“เวยเวยจำไว้นะไปร้านเสื้อผ้าที่เราผ่านมาเมื่อกี้แล้วซื้อชุดกีฬาตัวนั้นจากนั้นก็ออกไปจากห้างด้วยอีกทางออกหนึ่ง รีบเรียกรถกลับโรงเรียนไป” กัวไฮว่พูดเบาๆ ด้วยความตระหนก “ฉันจะไปหาหมอนั่นที่ยิงปืนใส่พวกเรา”
“เรา...เราไปด้วยกันเถอะ เขาอาจจะอยากทำฉันก็ได้” มู่หรงเวยเวยพูดด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก“ขอฉันโทรศัพท์ก่อนแล้วเราไปด้วยกัน”
“ยายหนูเื่แค่นี้คุณหนูตระกูลมู่หรงไม่ต้องใหรอกเธอโทรไปก็ไม่ต้องซีเรียสหรอกไม่รู้ว่าจะมีใครเอาไปทำข่าวหรือเปล่าเชื่อฉันเถอะให้ฉันไปจัดการเองดีกว่า”พูดจบกัวไฮว่ก็จูบที่หน้าผากมู่หรงเวยเวยทีหนึ่ง
“รับปากฉันนะ อย่าาเ็” มู่หรงเวยเวยพูดกับกัวไฮว่เบาๆ
“วางใจเถอะมือปืนเมื่อกี้หลบไปแล้วล่ะ อย่าลืมสิแฟนของเธอมีพลังพิเศษนะ“พูดจบกัวไฮว่ก็หมุนตัวเดินเข้าไปในศูนย์การค้า
“ตระกูลข่ง ดี ดีมาก” มู่หรงเวยเวยพูดเสียงเบา
“ชั้นไหน” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ กับชายวัยกลางคนใส่ชุดไปรเวทที่เพิ่งขึ้นลิฟต์ไป
“ชั้นเจ็ด ขอบใจ” ชายผู้นั้นมองกัวไฮว่แล้วยิ้มตอบ
“ถึงชั้นเจ็ดแล้ว” ลิฟต์ลงมาไวมากจากชั้นสิบแปดมาถึงชั้นเจ็ดประมาณไม่กี่วินาทีในขณะที่ลิฟต์เปิดนั่นเองชายวัยกลางคนก็หันหน้ามามองกัวไฮว่อีกรอบ
“ทำไมเป็คุณอีกแล้วล่ะ ทำไมไม่ขึ้นลิฟต์ออกกำลังกายเหรอ” หน้าประตูลิฟต์ชั้นสี่กัวไฮว่ยืนหันหลังกับชายวัยกลางคนแล้วพูดขึ้นยิ้มๆ“ไม่ลองอีกเหรอ เอาปืนพกที่เอวคุณมาลองอีกสักช็อตสิเมื่อกี้แม่นมากเลยนะ”
“นี่ไอ้น้องแกหมายความว่าไง จำคนผิดหรือเปล่า” ชายวัยกลางคนพูดยิ้มๆมือััเข้าที่ปืนพกของตัวเองตามสัญชาตญาณ
“ปัง!” ในขณะที่เอาปืนพกออกมานั่นเอง กระบี่เฟยเจี้ยนอันประณีตในมือของกัวไฮว่ก็ปัดปืนพกอินทรีลอยออกไป
“หลิวเฟยนามแฝงจื่อต้านจากสมาพันธ์กุ่ยซื่อ อายุยี่สิบสามปีลงมือมาแล้วเจ็ดสิบสองครั้ง ความผิดพลาดเป็ศูนย์ คราวนี้แกทำพลาดแล้วล่ะ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“แก...แกเป็ใครกันแน่ รู้ข้อมูลของฉันได้ยังไง” มือปืนพูดเสียงดังข้อมูลนักฆ่าของสมาพันธ์กุ่ยซื่อทุกคนล้วนแต่เป็ความลับสองคนที่ร่วมมือกันก็รู้แค่รหัสของอีกฝ่ายเท่านั้นไม่มีทางที่จะมีคนรู้ชื่อแซ่จริงๆ ของพวกเขาได้
“แกเตรียมจะฆ่าฉันแล้ว หรือว่าฉันจะรู้ชื่อแกหน่อยไม่ได้แต่พวกแกนี่มันน่าผิดหวังจริงๆ เลย ในสายตาของพวกแกชีวิตฉันมีค่าแค่สิบล้านเอง”กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“บอกมาเถอะแกจะเอายังไง ฉันยอมแพ้” มือปืนพูดเสียงดัง
“หวังเฟยเฟย อายุยี่สิบเอ็ดปี สมาชิกทีมเต้นเยาวชนเมืองอู่เฉิงแกรู้จักใช่ไหม” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“ไอ้หนูจะทำอะไรก็บอกมาตรงๆ อย่าเอาเื่ผู้หญิงมาพูด” จื่อต้านแทบจะเป็บ้าในฐานะมือปืนเขารู้ว่าเขาอาจตายเมื่อไหร่ก็ได้แต่เขาทำผิดในสิ่งที่นักฆ่าไม่ควรทำ ะเืใจจริงๆ
“ไปบอกบอสใหญ่สมาพันธ์กุ่ยซื่อนะว่าชีวิตแกติดค้างหนี้ฉันอยู่ให้พวกเขาเอาเงินในบัตรนี่ไปสิบล้าน อีกอย่างให้เขาไปบอกคนตระกูลข่งด้วยว่าต่อได้แต่บัญชีครั้งหน้าไม่คิดง่ายแบบนี้แล้วนะ” พูดจบกัวไฮว่ก็โบกมือกระบี่เฟยเจี้ยนกลับเข้ามาในมืออีกครั้งตัวเองเดินออกไปนอกลิฟต์อย่างไม่สนใจใยดี
ประมาณสิบนาทีกัวไฮว่ขวางเด็กผู้หญิงแต่งตัวตามกระแสคนหนึ่งอยู่ในตรอก
“นามแฝงเลี่ยโก่ว ชื่อหลิงซวง อายุสิบเจ็ดปี สมาพันธ์ซื่อกุ่ย” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
เด็กสาวดูเหมือนว่าไม่ได้ฟังว่ากัวไฮว่พูดอะไรเพราะเธอใส่หูฟังอันใหญ่ไว้ในหู “ทำอะไรน่ะจะจีบฉันเหรอ”
“หลินปิง อายุสิบห้าปี นักเรียนมอต้นโรงเรียนอู่เฉิงถ้าเธออยากให้ใช้ชีวิตแลกอีกชีวิตก็เชิญเดินต่อได้เลย” กัวไฮว่พูดจบก็หมุนตัวเตรียมจะจากไป
“นาย...นายรู้ได้ยังไงว่าคนคนนั้นคือฉัน” เด็กสาวหยุดฝีเท้าแล้วพูดด้วยเสียงดัง“ขอร้องล่ะอย่าทำร้ายน้องสาวฉัน ถ้านายอยากจะแก้แค้นชีวิตนี้ฉันให้นาย”
“สามสิบล้านบอกบอสใหญ่สมาพันธ์กุ่ยซื่อนะชีวิตเธอมีค่าสามสิบล้านเตรียมเงินมาก็พอแล้ว”พูดจบกัวไฮว่ก็หายตัวไปกลางตรอก
“คุณหนูคุณแน่ใจนะคะว่าคนที่จะลงมือกับคุณคือคนที่ตระกูลข่งส่งมา” มู่หรงเวยเวยยืนอยู่กลางบ้านแบบโบราณแห่งหนึ่งผู้าุโคนหนึ่งก็ถามขึ้นด้วยความเป็ห่วง
“วันนี้ฉันเจอแค่ข่งอี้ฟูคนเดียว เื่ของข่งเสวียนฉันไม่อยากจะพูดอะไรอีกพวกเธอไปจัดการเถอะ” มู่หรงเวยเวยกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบก่อนจะหมุนตัวออกจากบ้านไป
“คุณปู่สามทำยังไงดี” ผู้าุโกลับไปในห้องแล้วพูดขึ้นกับเงามืดด้วยเสียงเบาๆ
“การสังหารเมื่อสิบปีก่อนเบาไปหน่อยลุงเฮยไปบอกมู่หรงเวยว่าฉันไม่อยากถามเื่ของตระกูลมู่หรงอะไรมากมาย แต่ถ้าใครลงมือกับลูกสาวฉันอีกฉันว่าให้ฉันรับ่ตระกูลมู่หรงต่อจะดีกว่า” เมื่อเสียงทุ้มต่ำลอยออกมาผู้าุโก็หายตัวไปในบ้านหลังนั้น
“บอกตระกูลข่งว่าพวกเราจะร่วมมือกับพวกเขาถึงแค่ตรงนี้ความร่วมมือทั้งหมดสิ้นสุดตรงนี้” ชายวันกลางคนพูดกับโทรศัพท์เสียงดัง
“ใช่เลิกเปิดท่าเรือให้ตระกูลข่งถ้าพวกเขาจะฟ้องก็ให้พวกเขาฟ้องไปยังไงซะศาลก็เข้าข้างพวกเราอยู่แล้ว”
“รีบเปิดการประชุมสมาชิกทุกคน ยกเว้นตระกูลข่งต้องเข้าร่วมเพื่อปรึกษากันเื่ถอดถอนตระกูงข่ง”
“บอกมา ใครไปหาเื่ยายหนูนั่นอีก พวกแกบอกมาเป็ใครกันแน่” ในคฤหาสน์ตระกูลข่ง ผู้าุโผมหงอกผู้หนึ่งตะคอกเสียงดังลั่นเขาไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็หัวหน้าตระกูลข่ง ข่งต้าเจียง
“คุณปู่ั้แ่ท่านสั่งไม่ให้พวกเราไปหาเื่ยายเด็กนั่นพวกเราก็หยุดการกระทำทุกอย่างเื่ในวันนี้พวกเราไม่ได้ให้ใครไปทำจริงๆ นะ” ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งพูดเสียงเบา
“อี้ฟู วันนี้มีแค่แกที่เห็นยายเด็กนั่น ใช่แกไหม” ข่งต้าเจียงถลึงตามองลูกชายตนเองแล้วถามขึ้นด้วยเสียงดัง
“ผมติดต่อสมาพันธ์กุ่ยซื่อแต่เป้าหมายไม่ใช่ยายเด็กนั่น” ข่งอี้ฟูหลบตาแล้วพูดเบาๆ “วันนี้ที่บ้านท่านอาจารย์เธอพาเด็กหนุ่มคนหนึ่งไปไหว้อาจารย์ ท่านอาจารย์ชอบใจมากผมไม่พอใจว่ามันมีสิทธิ์อะไรกันเสี่ยวเสวียนไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเข้าประตูใหญ่บ้านท่านอาจารย์แต่เด็กบ้านั่นกลับทำได้” ข่งอี้ฟูพูดอย่างโเี้
“แกเลยไปหาสมาพันธ์กุ่ยซื่อเพื่อจัดการเด็กนั่น?” ข่งต้าเจียงพูดเสียงดัง“จัดการเด็กนั่นต่อหน้ายายนั่นยายเด็กนั่นเลยเข้าใจผิดว่าพวกเราจัดการเธอ? อี้ฟูอย่าหุนหันพลันแล่นไป”ข่งต้าเจียงส่ายศีรษะพร้อมกับพูด
“พ่อครับยังมีวิธีแก้ไขอีกไหม บอกตระกูลมู่หรงได้ไหมว่าแม้วันนี้ผมจะติดต่อสมาพันธ์กุ่ยซื่อแต่คนที่จะฆ่าไม่ใช่ยายเด็กนั่น” ลูกชายหัวหน้าตระกูลข่งคนปัจจุบันพูดขึ้น
“อะไรนะแกบอกว่านักฆ่าที่พวกแกส่งไปทำพลาดเหรอสิบล้าน? ทำไมถึงได้คิดว่าฉันจะเอาเงินของพวกแกพวกแกอยากได้เงินจนบ้าไปแล้วหรือเปล่า” ข่งอี้ฟูรับโทรศัพท์จู่ๆก็ะโเสียงดังขึ้นมา
“อี้ฟูเกิดอะไรขึ้น” ข่งต้าเจียงเห็นลูกชายคนโปรดในใจะโลั่นราวกับคนบ้าก็ถามขึ้นเบาๆ
“บอกคนในตระกูลข่งทุกคนนะว่ายกเลิกกิจกรรมใน่นี้ทั้งหมดทุกฝ่ายอยู่ในบ้านให้ดีๆ อี้ฟูแกไปติดต่อตระกูลกัวนะจัดการเื่ให้เรียบร้อยเงินสิบล้านนี่พวกเราจ่ายเงินวันนี้ยกให้สมาพันธ์กุ่ยซื่อ” ข่งต้าเจียงส่ายพูดพลางศีรษะ