสำหรับผู้ฝึกพลังชิวเสวียนโดยเฉพาะ"
"ท่านใช้พลังชิวเสวียนได้ด้วยหรือ?" หลินเว่ยถาม
"แน่นอน" อาจารย์เหลียงเจินตอบ วางชามลง "ข้าฝึกฝนมันมานานก่อนที่การระบาดจะเกิดขึ้นเสียอีก" เขาแบมือออก แล้วมีแสงสีเขียวอ่อนเรืองขึ้นบนฝ่ามือ "ข้าเป็หนึ่งในอาจารย์รุ่นสุดท้ายที่สอนศาสตร์นี้ก่อนที่มันจะถูกลืมเลือน"
หลินเว่ยมองด้วยความทึ่ง "แล้วทำไมคนจึงไม่รู้จักพลังนี้กันมากนัก? ทำไมมันถึงหายไป?"
อาจารย์เหลียงเจินถอนหายใจ "โลกสมัยใหม่หันไปพึ่งวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พลังโบราณถูกมองว่าเป็เื่งมงาย ไร้สาระ จนกระทั่ง..." เขาหยุดชั่วครู่ "จนกระทั่งการทดลองของเทียนซื่อทำให้มันกลับมาอีกครั้ง แต่ในรูปแบบที่บิดเบี้ยวและอันตราย"
"ท่านรู้เื่องค์กรเทียนซื่อดีแค่ไหน?" หลินเว่ยถาม
"มากพอที่จะรู้ว่าพวกเขาอันตรายเพียงใด" อาจารย์เหลียงเจินตอบ "องค์กรเทียนซื่อเริ่มต้นเป็กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ที่หมกมุ่นกับการศึกษาพลังชีวิตโบราณ พวกเขาพยายามผสมผสานความรู้ทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่กับพลังโบราณ แต่ความโลภและความทะเยอทะยานทำให้พวกเขาไปไกลเกินไป"
"เมื่อพวกเขาเริ่มทดลองกับมนุษย์ ข้าก็ตัดขาดจากพวกเขา และหนีมาอยู่บนูเานี้" เขาลูบขนเสือิเฟยที่นอนอยู่ข้างๆ "ข้าไม่คิดว่าพวกเขาจะสามารถสร้างหายนะได้ขนาดนี้"
หลินเว่ยนั่งนิ่ง พยายามทำความเข้าใจข้อมูลใหม่ทั้งหมด "ท่านเคยเป็ส่วนหนึ่งขององค์กรเทียนซื่อหรือ?"
อาจารย์เหลียงเจินพยักหน้าช้าๆ "ใน่เริ่มต้น ข้าเป็อาจารย์ที่สอนพลังชิวเสวียนให้พวกเขา แต่เมื่อการทดลองเริ่มบิดเบี้ยว ข้าก็ออกมา" เขาหรี่ตามองหลินเว่ย "เ้ามีความพิเศษ หลินเว่ย ข้าััได้ถึงพลังชิวเสวียนที่บริสุทธิ์ในตัวเ้า ไม่มีร่องรอยของการกลายพันธุ์เลย"
"ผมไม่เข้าใจว่าทำไมผมถึงไม่กลายพันธุ์เหมือนคนอื่น" หลินเว่ยยอมรับ "ทั้งๆ ที่ผมัักับพลังชิวเสวียนโดยตรง"
"อาจเป็เพราะชาติกำเนิดของเ้า" อาจารย์เหลียงเจินเอ่ย "หรืออาจเป็เพราะพร์พิเศษ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด เ้ามีความสามารถที่จะเรียนรู้และควบคุมพลังนี้ได้อย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่ใช้มันอย่างไร้การควบคุมเหมือนผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่"
หลินเว่ยนึกถึงท่าัทะยานฟ้าที่หลิวซินสอนให้เขา "ผมกำลังเรียนรู้วิชาัทะยานฟ้า แต่ยังได้แค่ไม่กี่ท่า"
ดวงตาของอาจารย์เหลียงเจินเป็ประกายวาบ "ัทะยานฟ้า? ใครสอนเ้า?"
"หลิวซิน เพื่อนของผม" หลินเว่ยตอบ "เขาบอกว่าเป็วิชาโบราณของตระกูลเขา"
"น่าสนใจ..." อาจารย์เหลียงเจินพึมพำ "วิชาัทะยานฟ้าเป็หนึ่งในตำรายุทธ์โบราณที่หายสาบสูญไปนานแล้ว ข้าไม่คิดว่าจะมีใครสืบทอดมันต่อ"
"ท่านรู้จักวิชานี้ด้วยหรือ?" หลินเว่ยถามอย่างตื่นเต้น
"ข้าเคยเห็นตำราเก่าบางส่วน แต่ไม่เคยฝึกฝนมันโดยตรง" อาจารย์เหลียงเจินตอบ "เ้าเรียนรู้ท่าอะไรไปแล้วบ้าง?"
"ัหลับใหล ัตื่นกาย ัสยายปีก ัทะยานน้ำ และัพ่นไฟ" หลินเว่ยตอบ
อาจารย์เหลียงเจินพยักหน้าด้วยความพอใจ "ห้าท่าแรก พัฒนาการที่ดี..." เขาลุกขึ้นยืน "ถ้าเ้าสนใจ ข้าอาจช่วยเ้าพัฒนาท่าที่เ้ารู้แล้วให้แข็งแกร่งขึ้นได้"
"จริงหรือครับ?" หลินเว่ยตาเป็ประกาย
"แน่นอน แต่ก่อนอื่น เ้าต้องพักผ่อน" อาจารย์เหลียงเจินชี้ไปที่เตียงไม้มุมห้อง "พรุ่งนี้เราจะเริ่มฝึกฝน และข้าจะช่วยเ้าตามหาเพื่อนๆ ด้วย"
หลินเว่ยรู้สึกเหนื่อยล้าจากการผจญภัยทั้งวัน เขาจึงเดินไปที่เตียงไม้และเอนกายลง ล้มตัวหลับไปอย่างรวดเร็ว
ระหว่างที่หลินเว่ยหลับ อาจารย์เหลียงเจินนั่งสมาธิอยู่หน้าบ้าน ท่ามกลางแสงจันทร์ เขาส่งกระแสจิตออกไปสื่อสารกับสัตว์ป่าในละแวกนั้น เพื่อตามหาร่องรอยของเพื่อนหลินเว่ย
เช้าวันรุ่งขึ้น หลินเว่ยตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกสดชื่น าแตามร่างกายหายไปเกือบหมดแล้ว เขาเดินออกไปหน้าบ้านและพบอาจารย์เหลียงเจินกำลังทำท่าร่ายรำแปลกๆ เคลื่อนไหวราวกับสายน้ำ รอบกายมีแสงสีเขียวอ่อนเรืองรองเป็ประกายวาบ
เมื่ออาจารย์เหลียงเจินจบการรำ เขาหันมาพบหลินเว่ยกำลังมองอยู่ "ตื่นแล้วหรือ" เขาทักทาย "กินอาหารเช้าก่อน แล้วเราจะเริ่มฝึก"
หลังอาหารเช้าที่เรียบง่าย อาจารย์เหลียงเจินพาหลินเว่ยไปยังลานโล่งหลังบ้าน มีก้อนหินขนาดต่างๆ วางอยู่เป็วงกลม
"ข้ามีข่าวเกี่ยวกับเพื่อนของเ้า" อาจารย์เหลียงเจินบอก "พวกเขาปลอดภัยดี อยู่ในหมู่บ้านทางใต้ของูเา"
"จริงหรือครับ?" หลินเว่ยถามอย่างดีใจ "เราต้องรีบไปหาพวกเขา!"
"ใจเย็น" อาจารย์เหลียงเจินยกมือห้าม "ทหารเทียนซื่อยังวนเวียนอยู่รอบๆ ูเา พวกเขาตั้งด่านตรวจทุกเส้นทางที่ไปสู่หมู่บ้าน เราต้องรอให้สถานการณ์สงบลงก่อน"
"แล้วถ้าพวกเขาจับเพื่อนผมได้ล่ะ?" หลินเว่ยถามอย่างกังวล
"หมู่บ้านนั้นเป็พันธมิตรของข้า พวกเขารู้วิธีซ่อนผู้คนจากองค์กรเทียนซื่อ" อาจารย์เหลียงเจินให้ความมั่นใจ "ระหว่างนี้ เ้าควรฝึกฝนพลังของเ้าให้แข็งแกร่งขึ้น เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางต่อไป"
หลินเว่ยพยักหน้า แม้จะยังกังวล แต่เขาตระหนักว่าการฝึกฝนให้แข็งแกร่งขึ้นคือสิ่งที่จำเป็ในตอนนี้
"ทำได้ไหม?" อาจารย์เหลียงเจินถาม "ในสามวัน ข้าจะช่วยให้เ้าพัฒนาวิชาัทะยานฟ้าให้แข็งแกร่งขึ้น"
"ได้ครับ" หลินเว่ยตอบอย่างมุ่งมั่น "ผมพร้อมฝึกแล้ว"
อาจารย์เหลียงเจินยิ้มพอใจ "ดี เริ่มกันเลย..."
ตลอดทั้งวัน หลินเว่ยฝึกฝนอย่างหนักภายใต้การดูแลของอาจารย์เหลียงเจิน แม้จะเหนื่อยล้า แต่เขารู้สึกว่าพลังชิวเสวียนในร่างกายเริ่มไหลเวียนได้ดีขึ้น และควบคุมได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะท่าัตื่นกายที่ช่วยให้ประสาทััของเขาไวขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์
เมื่อวันแรกของการฝึกสิ้นสุดลง หลินเว่ยนั่งพักอยู่ริมลานหลังบ้าน มองดวงอาทิตย์ที่กำลังลับขอบฟ้า และภาวนาให้เพื่อนๆ ของเขาปลอดภัย