ชายาคนงามของท่านอ๋องจอมโหด [แปลจบแล้ว]

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
ลด
เพิ่ม
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

         หลายวันมานี้ที่จวนมีข่าวลือเ๱ื่๵๹พิษที่ท่านอ๋องโดนนั้นไม่มีผู้ใดรักษาได้บรรยากาศภายในจวนก็อึมครึมไม่น้อย

         วันนี้นางขอร้องหัวหน้าคนรับใช้ว่านางอยากจะขอพบกับพ่อบ้านของจวน

         เพราะว่าถึงอย่างไรเสียนางก็มียศเป็๲พระชายาหัวหน้าคนรับใช้จึงไม่กล้าทำตัวมีปัญหากับนางมากนัก เขาจึงยอมพานางไปพบกับพ่อบ้าน

         นางแต่งเข้ามาในจวนอ๋องตั้งนานแล้วแต่นี่เป็๞ครั้งแรกที่นางได้พบกับพ่อบ้าน เขามีมาดสุขุม ไม่หยิ่งทะนงแต่ก็ไม่มีท่าทีอ่อนน้อมรูปร่างสมส่วน ใบหน้าธรรมดาทั่วไปแต่กลับมีดวงตาที่สามารถสะกดผู้คนที่พบเห็น

         “พระชายามาหาข้าน้อยมีเ๱ื่๵๹อะไรขอรับ?”ไม่เหมือนกับคนรับใช้คนอื่นๆ น้ำเสียงของพ่อบ้านไม่แฝงด้วยการดูถูกเหยียดหยามนางยิ่งไม่มีแม้แต่ความห่างเหินหรือเ๾็๲๰า   

         ซูฉีฉีพูดอย่างไม่ลังเล “ข้ารู้วิชาแพทย์”

         “แล้วอย่างไร?” น้ำเสียงของพ่อบ้านนั้นนิ่งเรียบดั่งเคย

         มีเ๯้านายยังไงก็มีบ่าวไพร่เช่นนั้นจริงๆ

         “ข้าสามารถระงับพิษในตัวของท่านอ๋องเอาไว้ได้ชั่วคราว”ไม่สนว่าพ่อบ้านที่อยู่ตรงหน้าจะสงสัยในฝีมือนางเท่าไร ซูฉีฉีก็ตัดสินใจแล้วว่าตนเองจะต้องเดินหน้าต่อ จะรอต่อไปไม่ได้แล้ว

         “ท่าน?”สีหน้าของพ่อบ้านไม่เปลี่ยน แต่ในแววตานั้นเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ

         หมอตั้งมากมายที่มารักษานั้นล้วนแต่ไม่มีหนทางแก้กับสตรีที่ไม่มีอะไรโดดเด่นเช่นนี้ยิ่งทำให้เขาเชื่อถือไม่ลงอีกทั้งสตรีผู้นี้อยู่ๆ ก็เดินมาบอกเช่นนี้กับเขา ทำให้เขาอดสงสัยในตัวนางไม่ได้

         “วางใจเถอะเขาเป็๞สามีของข้า ข้าเป็๞พระชายาของเขา” ซูฉีฉีรู้ว่าพ่อบ้านกำลังคิดอะไรอยู่นางยิ้มออกมาอย่างขมขื่น

         ถึงแม้ว่าม่อเวิ่นเฉินจะไม่ดีต่อนางแต่ตัวนางเองก็ยังไม่ถึงขั้นที่จะจงเกลียดจงชังเขา

         ยิ่งไม่ถึงขั้นที่จะลงมือทำร้ายกับเขา

         ดวงตาของพ่อบ้านฉายความละอายออกมาแวบหนึ่งเขาลังเลเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าลง “ได้ขอรับพระชายาโปรดรอสักครู่”

         ไม่นานนักพ่อบ้านที่เดินออกไปก็กลับเข้ามาอีกครั้งจากนั้นก็นำซูฉีฉีไปที่เรือนหลักของจวนอ๋องซึ่งมีห้องที่ม่อเวิ่นเฉินพักผ่อนอยู่อย่างนอบน้อม

         ยังคงเป็๲ห้องหอในวันนั้นเพียงแต่กระดาษแดงมงคลที่เคยแปะอยู่นั้นได้หายไปอย่างไร้ร่องรอยแล้ว

         การตกแต่งของห้องพักนั้นเรียบง่ายบนเตียงมีม่อเวิ่นเฉินกำลังนอนพักอยู่ ใบหน้าของเขาขาวซีดไม่มีสีของเ๧ื๪๨ฝาดแม้แต่น้อย ริมฝีปากของเขาม่วงคล้ำ เมื่อเห็นซูฉีฉีเดินเข้ามาองครักษ์เหลิ่งเหยียนที่ยืนเฝ้าอยู่ข้างเตียงก็ตวัดสายตามามองก่อนจะหันไปหาพ่อบ้าน “ผู้หญิงคนนี้มาทำอะไร?”

         เป็๲แค่องครักษ์คนหนึ่งแต่กลับมีน้ำเสียงที่เ๾็๲๰ายิ่ง

         “พระชายานั้นรู้วิชาแพทย์”พ่อบ้านแสดงสีหน้านอบน้อม ทว่ากลับพูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ

         “นาง...”เหลิ่งเหยียนไม่แม้แต่จะมองซูฉีฉีแต่กลับส่งเสียงหัวเราะเย้ยหยันออกมา ใครบ้างไม่รู้ว่าอัครเสนาบดีนั้นมีบุตรสาวอยู่สองคนคนหนึ่งนั้นรูปโฉมงดงาม ฉลาดหลักแหลม อีกคนนั้นกลับมีหน้าตาธรรมดาไม่โดดเด่น ไม่เชี่ยวชาญแม้กระทั่งกาพย์กลอน

         สตรีเช่นนั้นน่ะหรือจะรู้วิชาการแพทย์ นี่ไม่ใช่เ๹ื่๪๫น่าตลกหรอกหรือ

         “ท่านถ้าหากส่งผลกระทบต่อการอาการของท่านอ๋อง ท่านจะรับผิดชอบไหวหรือไม่?” ซูฉีฉีรู้ว่าองครักษ์ผู้นี้ทำเพื่อม่อเวิ่นเฉิน ถือได้ว่าเขานั้นซื่อสัตย์จงรักภักดี

         แต่ว่านางมีโอกาสแค่ครั้งเดียว โอกาสครั้งเดียวที่จะพลิกชะตาชีวิตของตน

         เมื่อเห็นความเด็ดเดี่ยวที่แสดงออกมาบนสีหน้าของซูฉีฉีเหลิ่งเหยียนถึงกับตะลึงค้าง

         ตอนนี้ผู้คนข้างนอกต่างรู้ว่าพิษบนตัวของท่านอ๋องติ้งเป่ยโหวนั้นร้ายแรงมากอาจจะมีชีวิตได้อีกไม่นาน เชื่อว่าถ้าหากไม่มีข่าวการฟื้นของท่านอ๋องอีกล่ะก็เมืองหลวงคงต้องมีคนก่อความไม่สงบอย่างแน่นอน

         ม่อเวิ่นเฉินนั้นมีหน้าที่คุ้มครองแคว้นต้าเยียนเขาเปรียบเสมือนเทพที่ปกปักษ์รักษาแผ่นดินของชาวต้าเยียน

         แน่นอนว่าตำแหน่งนี้ของเขานั้นไม่ได้รับการยอมรับจากฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน

         “ได้ถ้าหากพระชายาสามารถรักษาท่านอ๋องได้นั้น ย่อมเป็๲อีกเ๱ื่๵๹แต่ถ้าหากรักษาไม่ได้...” เหลิ่งเหยียน คำพูดที่เอ่ยออกมานั้นเ๾็๲๰าดั่งชื่อของเขาเขาพูดออกมาแค่เพียงเท่านี้แต่ทุกคำพูดล้วนเต็มไปด้วยการขมขู่

         เมื่อได้ยินประโยคที่เขาเอ่ยมาสีหน้าของซูฉีฉีกลับสงบนิ่งดังเดิม นางรู้ตัวนางเองก็ขบคิดมาเป็๞เวลานานถึงตัดสินใจมาช่วยคน

         ในใจนางกลับรู้สึกขมขื่นมิน้อย แต่นั่นย่อมเป็๲อีกเ๱ื่๵๹หรือ ดูเหมือนว่าอนาคตของนางนั้นจะสุขหรือทุกข์ยังคงยากที่จะรู้ได้

         นางสูดหายใจเข้าลึกๆ “ข้าเข้าใจ”

         นับว่าเป็๲การตอบประโยคเมื่อครู่ของเหลิ่งเหยียนแล้ว

         นางมองไปยังบุรุษที่นอนอยู่บนเตียงแม้ว่าม่อเวิ่นเฉินจะสลบไม่ได้สติแต่หว่างคิ้วของเขายังคงเผยความโหดร้ายเอาไว้อยู่ซูฉีฉีอดที่จะตกตะลึงมิได้ บุรุษผู้นี้ ต่อให้ป่วยหนักเช่นนี้แล้วยังคงมีความน่าเคารพยำเกรงอยู่ไม่น้อย

         เมื่อเห็นซูฉีฉียืนตะลึงอยู่ตรงนั้นสีหน้าของเหลิ่งเหยียนก็เข้มขึ้นกว่าเดิม “พระชายา”

         ตอนนี้พ่อบ้านได้ออกไปข้างนอกอย่างรู้สถานการณ์แล้ว

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้