“บอกมา ที่แท้เ้ารู้อะไรบ้าง?” กลิ่นอายชั่วร้ายทั่วร่างซูเฟยซื่อยิ่งพลุ่งพล่าน ท่าทีราวกับจะถล่มคุกลับลงมาเสียให้ได้
หมอตื่นตระหนกจนมิวายถอยหลังกรู แววตาหลบเลี่ยง ไม่กล้าสบตาของนางตรงๆ “ข้าน้อยเป็หมอเล็กๆ คนหนึ่งจะรู้อะไรได้ ข้าไม่รู้อะไรเลย ไม่รู้อะไรทั้งนั้น”
“ไม่รู้หรือ?” ซูเฟยซื่อเลิกคิ้ว เอื้อมมือไปกดแผลเน่าเฟะเป็หนองไหลที่หน้าอกของหมออย่างโเี้
ความเ็ปรุนแรงกระตุ้นเส้นประสาทของหมออย่างไม่ทันตั้งตัว สีหน้าเดิมที่ย่ำแย่เต็มทน กลายเป็ยิ่งบิดเบี้ยว ปากร้องโหยหวนไม่หยุด “คุณหนูสามโปรดไว้ชีวิต ข้าน้อยไม่รู้อะไรจริงๆ ขอรับ”
"ถ้าเ้าไม่รู้อะไร ไยจึงได้จู่ๆ ล่าถอยไปซ่อนตัวทันทีหลังจากที่ตระกูลกู้ถูกสังหารทั้งตระกูล แล้วยังรับห้าร้อยตำลึงนี้ไว้อย่างสงบสมเหตุสมผล เ้าคิดว่าข้าเป็คนโง่หรือ?” ดวงตาทั้งสองของซูเฟยซื่อแดงเรื่อดุจสัตว์ป่าที่กำลังบ้าคลั่ง “บอกมา ที่แท้เ้ามีความสัมพันธ์ใดกับเื่ที่ตระกูลกู้ถูกล้างสังหาร?”
“เ้า… เ้าเป็ใครกันแน่?” หมอส่ายหน้าด้วยความประหวั่นพรั่นพรึง
ตอนนี้ซูเฟยซื่อดูราวกับปีศาจที่คืบคลานจากขุมนรก แต่นางเป็คุณหนูสามของจวนอัครมหาเสนาบดี ที่ไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ กับตระกูลกู้สักนิด ทำไมจึง...
“เ้ารู้สึกว่าข้าคล้ายผู้ใดหรือไม่?” จู่ๆ ซูเฟยซื่อหยักริมฝีปากขึ้นน้อยๆ ราวกับว่าเมื่อครู่ทุกอย่างล้วนเป็ภาพลวงตา
ทันใดนั้น อยู่ๆ นอกประตูเสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นพักหนึ่ง ราวกับมีใครบางคนถูกฝืนลากเข้ามา ซูเฟยซื่อเบิกตากว้างตื่นตัวเตรียมพร้อม
ใครกัน? นอกจากนางแล้ว ที่นี่ยังมีใครอีก?
ประตูถูกผลักเปิดออก ฝูงชนขบวนหนึ่งเดินเข้ามา
ซูเฟยซื่อจำได้ว่าขันทีที่เดินนำหน้าเป็คนที่อยู่ข้างกายอวี้เสวียนจี ส่วนองครักษ์ข้างหลังเขาก็ได้ลากชายหน้าตาอัปลักษณ์คนหนึ่งไว้
ขันทีทำความเคารพต่อซูเฟยซื่อ “บ่าวจั๋วจื่อคำนับคุณหนูสาม นี่เป็ของขวัญจากท่านอ๋องเก้าพันปีที่ให้บ่าวนำมามอบแก่ท่าน ยังขอคุณหนูสามรับไว้ด้วยความชื่นชมยินดีขอรับ”
ชายคนนี้คือของขวัญให้นาง? อวี้เสวียนจีมีใจอะไรกันนี่!
ไม่รอซูเฟยซื่อเอ่ยปาก จั๋วจื่อก็ส่งสัญญาณมือให้องครักษ์
องครักษ์เห็นสัญญาณมือก็ผลักชายคนนั้นไปตรงหน้าซูเฟยซื่อทันที เขาล้มลงกับพื้นใบหน้าคลุกทั้งฝุ่นทั้งมูลสุนัขดูไม่จืด
มือเท้าพลันถูกมัดไว้ทั้งหมด เขาเพียงใช้สายตามองไปทางหมอขอความช่วยเหลือเท่านั้น
หมอใลนลานทันทีเมื่อเห็นชายคนนั้น ท่าทางตื่นตระหนกอย่างไม่อาจปิดบัง
เขาไม่สนใจความเ็ปบนร่างอีกต่อไป รุดก้าวไปข้างหน้าโขกศีรษะให้ซูเฟยซื่อสุดชีวิต “คุณหนูสาม ถ้าท่านจะโทษก็โทษข้าเถิด เื่ทุกอย่างล้วนเป็ข้าน้อยทำ ไม่เกี่ยวกับลูกชายข้า ลูกชายข้าเป็ผู้บริสุทธิ์ ท่านโปรดละเว้นเขาเถิดขอรับ”
ในที่สุดซูเฟยซื่อก็ทราบถึงตัวตนของชายคนนี้ ที่แท้เป็ลูกชายของหมอ ไม่สงสัยเลยว่าทำไมอวี้เสวียนจีจึงส่งเขามา
“คุณหนูสาม นี่เป็หลิวิลูกชายคนเดียวของตระกูลหลิว ยังเป็ลูกสุดที่รักของหมอหลิว ท่านอ๋องเก้าพันปีกล่าวว่า หากท่านมีวิธีการใดขอเพียงใช้ไปบนร่างหลิวิทั้งหมด ไม่ว่าคิดอยากรู้เื่อะไรต้องสมดั่งปรารถนาแน่นอนขอรับ” จั๋วจื่อเอ่ยปากในเวลาที่เหมาะสม
อวี้เสวียนจีจัดการเื่ราวได้สมบูรณ์แบบตามคาด ไม่เพียงแต่พลิกปูมรายละเอียดของคนจนจรดขอบฟ้าเท่านั้น ยังลากเอาลูกชายของคนอื่นข่มขู่เอาความ
ซูเฟยซื่อหยักริมฝีปากยิ้มทันที “ขอบคุณจั๋วจื่อกงกง”
ช่างเป็ชื่อที่ตั้งได้ไพเราะดีแท้...
“บ่าวนำคนมาส่งมอบให้ท่านแล้ว ถ้าคุณหนูสามไม่มีคำสั่งอื่นใด บ่าวจะกลับไปรายงานท่านอ๋องเก้าพันปีแล้วขอรับ” จั๋วจื่อยิ้มน้อยๆ ก่อนจากไป
ซูเฟยซื่อพยักหน้าแล้วเบนสายตาไปบนร่างหมอหลิวอีกครั้ง “หมอหลิว เ้าเห็นความห่วงใยของข้าหรือไม่ ปรนนิบัติเ้าเสร็จ ยังต้องปรนนิบัติลูกชายเ้า ให้พวกเ้าได้แบ่งปันความสุขซึ่งกันและกัน ให้พวกเ้าอยู่พร้อมหน้ากันทั้งพ่อลูก ไหนบอกมาซิ ข้าควรเริ่มปรนนิบัติจากตรงไหนดี? ใช่แล้ว เขาเป็ลูกคนเดียวของตระกูลหลิว เล่นนั้นให้ข้าทำลายรากของเขาก่อนดีกว่าไหม?”
หมอหลิวส่ายหน้าสุดชีวิต “คุณหนูสามโปรดไว้ชีวิต ถ้าท่านทำลายเขาจนพิการเช่นนั้น ขี้เถ้าธูปของตระกูลหลิวคงได้ขาดตอนแล้วขอรับ”
ซูเฟยซื่อไม่สนใจเขาอย่างสิ้นเชิง เท้าคางครุ่นคิดสักพัก “เ้าว่าทำให้พิการอย่างไรมิสู้ต้องเ็ปมากนัก? ใช้ดาบ? ใช้หนู? หรือยังมีวิธีอื่นที่ดีกว่า?”
“อย่า... ข้าพูด ข้าพูดทุกอย่าง” หมอหลิวมองไปยังหลิวิคราหนึ่งอย่างสิ้นหวัง ใจแทบขาดรอนๆ “ตระกูลกู้เป็วีรบุรุษจากรุ่นสู่รุ่น ศักดิ์ศรีในกองทัพสูงสุด เป็เื่ยากจริงๆ ที่จะกำจัดสังหารทิ้งทั้งตระกูล ดังนั้นนายหญิงจึงเสนอให้อัครมหาเสนาบดีใช้พิษ...”
ที่แท้เป็เช่นนี้ เดิมนางคิดว่าเป็ตระกูลกู้ที่ต่อสู้นองเืจนพ่ายแพ้แก่ศัตรู ตายอย่างสมศักดิ์ศรี
คิดไม่ถึงว่าต้องตายภายใต้วิธีการสกปรกแบบนี้
ซูเฟยซื่อจินตนาการถึงความรู้สึกที่ทั้งสยดสยองและไม่เต็มใจเมื่อพวกเขาพบว่าตนถูกพิษเข้าแล้ว
วีรบุรุษไม่ได้ตายในสมรภูมิ ทว่าตายด้วยน้ำมือของคนถ่อย
์มีตา ให้นางเกิดใหม่มาค้นพบความจริง นางแซ่หลี่ เ้าวางยาพิษสังหารทั้งตระกูลกู้ ข้าต้องให้ทั้งตระกูลเ้ามาชดใช้!
ซูเฟยซื่อกำหมัดทั้งคู่ไว้แน่น แววกระหายเืในดวงตาคุกรุ่นดุจเทพสังหารจากขุมนรก
รังสีสังหารรอบตัวยิ่งบีบคั้นกระทั่งคนต่างหายใจยากลำบาก
หมอหลิวตื่นตระหนกในปฏิกิริยาของซูเฟยซื่อ แต่ไม่กล้าถามมาก เพียงกัดฟันร้องไห้วิงวอน “คุณหนูสาม ข้าน้อยได้บอกเื่ทั้งหมดที่รู้แก่ท่านแล้ว แม้ยาพิษจะเป็สิ่งที่ข้าน้อยให้นายหญิง แต่หลังจากทั้งหมดนี้ ยังเป็นายหญิงคิดแผนการ ต่อให้ข้าน้อยมีความผิดจริง โทษย่อมไม่ถึงตาย ยิ่งไม่ถึงรุ่นลูกหลานนะขอรับ”
ซูเฟยซื่อยิ้มเ็าโทษไม่ถึงตาย? คนที่ทำร้ายตระกูลกู้ของพวกเขาต่างต้องตาย!
นางลุกขึ้นยืนมองหมอหลิวั้แ่หัวจรดเท้า ริมฝีปากหยักยิ้มเบาๆ หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “เ้ามีคำสั่งเสียอันใดก่อนตายหรือไม่?”
เมื่อหมอหลิวฟังจบก็ตื่นตระหนก รีบยื่นมือออกไปจะจับชายเสื้อของอีกฝ่าย “คุณหนูสาม ขอโปรดละเว้นข้าน้อยกับิเอ๋อร์เถิด เป็หนี้ต้องจ่าย เป็คนร้ายก็ต้องชดใช้กรรม เื่ทั้งหมดนี้เป็นายหญิงข่มขู่ข้าน้อย นางบอกว่าถ้าข้าน้อยไม่ช่วยนาง นางจะเผาร้านของข้าน้อย สังหารทั้งครอบครัวของข้าน้อย”
ซูเฟยซื่อหลบมือของเขาไปได้ แล้วยกเท้าเตะอีกฝ่ายจนกระเด็น เห็นอีกฝ่ายคลุกคลานอยู่ที่พื้นลุกไม่ขึ้น จึงเอ่ยปากช้าๆ “เ้าวางใจเถิด นางจะมาอยู่เป็เพื่อนเ้าในเร็วๆ นี้ นอกจากนี้ จุดจบของนางต้องสังเวชยิ่งกว่าเ้าแน่ๆ”
เสียงนุ่มนวลอ่อนโยน ทว่าเยือกเย็นผิดปกติ หมอหลิวตระหนกจนอาเจียนเอาเืสดๆ ออกมาคำหนึ่ง
เขาพยายามอย่างหนักที่จะคลานไปหาหลิวิ ราวกับใช้พลังเฮือกสุดท้ายปกป้องหลิวิไว้
ทว่าเพิ่งคลานไปได้สองก้าว เืสีแดงสดพลันพุ่งออกมาอีกคำ มือที่เอื้อมออกไปครึ่งหนึ่งพลันตกลง ตายตาไม่หลับ
“คุณหนู เขาตายแล้วเ้าค่ะ” ซางจื่อก้าวไปข้างหน้าตรวจสอบลมหายใจของหมอหลิวแล้วกล่าวพลาง
ซูเฟยซื่อไม่ได้แปลกใจกับผลลัพธ์นี้ นางไม่ได้ออกแรงแตะหนักนัก เป็เพราะหมอหลิวถูกคนทรมานมาก่อน ที่ไม่ทนมือทนเท้านาง นั่นย่อมเป็เื่ปกติ
หลังจากจัดการกับคนสูงวัยเสร็จ ก็ถึงเวลาจัดการคนหนุ่ม
ซูเฟยซื่อหันไปมองหลิวิ เห็นเขาน้ำหูน้ำตาไหล หากแต่ไม่ได้ร้องไห้เพราะการตายของบิดา ทว่ากำลังร้องวิงวอนให้นางไว้ชีวิต
ท่าทีขี้ขลาดนี้เหมือนกับหนูติดจั่นไม่มีผิด ไม่สงสัยเลยว่าทำไมหมอหลิวถึงตายตาไม่หลับ
“คุณหนู แล้วจะทำอย่างไรกับเขาล่ะเ้าคะ?” เห็นแววตาซูเฟยซื่อมองไปยังร่างของหลิวิ ซางจื่อก็รีบเอ่ยปากพูด
“ตอนที่เ้าขอยืมคุกลับจากอวี้เสวียนจี เขามีบอกไหมว่าต้องคืน?” จู่ๆ ซูเฟยซื่อก็พูดประโยคนี้ออกมาทันที
ซางจื่อถูกถามจนคลำทางไม่ถูกทิศ ได้แต่ตอบว่า “ในเมื่อท่านอ๋องเก้าพันปีบอกว่าให้ท่านแล้ว ก็ตามแต่ท่านจัดการเอาเถิดเ้าค่ะ”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้