หลังจากที่ออกมาจากจิ้งหวางฝู่ กูเฟยเยี่ยนก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะอาศัยอยู่ในเมืองจิ้นหยางอีกต่อไป
นาง้าออกไปจากเมืองจิ้นหยางมากเหลือเกิน ทว่านางจำเป็ต้องรอบคอบให้มาก
หากก้าวผิดเพียงหนึ่งก้าว ทุกสิ่งทุกอย่างจะย้อนกลับไปสู่จุดเริ่มต้น
การที่นางคิดที่จะใช้เข็มทองของกู้อวิ๋นหย่วนมาเจรจาต่อรองกับเทียนอู่ฮ่องเต้ถือว่ามีความเสี่ยงที่สูงมาก เนื่องด้วยกู้อวิ๋นหย่วนกล่าวไว้ั้แ่แรกแล้วว่าอาการประชวรของเทียนอู่ฮ่องเต้มิอาจรักษาให้หายดีได้ ถ้าเทียนอู่ฮ่องเต้ยืนกรานที่จะปล่อยนางไปหลังจากที่อาการประชวรหายดี นางก็จะพ่ายแพ้ต่อการเดิมพันในครั้งนี้อย่างราบคาบ อีกทั้งอาจจะมีปัญหาต่อนางได้ในภายหลัง
สำหรับหุบเขาเสินหนงแล้ว แม้ว่าราชวงศ์จวินจะหวาดหวั่นและ้าเชื่อมพันธไมตรี ทว่าก็ไม่ได้เกรงกลัวถึงขั้นนั้น ถ้าหากพบเจอเื่ราวสำคัญ พวกเขาจะไม่ยอมถอยให้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้คือแต่ไหนแต่ไรมาหุบเขาเสินหนงไม่ค่อยจะเป็ปรปักษ์กับกองกำลังต่างๆ ในดินแดนเสวียนคง หุบเขาเสินหนงไม่ถึงกับต้องเป็ศัตรูกับราชวงศ์จวินเพื่อนางเพียงคนเดียว
เมื่อเทียบกับการลองเสี่ยงแล้ว การที่นางอาศัยอยู่ต่อโดยที่กอบกุมอำนาจของศาสตราจารย์แพทย์เอาไว้ในมือ ดื่มด่ำกับมื้ออาหารและใช้ชีวิตอย่างมีความสุข จะเป็ผลดียิ่งกว่า
หลังจากที่กูเฟยเยี่ยนตัดสินใจ อารมณ์ของนางจึงดีขึ้นมาก!
แววตาของหญิงพราวไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม นางเจตนาเดินไปหาเทียนอู่ฮ่องเต้พลางโน้มกายกล่าวด้วยความปีติยินดี “ขอบพระคุณในความเมตตาเพคะ! ”
์ทราบดีว่าเทียนอู่ฮ่องเต้ไม่เต็มใจเพียงใด เขาทำได้เพียงพยักหน้าโดยไม่กล่าววาจากับกูเฟยเยี่ยนแม้แต่คำเดียว บัดนี้เขาไม่อยากอยู่ในที่แห่งนี้ต่อไปอีกแม้แต่วินาทีเดียว
เขาหันหลังกล่าวต่อถังจิ้ง “แม่นางถัง เจิ้นเตรียมงานเลี้ยงไว้ โปรดเชิญ! ”
ถังจิ้งส่งสายตาเป็นัยให้กูเฟยเยี่ยนก่อนจะออกไป
หลังจากที่กลุ่มคนของเทียนอู่ฮ่องเต้จากไป มุมปากของกูเฟยเยี่ยนจึงยกสูงขึ้น นางคิดว่านี่จะต้องเป็โชคดีที่เข้ามาหลังประสบโชคร้ายถึงขีดสุดแน่ๆ ! ในยามนี้ลานขนาดใหญ่เรียกได้ว่าเงียบเป็เป่าสาก
เฉิงอี้เฟยคือผู้ที่รู้สึกตัวเป็คนแรก เขาปีติยินดีจึงยกนิ้วหัวแม่มือให้พลางเอ่ยด้วยความดีใจ “แพทย์หญิงน้อย เ้าเก่งเหลือเกิน! ซ่อนได้ลึกเสียจริง! ฮ่าๆ โชคดีที่ตำแหน่งราชการของเปิ่นเจียงจวินค่อนข้างสูง มิฉะนั้นคงไม่คู่ควรกับเ้า! เป็อย่างไรบ้าง เ้าจะแต่งงานหรือไม่? ”
“ไม่แต่ง! ”
กูเฟยเยี่ยนอารมณ์ดีจึงพูดจาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ก่อนจะดึงเขาออกไป
เฉิงอี้เฟยอ้อมมาด้านหน้าของหญิงสาวอีกคราพลันเอ่ยถามอย่างหน้าด้าน “แล้วต้องทำอย่างไรเ้าถึงจะแต่งงานกับเปิ่นเจียงจวิน? เ้ารีบบอกมาเดี๋ยวนี้เลย! ”
กูเฟยเยี่ยนดึงเขาออกไปยังด้านข้างอีกครั้งพลางเอ่ยด้วยความไม่พึงพอใจ “เลิกสร้างปัญหาได้แล้ว ข้ามีงานที่ต้องทำอีกมากนะ! ”
“เ้ามีงานอะไรกัน เ้า…”
เฉิงอี้เฟยยังเอ่ยไม่จบ กูเฟยเยี่ยนก็ขัดจังหวะเสียก่อน “ผู้ที่ได้รับตำแหน่งใหม่จะต้องแสดงศักยภาพและอิทธิพล ดังนั้นข้าจะไม่มีงานได้อย่างไร? ”
เฉิงอี้เฟยตกตะลึงครู่หนึ่งแล้วหัวเราะเสียงดังลั่นก่อนจะถอยไปรอด้านข้าง
ในยามนี้ลานที่เคยเงียบสงบกลับเงียบมากขึ้นจนสามารถกล่าวได้ว่า ถ้ามีเข็มเล่มหนึ่งกระทบลงพื้น ผู้คนก็จะสามารถได้ยินเสียง
ทุกคนในที่แห่งนี้จ้องมองกูเฟยเยี่ยนด้วยใบหน้าที่ขาวซีด ร่างกายแข็งทื่อ หัวใจเต้นรัว และมีบางคนที่เกิดอาการขาอ่อนแรง
กรรมการบริหารกิตติมศักดิ์แห่งหุบเขาเสินหนง?
ศาสตราจารย์แพทย์แห่งห้องยาสำนักหมอหลวง ควบคุมดูแลสำนักไท่อี ตำแหน่งระดับหนึ่ง?
บุญพาวาสนาสูงส่งของหญิงสาวเช่นกูเฟยเยี่ยนจะรุนแรงเกินไปแล้ว น่ากลัวเหลือเกิน ผู้ที่อยู่ในที่แห่งนี้ต่อให้มีเื้ัที่แข็งแกร่งแต่จะแข็งแกร่งกว่านางอีกหรือ? มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่เคยรังแกและดูถูกนางมาก่อน พวกเขาจะไม่ใได้อย่างไร?
ภายใต้สายตาหวาดกลัวของผู้คน กูเฟยเยี่ยนจัดแจงเครื่องแต่งกายและสางศีรษะที่กระเซอะกระเซิงอย่างเชื่องช้า
หลังจากที่หญิงสาวจัดระเบียบตนเองเรียบร้อยแล้วก็ค่อยๆ ลูบาแบนใบหน้าพลางกวาดสายตามองฝูงชน
นางคิดว่าความเกลียดชังในอดีตของร่างเดิมกับความแค้นในปัจจุบันของตนเองถึงคราวที่จะต้องเอาคืนแล้ว!
ทุกคนแทบจะก้มศีรษะกันหมดเพราะเกรงว่าตนเองจะถูกจ้องมอง กูเฟยเยี่ยนยังคงกวาดสายตาไปทั่ว เหล่าแพทย์หญิงที่ลงมือตบตีนางเมื่อสักครู่นี้ต่างก็คุกเข่าร้องไห้ขอความเมตตา
“ศาสตราจารย์แพทย์ โปรดไว้ชีวิตด้วย! ”
“ศาสตราจารย์แพทย์กู ทั้งหมดทั้งมวลนี้ล้วนมาจากการยุยงปลุกปั่นของเวินอวี่โหรว! พวกเรา พวกเรา…ถูกบีบบังคับ! ”
“ศาสตราจารย์แพทย์กู ท่านผู้มีจิตใจเมตตา ได้โปรดอภัยให้พวกเราในครั้งนี้เถอะนะ! ”
……
ศาสตราจารย์แพทย์กู?
สรรพนามการเรียกขานเปลี่ยนไปเร็วเสียจริง! กูเฟยเยี่ยนเอ่ยด้วยความเ็าและดูิ่ “ร้องไห้ทำไมกัน? แพ้แล้วยังมีหน้ามาร้องไห้อีก? พวกเ้ามีเรี่ยวแรงมากหรือ? มีแรงแต่ไม่มีที่ระบายหรือ? ฟังให้ดี ลดขั้นไปเป็บ่าวยาให้หมด ประเมินผลสามเดือน ผู้ที่ไม่ผ่านการประเมิน ไสหัวไป! ”
ทันทีที่หญิงสาวเอ่ยจบ เสียงร้องไห้ทั้งหมดจึงเงียบลงกะทันหัน พวกเขากลัวว่าหากส่งเสียงใดๆออกมาอีก พวกเขาคงจะถูกไล่ให้ไปไกลๆทันที
กูเฟยเยี่ยนสงบสติอารมณ์จากนั้นจึงจ้องมองซ่างกวนยิงหงกับเหล่าอาจารย์แพทย์ หญิงสาวเอ่ยถามว่า “ยืนดูแพทย์หญิงตบตีกันเป็เื่ที่สนุกมากใช่หรือไม่? ”
ซ่างกวนยิงหงสะดุ้งใพลันโน้มกายลง “ตัวข้าบกพร่องต่อหน้าที่ ตัวข้าทราบว่ากระทำผิดแล้ว! ”
กูเฟยเยี่ยนถามอย่างไม่เกรงใจนัก “ในเมื่อเ้ารู้ว่าตนเองบกพร่องต่อหน้าที่ เช่นนั้นเ้าคงจะไม่มีข้อสงสัยที่ศาสตราจารย์แพทย์อย่างข้าจะขับไล่เ้าออกจากห้องยาสำนักหมอหลวงใช่หรือไม่? ”
ซ่างกวนยิงหงตกตะลึงกับคำพูดที่ได้ยิน “กูเฟยเยี่ยน นี่เ้า…”
กูเฟยเยี่ยนทราบดีว่าซ่างกวนยิงหงจะไม่พอใจ นางจึงถามย้อนกลับไป “ข้าทำไมกัน? หลายปีมานี้เ้าให้อภิสิทธิ์เลื่อนขั้นแก่คนที่ไร้ความสามารถมามากน้อยเพียงใด? เ้าบีบบังคับผู้ที่ไร้ความผิดออกไปมากเพียงใด? ตัวเ้ารู้อยู่แก่ใจ! เ้าจะไสหัวไปตอนนี้หรือรอให้ข้าตรวจสอบหลักฐานแล้วพาพรรคพวกของเ้าไสหัวออกไปด้วยกัน? ”
ซ่างกวนยิงหงพูดอะไรไม่ออก ท้ายที่สุดจึงก้มหน้าก้มตาเดินออกไป นางรู้ซึ้งว่าฐานะและอำนาจของกูเฟยเยี่ยนในยามนี้สามารถตรวจสอบนางได้อย่างง่ายดายราวพลิกฝ่ามือ ซ่างกวนยิงหงออกไปแล้ว ผู้คนข้างกายซ่างกวนยิงหงส่วนมากได้เลื่อนตำแหน่งมาจากการติดสินบน พวกนางจึงอกสั่นขวัญแขวนเพราะตกอยู่ในอันตราย
กูเฟยเยี่ยนกล่าวอย่างดุดัน “ผู้ที่กล้าอยู่ต่อศาสตราจารย์แพทย์เช่นข้ายินดีต้อนรับ! ผู้ที่้าออกไปก็รีบไสหัวให้ไว! ”
ยังมีคนกล้าอยู่ต่อหรือไม่?
อาจารย์แพทย์หญิงหลายรายแทบจะวิ่งหนีออกไป สำหรับเื่ที่ว่าพวกเขาจะออกจากห้องยาสำนักหมอหลวงอย่างไรนั้น เป็เื่ที่พวกเขาต้องจัดการเองแล้ว
กูเฟยเยี่ยนไม่ได้สร้างความลำบากใจต่อคนอื่นอีก หน้าที่การงานภายในห้องยาสำนักหมอหลวงมีความซับซ้อนมาก อีกทั้งมีเื่ราวไม่ชอบมาพากลล้นหลาม หญิงสาวทราบดีว่าในเมื่อตนเองได้รับหน้าที่ให้ควบคุมดูแลห้องยาสำนักหมอหลวงแล้ว นางจึงจำเป็ต้องพยายามปรับปรุงแก้ไข มิฉะนั้นเื่ราวเหล่านี้จะกลายเป็จุดอ่อนของนาง เพราะฉะนั้นนางจำเป็ต้องวางแผนระยะยาว
การที่ลดขั้นแพทย์หญิงสิบกว่าคนและขับไล่ผู้ดูแลกับแพทย์อีกหลายคน ถือได้ว่าเพียงพอต่อการเชือดไก่ให้ลิงดูแล้ว นางจึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเ็า “แยกย้ายไปได้แล้ว! ทว่าเวินอวี่โหรวอยู่ก่อน!”
ผู้ที่หลงเหลืออยู่แทบจะวิ่งหนีออกไป ใต้เท้าหนานกงที่อยู่ห่างไกลออกไปมีความลังเลทว่าเขาก็หลีกเลี่ยงเช่นกัน
ฝ่ามือของเวินอวี่โหรวเต็มไปด้วยเหงื่อมาระยะเวลาหนึ่งแล้ว ทว่าในยามนี้แผ่นหลังของนางมีเหงื่อไหลพลั่กยิ่งกว่า หญิงสาวนึกย้อนไปเมื่อสามปีก่อนว่าตนเองปฏิบัติต่อกูเฟยเยี่ยนอย่างโหดร้ายทารุณเพียงใด นางตื่นใและหวาดกลัวเหลือเกิน ไม่น่าทำเช่นนี้เลย
“เวินอวี่โหรว อาจารย์แพทย์เวิน? ”
กูเฟยเยี่ยนจ้องมองเวินอวี่โหรวพลันพึมพำเบาๆ ที่จริงแล้วนางสนใจผู้ที่อยู่เื้ัของเวินอวี่โหรวมากกว่าตัวของเวินอวี่โหรวเสียอีก ซึ่งแน่นอนว่านางจะต้องเก็บเวินอวี่โหรวเอาไว้เพื่อสืบสาวเื่ราว
กูเฟยเยี่ยนไม่ได้กลั่นแกล้งเวินอวี่โหรวแต่เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เฉิงอี้เฟย อาจารย์แพทย์เวินชื่นชอบเ้ามานานหลายปีแล้ว เ้าพูดคุยกับนางเสียเถอะ! ข้าขอตัวลาไปก่อน”
นางเอ่ยจบก็ก้าวเดินไป
เฉิงอี้เฟยไม่รับรู้ถึงตัวตนของเวินอวี่โหรวจึงหันไปมองด้วยความสงสัย เวินอวี่โหรวผงกศีรษะขึ้นมามองด้วยความอับอาย น้อยใจ และตื่นเต้น ไม่ช้าน้ำตาก็ไหลรินลงมาเป็สาย
นางกำลังจะอ้าปากพูด ทว่าเฉิงอี้เฟยไม่ได้มองนางอย่างจริงจังนักเพราะเขาต้องไล่ตามกูเฟยเยี่ยนออกไป!
“แพทย์หญิงน้อย เ้ารอข้าก่อน! ”
“แพทย์หญิงน้อย มารดาข้ารออยู่ที่ตระกูลของเ้า! เ้ากลับไปกับข้านะ! ”
……
เฉิงอี้เฟยวิ่งออกไปไกล ทว่ากูเฟยเยี่ยนซ่อนตัวอยู่บริเวณแปลงดอกไม้ด้านหลังประตู นางไม่้าออกจากพระราชวังเพราะ้ารอถังจิ้ง! นางต้องสอบถามเสียหน่อยว่า “กรรมการบริหารกิตติมศักดิ์” คือสิ่งใดกันแน่!
ซึ่งแน่นอนว่ากูเฟยเยี่ยนไม่ลืมส่งคนไปรายงานข่าวดีต่อเซี่ยเสี่ยวหม่าน หญิงสาวลอบคิดว่าเมื่อจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยทราบข่าวนี้คงจะยินดีกับนางใช่หรือไม่?
ในขณะนี้จวินจิ่วเฉินประทับอยู่ ณ วัดต้าฉือที่ห่างออกไปไกล…