ทั้งยาว่างเฉินและพลังอสูร สองสิ่งนี้ล้วนส่งผลกระทบต่อร่างกายของมนุษย์อย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งพลังอสูรนั้นจะเข้าไปโจมตีในส่วนลึกของหัวใจและจิติญญาของมนุษย์ ทำให้มนุษย์คนนั้นค่อยๆ กลายเป็ขุนพลอสูร ส่วนยาว่างเฉินจะแทรกซึมเข้าไปทำให้ร่างกายอ่อนแอลง อาจกล่าวได้ว่าการผสมผสานกันของสรรพคุณทั้งสองสิ่งนี้เป็การผสมผสานที่ลงตัว และทำให้เกิดผลลัพธ์ที่เสียหายต่อร่างกายมนุษย์มากยิ่งขึ้น
หากเป็คนอื่นพลังภายในของคนคนนั้นย่อมต้องต่อต้านทั้งสองสิ่งแน่
แต่หลัวเลี่ยแตกต่างออกไป
แม้ว่าเขาจะมีพลังอยู่ในระดับผู้ฝึกตน แต่เขาก็ได้กระดูกวิถียุทธ์แล้ว ดังนั้นทั้งสองสิ่งนี้แทบจะไม่สามารถทำอันตรายเขาได้ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่ใช่ตอนเขาโดนทำร้ายใน่เวลาสั้นๆ แบบนี้
นอกจากนี้หลัวเลี่ยยังเคยชำระล้างร่างกายด้วยเืั จึงทำให้อวัยวะภายในของเขาถูกปกป้องไว้แล้ว ดังนั้นทั้งยาว่างเฉินและพลังอสูรย่อมไม่มีทางที่จะเข้าไปทำลายอวัยวะภายในของเขาได้อย่างแน่นอน
และตอนนี้หลัวเลี่ยก็กำลังขับเคลื่อนพลังภายในของเขา เพื่อขจัดยาว่างเฉินและพลังอสูรออกจากร่างกาย
ตามหลักการของเคล็ดวิชาั์ การขับเคลื่อนพลังภายในซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็เป็อีกหนึ่งวิธีในการฝึกฝนวรยุทธ์เช่นกัน
หนึ่งชั่วยามต่อมา หลัวเลี่ยหมุนเวียนพลังภายในร่างกายตามหลักเคล็ดวิชาั์รวมแล้วสามสิบหกรอบ จึงสามารถขจัดทั้งยาว่างเฉินและพลังอสูรออกไปได้ทั้งหมด
ในขณะเดียวกันผีเสื้อแห่งรักก็หยิบหยกที่ผนึกด้วยคาถารักษาออกมา และโบกมันไปที่อาการาเ็ตรงหน้าอกของหลัวเลี่ย
เกิดแสงสว่างบริเวณาแของหลัวเลี่ย และเมื่อแสงสว่างจางหายไป รอยแผลบริเวณหน้าอกของเขาก็หายไปด้วย
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ฟื้นตัวเต็มที่และมีพลังเต็มกำลัง
“พวกเราออกเดินทางตามหาบุปผางามอาบพิษกันเถิด” หลัวเลี่ยขยับร่างกายของเขาโดยไม่รู้สึกอึดอัดใดๆ
ผีเสื้อแห่งรักพยักหน้าเล็กน้อย
พวกเขาเดินออกมาจากหุบเขาแล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าจะไปทางไหนต่อ
ในตอนนั้นเองเสียงหัวเราะที่น่าฟังก็ดังขึ้น
เงาสีขาวปรากฏขึ้นทางด้านซ้าย เป็ร่างร่างหนึ่งที่ปกคลุมด้วยหมอกหนายืนอยู่บนก้อนหิน และพูดว่า “เป็อย่างที่ข้าคิดไว้จริงๆ ‘ผู้มีัอยู่ในเป้า’ ผู้โด่งดังไม่ได้เสียชีวิตจากการาเ็สาหัส”
การปรากฏตัวของผู้หญิงคนนี้และประโยคที่นางพูดออกมาทำให้ทั้งหลัวเลี่ยและผีเสื้อแห่งรักหยุดชะงัก
“สายตาที่เฉียบคมของแม่นาง ทำให้ข้าน้อยชื่นชมท่านจริงๆ” หลัวเลี่ยกล่าวอย่างเ็า
“ไม่ใช่เพราะว่าข้ามีสายตาที่แหลมคม แต่เป็เพราะข้าเชื่อว่าคนที่มีโอกาสเป็เทพจะไม่มีวันตายง่ายๆ” หญิงสาวหัวเราะคิกคัก “แน่นอน การแสดงของเ้าไม่เลวเลย แต่มันก็ยังมีข้อบกพร่องเล็กน้อย”
“ข้อบกพร่องอะไร”
“ตอนที่แย่งกริช!”
“โอ้?”
“ตอนแรกข้าก็ยังแปลกใจ ไม่ว่าเ้าจะาเ็แค่ไหน แต่ตอนแรกเ้าก็ยังอดทนไว้ได้ เห็นได้ชัดว่ามันไม่มีเหตุผลเลยที่เ้าจะเดินเข้าไปหาความตาย และเพราะข้าสงสัยจึงเอาแต่จ้องมองเ้า คนอื่นไม่สงสัยจึงไม่ได้สังเกตการเคลื่อนไหวของเ้า แต่ข้าเห็นชัดเจนว่าตอนที่เ้าออกแรงแทง ทั้งมุมที่เล็ง การออกแรง และความเร็วที่ใช้ล้วนแยบยลมาก คนใกล้ตายไม่มีทางทำเช่นนั้นได้ ดังนั้นข้าจึงสรุปว่าเ้าจะไม่ตาย และช่วยชีวิตตัวเองไว้ได้อย่างแน่นอน และสุดท้ายเ้าก็ไม่ได้ทำให้ข้าผิดหวัง”
ในตอนท้ายประโยค หญิงสาวคนนั้นก็หัวเราะออกมาอีกครั้ง
หลัวเลี่ยคิดในใจว่า ผู้หญิงคนนี้ฉลาดมาก
ผีเสื้อแห่งรักที่เงียบอยู่นาน ในที่สุดก็พูดขึ้นอย่างเฉยเมย “ไม่แปลกใจที่ผู้คนจะพูดว่าเทพีจันทรามีความคิดที่ละเอียดอ่อนที่สุด”
คราวนี้เป็ตาของหญิงสาวบ้างที่ต้องตกตะลึง หมอกบนร่างของนางค่อยๆ จางหายไป เผยให้เห็นหญิงสาวที่มีความสวยไม่ด้อยไปกว่าผู้หญิงคนใดที่หลัวเลี่ยเคยพบในดินแดนเหยียนหวง
ผมสีดำของนางถูกมัดด้วยเครื่องประดับบนหัวสีขาวอย่างง่ายๆ เส้นผมยาวลงมาจนถึงเอว มีปอยผมสองสามเส้นปลิวไสวคลอเคลียอยู่ที่หูของนาง นางมีผิวขาวเนียน คิ้วบาง และดวงตาสีดำเข้มคู่หนึ่งที่เป็ประกายสว่างไสวราวกับดวงดาวบนท้องฟ้ายามค่ำคืน แก้มของนางอมชมพูระเรื่อ ริมฝีปากสีแดงสด ทุกองค์ประกอบบนใบหน้าล้วนเข้ากัน และความเรียบง่ายที่ปราศจากการตกแต่งมากมายนี้ก็ทำให้นางดูสวยงามยิ่งขึ้น
เสื้อคลุมสีขาวที่นางสวมใส่อย่างไม่ได้ตั้งใจเปิดเผยรูปร่าง แต่ก็ยังเห็นได้ชัดว่าส่วนเว้าส่วนโค้งนั้นสมบูรณ์แบบมาก โดยเฉพาะส่วนเอวซึ่งสูงโชว์เรียวขาคู่หนึ่ง
นางคือเทพีจันทรา เย่เิหลง นางเป็หนึ่งในสามสาวงามที่ไม่มีใครเทียบได้ในแปดร้อยแคว้น!
นางเป็คนของแคว้นซิงเฉิน ซึ่งเป็แคว้นที่แข็งแกร่งที่สุดในแปดร้อยแคว้น และนางยังได้ชื่อว่าเป็คนที่สวยที่สุดในแคว้นอีกด้วย นอกจากนี้นางยังได้รับการยอมรับว่าเป็อัจฉริยะ มีเื่เล่ามากมายเกี่ยวกับนาง และเื่เล่าที่โด่งดังที่สุดก็คือนางเป็เทพีจันทรากลับชาติมาเกิด
ส่วนสาวงามอีกสองคนคือ สาวงามแห่งสายน้ำ หลิวหงเหยียน และสาวงามแห่งน้ำแข็ง จัวชิงหยิ๋ง
“ผีเสื้อแห่งรัก? คงเป็นามแฝงสินะ” สายตาของเย่เิหลงเปลี่ยนจากมองหลัวเลี่ยเป็มองผีเสื้อแห่งรัก
แม้ว่าผีเสื้อแห่งรักจะอยู่กับหลัวเลี่ย แต่เพราะหลัวเลี่ยมีชื่อเสียงและโดดเด่นมากเกินไปในภพจิตั ดังนั้นผู้คนจึงไม่ได้สนใจคนที่อยู่ข้างๆ หลัวเลี่ยมากนัก
“ช่างเถอะ จะใช่หรือไม่ใช่เทพีจันทรา ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเรา” ผีเสื้อแห่งรักจับมือของหลัวเลี่ยอย่างเป็ธรรมชาติ
เย่เิหลงไม่ได้ตอบกลับประโยคนั้น แต่กลับพูดขึ้นว่า “คนที่รู้จักข้ามีแค่ไม่กี่คน และข้าก็ไม่ได้รู้สึกคุ้นเคยกับเ้า ซึ่งหมายความว่าเราไม่ได้รู้จักกันเป็พิเศษ ข้าทั้งปกปิดตัวตน เปลี่ยนเสียงพูด แต่เ้ากลับสามารถรู้ตัวตนของข้าได้ แสดงว่าเ้ารู้จักข้าเป็อย่างดี ในฐานะที่เป็ผู้หญิงเหมือนกัน คนที่ปฏิบัติกับข้าแบบนี้และมีความสามารถเช่นนี้ ข้าคิดว่ามีไม่เกินสามหรือห้าคน ข้าอยากรู้นักว่าเ้าเป็ใคร”
ผีเสื้อแห่งรักพูดอย่างเฉยเมย “นอกจากเขาก็ไม่มีใครในโลกนี้รู้ว่าข้าเป็ใคร”
เขาที่หมายถึงก็คือหลัวเลี่ย
“ก็ไม่เสมอไปหรอก เจอกันครั้งหน้าข้าจะเปิดเผยตัวตนของเ้าให้ได้” มุมปากของเย่เิหลงโค้งขึ้น ราวกับว่านางสนใจที่จะเปิดเผยตัวตนของผีเสื้อแห่งรัก จากนั้นนางก็มองไปที่หลัวเลี่ยอีกครั้ง “ที่ข้ามาหาพวกเ้าเพราะข้าอยากจะถามคำถามหนึ่ง”
หลัวเลี่ยหัวเราะเบาๆ และพูดว่า “พูดมาสิ ข้าอยากรู้นักว่าเื่อะไรที่ทำให้เ้ามาถึงที่นี่ได้”
“เ้าเสียใจหรือไม่” เย่เิหลงถาม
“หืม?”
หลัวเลี่ยชะงัก
เย่เิหลงหันมองไปไกล และพูดด้วยน้ำเสียงที่แ่เบาเล็กน้อย “เ้าเสียใจหรือไม่ ที่เ้าทำลายบุปผางามอาบพิษตลอดทางเพื่อปกป้องพวกเขา และผีเสื้อแห่งรักผู้หญิงของเ้ายังเปิดเผยเื่ราวของขุนพลอสูรเพื่อช่วยชีวิตคนพวกนั้น แต่ตอนที่เ้าเผชิญหน้ากับเฟ้ยเชียนกลับไม่มีใครยื่นมือมาช่วยเหลือเ้า คนนับแสนพวกนั้นกลับปฏิบัติต่อเ้าอย่างเ็าเช่นนี้ เ้าเสียใจหรือไม่”
“ข้าไม่เคยคิดถึงเื่นี้เลย” หลัวเลี่ยกล่าว
เย่เิหลงมองไปที่หลัวเลี่ยด้วยความประหลาดใจ
แม้แต่ผีเสื้อแห่งรักก็มองไปที่หลัวเลี่ยด้วยความประหลาดใจเช่นกัน
พวกเขาไม่คิดว่าหลัวเลี่ยจะตอบแบบนี้
“เ้า?” เย่เิหลงลิ้นพันกันเล็กน้อยเพราะคำตอบที่ไม่คาดคิดของหลัวเลี่ย
หลัวเลี่ยพูดอย่างใจเย็น “ถ้าจะให้ตอบตามความคิดของข้า ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนเป็เพราะข้าอยากจะทำ ถ้าจะให้พูดแบบลูกผู้ชายคนหนึ่ง ก็คือแต่ไหนแต่ไรมาคนอ่อนแอมักจะถูกรังแกและเอาเปรียบ แต่คนที่แข็งแกร่งมักจะทำทุกสิ่งให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น ถ้าโลกนี้บูชาคนที่แข็งแกร่ง ข้าก็อยากแข็งแกร่งขึ้น แต่ถ้าโลกนี้อยากให้ข้าเห็นคนตายไปเป็แสนคน ข้าก็จะไม่ปล่อยให้พวกเขาตาย เพราะที่ข้าอยากแข็งแกร่งก็เพื่อกำจัดวงจรอุบาทว์นี้!”
แม้จะเป็คำพูดที่หยาบคาย แต่ก็เต็มไปด้วยความจริงใจ
นี่คือความรู้สึกของหลัวเลี่ย เมื่อเขามาที่นี่และได้รับสิ่งสืบทอดจากจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ หมัดผู้พิชิต และประสบการณ์ทุกอย่าง
เมื่อเขาได้มาที่โลกนี้แล้ว ก็ขอให้ทุกสิ่งเป็ไปตามที่เขาปรารถนาด้วยเถอะ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้