“เมิ่งเชวี่ยไป๋ าาหน้าใหม่ของปีนี้ นายน่าจะเคยได้ยินชื่อใช่ไหม? หลังจากภาพยนตร์่ฤดูร้อนของเขาโด่งดังขึ้นมา สื่อและแฟนคลับต่างก็สนใจพัฒนาการในอนาคตของเขามาก ถ้าพวกนายสามารถแสดงร่วมกันได้อย่างราบรื่น หนังเื่นี้ต้องดังะเิแน่นอน”
“พี่คิดว่าการแสดงของเขาเป็ยังไงบ้าง?” เมื่อได้ยินชื่อของเมิ่งเชวี่ยไป๋ ฉีลั่วอิ่งก็นึกถึงเื่ที่บังเอิญเจอกันในห้องน้ำของงานประกาศรางวัล และเื่ที่มีคนบอกว่าทักษะการแสดงของเขาสู้เมิ่งเชวี่ยไป๋ไม่ได้ขึ้นมาทันที
“ไม่เลวเลย! หน้าตาก็ดีแล้วยังมีทักษะการแสดงอีก อนาคตไกลแน่”
ฉีลั่วอิ่งคิดไม่ถึงว่าเซวียข่ายซินจะประเมินเมิ่งเชวี่ยไป๋ไว้สูงขนาดนี้ จึงรู้สึกขัดใจและตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ไม่เห็นด้วยเล็กน้อย “ทักษะการแสดงของเมิ่งเชวี่ยไป๋ดีมากเลยเหรอ?”
เซวียข่ายซินรู้สึกได้ว่าฉีลั่วอิ่งมีความคิดบางอย่างเกี่ยวกับเมิ่งเชวี่ยไป๋ จึงรีบร้อนพูดให้กำลังใจ “นี่เป็ความคิดของฉันล้วนๆ เลย แต่ฉันไม่ได้เรียนการแสดงอาจจะมองได้ไม่ละเอียดพอ ถ้านายอยากรู้ก็รับแสดงเื่นี้สิ จะได้ลองเทียบฝีมือการแสดงกับเขา”
เทียบฝีมือการแสดงกับเมิ่งเชวี่ยไป๋?
พอเป็เหตุผลนี้ จู่ๆ ฉีลั่วอิ่งก็รู้สึกมีแรงดึงดูดขึ้นมาเล็กน้อย
เขาจะทำให้ผู้ชมรู้ว่าทักษะการแสดงของเขาไม่มีทางด้อยไปกว่าหน้าใหม่ที่เพิ่งโผล่ขึ้นมา เขาแสดงได้ดีกว่านั้นอีก!
“ถ้าผมอ่านบทเสร็จแล้วจะติดต่อพี่ไปอีกครั้งนะ”
“โอเค” ท่าทางของฉีลั่วอิ่งผ่อนคลายลง เซวียข่ายซินรู้ว่าตราบใดที่บทไม่แย่ฉีลั่วอิ่งก็ตอบตกลงไปแล้วแปดสิบเปอร์เซ็นต์ เขาจึงไม่ได้เร่งเอาคำตอบในทันที จากประสบการณ์ที่ผ่านมา บางครั้งการเร่งก็จะได้ผลลัพธ์ที่ตรงกันข้าม
“ถ้าอย่างนั้นพวกเราไปก่อนนะ” เซวียข่ายซินลุกขึ้นยืน แล้วหันไปพูดกับอาโย่วที่เพิ่งค้นห้องครัวและตู้ในห้องนั่งเล่นทั้งหมดเสร็จ “อาโย่ว ไปได้แล้ว อ้อ! เอาไอศกรีมแล้วก็มันฝรั่งทอดสองถุงไปด้วย!”
มันฝรั่งทอดคือสิ่งที่อาโย่วหาเจอจากส่วนลึกของตู้กับข้าว
“ไอศกรีมยี่ห้อนี้แพงมากเลยนะ! เอาไปได้จริงๆ เหรอครับ?”
“ได้สิ ฉีเกอของนายไม่อยากกินหรอก” เซวียข่ายซินหันกลับมายิ้มให้ฉีลั่วอิ่ง “ถูกไหม?”
ฉีลั่วอิ่งรู้ว่าอีกไม่กี่วันก็น่าจะต้องเข้ากองถ่ายแล้ว จึงตอบอย่างใจกว้าง “ถ้านายไม่รังเกียจก็เอาไปเถอะ”
“ขอบคุณครับฉีเกอ!”
หลังจากเซวียข่ายซินและอาโย่วออกไปได้สิบนาที ฉีลั่วอิ่งก็ได้รับข้อความ
อาโย่ว : “ฉีเกอ ผมไม่ได้แตะต้องบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในตู้ด้านหลังห้องนั่งเล่น แต่ว่าเพื่อสุขภาพของพี่ กินน้อยๆ หน่อยก็ดีนะ”
ฉีลั่วอิ่งยิ้ม ก่อนจะพิมพ์ข้อความเพียงไม่กี่คำลงไปแล้วกดส่ง
ฉีลั่วอิ่ง : “รู้แล้ว ขอบใจ”
ฉีลั่วอิ่งหันไปดูเวลาก็พบว่าเกือบเที่ยงแล้ว เขาเดินเข้าไปในห้องครัว กินดอกกะหล่ำคู่กับทูน่าต้มที่ราดด้วยน้ำสลัดวินิการ์เป็มื้อกลางวัน หลังจากกินเสร็จเขาก็เริ่มอ่านบทเื่《เข้างานต้องตั้งใจ》อย่างจริงจัง
ภาพยนตร์เื่นี้เป็แนวรักโรแมนติกในที่ทำงานของลูกน้องผู้แอบหลงรักเ้านาย หลังจากร่วมกันฝ่าฟันอุปสรรคในการทำงานมาหลายครั้ง ระยะห่างระหว่างทั้งสองคนก็ขยับเข้ามาใกล้กันทีละก้าว บทของเขาคือเ้านายหัวกะทิ เป็คนจริงจัง มีความรับผิดชอบ ค่อนข้างเ็า และคลั่งความสะอาด ในตอนแรกจะปฏิเสธการสารภาพรักของลูกน้อง แต่ภายหลังก็เริ่มประทับใจแล้วค่อยๆ ยอมเปิดใจให้
ฉีลั่วอิ่งแอบคิดว่าเมิ่งเชวี่ยไป๋เหมาะกับบทบาทนี้เสียมากกว่า อย่างไรแล้วการที่คาแรกเตอร์ตัวละครคล้ายกับนิสัยดั้งเดิมของนักแสดง ก็จะแสดงออกมาได้ง่ายกว่า
ฉีลั่วอิ่งอ่านบทบาทของเมิ่งเชวี่ยไป๋ต่อ──เด็กใหม่เพิ่งเข้าสังคม เต็มไปด้วยชีวิตชีวา และค่อนข้างหุนหันพลันแล่น ครั้งหนึ่งเคยประเมินสถานการณ์ผิดพลาดจนสร้างความเสียหายต่อบริษัท ในตอนแรกเขาไม่เข้าใจเ้านายของเขา แต่หลังจากอีกฝ่ายช่วยแก้ไขวิกฤตการณ์ที่เขาก่อขึ้นมาได้ ก็เปลี่ยนทัศนคติไปเป็ชื่นชมและเกิดเป็ความรักขึ้นมา
“ไม่เหมือนเมิ่งเชวี่ยไป๋สักนิดเลยนี่?”
ฉีลั่วอิ่งยังคงสงสัยในทักษะการแสดงของเมิ่งเชวี่ยไป๋ เพราะในเื่《ฮิปสเตอร์ของเธอและฉัน》เขารับบทเป็คนเคร่งขรึมเ็า ซึ่งเข้ากับบุคลิกเดิมเป็อย่างดี แต่ตอนนี้เมิ่งเชวี่ยไป๋กำลังจะแสดงบทบาทที่แตกต่างจากตัวตนของเขาอย่างสิ้นเชิงงั้นหรือ?
“น่าสนใจดีนี่”
เป็นักแสดงมืออาชีพก็ควรแสดงให้ได้ทุกบทบาท การที่เมิ่งเชวี่ยไป๋เต็มใจท้าทายตัวเองนั้นทำให้ฉีลั่วอิ่งรู้สึกชื่นชมและตั้งตารอคอย เขาอยากเห็นว่าเทพบุตรแสนเ็าในสายตาของแฟนคลับคนนั้น จะตีความคาแรกเตอร์แบบนี้ออกมาอย่างไร
ฉีลั่วอิ่งยกโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อจะบอกเซวียข่ายซินว่าตัวเองตัดสินใจแล้ว แต่กลับถูกแอปโซเชียลดึงดูดความสนใจ และเปลี่ยนไปใช้บัญชีสุ่ยเก้ออี้ฟาง
รูปโปรไฟล์ของบัญชีสุ่ยเก้ออี้ฟางเป็รูปคนสีเทาที่ระบบตั้งค่ามาให้ ดูแล้วเหมือนบัญชีใช้แล้วทิ้งมาก
“ใส่รูปไปจะดีกว่าหรือเปล่านะ?”
แต่ว่าจะใส่รูปอะไรดีล่ะ?
ฉีลั่วอิ่งกดเข้าไปในอู้รู่ฉีถูแล้วพบว่า รูปโปรไฟล์เกินกว่าครึ่งของสมาชิกในกลุ่มล้วนเป็รูปของเขา
“แฟนคลับจะใช้รูปไอดอลเหรอ?” ถ้าอย่างนั้นเขาก็สามารถใส่รูปตัวเองได้อย่างเปิดเผยเลยใช่ไหม? แบบนี้น่าจะไม่เหมือนแอนตี้แล้วนะ?
----------
ลั่ว : “ฉีฉีนายเปลี่ยนรูปช้าไปแล้ว มันสายไปแล้ว!”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้