บทที่ 2 สมุนไพรในมือมาร
ราตรีอันเย็นเยียบกัดกินทุกอณูของกระท่อมผุพัง ทว่าความหนาวจากภายนอกมิอาจเทียบได้กับความเย็นเยียบในใจของลู่เมิ่ง เธอกอดร่างเล็กที่ร้อนรุ่มดั่งก้อนไฟของอาเป่าไว้แนบอก เสียงหอบหายใจที่แ่เบาราวกับจะขาดห้วงของเขาทุกครั้ง คือเข็มนับพันเล่มที่ทิ่มแทงลงบนมโนธรรมของเธอ
สามวัน...
คำขู่ของนางอาจซื้อเวลาจากหมาป่าอย่างหัวหมู่จ้าวได้ แต่ไม่อาจซื้อเวลาจากพญายมที่กำลังจะพรากลมหายใจของน้องชายนางไปได้!
"เทียนฉี่ รายงานสภาพร่างกายของอาเป่าอีกครั้ง" เสียงของนางแหบพร่าแต่เต็มไปด้วยความเด็ดขาด
[กำลังสแกน... อุณหภูมิร่างกาย 39.8 องศาเซลเซียส อัตราการหายใจเพิ่มสูงขึ้น ระดับออกซิเจนในเืลดต่ำลง... คำเตือน เข้าสู่ภาวะวิกฤต อัตราการรอดชีวิตลดลงเหลือ 2.1%]
"บัดซบ!" ลู่เมิ่งสบถในใจอย่างหัวเสีย ตัวเลข 2.1% นั้นคือคำพิพากษาที่โหดร้ายที่สุด
"พี่หญิง... หนาว..." เสียงของอาเป่าละเมอออกมาอย่างน่าสงสาร ทั้งที่ตัวเขาร้อนราวกับจะลุกเป็ไฟ
น้ำตาหยดหนึ่งร่วงหล่นจากหางตาของลู่เมิ่งอย่างสุดจะกลั้น แต่มันก็เหือดแห้งไปในพริบตาเมื่อถูกแทนที่ด้วยแววตาที่แข็งกร้าวราวกับเหล็กกล้า นักวิทยาศาสตร์ในตัวนางกำลังกรีดร้อง ความสิ้นหวังคือสิ่งฟุ่มเฟือยที่นางไม่มีเวลาจะ เสพมัน!
"เทียนฉี่ในรัศมีห้าลี้รอบตัวข้า มีพืชชนิดใดบ้าง ที่มีคุณสมบัติเป็ยาปฏิชีวนะตาม ธรรมชาติ หรือมีสารที่สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียแกรมบวกและแกรมลบได้"
[กำลังประมวลผล... ค้นหาในฐานข้อมูลพฤกษศาสตร์โบราณและเทียบเคียงกับสารประกอบทางเคมี... พบพืชที่มีศักยภาพ 3 ชนิด 1. ต้นหลิว มีกรดซาลิไซลิก ช่วยลดไข้บรรเทาปวด แต่ฤทธิ์ต้านแบคทีเรียต่ำ 2. กระเทียม มีสารอัลลิซิน มีฤทธิ์ต้านเชื้อ แต่ปริมาณที่ต้องใช้สูงเกินกว่าร่างกายของอาเป่าจะรับไหว 3. หวงเหลียน มีสารออกฤทธิ์หลักคือ เบอร์เบอริน มีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียในวงกว้าง และลดการอักเสบได้อย่างมีประสิทธิภาพ]
ดวงตาของลู่เมิ่งทอประกายวาบ! "หวงเหลียน! ข้ารู้จักมัน! มันคือหนึ่งในห้าสิบสมุนไพรพื้นฐานของการแพทย์แผนจีน! แสดงตำแหน่งที่ใกล้ที่สุด!"
[กำลังระบุตำแหน่ง... พบแหล่งที่ขึ้นเองตามธรรมชาติบริเวณหน้าผาหลังหมู่บ้าน ระยะทาง 2.3 ลี้ สภาพพื้นที่ลาดชันและอันตราย ความน่าจะเป็ในการเกิดอุบัติเหตุสำหรับโฮสต์ในสภาพร่างกายปัจจุบัน 47.5%]
เกือบ 50%... มันคือการเดิมพันด้วยชีวิต แต่เมื่อเทียบกับอัตราการรอดของน้องชายที่เหลือเพียง 2% มันคือการเดิมพันที่นางต้องชนะเท่านั้น!
ลู่เมิ่งค่อยๆ วางร่างของอาเป่าลงบนกองฟางอย่างแ่เบาที่สุด นางฉีกชายเสื้อที่เก่าขาดของตนเองมาชุบน้ำในไหดินที่เหลือเพียงก้นไห (ซึ่งต้องขอบคุณที่ฝนตกเมื่อสองวันก่อน) มาวางไว้บนหน้าผากของน้องชายเพื่อลดไข้
"อาเป่า รอพี่หญิงนะ... พี่จะกลับมาพร้อมกับยาวิเศษ ไม่ว่าอย่างไรเ้าต้องรอด" นางกระซิบที่ข้างหูเขา ก่อนจะหันหลังเดินออกจากกระท่อมไปในความมืดมิด มีเพียงแสงจันทร์ที่ซีดเซียวเท่านั้นที่นำทาง
ร่างกายของเด็กสาววัยสิบห้าปีนี้อ่อนแอเกินไป ทุกย่างก้าวที่เหยียบย่ำไปบนเส้นทาง ดินขรุขระช่างหนักอึ้ง ลมหนาวบาดผิวราวกับมีดกรีด แต่นางไม่สนใจ ความเ็ปทางกายเล็กน้อยเพียงนี้เทียบไม่ได้เลยกับความกลัวที่จะต้องสูญเสียน้องชายไป
"เทียนฉี่ เปิดระบบสแกนภาพซ้อน แสดงตำแหน่งของหวงเหลียนบนการมองเห็นของข้า"
[รับทราบ... กำลังเปิดใช้งานโหมด Augmented Reality]
ในครรลองสายตาของลู่เมิ่ง พลันปรากฏเส้นแสงสีเขียวนำทางไปยังเป้าหมาย พร้อมกับวงกลมที่เรืองแสงล้อมรอบพืชเป้าหมายที่อยู่ไกลออกไป นี่คือข้อได้เปรียบเดียวที่นางมีในโลกอันโหดร้ายใบนี้
นางปีนป่ายไปตามไหล่เขาที่ลาดชัน มือที่บอบบางถูกหินคมบาดจนเืซิบ แต่ความเ็ปนั้นกลับทำให้นางตื่นตัวยิ่งขึ้น ในที่สุด... นางก็มาถึงบริเวณหน้าผาเล็กๆ และได้เห็นมัน!
ต้นหวงเหลียนที่มีรากสีเหลืองสดอันเป็เอกลักษณ์ ขึ้นแทรกอยู่ตามซอกหินหลายกอ มันเรืองแสงสีเขียวในสายตาของนางราวกับเป็สมบัติล้ำค่า
"เจอแล้ว!"
นางไม่รอช้า รีบใช้กิ่งไม้แห้งที่หาได้แถวนั้นค่อยๆ แซะดินรอบๆ โคนรากอย่างระมัดระวังที่สุด นางต้องเอามันไปให้ได้มากพอสำหรับต้มยาให้น้องชาย และเหลือไว้เป็ "หลักประกัน" สำหรับต่อรองกับหัวหมู่จ้าว
ทว่า... ขณะที่นางกำลังง่วนอยู่กับการขุดสมุนไพร...
"นึกว่าใคร ที่แท้ก็นังเด็กปีศาจมาขุดรากไม้อยู่แถวนี้นี่เอง!"
เสียงที่แฝงไปด้วยความอาฆาตดังขึ้นจากด้านหลัง ลู่เมิ่งสะดุ้งสุดตัว หันขวับไปมองทันที!
หัวหมู่จ้าวยืนอยู่ที่นั่น! มันไม่ได้มาคนเดียว แต่มาพร้อมกับลูกสมุนคู่ใจและ... หมอหลวงปลดเกษียณแซ่เฉิน ชายชราผมขาวที่ดูทรงภูมิ แต่แววตากลับฉายแววละโมบ
"ดูเหมือนคำขู่ของเ้าจะไม่ได้ผลนะ นังหนู" หัวหมู่จ้าวแสยะยิ้มอย่างผู้ชนะ "ข้าได้ไปปรึกษาท่านหมอเฉินดูแล้ว ท่านหมอบอกว่าในโลกนี้ไม่มีพิษที่ชื่อ หนอนไหมกัดกินิญญา อะไรนั่นหรอก! เ้าหลอกข้า!"
ลู่เมิ่งยืนประจันหน้ากับพวกเขา หัวใจเต้นระรัว แต่สีหน้ากลับเรียบเฉย นางเหลือบมองหมอเฉินแวบหนึ่ง ก่อนจะหันกลับมาจ้องตาหัวหมู่จ้าวอย่าง ไม่เกรงกลัว
"หลอกรึ? ถ้าเช่นนั้นเหตุใดท่านจึงต้องถ่อมาถึงที่นี่กลางดึกพร้อมกับท่านหมอเล่า? หากไม่เชื่อคำพูดข้า ก็กลับไปนอนรอความตายที่บ้านท่านเงียบๆ สิ"
คำพูดของนางแทงใจดำจนหัวหมู่จ้าวหน้ากระตุก "นังเด็กบ้าปากดีจริง ๆ! ข้าแค่พาท่านหมอมาดูให้แน่ใจเท่านั้น!"
หมอเฉินก้าวออกมาข้างหน้าหนึ่งก้าว ลูบเคราแพะของตนเบาๆ แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงของผู้ที่เหนือกว่า "แม่หนูเอ๋ย การแพทย์เป็ศาสตร์ที่ล้ำลึก คนป่วยก็ย่อมมีอาการร้อยแปด อย่าได้นำเื่โกหกไร้สาระมาหลอกลวงผู้อื่นเพื่อเอา ตัวรอดเลย อาการของท่านหัวหมู่เป็เพียงเพราะลมปราณติดขัด ตับร้อนเกินไปเท่านั้น กินยาของข้าไม่กี่เทียบก็หายแล้ว"
ลู่เมิ่งแค่นเสียงหัวเราะออกมา "ยาของท่าน? ใช่ยาที่ประกอบด้วย ตี้หวง ชานจา และไป๋เสา ใช่หรือไม่?"
"ฮ๊ะ!" หมอเฉินเบิกตากว้างอย่างตกตะลึง "เ้า...เ้ารู้ได้อย่างไร!"
"สมุนไพรพวกนั้นมันก็ดี แต่สำหรับอาการของท่านหัวหมู่มันก็ไม่ต่างอะไรจากการเอา น้ำมันไปราดบนกองไฟที่ลุกท่วม " ลู่เมิ่งชี้นิ้วไปยังหัวหมู่จ้าว "อาการของท่านไม่ใช่แค่ตับร้อน แต่มันคือการทำงานของตับที่เริ่มล้มเหลว ไขมันกำลังพอกพูนจนทำให้เืลมไหลเวียนติดขัดไปทั้งร่าง ยาของท่านหมอเฉินอาจช่วยให้รู้สึกดีขึ้นชั่วครู่ แต่ไม่ได้รักษาที่ต้นเหตุ!"
นางหันไปเผชิญหน้ากับหัวหมู่จ้าวโดยตรง "ท่านจะเชื่อหมอที่สักแต่จะขายยา หรือจะเชื่อคนที่บอกอาการของท่านได้ตรงโรคทุกอย่างโดยไม่ต้องจับชีพจรแม้แต่น้อย?"
หัวหมู่จ้าวเริ่มลังเลไม่มั่นใจ มันหันไปมองหมอเฉินที มองลู่เมิ่งที
ทันใดนั้น ลูกสมุนคนหนึ่งก็ชี้มาที่มือนาง "หัวหน้า! ดูนั่น! ในมือมันคือรากหวงเหลียน! ข้าเคยเห็นในร้านยา มันเป็ยารสขม ใช้ขับร้อนถอนพิษ!"
ั์ตาของหัวหมู่จ้าวเป็ประกายวาวโรจน์
"ฮ่าๆๆ! ในที่สุดก็เผยธาตุแท้ออกมาแล้วสินะ!ไหนว่าจะปรุงยาถอนพิษหนอนไหม อะไรนั่น ที่แท้ก็แค่จะมาหายาไปรักษาน้องชายของเ้าเท่านั้นเอง!"
สถานการณ์พลิกผันในทันที! ความน่าเชื่อถือของนางกำลังจะหมดไป!
"จับมันไว้!" หัวหมู่จ้าวตวาดลั่น "ยึดหวงเหลียนนั่นมาให้หมด! แล้วเอาตัวมันไปขายทิ้งซะ!"
ลูกสมุนสองคนพุ่งเข้ามาหมายจะจับตัวนาง!
[ตรวจพบภัยคุกคาม! โฮสต์อยู่ในอันตรายถึงชีวิต! แนะนำให้หลบหนีไปทางซอกผาด้านขวา!]
แต่ลู่เมิ่งไม่ขยับ! ในเสี้ยววินาทีแห่งความเป็ความตายนั้น สัญชาตญาณนักสู้ของนางก็ตื่นขึ้นเต็มพิกัด นางไม่ได้สู้ด้วยกำลัง แต่สู้ด้วยสมอง!
นางยกรากหวงเหลียนในมือขึ้นมาจ่อที่ปากตัวเอง!
"หยุด!"
เสียงะโของนางเด็ดขาดจนทุกคนชะงักงัน
"พวกเ้าเข้ามาอีกก้าวเดียว ข้าจะกินมันเข้าไปให้หมด!"
หัวหมู่จ้าวหัวเราะเยาะ "กินเข้าไปสิ! แล้วจะยังไง มันเป็ยา มันไม่ใช่ยาพิษ!"
"ฮ่าฮ่าฮ่า... สำหรับคนทั่วไปมันก็คือยา" ลู่เมิ่งจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของมัน แววตาของนางเย็นเยียบราวกับน้ำแข็งขั้วโลก "แต่ท่านรู้หรือไม่ว่าสารเบอร์เบอรินในหวงเหลียน หากกินเกินขนาดจะเกิดอะไรขึ้น?"
นางไม่รอให้ใครตอบ "มันจะทำลายสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ ทำให้ตับและไตทำงานหนักจนวายเฉียบพลัน... แต่ก่อนจะตาย มันจะทำให้เืแข็งตัวช้าลง"
นางเหลือบไปมองหมอเฉินที่บัดนี้หน้าซีดเผือดเพราะสิ่งที่นางพูดคือความจริงทางการแพทย์ที่เขาก็รู้ดี!
"ข้ารู้ว่าในตัวท่านหมอเฉินมียาถอนพิษอยู่เสมอเผื่อฉุกเฉิน แต่ยาของท่านจะช่วยคนที่กินหวงเหลียนเข้าไปในปริมาณเท่านี้ได้ทันหรือ?" นางชูรากสมุนไพรในมือขึ้นสูง "และที่สำคัญ... ข้าไม่ได้จะกินคนเดียว"
นางหันคมดาบแห่งคำพูดไปยังหัวหมู่จ้าว "ท่านคิดว่าเหตุใดข้าจึงต้องมาที่หน้าผาแห่งนี้? หญ้าชนิดหนึ่งที่ขึ้นอยู่ข้างๆ หวงเหลียนนี้... เมื่อนำยางของมันมาผสมกับรากหวงเหลียนในอัตราส่วนที่พอเหมาะ มันจะกลายเป็พิษที่ซึมผ่านิัได้ในทันที!"
"ข้าอาจจะหนีไม่พ้นในวันนี้... แต่ด้วยความเร็วของพิษชนิดนี้... ข้าขอแค่เศษเสี้ยววินาทีที่จะสาดมันไปในทิศทางของท่านก็เพียงพอ..." นางกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เ็า "ก่อนตาย... ข้าขอลากท่านหัวหมู่ไปลงนรกเป็เพื่อนด้วยแล้วกัน!"
นั่นคือคำประกาศิต! มันไม่ใช่คำขู่ลอยๆ อีกต่อไป แต่มันคือคำมั่นสัญญาของคนที่ไม่กลัวตาย!
บรรยากาศกดดันจนแทบหายใจไม่ออก หัวหมู่จ้าวตัวสั่นเทา ไม่ใช่เพราะความหนาว แต่เพราะความกลัวที่จับขั้วหัวใจ มันมองเข้าไปในดวงตาของเด็กสาวตรงหน้า... และมันเห็นความตายอยู่ในนั้นจริงๆ
"พอ... พอแล้ว!" ในที่สุดมันก็ยอมแพ้ "ข้า... ข้ายอมแล้ว! เ้า้าอะไรก็ว่ามา!"
ลู่เมิ่งลดมือลงช้าๆ แต่ยังคงกำรากหวงเหลียนไว้แน่น
"ยาสำหรับน้องข้า... เงินห้าสิบตำลึง... และสัญญาว่าจะไม่มาระรานพวกข้าอีก!"
หัวหมู่จ้าวลังเลเล็กน้อย แต่เมื่อสบตากับนางอีกครั้ง เขาก็รีบโยนถุงเงินหนักๆ ลงบนพื้น "เอาไป!ข้าให้เ้า!ส่วนยา...ข้าจะให้คนไปซื้อยาแก้ไข้ที่ดีที่สุดในเมืองมาให้!"
"ไม่ต้อง!" ลู่เมิ่งตวาดกลับเสียงกร้าว หยุดคำพูดของหัวหมู่จ้าวไว้กลางคัน "ยาจากร้านรวงในเมืองหรือจะสู้ยาที่ข้าปรุงเองได้! ข้าไม่เชื่อใจพวกท่าน!"
นางกวาดสายตามองทุกคนอย่างเ็า ก่อนจะชี้นิ้วไปยังหมอเฉินที่ยืนตัวแข็งทื่ออยู่ "ข้า้าเครื่องมือปรุงยาของเขา! หม้อทองแดง เตาหลอม ถ้วยบด และเครื่องชั่ง! เอามาให้ข้าที่กระท่อมภายในหนึ่งชั่วยาม!"
หมอเฉินมีสีหน้าเหมือนถูกบังคับให้กลืนคางคกทั้งเป็ "นั่น... นั่นมันเครื่องมือทำมาหากินของข้า!"
"ชีวิตของท่านหัวหมู่จ้าวมีค่าไม่เท่าเครื่องมือเก่าๆ ของท่านรึ?" ลู่เมิ่งสวนกลับโดยไม่มองหน้าเขาด้วยซ้ำ แต่มุ่งเป้าไปที่จุดอ่อนที่สุดในวงสนทนานี้... หัวหมู่จ้าว
หัวหมู่จ้าวหันไปตวาดใส่หมอเฉินทันที "เ้าหูหนวกรึไง! นางบอกให้เอาไปให้ก็เอาไปสิ! หรือเ้าอยากให้ข้าตาย!"
หมอเฉินสะดุ้งสุดตัว รีบพยักหน้าหงึกๆ อย่างเสียมิได้
"ดี..." ลู่เมิ่งกล่าวสรุป "หลังจากข้ารักษาน้องชายข้าจนพ้นขีดอันตรายแล้ว ข้าจะเริ่มปรุงยาถอนพิษให้ท่านหัวหมู่ แต่ยาของข้าต้องใช้เวลาเจ็ดวันเต็มในการปรุง ระหว่างนี้ ห้ามใครหน้าไหนมารบกวนพวกเราอีกเด็ดขาด และทุกวัน... ท่านต้องส่งอาหารอย่างดีมาให้พวกข้าสามมื้อ ห้ามขาดแม้แต่มื้อเดียว!"
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้