ความจริงที่ิอวี่ประเมินเอาไว้ไม่ผิดเลย
สาวงามรูปร่างดีทั้งห้าเป็หญิงงามที่แข็งแกร่ง ล้วนแต่เป็อนุภรรยาของิเสวียนทั้งสิ้น คนที่อายุมากที่สุดคืออายุยี่สิบสาม ส่วนคนอายุน้อยที่สุดก็คือเยี่ยซีอายุสิบหก
การประลองยุทธ์ของราชสำนักนั้นกำหนดให้ผู้ที่เข้าร่วมต้องมีอายุต่ำกว่าสิบแปด ดังนั้นหญิงสาวเหล่านี้จึงไม่ได้เข้าร่วมการประลองด้วย
แต่ว่าพวกนางก็มีความสามารถที่โดดเด่นมาก ทั้งตำแหน่งฐานะก็ไม่ธรรมดา ล้วนแต่เป็หงส์เคียงัทั้งนั้น หาใช่คนไม่เอาไหน
ความสามารถของพวกนางทั้งห้าคนไม่ธรรมดาเลย อีกทั้งการเป็อนุภรรยาของิเสวียน เมื่อประสบเคราะห์ภัยก็สมควรที่จะอยู่เคียงข้างกับสามี เพื่อแสดงความรักและเทิดทูนที่พวกนางมีให้ และเพื่อรักษาตำแหน่งในวังหลังของพวกนางเองด้วย
ดังนั้น ผู้หญิงทั้งห้าคนนี้ถึงยอมติดตามิเสวียนมาด้วย
นอกจากผู้หญิงทั้งห้าคนนี้แล้ว ยังมีิอู่ ิเยวี่ย เสวียปู้หุ่ย เซิ่นเจิ่นโหว แล้วก็องครักษ์หน้าพระที่นั่งอีกจำนวนห้าคน รวมถึงทหารชั้นดีของเสนาบดีกรมกลาโหม เสนาบดีกรมอาญา เสนาบดีกรมพลเรือนมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ทั้งหมดแล้ว
คนเหล่านี้รวมกันแล้วมีทั้งหมดร้อยกว่าชีวิต ิอวี่ประเมินไว้ว่าความสามารถของเขาก็ถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ หากจะให้สู้กับิเสวียน ขุนพลสร้างแผ่นดิน แล้วก็ผู้หญิงรายอื่นนั้น เขายังสู้ไม่ได้!
ครั้งนี้เป็ครั้งแรกที่ิอวี่รู้สึกได้ว่าพลังความสามารถของเขานั้นอ่อนแอมาก
แม้ดินแดนอสูรว่านโซ่วนั้นจะมีอันตรายรายล้อมเต็มไปหมด แต่ก็ยังมีโอกาสมากมายเช่นกัน หากิอวี่คว้าโอกาสนี้ไว้ได้ เขาก็จะสามารถพลิกโฉมตัวเองใหม่ได้
แล้วตอนนี้ิอวี่ก็ไม่ได้มีเวลาให้คิดทบทวนมากนัก เพราะเหยี่ยวดำหลิงเฟิงมีความเร็วมาก เขาแค่หยุดคิดเพียงครู่มันก็เว้นระยะห่างไปไกลมากแล้ว
ิอวี่ไม่ลังเลใจอีก เขาเริ่มต้นด้วยความเร็วที่สุดเท่าที่มีก็ยังพอจะตามไปทัน
เพราะิอวี่มีััแห่งิญญาเขาถึงตามได้ทันไม่โดยทิ้ง่ แต่ว่าเขาก็ต้องคิดถึงสภาพร่างกายของตัวเองด้วยเหมือนกัน
วันนั้นที่ตำหนักหลงเถิง ตอนที่ิอวี่ได้ยินิเฉินเหยียนพูดว่าให้เดินทางไปดินแดนอสูรว่านโซ่วภายในหนึ่งอาทิตย์พอดี เขายังไม่ได้คิดอะไรมาก เอาแต่ฝึกฝนวิชาและกำลังกายอย่างเดียว ใครจะไปคิดว่าคำว่า “พอดี” มันจะหมายถึงการขี่เหยี่ยวดำหลิงเฟิงไปกันล่ะ!
ิอวี่ไม่สามารถลอยตัวบินตามไปแน่ เพราะมันจะทำให้การเคลื่อนไหวของเขาโดนจับได้ นั่นหมายถึง เขาจำเป็ต้องวิ่งเพื่อตามไปให้ได้ใกล้มากที่สุดเท่านั้น ไม่อย่างนั้นหากช้ากว่าเพียงนิด เกิดดินแดนอสูรว่านโซ่วปิดลง ภายในอีกหนึ่งปีิอวี่ก็จะไม่มีโอกาสอีกเลย
ดังนั้น เขาจึงทำได้เพียงวิ่งเท่านั้น ...
ผ่านไปหนึ่งวันเต็ม ใกล้มืดค่ำแล้ว เหยี่ยวดำหลิงเฟิงยังคงบินอยู่บนท้องฟ้าท่ามกลางแสงจันทร์ ในผืนป่าที่อยู่ไม่ไกลนัก ิอวี่เองก็ยังคงวิ่งตามอย่างเต็มกำลัง
ิอวี่เหนื่อยล้าเป็อย่างมากแต่จำเป็ต้องอดทน ไม่อย่างนั้นเขาจะตามไม่ทัน แล้วก็จะไม่รู้ด้วยว่าน้ำตกเทียนเซียวนั้นตั้งอยู่ที่ใด แล้วก็จะไม่รู้ด้วยว่าดินแดนอสูรว่านโซ่วอยู่ที่ไหน!
ถึงแม้ร่างกายของิอวี่จะเหนื่อยล้ามากแค่ไหน แต่ว่าเขาก็ยังวิ่งไปอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็เหมือนการฝึกไปในตัว!
เพราะร่างกายของิอวี่ได้เปลี่ยนแปลงไปั้แ่เขาฝึกเคล็ดวิชาหยินหยางขั้นสูงจนมีความแข็งแกร่งมากแล้ว ดังนั้น ทุกครั้งที่ิอวี่รู้สึกว่าตัวเองนั้นทนไม่ไหวก็จะกัดฟันแล้วอดทนอีกครั้ง เพื่อทำลายขีดจำกัดของร่างกายเขาอย่างต่อเนื่อง
และในระหว่างนั้น เพราะิอวี่เปิดััแห่งิญญาอยู่ตลอด เขาเลยสามารถคงสมาธิและจิตให้อยู่ในระดับที่สูงได้ สำหรับเขาแล้วมันเหมือนเป็การฝึกฝนระดับจิตใจด้วย!
เหยี่ยวดำหลิงเฟิงที่อยู่ด้านหน้าก็ดูเหมือนจะมีความอ่อนล้าแล้วเหมือนกัน มันค่อยๆ ลดระดับลงพักที่ผืนป่าด้านหน้า ิอวี่ถึงได้หยุดวิ่งแล้วนั่งขัดสมาธิลงกับพื้น จากนั้นก็กินยาจูหยวนตันเข้าไปยี่สิบเม็ดแล้วปรับลมปราณ
หากมีใครมาเห็นบรรยากาศแบบนี้จะต้องใมากแน่
ผู้กล้าที่มีขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่หกระดับกระชากิญญาโดยทั่วไปแล้วหากจะทำการปรับลมปราณ แค่กินยาเม็ดจูหยวนตันแค่สองเม็ดก็จะรู้สึกเ็ปร่างกายแล้ว แต่ิอวี่กลับกินมันลงไปทีเดียวยี่สิบเม็ดเหมือนว่าไม่ต้องใช้เงินเพื่อได้มันมาแล้ว ทั้งๆ ที่นั่นมันมีมูลค่าเกือบสองแสนเหรียญหยกดำเลยนะ ...
แต่ว่าิอวี่ก็ไม่ได้กังวลเื่ที่จะไม่มีเงิน ในฐานะนักร่างอักขระคนหนึ่ง อย่างไรกระเป๋าของเขาก็ปูดหนาอยู่แล้ว
เขาตามอยู่แบบนี้ตลอดทุกวัน และพอตกเย็นเมื่อพลังงานของิอวี่หมดจนแทบจะทุกส่วนของร่างกายเกิดความกระหาย เขาก็จะเอาพลังงานจากยาจูหยวนตันมาชดเชย ิอวี่จะดูดซับมันเข้าไปอย่างบ้าคลั่งจนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่เขา้า
ตอนแรกเริ่มที่เขาวิ่งตามทุกคนนั้นค่อนข้างกินแรงพอสมควร แต่เมื่อเวลาผ่านไปวันแล้ววันเล่าร่างกายของิอวี่ก็แข็งแกร่งขึ้น จนกระทั่งวันที่เจ็ดเขาก็วิ่งตามเหยี่ยวดำหลิงเฟิงได้อย่างไม่รู้สึกเหนื่อยล้าอีก
การเติบโตแบบนี้เรียกได้ว่าน่าทึ่ง
อีกทั้งเพราะการเปิดััแห่งิญญาและใช้พลังจากบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์เป็ระยะเวลานาน พลังจิตและสมาธิของิอวี่เองก็เหมือนได้ฝึกฝนไปด้วยในตัว ซึ่งเขาก็เข้าใกล้กับขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่เจ็ดระดับหลอมความเป็เทพมากขึ้นแล้ว!
เมื่อไปถึงระดับหลอมความเป็เทพได้เมื่อไหร่ กระบวนท่าที่เจ็ดของเคล็ดวิชาหยินหยางขั้นสูงก็จะถูกกระตุ้นออกมา ถึงเวลานั้น ิอวี่เองก็จะสามารถควบคุมมีดบินปี้ลั่วได้อย่างคล่องมือกว่านี้!
ระหว่างการไล่ตามิอวี่ก็ฝึกเท้าแตะเมฆาจนสำเร็จ เขาสามารถพลิกแพลงไปมาในอากาศได้ถึงสามครั้ง!
พริบตาเดียวก็ผ่านไปแล้วกว่าครึ่งเดือน
ในเวลานี้เป็่กลางวัน แดดสาดส่องลงมาอย่างร้อนแรงมาก ิอวี่วิ่งไปตามจุดสีดำบนท้องฟ้าที่แทบจะมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น
สุดลูกหูลูกตาของเขาก็มองเห็นูเาที่เขียวชอุ่ม และได้ยินเสียงน้ำตกดังมาจากสุดทางด้านหน้า
หลังจากที่เปิดััแห่งิญญา ิอวี่ก็มีการมองเห็นที่ไกลมาก และสิ่งที่เขาได้เห็นที่ปลายทางด้านหน้าก็ทำให้เขาตกตะลึง!
สุดปลายตาของิอวี่นั้นมีูเาสูงสามพันเมตร หน้าผามีความกว้างใหญ่มาก ในเวลานี้ บนหน้าผานั้นดั่งมีอสูรร้ายกำลังคำรามและพ่นน้ำลงมาจากบนูเาสูงสามพันเมตรลูกนั้น แค่น้ำตกที่ไหลลงมาก็น่าจะมีพลังความหนักแน่นประมาณหนึ่งล้านล้านตัน หากคนทั่วไปเข้าไปด้านในจะต้องกระดูกแตกหักในทันทีแน่นอน!
ต่อให้เป็ผู้กล้า แต่หากไม่มีร่างกายที่แข็งแกร่งมากก็แทบจะเข้าไปด้านในไม่ได้เลย
ถึงแม้จะอยู่ห่างอีกไกล แต่ิอวี่ก็ได้ยินเสียงน้ำที่ไหลตกลงมาอย่างหนัก เขาััถึงแรงสั่นะเืนั้นได้ ถ้าเข้าใกล้ไปมากกว่านี้ ภาพที่เขาจะได้เห็นนั้นมันจะยิ่งใหญ่กว่านี้แค่ไหน
ไม่ต้องคิดิอวี่ก็รู้ได้ ตรงนั้นมันน่าจะเป็น้ำตกเทียนเซียวตามตำนานอย่างแน่นอน!
“เดิมที น้ำตกเทียนเซียวตั้งอยู่ในพื้นที่มิติเฉพาะ และดินแดนอสูรว่านโซ่วก็อยู่ในน้ำตกเทียนเซียว!”
ิอวี่บ่นพึมพำ และเขาก็เพิ่งจะสังเกตเห็นว่ามีเงาจำนวนมากกำลังมุ่งหน้าไปในน้ำตกเทียนเซียวนั่น เหมือนว่าเพิ่งจะมาถึง
แล้วคนจำนวนมากเหล่านี้ ล้วนไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปเลย!
ิอวี่ปะปนไปกับกลุ่มคนเ่าั้และมุ่งหน้าไปยังน้ำตกเทียนเซียว จนกระทั่งมายืนอยู่ห่างจากน้ำตกประมาณหนึ่งลี้ ิอวี่ถึงััได้ถึงความกว้างใหญ่และความตัวเล็กตัวน้อยของตัวเอง
เสียงน้ำที่ตกลงมาอย่างหนักราวกับเสียงคำรามที่ดังสนั่นหวั่นไหว น้ำหนักที่ตกลงมาอย่างรุนแรงทำให้แผ่นดินสั่นะเืไม่หยุด!
ด้านหน้าน้ำตก มีเงามนุษย์กำลังวิ่งชนเข้าไปกันอย่างบ้าคลั่ง บางคนก็เข้าไปได้อย่างง่ายดาย แต่ก็มีบางคนที่ถูกชนจนกระเด็นล่าถอยออกมาเช่นกัน
ดูท่า หากคิดอยากจะเข้าดินแดนอสูรว่านโซ่ว ด่านทดสอบแรกก็คือน้ำตกเทียนเซียวนี่สินะ
ิอวี่กำลังสังเกตการณ์อยู่ ก็พบว่ามีคนกระเด็นตกลงมาจากน้ำตกเทียนเซียวบริเวณด้านหน้าของเขา
“แย่จริงเชียว ... เฮ้อ”
ชายหนุ่มคนหนึ่งสวมชุดสีเทาที่ในเวลานี้เปียกปอนไปทั้งตัว เอ่ยปากบ่นแล้วก็พยายามจะยืนให้นิ่ง
ิอวี่เห็นเขาน่าสงสารก็เลยไปช่วย
“เอ่อ ... ขอบใจนะน้องชาย” ชายหนุ่มคนนั้นเห็นิอวี่ยื่นมือเข้าช่วยก็เลยเอ่ยปากขอบคุณ
ชายหนุ่มคนนั้นอายุประมาณสิบแปด ร่างกายผอมสูง ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม หน้าตาของเขาดูธรรมดาแต่ว่าพลังฝีมือของเขานั้นไม่ธรรมดาเลย เพราะเขามีอาณาจักรพลังขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่เจ็ดหลอมความเป็เทพในระดับสูงสุด
ที่ผ่านมา ในบรรดาผู้กล้าขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่เจ็ดหลอมความเป็เทพที่ิอวี่เคยพบมา มีแค่หานเฟิงที่อยู่ในเมืองเสวี่ยเยี่ยเท่านั้นซึ่งก็มีอายุยี่สิบกว่าไปแล้ว แต่ชายหนุ่มตรงหน้าคนนี้อายุแค่สิบแปดก็มีระดับพลังขนาดนี้แล้ว
แสดงว่าพลังจิตกับร่างกายของเขาน่าจะหลอมเข้าด้วยกันถึงสามารถทะลวงระดับได้
ิอวี่อดสงสัยไม่ได้ก็เลยเอ่ยปากถามขึ้นมา “พี่ชาย ข้าดูพลังความสามารถของท่านไม่ธรรมดาเลย แต่ทำไมยังไม่สามารถเข้าไปในน้ำตกเทียนเซียวอีกล่ะ?”
ชายหนุ่มคนนั้นพูดอย่างเศร้าใจและส่ายหน้าว่า “เฮ้อ คิดไม่ถึงเลยว่าข้ามีอาณาจักรพลังขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่เจ็ดหลอมความเป็เทพในระดับสูงสุด แต่ลองมาตั้งสองครั้งแล้วยังไม่สำเร็จเลย เกรงว่าคงต้องมีอาณาจักรพลังขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่แปดเท่านั้นกระมัง ถึงทำให้ข้าเข้าไปได้โดยง่าย”
ิอวี่คิดทบทวน เขาประเมินแล้วคิดว่าเขาน่าจะเข้าไปได้ จากนั้นก็พูดคุยกับชายหนุ่มคนนั้นอีกครู่หนึ่งแล้วก็เตรียมตัวเข้าไปยังน้ำตกเทียนเซียว
“ว้าว!”
ในเวลานี้ ชายหนุ่มคนนั้นจู่ๆ ก็ร้องขึ้นมาด้วยความใ แล้วดึงตัวิอวี่ที่อยู่ข้างๆ มองไปยังกลุ่มคนที่อยู่ห่างออกไป จากนั้นก็พูดด้วยความตื่นเต้นว่า “ดูนั่นสิน้องชาย หากข้าดูไม่ผิด ชายหนุ่มที่สวมชุดสีน้ำเงินนั่น น่าจะ ... น่าจะเป็องค์ชายเก้าิเสวียนนะ!”
“เ้าดูลมปราณที่ตามมาด้านหลังนั่นสิ ดูจากชุดพวกนั้นแล้ว นั่นมัน! ขุนพลสร้างแผ่นดิน องครักษ์หน้าพระที่นั่ง แล้วก็ตระกูลใหญ่เ่าั้ .... นี่มันกลุ่มนักล่าสมบัติหรือเปล่าเนี่ย!”
ชายหนุ่มไม่รู้ว่าพวกิเสวียน้ามาล่าหัวใจอสูรระดับสิบ เขาแค่คิดว่าผู้กล้าของราชสำนักมาเพื่อฝึกวิชาและล่าสมบัติเท่านั้น
“ ... เ้าเบาเสียงหน่อยสิ”
ิอวี่ไม่ได้โต้ตอบ เขาเห็นพวกิเสวียนนานแล้ว ถ้ารู้อย่างนี้เขาคงหลบไปให้เร็ว เพราะพอชายหนุ่มคนนี้ส่งเสียงขึ้นมาเขาก็กลัวมากว่าจะโดนจับได้
ชายหนุ่มมองดูอยู่พักหนึ่งก็อดสงสัยขึ้นมาไม่ได้ “ได้ยินมาว่าเมื่ออาทิตย์ก่อนในงานประลองยุทธ์ของราชสำนัก คนที่เคยได้ชื่อว่าคนไม่เอาไหนอย่างองค์ชายสิบเจ็ดได้รับชัยชนะในงานประลองยุทธ์ ตามหลักแล้วการฝึกแบบนี้เป็เขามากกว่าที่ควรมา แต่เหมือนว่า ... เขาจะไม่ได้อยู่ในขบวนนะ น่าเสียดายจัง”