เป่ยเซวียนเฉิงหยุดพูด หากไม่ใช่เพราะร่างกายทรุดโทรมเกินทนเช่นนี้ เสด็จพ่อจะทอดทิ้งเขาได้อย่างไร
นี่เป็เสี้ยนหนามเดียวในใจเขา เหยาเชียนเชียนเป็คนที่รู้ดีที่สุดแท้ๆ เหตุใดในวันนี้จึงเจาะจงพูดเื่นี้ ราวกับใช้มีดแทงทะลุหัวใจของเขา
นางถูกเป่ยเหลียนโม่ทำให้ยอมศิโรราบได้ถึงเพียงนี้เลยหรือ?
“เชียนเชียน ครั้งหนึ่งเ้าเคยบอกข้าว่าผู้อื่นคิดอย่างไรไม่สำคัญ หากตนมีใจแน่วแน่ก็จะมองเห็นความหวัง” ในแววตาของเขาทอประกายอ่อนโยนยามหวนนึกถึงอดีต
“ยามนี้แม้แต่เ้าก็ดูถูกร่างกายโทรมๆ เช่นนี้ของข้าเหมือนกับผู้อื่นอย่างนั้นหรือ? แค่กๆๆ!”
เป่ยเซวียนเฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อยและไอจนตัวโยน ดูเหมือนเขาพร้อมจะสลบไปทุกเมื่อ
เหยาเชียนเชียนมองเขาอย่างหวาดเกรงพลางคิดในใจว่า หากเขาเป็ลมไปนางคงอธิบายแก่ผู้อื่นไม่ได้แน่ และนางก็ส่งเขากลับวังไม่ได้ด้วย
“องค์ชายสามทรงเข้าพระทัยผิดแล้วเพคะ หม่อมฉันไม่มีสิทธิ์ไปตัดสินพระองค์ พระองค์เป็เชื้อพระวงศ์ เดิมทีก็ไม่ต้องสนใจสายตาผู้ใดอยู่แล้ว ในเมื่อพระวรกายไม่แข็งแรง เช่นนั้นก็ต้องฝึกตนให้มาก เื่ซับซ้อนมากมายก็ให้เป็หน้าที่ของผู้อื่นทำไปก็ได้เพคะ”
อย่างเช่นการที่เขาเกลี้ยกล่อมให้นางไปลอบฆ่าเด็กคนหนึ่ง เื่เช่นนี้เลิกราเสียเถิด หากเอาแต่หมกมุ่นอยู่กับเื่เลวทรามเช่นนี้ ต่อให้ไม่ป่วยก็คงอัดอั้นจนป่วยขึ้นมาได้
ั์ตาของเป่ยเซวียนเฉิงวาววาบ เื่ซับซ้อนหรือ นาง้าให้เขาเป็องค์ชายที่เอ้อระเหยไปวันๆ อย่างสบายใจ และยกบัลลังก์ให้เป่ยเหลียนโม่ไปอย่างนั้นหรือ?
ทว่านางแต่งงานเข้าจวนชิงผิงอ๋องทั้งยังถูกขังไว้หนึ่งวันหนึ่งคืน ไม่เคยมีความสัมพันธ์กับเป่ยเหลียนโม่ ตรงกันข้ามยังถูกเป่ยเหลียนโม่เกลียดชังเพราะลงมือกับเด็กคนนั้นอีกด้วย
ในสถานการณ์เช่นนี้ นางทุ่มเทใจให้กับเป่ยเหลียนโม่ได้อย่างไร กระทั่งบอกกับเขาเป็นัยว่าจะละทิ้งงานใหญ่ ไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย
“ร่างกายเช่นนี้ของข้า ไม่ว่าจะบำรุงอย่างไรก็เกรงว่าไม่มีอะไรดีขึ้น ข้าเพียงแค่อดเป็ห่วงเ้าไม่ได้” เป่ยเซวียนเฉิงยกมือขึ้น คล้ายกับกำลังจะลูบไล้ใบหน้าของเหยาเชียนเชียน แต่เพราะอีกฝ่ายถอยออกไปครึ่งก้าวเขาจึงชะงักค้าง
“เชียนเชียน ข้ารู้ว่าเ้าอยู่ที่นั่นลำบาก ข้าเป็ห่วงเ้า สองสามวันมานี้ไม่มีวันใดที่ข้าหลับไปอย่างสบายใจได้เลย แค่กๆ ข้าแค่อยากปกป้องเ้าผู้เป็ที่รัก แต่สุดท้ายแล้วก็ทำไม่ได้”
รู้ว่าทำไม่ได้ก็ไม่ต้องทำสิ ยิ่งไปกว่านั้นนางก็ไม่ใช่ผู้เป็ที่รักของเขา
เหยาเชียนเชียนอยากบอกเขาเหลือเกินว่า ในร่างนี้ไม่ใช่คนที่รักเขาอย่างสุดหัวใจผู้นั้นอีกต่อไปแล้ว ละครนี้ของเขาดำเนินเื่มานานแล้ว อย่างมากนางทำได้เพียงกล่าวชื่นชมเขา แต่นอกเหนือจากนี้คงทำให้ไม่ได้แล้ว
สภาพอ่อนแอเช่นนี้สามารถกระตุ้นความปรารถนาที่อยากจะปกป้องได้มากจริงๆ หากเหยาเชียนเชียนไม่รู้เื่ที่เ้าของร่างเดิมจะฆ่าอาเหยียนนั้นเป็คำสั่งของเขา นางก็อาจจะยังเห็นใจเขาอยู่หลายส่วน
แต่ในเมื่อรู้แล้ว นางเพียงแค่เอือมระอากับร่างกายอ่อนแอไร้พิษสงนี้เท่านั้น
คนหนึ่งคือเด็กไร้เดียงสา อีกคนหนึ่งคือสตรีที่รักและเทิดทูนเขา เขาใช้ประโยชน์จากความรักที่เ้าของร่างเดิมมอบให้ โดยใช้ให้นางไปฆ่าอาเหยียนน้อย ช่างโเี้และไร้ยางอายยิ่งนัก
“องค์ชายสามไม่ต้องเป็ห่วงหม่อมฉันหรอกเพคะ” เหยาเชียนเชียนยกยิ้ม
“ยามนี้ข้ามีศักดิ์เป็ชายาของชิงผิงอ๋องแล้ว อาภรณ์และอาหารล้วนไม่ขาดแคลน หากสามารถให้กำเนิดโอรสและธิดาให้ท่านอ๋องได้ ครึ่งชีวิตที่เหลือก็มีที่พึ่งพิงแล้ว หลายปีหลังจากนั้นก็จะมีลูกหลานเต็มบ้าน สามีภรรยารักใคร่กัน เป็ความสุขที่หลายคนแสวงหาแต่ไม่อาจ การแต่งงานนี้หม่อมฉันยินดีเป็อย่างยิ่งเพคะ”
เขาชอบแสร้งทำเป็ซื่อและใช้ความรู้สึกของเ้าของร่างเดิมเกลี้ยกล่อมให้นางไปตายเพื่อเขาไม่ใช่หรือ เหยาเชียนเชียนยิ้มอย่างยินดีและพึงพอใจ ทั้งยังมีความขลาดเขินหลายส่วนอยู่ในทุกอิริยาบถ
เช่นนั้นนางก็จะบอกเขาว่านางมีความสุขอย่างยิ่ง นับจากนี้ไป หากท่านคิดจะหลอกนางไปตายอีก เื่แบบนั้นจะไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว
“เ้าบอกว่าเ้า...พอใจกับการแต่งงานนี้หรือ?”
เป่ยเซวียนเฉิงขมวดคิ้วมุ่น ถ้านางจะเล่นแง่ใช้อารมณ์กับเขาก็ควรจะมีขอบเขตบ้าง ที่เป็เช่นนี้ในวันนี้เพราะเขาอดทนและพูดอย่างนิ่มนวลแล้ว หากนางยังพูดยั่วโทสะเขาต่อไปเขาก็คงไม่รู้วิธีวางตัวแล้ว
“ชิงผิงอ๋องพระทัยกว้างขวาง แม้จะดูเหมือนเขาดูถูกเหยียดหยามคนทั้งโลก แต่ในความหยาบก็มีความละเอียดอ่อน และเขาก็ดีต่อหม่อมฉันมาก องค์ชายสามรู้หรือไม่เพคะ ท่านอ๋องยอมทิ้งราชกิจเพื่อกลับไปเยี่ยมบ้านพร้อมหม่อมฉัน หลังจากที่หม่อมฉันทำผิดร้ายแรงแต่ก็ยังปฏิบัติต่อหม่อมฉันเช่นนี้ หม่อมฉันมิได้ไร้หัวใจ ย่อมรู้ว่าผู้ใดดีต่อหม่อมฉันจริง”
เป็เช่นนี้เอง เป่ยเซวียนเฉิงยิ้มเย็นในใจ เช่นนี้เขาก็ยังเป็คนช่วยทำให้ชีวิตคู่สมรสสมบูรณ์ด้วยหรือ
เขาอยากให้เหยาเชียนเชียนดูให้ชัดว่าผู้ใดกันแน่ที่นางควรภักดี ทว่ายามนี้เจตนาของสตรีผู้นี้ไม่ชัดเจน ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยฐานะของนางสามารถอยู่เคียงข้างเป่ยเหลียนโม่ได้ทุกเวลา มิอาจบังคับได้อย่างแน่นอน
บางทีการแต่งงานครั้งนี้อาจเป็แผลในใจนางจริงๆ เป่ยเซวียนเฉิงใจเย็นลง นางสามารถลงมือจัดการเด็กคนนั้นด้วยตัวเองเพื่อเขาได้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าแท้จริงในใจนางยังมีเขาอยู่
ยามนี้ทุกสิ่งทำให้นางไม่สบายใจ ดังนั้นที่นางกล่าวเช่นนี้อาจเป็เพียงแค่ความไม่พอใจ
ช่างเถิด หลายปีที่ผ่านมานางก็เชื่อฟังเขาเสมอ ครั้งนี้อาจเป็เพราะถูกขู่ขวัญเข้า นางพยายามสุดชีวิตแต่ก็ไม่สามารถคร่าชีวิตของเด็กคนนั้นได้ กลับกันยังถูกเป่ยเหลียนโม่ขังอยู่หนึ่งวันหนึ่งคืน นางก็คงจะหวาดกลัว
“เชียนเชียน ข้ารู้ว่าเ้าควรกล่าวโทษข้า เ้าน้อยเนื้อต่ำใจและอกสั่นขวัญหายทั้งวันทั้งคืนที่อยู่ที่นั่น ข้าเข้าใจทั้งหมด”
เข้าใจแต่ก็ยังให้นางแต่งเข้าไป เหยาเชียนเชียนหัวเราะน้อยๆ “องค์ชายสามทรงเข้าพระทัยผิดแล้วเพคะ ท่านอ๋องดีกับหม่อมฉันมาก ในใจของหม่อมฉันไร้ซึ่งความแค้นเคืองและไม่รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ อยู่ที่จวนได้เคียงข้างสามีและสั่งสอนบุตร จิบชาชมนก เป็อิสระยิ่งนัก”
เป่ยเซวียนเฉิงส่ายหน้าเบาๆ ราวกับไม่เชื่อที่นางพูดแม้แต่คำเดียว ความรักลึกซึ้งและความเศร้าโศกในแววตาของเขา ราวกับกำลังบอกถึงความไม่ยินดีและเป็ทุกข์ในใจอย่างเงียบๆ
หากไม่รู้อุปนิสัยของเขา เกรงว่านางก็อาจจะถูกสายตาลึกซึ้งนั้นหลอกเช่นกัน เหยาเชียนเชียนลอบถอนหายใจ เ้าของร่างเดิมคงจะมัวเมาอยู่กับความอบอุ่นนี้ของเขา ถึงได้ทำเื่บ้าระห่ำเช่นนั้นลงไปได้
“ข้าเข้าใจเหลียนโม่ นิสัยของเขาเป็สิ่งที่ยากจะคาดคะเนที่สุดในบรรดาพี่น้อง เ้าคอยปรนนิบัติอยู่ข้างกายเขาต้องระวังให้มาก หากรู้สึกคับข้องใจเช่นก่อนหน้านี้ก็ให้คนมาบอกข้า”
เป่ยเซวียนเฉิงดึงมือเหยาเชียนเชียนเข้าหาตัวและให้สัญญาต่อนางอย่างจริงใจ
“แม้ร่างกายนี้จะหาข้อดีไม่ได้เมื่อเทียบกับเขา แต่ข้าจะไม่ให้เ้าต้องทนลำบากต่อหน้าต่อตาอีก”
เหยาเชียนเชียนพยายามดึงมือกลับแต่ไม่สำเร็จ นางชะงักเล็กน้อย ขณะที่กำลังจะออกแรงก็ถูกอีกฝ่ายฉุดรั้งเข้าสู่อ้อมแขนและกอดไว้แน่นโดยไม่ทันตั้งตัว
“เชียนเชียน” เป่ยเซวียนเฉิงถอนหายใจข้างใบหูของนาง “ความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของข้าคือ้าให้เ้าปลอดภัยและประสบความสำเร็จ แต่ไม่อยากดึงเ้าเข้าสู่วังวนแห่งความวุ่นวายนี้ เ้าวางใจเถิด ต่อให้ทุ่มเทจนเสียเกียรตินี้ไป ข้าก็จะปกป้องเ้าให้ปลอดภัย”
เหยาเชียนเชียนเริ่มโกรธหลังจากที่ดิ้นรนมาหลายครั้งแล้วยังไม่หลุด ขอถามหน่อยว่าเป่ยเซวียนเฉิงมีปัญหาอะไร ถ้าไม่มีเขาเข้ามาแทรกแซง นางก็สามารถอยู่อย่างปลอดภัยและราบรื่นได้อยู่แล้ว
เป่ยเหลียนโม่แม้เ็าและเอาแน่เอานอนไม่ได้ เวลานี้เขาก็สามารถฆ่านางได้ง่ายดายเพียงเพราะอาเหยียนน้อย ไม่แน่ว่าถ้านางทำตัวดี อาจจะมีโอกาส ให้นางได้รับอิสระกลับคืนมาอีกครั้งจริงๆ ก็เป็ได้
แต่หากถูกองค์ชายสามพัวพันอยู่เช่นนี้ อย่าว่าแต่อิสระเลย นางจะมีชีวิตรอดได้กี่วันก็ไม่รู้
เหยาเชียนเชียนออกแรงผลักเป่ยเซวียนเฉิงออก ทว่าก็ถูกอีกฝ่ายดึงรั้งไว้ ยื้อยุดฉุดกระชากกันไปมาก็ไม่เป็ผล เมื่อเผชิญกับสายตาเ็ปของเขาอีกครั้งก็อดโกรธไม่ได้ นางกล่าวเสียงเย็นว่า “ปล่อย ไม่อย่างนั้นหม่อมฉันจะร้องเรียกคน!”
เป่ยเซวียนเฉิงดูเหมือนไม่อยากเชื่อว่าเหยาเชียนเชียนจะเมินเฉยต่อเขาได้ถึงเพียงนี้ เขาจับมือของนางและเผลอบีบแน่น “เ้าว่าอย่างไรนะ?”
“นางบอกให้ท่านพี่ปล่อยนาง” เสียงเย็นะเืเสียงหนึ่งดังขึ้น “ทำไมเล่า ท่านพี่สามฟังไม่เข้าใจหรือ?”
