“ฉันจะใช้ปอร์เช่แข่งกับนาย เราเริ่มกันตอนนี้ได้เลย”เมื่อฉินเฟิงได้กุญแจมา เขาก็ก้าวขึ้นรถของซูชิวเยว่ทันทีข้างในรถมีกลิ่นหอมสดชื่นเหมือนกับเ้าของ
เขาสตาร์ทเครื่องทดสอบระบบที่จำเป็ของตัวรถเปิดหน้าต่างและะโไปหาสวี่รั่วโหรวพร้อมรอยยิ้ม “รั่วโหรว ขึ้นมา”
สวี่รั่วโหรวยืนอยู่บนยอดเขาที่มืดมิดและรู้สึกกลัวเล็กน้อยเธอจึงรีบขึ้นรถ
มีหลายเหตุผลที่ทำไมฉินเฟิงถึงยอมรับการแข่งขันนี้อย่างแรก เขาได้ทักษะแข่งรถขั้นกลางมาจากระบบเมื่อนานมาแล้ว แต่ไม่เคยใช้มันสักทีตอนนี้เขาสามารถลองมันได้แล้ว ในขณะเดียวกัน ฉินเฟิงอยากพาสวี่รั่วโหรวมาด้วยและใช้การแข่งนี้ให้เธอลิ้มรสความตื่นเต้นและความบ้าคลั่งมันอาจจะช่วยรักษาความอ่อนแอของเธอได้
แน่นอนว่าที่สำคัญที่สุดคือฉินเฟิงอยากจะเห็นว่าเหวยเสียวเหล่ยกับวิลเลียมส์จะทำอะไรเขาไม่ว่าอะไรถ้าจะก่ออุบัติเหตุระหว่างการแข่งและฆ่าวิลเลียมส์
การแข่งขันกำลังจะเริ่มฉินเฟิงและวิลเลียมส์เข้าสู่ตำแหน่งและจอดรถตรงจุดเริ่มต้น
การแข่งขันนี้ใช้แค่ระยะทางใกล้ๆมันเริ่มั้แ่ยอดเขาและสิ้นสุดตรงทางลงเขาโค้งแรกปากของวิลเลียมส์ยิ้มด้วยความดูถูกเมื่อเห็นฉินเฟิงพาอีกคนขึ้นรถ
ในฐานะนักแข่งมืออาชีพเขาเข้าใจความสำคัญของน้ำหนักที่รถเกี่ยวพันกันกับความเร็วและการควบคุมดังนั้นนักแข่งจะควบคุมน้ำหนักเพราะกลัวว่าถ้าผอมหรืออ้วนเกินไปมันอาจจะส่งผลต่อน้ำหนักของตัวรถและทำเื่ผิดพลาดได้
วันนี้เมื่อเขาเห็นฉินเฟิงพาคนอื่นขึ้นรถแบบไม่ใส่ใจวิลเลียมส์ก็เข้าใจระดับฝีมือของเขา เขามองฉินเฟิงเหมือนกับมือสมัครเล่นและมีสีหน้าเหมือนคนที่ชนะไปแล้ว
“3 21...ไป!”
เมื่อเสียงของเหวยเสียวเหล่ยดังขึ้นนักแข่งทั้งสองก็ออกตัวในเวลาเดียวกันเสียงทุ้มกระหึ่มเหมือนกับสัตว์ป่าที่ซ่อนอยู่ในหุบเขา
วิลเลียมส์ไม่ได้มีฉายาของนักแข่งมืออาชีพไว้โก้ๆเมื่อเขาออกตัวเขาสลับเกียร์ในไม่กี่วินาทีความเร็วก็ขึ้นสู่จุดสูงสุดและทิ้งฉินเฟิงแบบไม่ติดฝุ่น
ครั้งนี้ใบหน้าของฉินเฟิงเต็มไปด้วยความใเขาไม่ได้ใความเร็วของวิลเลียมส์ แต่เพราะการมาของทักษะแข่งรถอย่างกะทันหันเมื่อรถออกตัวความทรงจำก็ไหลเข้ามาในหัวในพริบตาร่างของเขาดูเหมือนกับมีความคิดเป็ของตัวเองขณะที่เคลื่อนไหวแบบซับซ้อน
เขาเร่งความเร็วขึ้นเหยียบคลัทช์ เปลี่ยนเกียร์ และดริฟต์ แม้เขาจะเคยแข่งมาก่อนแต่การแข่งของเขาแต่ก่อนเทียบกับทักษะแบบชำนาญอย่างเขาในปัจจุบันไม่ได้เขารู้สึกเหมือนกับเป็หนึ่งเดียวกับรถเหมือนกับว่าเขาเป็คนที่กำลังทะยานอยู่บนถนน
“กรี๊ด...ฉินเฟิง ชะ...ช้าลงหน่อย ว้าย เรากำลังจะตกเขาแล้ว! ฉินเฟิงคะมะ...มันน่ากลัวอ่า!” เสียงร้องของสวี่รั่วโหรวผ่านหูฉินเฟิงเธอกลัวมากจนบ่อน้ำตาแตก เธอไม่ชินกับความเร็วแบบนี้และการเลี้ยวบนถนนอย่างกะทันหันก็ทำให้เธอตาลาย
แล้วภายใต้ความเร็วนี้ฉินเฟิงตอบสนองได้อย่างแม่นยำ เขาควบคุมให้อยู่ในทิศทางและเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างมั่นคงสวี่รั่วโหรวกลัวมากจนไม่กล้าลืมตาครั้งแล้วครั้งเล่าที่เธอเห็นท้ายรถอยู่ที่ขอบหน้าผาและหัวใจของเธอก็หยุดเต้น
ฉินเฟิงยิ้มยิ่งสวี่รั่วโหรวร้องมากเท่าไร เขาก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นเท่านั้นเขารู้สึกว่าทักษะแข่งรถที่ไม่ธรรมดานี้ทำให้เขาทำอะไรก็ได้ตามที่ใจอยากเขาดริฟต์อย่างสวยงามและหมุนรถไปรอบๆแล้วเขาก็ขับแบบถอยหลังและแข่งกับวิลเลียมส์ทั้งอย่างนั้น
สวี่รั่วโหรวแอบมองผ่านสองนิ้วของเธอและเห็นฉากข้างหน้าของเธอเปลี่ยนไปเธอกรีดร้องพอที่จะทำให้ฟ้าะเื เธอมองดููเาที่ผ่านไปอย่างรวดเร็วในที่สุดเธอก็รู้ตัว....ฉินเฟิงกำลังขับถอยหลังอยู่
หลังจากขับถอยหลังฉินเฟิงก็เข้าสู่โหมดจริงจังเขาใช้ทักษะทั้งหมดและเทคนิคกำลังภายนอกขั้นสองกับกำลังภายในขั้นหนึ่งที่ได้มาก่อนหน้านี้ความเร็วการตอบสนองของเขาเพิ่มขึ้นและเหนือกว่าคนธรรมดา เขาขยับต่อเนื่องไวมากจนกลายเป็ภาพติดตาภายใต้การเคลื่อนไหวนั้นปอร์เช่ 911 สีดำก็ไวขึ้นมากแล้วยังมั่นคงมากมันเหมือนกับความเร็วของเสือชีตาห์ ไวมากจนเขาตามวิลเลียมส์ทัน
“เวร!” เมื่อเขาเห็นฉินเฟิงตามทัน วิลเลียมส์ก็สะดุ้งด้วยความช็อกไอ้หมอนี่มันกำลังขับถอยหลังอยู่
อีโก้ของเขาะเิออกด้วยั์ตาที่มอดไหม้ เขามองที่โค้งสุดท้ายก่อนจะเข้าเส้นชัยตัวของวิลเลียมส์แผ่จิตสังหารออกมา
“ไอ้เด็กเวร ใครสั่งใครสอนให้แกโชว์ออฟกัน? รอจนกว่าแกจะตกเขาจนกระดูกป่นปี้ไปเถอะ”
วิลเลียมส์สาปแช่งและหักพวงมาลัยกะทันหันเขาหันรถสู่เลนในของถนน ฉินเฟิงและวิลเลียมส์อยู่ข้างกันและกันดังนั้นรถของเขาจึงเคลื่อนมาอยู่ใกล้หน้าผารถของทั้งคู่เร่งความเร็วไปยังโค้งและดริฟต์พร้อมกัน
วิลเลียมส์รักษาให้รถของเขาอยู่ใกล้กับถนนเลนในและวาดโค้งสวยงามส่วนเลนนอกของถนนฉินเฟิงก็ดริฟต์ เขาดริฟต์ถอยหลัง มันจึงรู้สึกน่าตื่นเต้นและแปลกประหลาดมากกว่า
รถสองคันขับติดกันเหมือนเมื่อครู่มันเกือบจะดูเหมือนว่าพวกเขากำลังแข่งรถมืออาชีพกันอยู่แต่แล้วระยะห่างของรถก็น้อยลง ขณะที่ขับถอยหลังและดริฟต์ ท้ายรถของฉินเฟิงก็ค่อยๆล้ำหน้ารถของวิลเลียมส์ ทันใดนั้น วิลเลียมส์ก็หักทิศทางและชนกับรถของฉินเฟิง
ปัง!
ด้วยการชนอย่างรุนแรงรถทั้งคู่เสียการควบคุมไปเล็กน้อย วิลเลียมส์เตรียมตัวไว้แล้วเขาจึงรักษาความเสถียรของรถได้อย่างรวดเร็วปอร์เช่โดนชนจนอยู่ที่ริมผาและทั้งรถก็ยกขึ้นเหนือพื้นสวี่รั่วโหรวกรีดร้องไม่หยุดตลอดเวลาขณะที่สีหน้าของฉินเฟิงยังสงบนิ่งมือของเขาขยับอย่างรวดเร็วแบบต่อเนื่อง
แล้ววิลเลียมส์ก็ได้เห็นบางอย่างที่ทำให้เขางงงวยฉินเฟิงคุมรถปอร์เช่ 911 แม้ว่าจะมีล้อแค่สองล้อที่ยังอยู่บนเส้นทางของูเาส่วนอีกสองล้อลอยอยู่นอกหน้าผา เขาก็ยังคงเร่งความเร็วต่อไป
เส้นทางูเานั้นไม่ได้ตรงแต่เป็ทางโค้งทั้งหมดฉินเฟิงดูเหมือนกำลังขับบนทางเรียบ เขาเร่งโดยใช้สองล้อต่อไปทันใดนั้นฉินเฟิงก็ขมวดคิ้วและถอดเกราะับินออกเขาะโและะโใช้หมัดต่อยเข้าที่หลังคารถ ด้วยความแข็งแกร่ง 6 เท่า รวมแล้วคือ 600 ชั่ง ปะทะเข้ากับหลังคารถก็ลอยขึ้นไปยังเลนในสุดของูเา
สวี่รั่วโหรวลืมวิธีร้องแล้วทันทีที่รถลอยขึ้นข้างบนเธอคิดว่าเธอกำลังจะตาย เธอมองฉินเฟิงด้วยความเสียใจ“ฉินเฟิง ฉันขอโทษ ทั้งหมดนี่คือความผิดของฉันเอง”
ฉินเฟิงแค่ยิ้มให้กับสวี่รั่วโหรวและต่อยหลังคารถเป็ครั้งที่สองเมื่อหมัดครั้งที่สองปะทะ ปอร์เช่ก็หมุนคว้าง 360 องศากลางอากาศวิลเลียมส์อ้าปากค้าง เขามองดูรถที่บินอยู่เหนือหัวของเขา และด้วยเสียงดังก้องปอร์เช่ของฉินเฟิงก็กระแทกมาอยู่บนหลังคารถของเขา