หยางไท่ิรอจนหลงจู๊เหวยฉินนำน้ำชาและของว่าง วางลงบนโต๊ะและกลับออกไปเสียก่อน จึงได้เริ่มสนทนากับซูอันโดยมีฟงเฉิงฮ่าวกับเยี่ยนหลิง นั่งฟังการสนทนาของทั้งสองคน
“รบกวนคุณชายพูดธุระของท่านมาเถิด ข้ากับพี่สาวยังมีงานต้องทำอีกมาก”
หยางไท่ิมองซูอันนิ่ง ๆ อย่างชอบใจกับท่าทางของนาง จากนั้นจึงได้พูดเื่สำคัญกับนาง “ขออภัยที่ทำให้คุณหนูทั้งสองใ ข้ามีนามว่าหยางไท่ิส่วนสหายของข้า เขามีนามว่าฟงเฉิงฮ่าว บอกคุณหนูทั้งสองตามตรงว่า พวกข้าได้รับภารกิจจากราชสำนัก ติดตามสืบข่าวการหายตัวไปของช่างทอผ้าอย่างเงียบ ๆ”
“แล้วอย่างไรต่อหรือเ้าคะ..?”
“สายของข้าส่งข่าวรายงานว่า สถานที่ที่ช่างทอผ้าหายไปมากที่สุดอยู่ที่เมืองผู่เถียน เมืองถู่หลานและเมืองผู่หยาง จนถึงตอนนี้ยังไม่รู้ว่าผู้อยู่เื้ั คือคนในแคว้นเป่ยชางหรือแคว้นใกล้เคียง” หยางไท่ิพูดโดยไม่หลบสายตาที่มองซูอันอยู่ตลอดเวลา
ฟงเฉิงฮ่าวมีช่องให้ได้เอ่ยพูดกับเขาบ้างแล้ว “ถูกต้องแล้วคุณหนูรอง ช่างทอผ้าที่หายตัวไปล้วนมีฝีมือดีทั้งสิ้น ที่สำคัญยังไม่มีใครรู้ว่าคนที่ทำเื่นี้ได้ประโยชน์อันใด”
เยี่ยนหลิงยิ่งตระหนกใมากกว่าเดิม เมื่อนางคิดถึงช่างทอในหมู่บ้านซานอี๋ “อันเอ๋อร์ถ้ามีคนร้ายพวกนั้นจริง แล้วชาวบ้านที่ทำงานให้พวกเราจะเป็อันตรายหรือไม่”
ซูอันยังไม่ปักใจเชื่อจนกว่านางจะมั่นใจ ว่าบุรุษสองคนตรงหน้าของนางเป็คนของราชสำนักจริง ๆ จึงไม่ได้ตอบคำถามของเยี่ยนหลิง แต่กลับถามเอาความจริงจากหยางไท่ิ “พวกท่านสองคนมีหลักฐานอันใดมายืนยัน ว่าเป็คนจากราชสำนักเพื่อมาสืบคดีอย่างลับ ๆ แล้วเหตุใดไม่ไปปรึกษาหารือกับท่านเ้าเมือง แต่กลับมาขอพบข้ากับพี่สาวเสียได้เล่า?”
ช่างเป็สตรีที่ฉลาดเฉลียวนัก ระวังตัวทุกย่างก้าวไม่ยอมเชื่ออันใดง่าย ๆ
หยางไท่ิล้วงของบางอย่างออกมาจากหน้าอก เขายื่นไปตรงหน้าให้ซูอันได้ดูชัด ๆ ว่าตนเองกับสหาย มิใช่พวกคนร้ายอย่างที่นางคิด ฟงเฉิงฮ่าวเห็นสหายแสดงความจริงใจ เขาจึงทำตามด้วยอีกคน
กึก “สิ่งนี้คงพอจะช่วยยืนยันกับคุณหนูรองได้กระมัง ว่าข้ากับสหายมิได้โกหกแต่อย่างใด”
“แล้วจุดประสงค์ที่มาพบข้าในวันนี้ พวกท่าน้าสิ่งใดกันแน่เ้าคะ” ซูอันพอจะได้เรียนรู้เื่ตราสัญลักษณ์ของขุนนางมาบ้าง ยามที่นางไปเยี่ยมคุณย่าและมักจะได้ฟังเื่ราวที่เล่าต่อกันมา
เมื่อพูดมาถึงเื่นี้สีหน้าของหยางไท่ิ เปลี่ยนเป็จริงจังมากกว่าเดิม “พวกข้ามิได้้าสิ่งใดจากคุณหนูรอง แต่พอได้เห็นสินค้าภายในร้านของท่านแล้ว จึงอยากเตือนให้ท่านระวังตัวไว้ั้แ่เนิ่น ๆ ดูแลช่างทอผ้าและช่างปักผ้าของท่านให้ดี หากคนร้ายที่ปะปนมาเป็ลูกค้าได้เห็นความงดงาม ที่อยู่บนผ้าในร้านของท่าน พวกมันไม่มีทางอยู่เฉยแน่”
ซูอันพอจะนึกสถานการณ์นี้ได้ ั้แ่ที่หยางไท่ิพูดถึงการหายตัวไปของช่างทอผ้าแล้ว “ขอบคุณคุณชายหยางและคุณชายฟงมากเ้าค่ะ ที่ช่วยเตือนข้าเกี่ยวกับเื่นี้ เพื่อเป็การขอบคุณในความหวังดี ข้าจะนำผ้าปักมาให้พวกท่านได้เลือก คิดเสียว่าเป็ของที่ระลึกจากตระกูลจินก็แล้วกันเ้าค่ะ”
“เช่นนั้นอันเอ๋อร์เ้าพูดคุยกับคุณชายทั้งสองไปก่อนนะ ประเดี๋ยวพี่จะนำผ้าปักขึ้นมาให้เอง” เยี่ยนหลิงคิดว่าการขอบคุณ ด้วยการมอบเป็ผ้าปักของร้านให้ก็ดีไม่น้อย หากคุณชายสูงศักดิ์ทั้งสองคนนำไปใช้ คงมีคนในเมืองหลวงสนใจและอยากได้บ้างเป็แน่
ฟงเฉิงฮ่าวได้โอกาสจึงออกตัวขอไปช่วยเยี่ยนหลิงถือผ้าปัก “อาิเ้าพูดคุยกับคุณหนูรองเื่คนร้ายต่อเถิด ข้าจะไปช่วยคุณหนูใหญ่ถือผ้าปักเอง”
“ไม่เป็ไรเ้าค่ะคุณชายฟง ข้าถือขึ้นมาเองมิได้หนักอันใดเลย” เยี่ยนหลิงพยายามเอ่ยห้ามด้วยเกรงใจ เพราะถือว่าฟงเฉิงฮ่าวเป็แขกของร้านตนเอง
มีโอกาสได้อยู่ใกล้ชิดกับสตรีที่ตนพึงใจ ไม่มีทางที่ฟงเฉิงฮ่าวจะปล่อยให้หลุดมือไปแน่ “คุณหนูใหญ่อย่าได้เกรงใจ ข้าอยากเลือกผ้าปักก่อนสหายน่ะ”
เยี่ยนหลิงไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไร ได้แต่เดินนำฟงเฉิงฮ่าวลงไปยังชั้นล่าง เพื่อคัดเลือกผ้าปักที่เพิ่งนำมาจากจวน ซึ่งอยู่ในห้องเก็บของด้านหลังร้านค้า
ซูอันมิได้ตอบรับอันใด นางลอบสังเกตท่าทางของฟงเฉิงฮ่าว ที่แสดงออกกับพี่สาวของนางอยู่เงียบ ๆ ั้แ่ย้ายมาที่เมืองผู่เถียน ใช่ว่าพี่สาวของนางจะไม่เป็ที่สะดุดตาของบุรุษ แต่เป็เพราะพี่สาวมักจะอยู่ในจวนเพื่อปักผ้ามากกว่า บุรุษในเมืองจึงไม่ค่อยมีโอกาสเข้ามาทำความรู้จัก
ขณะที่ซูอันต้อนรับแขกจากเมืองหลวงอยู่นั้น ทางด้านหมู่บ้านซานอี๋กำลังเผชิญการมาเยือนของตระกูลกู้ ซึ่งพวกเขาหายไปนานั้แ่ถูกซูอันสั่งสอน ครั้งนี้กู้ต้าหลางจึงมาพร้อมบิดาและลูกน้องอีกยี่สิบคน เขา้าแก้แค้นและสั่งสอนคนในหมู่บ้านซานอี๋แห่งนี้
เจียนฉางและจ้าวถางที่ใช้ต้นไม้สูง เป็สถานที่ในการเฝ้าระวังคนแปลกหน้า เมื่อมองไปทางเข้าหมู่บ้านและเห็นกลุ่มคนจำนวนมาก โดยหนึ่งในนั้นที่คุ้นหน้าคุ้นตามากที่สุด ย่อมเป็กู้ต้าหลางที่เคยให้คนทำร้ายพวกตน
“แย่แล้วจ้าวถาง! นั่นมันไอ้คนเห็นแก่ตัวตระกูลกู้มิใช่หรือ หายหัวไปนานจนข้าเกือบจะลืมไปแล้วเชียว”
จ้าวถางย่อมจำได้ดีเพราะยามนั้นเขาอ่อนแอกว่าใคร “เจียนฉางหรือว่าที่กู้ต้าหลางมาวันนี้ เพราะ้าแก้แค้นอย่างที่เคยพูดไว้!”
“ไม่ได้การแล้วพวกเราต้องแยกกันทำงาน จ้าวถางเ้ารีบกลับไปรายงานคุณหนูรองให้เร็วที่สุด และพาพวกอวี้เหลียนมาช่วยชาวบ้าน ส่วนข้าจะไปบอกหัวหน้าหมู่บ้าน เพื่อประกาศเตือนชาวบ้านให้หาที่ซ่อนตัว หากพวกมันลงมือข้าจะรับมือไปพลางก่อน”
“ได้! เ้าระวังตัวด้วยข้าจะรีบไปรีบมา”
หลังจากแบ่งหน้าที่กันเสร็จ จ้าวถางแยกไปนำม้าที่ผูกไว้ข้างหมู่บ้าน ก่อนจะควบขี่มันมุ่งหน้ากลับเข้าเมืองผู่เถียนอย่างรวดเร็ว ส่วนเจียนฉางเองรีบไปพบเลี่ยงหยาง เพื่อประกาศเื่ที่ตระกู้กำลังจะเข้ามาในหมู่บ้าน โดยไม่ลืมบอกให้ชาวบ้านหาที่หลบซ่อนตัวให้ดี
เมื่อข่าวนี้กระจายกันไปปากต่อปาก เหล่าบุรุษในหมู่บ้านจึงถืออาวุธที่หาได้ไว้ในมือ และให้คนในครอบครัวที่เป็สตรี รวมถึงเด็กกับคนชราหลบอยู่ในบ้าน ส่วนพวกเขามารวมกันกับหัวหน้าหมู่บ้าน ที่มีเจียนฉางยืนถือดาบอยู่ด้านหน้า
ด้วยระยะทางจากหมู่บ้านซานอี๋ถึงตัวเมืองผู่เถียน ใช้เวลาไม่นานกับการขี่ม้าของจ้าวถาง ไม่ถึงหนึ่งเค่อเขาก็มาถึงร้านค้า เนื่องจากเห็นว่ามีลูกค้าอยู่ภายในร้านจำนวนมาก จ้าวถางจึงเลือกที่ใช้วรยุทธ์ะโจากหลังม้าถีบตนเองขึ้นไปชั้นบน จนเกือบทำให้เว่ยโฉวและพวกอู๋ซวนเข้าใจ
ยู้ววว! พรึ่บ! ตุบ
“หยุดอยู่ตรงนั้น! เ้าเป็ใครถึงได้ขึ้นมาบนนี้โดยไม่แจ้งกับหลงจู๊”
เว่ยโฉวที่วิ่งออกมาดักทางพร้อม ๆ กับอู๋ซวน เมื่อเห็นว่าเป็จ้าวถางจึงรีบยกมือห้ามอู๋ซวนไว้ได้ทัน “พี่ชายนี่เป็สหายของข้าเอง ท่านเก็บดาบเข้าที่เดิมเถิด”
จ้าวถางไม่สนใจว่าจะถูกผู้ใดชักดาบมาชี้หน้าของตน เขารีบถามถึงซูอันกับเว่ยโฉวด้วยความรีบร้อน “เว่ยโฉวคุณหนูรองอยู่ด้านในหรือไม่ ข้ามีเื่ด่วนต้องรายงานให้คุณหนูทราบ"
“เกิดเื่ที่หมู่บ้านงั้นรึ! คุณหนูรองอยู่ด้านในห้องทำงานเ้ารีบเข้าไปรายงานเร็วเข้า” เว่ยโฉวไม่กล้ารั้งสหายไว้อีก
อู๋ซวนรวมถึงอู๋ซูและไห่หยวนมองตามหลังคนของซูอัน พวกเขาทั้งสามล้วนมีวรยุทธ์ที่เก่งกาจ แต่ไม่คิดว่าคนติดตามของคุณหนูตระกูลจิน ที่อ่อนวัยกว่าหลายปีกลับมีวรยุทธ์ใกล้เคียงพวกเขาได้
เว่ยโฉวพาจ้าวถางมาถึงห้องทำงานของซูอัน ทำเอาเป่าโยวกับจงชิ่งแปลกใจที่จ้าวถางปรากฏตัวที่นี่ แต่เว่ยโฉวไม่เปิดโอกาสให้ใครเอ่ยถาม เขาส่งเสียงรายงานต่อซูอันทันที “คุณหนูรองขอรับ จ้าวถางมีเื่เร่งด่วน้ารายงานท่านขอรับ”
ขวับ! “ให้จ้าวถางเข้ามาเถิดรวมถึงพวกเ้าด้วย” ซูอันที่นั่งมองบุรุษหน้าตาหล่อเหลาเลือกผ้าปัก เงยหน้าไปทางประตูพร้อมอนุญาต เมื่อได้ยินเสียงคนของนางเอ่ยรายงาน
แอ๊ด “คุณหนูรองเกิดเื่ที่หมู่บ้านแล้วขอรับ!”
“เกิดเื่อันใดขึ้นพูดมาเร็วเข้า” ซูอันแอบคิดให้เป็เื่อื่นที่มิใช่การลักพาตัวช่างทอผ้า
จ้าวถางค้อมตัวเล็กน้อยก่อนจะบอกเล่าสิ่งที่ตนเห็น “เรียนคุณหนูรองข้ากับเจียนฉางสังเกตการณ์จากบนต้นไม้ มองเห็นคุณชายกู้นำบ่าวไพร่มามากกว่ายี่สิบคน คาดว่าต้องมาแก้แค้นเื่เมื่อหลายเดือนก่อนขอรับ เจียนฉางอาสาไปเตือนชาวบ้านและอยู่ปกป้องทุกคนส่วนข้าเร่งขี่ม้ากลับมารายงานคุณหนูขอรับ”
สีหน้าของซูอันเปลี่ยนไปทันที เมื่อได้ยินว่าใครที่กำลังพาคนมาทำร้ายชาวบ้าน ซึ่งยามนี้เป็ลูกจ้างของนาง ในเมื่อคำเตือนที่เคยบอกไว้ไม่เป็ผล เช่นนั้นนางควรลงมืออย่างจริงจัง จะได้ไม่มีครั้งต่อไปสำหรับตระกูลกู้อีก
เยี่ยนหลิงที่รู้ว่าน้องสาวจะทำอันใด ด้วยความเป็ห่วงนางไม่ยอมอยู่รอที่ร้านแน่ “อันเอ๋อร์พี่จะไปกับเ้าด้วย อย่าบอกให้พี่รอเ้าอยู่ที่ร้านเลยนะ”
ซูอันมองเห็นความห่วงใยจากดวงตาของพี่สาว คำพูดที่เตรียมไว้จึงต้องเปลี่ยนตาม “พี่หญิงท่านไปกับข้านั้นย่อมได้ แต่ท่านต้องอยู่กับเว่ยโฉวเท่านั้น อย่าเป็ห่วงข้าจนทำให้ตนเองเป็ที่สะดุดตาของพวกมัน ท่านทำได้หรือไม่เ้าคะ”
“พี่ทำได้ ๆ”
ซูอันพยักหน้าให้พี่สาว แต่ขณะที่นางกำลังจะสั่งการกับคนของตน กลับมีเสียงที่เรียบนิ่งแต่มีพลังพูดกับนางเสียก่อน
“คุณหนูรองข้ากับอาฮ่าวขอติดตามท่านไปด้วยก็แล้วกัน เผื่อว่าคนกลุ่มนั้นจะมีเบาะแสเกี่ยวกับเื่ที่ข้ากำลังทำอยู่ อีกอย่างมีกำลังจากพวกข้าสองคนไปเพิ่ม ย่อมรับมือได้ดีกว่ามิใช่หรือ” เพราะแอบเป็ห่วงเด็กดื้อที่เขาสนใจ จึงได้นำเื่งานเข้ามาเป็ข้ออ้าง เพื่อได้มี่เวลาที่อยู่กับนางมากขึ้น
ฟงเฉิงฮ่าวเองก็สนับสนุนความคิดของสหายเช่นกัน “ใช่แล้วคุณหนูรองอย่างน้อยข้ากับอาิและคนติดตาม ก็มีวรยุทธ์พอตัวย่อมช่วยเหลือท่านได้อีกแรงนะ”
ซูอันไม่คิดปฏิเสธเพราะเป็ความจริง ที่คนของนางมีน้อยกว่ามาก แม้จะมีวรยุทธ์และอาวุธในมือ แต่ถ้าถูกคนจำนวนมากรุมทุบตี ก็ใช่ว่าจะไม่าเ็เสียเมื่อไหร่ “ขอบคุณพวกท่านทั้งสองมากรบกวนด้วยนะเ้าคะ”
เพียงแค่ซูอันไม่คิดปฏิเสธหยางไท่ิถึงกับยกยิ้ม ที่เด็กดื้อของเขายังรู้จักถ่อมตนไม่อวดเก่งจนเกินไป “อู๋ซวน /อู๋ซู พวกเ้าไปนำม้ามาที่นี่ พวกเราจะขี่ม้าไปยังหมู่บ้านนั้นกับคุณหนูรอง ไม่อาจใช้รถม้าในสถานการณ์เช่นนี้ได้”
“รับทราบขอรับคุณชาย”
อู๋ซวนกับอู๋ซูและไห่หยวนเร่งกลับไปยังโรงเตี๊ยม เพื่อนำม้าที่ขี่มาจากเมืองหลวง รวมกับม้าของโรงเตี๊ยมที่มีไว้ให้ลูกค้าได้เช่า ทั้งสามคนช่วยกันนำม้ามาส่งให้เ้านาย ที่ยืนรอพร้อมกับสตรีที่งดงามอีกสองคน ซึ่งมีสีหน้าเคร่งเครียดและตื่นกลัวด้านหน้าร้านผ้า
เื่ขี่ม้ามิใช่เื่ยากที่คนอย่าวซูอันจะทำไม่ได้ เมื่อขึ้นไปอยู่บนหลังด้วยท่วงท่าสง่างาม จึงได้รับเอาเยี่ยนหลิงขึ้นไปนั่งกับนาง โดยซูอันไม่ลืมฝากเื่นี้กับหลงจู๊เหวยฉิน ให้บอกกับอวี้เหลียนหากเขากลับมาแล้วไม่เจอนาง
ภายหลังสั่งการกับหลงจู๊เสร็จ ขบวนม้าของคนทั้งสิบจึงเร่งออกจากเมืองไปด้วยความเร็ว ส่วนในใจก็ได้แต่ภาวนาไม่ให้มีคนถูกทำร้ายจนถึงชีวิตก็พอ แต่เพียงแค่ทำร้ายชาวบ้านจนได้รับาเ็ ใช่ว่าซูอันจะปล่อยให้ตระกูลกู้ได้เชิดหน้าชูคออยู่บนโลกนี้อีกเสียเมื่อไหร่
