เคล็ดวิชาาสายฟ้าอรหันต์!
พลังลมหายใจัาเทพัคุน!
ชั่วพริบตาเดียวพลังที่รุนแรงและน่าเกรงขามก็กลายเป็แสงสีทองเปล่งประกายออกมาบนไหล่ทั้งสองข้างของข้าราวกับว่าเป็เทพเ้าที่จุติมายังโลกมนุษย์ ข้าพุ่งเข้าไปยังสนามรบของพวกนั้นด้วยพลังาเทพัคุนแล้วฟันลงไปบนหัวของหมาป่าทุ่งน้ำแข็งตัวหนึ่งที่กำลังล้อมหลี่ซูหนานอยู่
ตูม!!
จากแรงกระแทกของกระบี่ที่ฟันลงไปหัวของหมาป่าทุ่งน้ำแข็งตัวนั้นก็มีเืกระเซ็นออกมาทั่วสารทิสและจะตายไปในที่สุดก่อนที่พลังไสยศาสตร์ในตัวของมันจะลอยเข้ามาในสายรัดผูกิญญาเมื่อข้าหันตัวไปก็เจอหมาป่าตัวใหญ่กำลังพุ่งกระโจนเข้ามาและอ้าปากกว้างเหมือนพร้อมงับข้าในทันทีสำหรับข้าแล้วความเร็วของมันยังถือว่าช้าเกินไปอยู่ดี
ข้าทำร่างกายให้หนักแน่นกระทั่งร่างกายจมลงไปในกองหิมะเกือบครึ่งตัวเพื่อหลบการโจมตีของหมาป่าทุ่งน้ำแข็งตัวนั้นและใช้กระบี่คมจันทราแทงเข้าไปที่ท้องของมันแล้วก็กรีดลากเป็แผลยาว!
ฉึบ!ฉึกกก...เ้าหมาป่าตัวนั้นถูกกระบี่ของข้ากรีดจนท้องแบะออกเผยให้เห็นหัวใจที่ยังเต้นตุบๆ อยู่ด้านในและเืที่กระเด็นไปทั่วพื้นก่อนที่พลังไสยศาสตร์ของมันจะถูกดูดเข้ามาในสายรัดผูกิญญาของข้าอีกครั้งจนเส้นพลังสีเขียวเปล่งแสงสว่างและยาวขึ้นเล็กน้อย
“เ้า...ปู้อี้เชวียน?!”
หลี่ซูหนานที่ยืนอยู่ข้างๆถามด้วยความประหลาดใจ “เ้าก็อยู่ที่นี่ด้วยอย่างนั้นเหรอ?”
ข้าพยักหน้ารับก่อนจะบอกไป“พอเห็นว่าพวกเ้ากำลังลำบากข้าก็เลยยื่นมือเข้ามาช่วย...และช่วยบอกข้าทีว่าที่ข้ากำลังทำอยู่มันไม่ได้เป็การยุ่งเื่ของชาวบ้าน”
หลี่ซูหนานอดยิ้มออกมาไม่ได้ก่อนจะพูดต่อ“อย่ามัวแต่ล้อเล่นอยู่เลย พวกข้าต้องขอบคุณเ้าด้วยซ้ำไปรีบจัดการเ้าหมาป่าทุ่งน้ำแข็งพวกนี้สักทีเถอะพวกนี้บางคนแทบจะรับมือไม่ไหวอยู่แล้ว!”
“อืม!”
ข้าพยักหน้ารับก่อนจะหันไปจัดการกับหมาป่าตัวที่เหลือด้วยพลังที่ลุกโชนพลังกระบี่ลมของข้าพุ่งเข้าใส่จนทะลุิัของหมาป่าอีกตัวจากนั้นก็หันไปเตะด้วยพลังของเอกากัลป์เบิกขุนเขาจนเ้าหมาป่าตัวอื่นลอยปลิวไปไกลทำให้ศิษย์ต่างสำนักที่ยืนอยู่ใกล้ๆ มองมาด้วยสายตาที่นับถือและขอบคุณก่อนที่หนึ่งในนั้นจะพูด “คนของสำนักหมื่นิญญาช่างเก่งกาจสมคำร่ำลือจริงๆเมื่อครู่ข้าเกือบจะเป่าขลุ่ยกระดูกและละทิ้งการประลองครั้งนี้ไปแล้วเชียว!”
ข้ายิ้มรับก่อนจะหันไปเคลื่อนไหวบนเกล็ดหิมะที่ลอยล่องแล้วจัดการกับพวกหมาป่าทุ่งน้ำแข็งไปด้วยผ่านไปไม่นานข้าก็จัดการมันได้อีกสามตัวในคราวเดียว
เมื่อพูดถึงเพลงกระบี่และกระบวนท่าการร่ายรำกระบี่แล้วข้าอาจจะเป็รองหลี่ซูหนานอยู่บ้างแต่ถ้าพูดถึงพลังการทำลายล้างต่อให้ทั้งหลี่ซูหนานและจ้าวชูเยว่รวมกันก็ไม่มีทางสู้ข้าได้เลยแม้แต่กระบวนท่าเดียว
และในตอนนี้เองหลี่ซูหนานก็พูดอย่างเก้อเขิน“ปู้อี้เชวียน เ้า...เ้าช้าลงหน่อยสิ ให้พวกข้าได้เก็บคะแนนบ้าง ขอบใจ...”
ข้ายิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้แต่ก็เข้าใจดีจึงทำให้หมาป่าทุ่งน้ำแข็งตัวอื่นๆาเ็เท่านั้น ก่อนจะปล่อยให้จ้าวชูเยว่และหลี่ซูหนานแบ่งกันฆ่าพวกมันคนละสองตัวส่วนอีกสามตัวที่เหลือก็ปล่อยให้ศิษย์ของสำนักอื่นจัดการจนหมด
เวลานี้เองข้าก็เลือกจะเดินไปหาหมาป่าทุ่งน้ำแข็งตัวหนึ่งที่เพิ่งจะตายก่อนจะยื่นมือเข้าไปหาร่างไร้ิญญาเพื่อหลอมพลังเืของมันเข้าสู่ร่างกายและเพียงชั่วพริบตาพลังสีขาวก็เปล่งประกายออกมาและกลายเป็ลูกกลมๆ ลอยอยู่บนแขนขวา
จ้าวชูเยว่ที่เห็นเหตุการณ์ถามด้วยความสงสัย“ปู้อี้เชวียน นี่มันพลังอะไรกัน?”
ข้ายิ้มก่อนจะตอบกลับ“ความลับ!”
นางอดไม่ได้ที่จะยิ้มแล้วพูดต่อ“ยังจะเก็บเป็ความลับอีกเหรอ? ก็ได้...แต่ก็ต้องขอบคุณเ้าด้วยละกันเพราะถ้าไม่ได้เ้ายื่นมือเข้ามาช่วยพวกข้าก็คงจะจัดการกับฝูงหมาป่าทุ่งน้ำแข็งพวกนี้ไม่ได้แน่ๆ”
“ไม่เป็ไร”
ศิษย์ของสำนักอื่นต่างก็พากันชำแหละร่างของหมาป่าทุ่งน้ำแข็งตัวที่เหลือก่อนที่หนึ่งในนั้นจะพูดด้วยความดีใจ “ว้าว! ข้าเจอจินตานในตัวมันด้วยแหละ!แล้วนี่...มันควรจะเป็ของใครดี?”
จ้าวชูเยว่เม้มปากเล็กน้อยก่อนจะพูด“เ้าเก็บไว้ก่อนแล้วค่อยคุยกันทีหลังแล้วกัน”
“อืม!”
และตอนนี้เองหลี่ซูหนานก็เดินเข้ามาพลางเช็ดคราบเืบนตัวก่อนจะพูดขึ้น“ปู้อี้เชวียน หินาาสรรพสัตว์อยู่ห่างจากตรงนี้ไปอีกหนึ่งลี้ทางทิศใต้แต่ข้าว่าการที่มีหมาป่าทุ่งน้ำแข็งคอยป้วนเปี้ยนอยู่แถวนี้คงเพราะพวกมันกำลังดูแลรักษาบางอย่างอยู่แน่ๆเมื่อกี้ข้าเห็นว่ามีอุโมงค์น้ำแข็งอยู่ไม่ไกลจากที่นี่จึงคิดว่าในนั้นน่าจะมีของดีอยู่ ข้าว่า...พวกเราลองเข้าไปดูดีไหม? อย่างน้อยมีคนมากก็จะทำให้ปลอดภัยมากกว่า”
ศิษย์ต่างสำนักคนอื่นๆต่างพยักหน้าเห็นด้วย “จริงด้วย ยิ่งคนมากพลังก็จะมากขึ้นตามไปด้วย บางทีในอุโมงค์น้ำแข็งนั่นอาจจะมีของดีระดับตำนานอยู่ก็ได้นะ!”
ข้าพยักหน้ารับก่อนจะบอกไป“ได้ แต่ว่าช่วยรอข้าสักห้านาทีได้หรือเปล่า?”
หลี่ซูหนานชะงักไปซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขากำลังไม่พอใจ ถึงแม้จะแค่ห้านาทีแต่มันก็สำคัญเพราะอาจจะสามารถสังหารสัตว์ิญญาระดับห้าได้อีกหลายตัวและยิ่งสังหารสัตว์ิญญาได้มากเท่าไรก็จะได้พลังมากขึ้นเท่านั้นและเมื่อได้พลังมากขึ้นก็อาจจะมีสิทธิ์เข้าไปอยู่ในสิบอันดับแรกซึ่งสามารถเข้าเลือกตำราวรยุทธ์ในวิหารศักดิ์สิทธิ์ได้ถือว่าเป็ความใฝ่ฝันของผู้ฝึกฝนิญญาหลายๆ คนเลยล่ะ!
แต่ถึงจะเป็แบบนั้นเขาก็ยังพูดตรงข้ามกับความคิดตัวเอง“ก็ได้ เ้ารีบๆ หน่อยแล้วกัน!”
ดูเหมือนว่าในอุโมงค์น้ำแข็งจะมีของดีอยู่ไม่น้อยเหมือนกันถึงทำให้หลี่ซูหนานยากจะปฏิเสธได้
...
ข้าใช้เวลาหลอมพลังเืของหมาป่าทุ่งน้ำแข็งแต่ละตัวอย่างรวดเร็วในเวลาจำกัดเพียงห้านาทีก่อนจะมุ่งหน้าไปยังอุโมงค์น้ำแข็งที่ว่าพร้อมกับจ้าวชูเยว่และคนอื่นๆถึงแม้ว่าปากอุโมงค์จะถูกปกคลุมด้วยชั้นหิมะและด้านในยังลึกลงไปกว่าครึ่งลี้แต่กลับมีแสงส่องสว่างอยู่ตลอดเวลา
“ปู้อี้เชวียน เ้ามีพลังการโจมตีแข็งแกร่งที่สุดเอาเป็ว่าข้ากับเ้าเดินนำ คนอื่นๆ อยู่ตรงกลางและให้จ้าวชูเยว่ปิดท้ายเ้าว่าอย่างไร?”
“อืม”
ข้าเรียกกระบี่ออกมาไว้ในมือก่อนจะเดินเข้าไปในอุโมงค์กับหลี่ซูหนานเพื่อเบิกทางเมื่อเข้ามาได้เพียงครู่เดียวก็รู้สึกถึงไอเย็นที่พุ่งเข้ามาปะทะจนอุณหภูมิในร่างกายลดฮวบลงไปอย่างรวดเร็วสถานที่แบบนี้ไม่มีสัตว์ิญญาสิแปลก!
พวกข้าจะอยู่ในอุโมงค์นี้นานไม่ได้!
หลี่ซูหนานขมวดคิ้วเข้มก่อนจะพูดขึ้น“ระวังตัวกันด้วย...”
โฮก...
อุโมงค์ด้านในสั่นไหวตามแรงคำรามของสัตว์ขนาดใหญ่ที่อยู่ลึกเข้าไปกว่าสามสิบเมตรมันเป็สียงคำรามที่พร้อมจะมีตัวประหลาดพุ่งออกมาและคำรามเสียงดังก็ไม่ปาน
และเมื่อพลังไสยศาสตร์ที่รุนแรงแผ่ออกมาจนอัดแน่นในบรรยากาศภายในถ้ำและทำให้ผู้เข้าร่วมการประลองขั้นเทวิญญาต่างก็หน้าซีดเผือดจนบางคนเริ่มรู้สึกคิดผิดที่ตามเข้ามา
“ข้าว่า...พวกเราล้มเลิกความคิดนี้แล้วออกไปกันเถอะ”หนึ่งในศิษย์ของสำนักอื่นพูดขึ้น
“ล้มเลิก?”
หลี่ซูหนานแสยะยิ้มก่อนจะพูด“ไม่ทันไรก็ทิ้งความพยายามแบบนี้ วันข้างหน้าจะไปทำอะไรได้?”
“แต่...แต่ว่า...”
และในตอนนี้เองพลังไสยศาสตร์ก็รุนแรงมากขึ้นกว่าเดิมและผนังอุโมงค์ด้านหน้าก็สั่นไหวอย่างรุนแรงเมื่อข้าลองจับพลังความร้อนแผ่ออกมาจากเบื้องหน้าก็พบว่ามีสัตว์ขนาดใหญ่หลายตัวกำลังพุ่งเข้ามาด้วยพลังความร้อนที่รุนแรง!
ปั้ง!
ผนังของอุโมงค์น้ำแข็งพังลงก่อนจะเผยให้เห็นร่างของสัตว์ขนาดใหญ่สี่ตัวที่กำลังคำรามออกมาพร้อมกันจนพวกข้าหลายคนต่างก็กลัวจนหัวหดเพราะนอกจากใบหน้าของมันจะบ่งบอกถึงความดุร้ายแล้วมันยังมีเขี้ยวเล็บที่แหลมคมและร่างกายที่แข็งแกร่งดุจพลังของสายฟ้าอีกต่างหากโดยพลังแรงลมการคำรามของมันพุ่งเข้ามาจนรูขุมขนของพวกต่างก็หดไปด้วยความเหน็บหนาว
“มันคือหมีั์ทุ่งน้ำแข็ง ทุกคนระวังตัว!”
หมีั์ทุ่งน้ำแข็งเป็สัตว์ิญญาระดับห้าที่มีพลังอยู่ในระดับต้นๆและมากกว่าพลังของหมาป่าทุ่งน้ำแข็งพวกนั้นด้วยซ้ำเพราะนอกจากิัของมันจะหนาและทนทานมันยังมีพลังที่เทียบได้กับสัตว์ิญญาระดับหกเลยทีเดียว
จะประมาทไม่ได้!
ข้ารีบเอาพลังมากกว่าครึ่งไหลไปรวมไว้ในเกราะรบเสี้ยวจันทราอย่างรวดเร็วเพราะในเวลานี้การป้องกันคือสิ่งที่ดีที่สุดหลังจากที่ข้าใช้พลังที่เหลืออัดเข้าไปในกระบี่คมจันทราแล้วก็พูดขึ้น “หลี่ซูหนานพวกเราแบ่งกันไปสกัดหมีทุ่งน้ำน้ำแข็งคนละตัว ส่วนอีกสองตัวที่เหลือก็ปล่อยให้คนที่เหลือไปจัดการและระวังอย่าถูกพวกมันลากออกไปจากกลุ่มล่ะ!”
“อืม!”
หมีั์ทุ่งน้ำแข็งตัวหนึ่งพุ่งเข้ามาด้วยร่างกายกำยำแข็งแรงพร้อมกับอ้าปากกว้างซึ่งกลิ่นคาวเืที่ลอยคลุ้งออกมาทำให้ข้ารู้ว่ามันเพิ่งกินอะไรดิบๆ เข้าไปแน่แต่สิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้ก็คือข้าเคยเห็นมันแค่ในตำราสัตว์ิญญาแต่ไม่เคยสู้กับมันมาก่อนจึงไม่ค่อยมั่นใจสักเท่าไร
หมีตัวนั้นมันเปิดเล็บก่อนจะเข้ามาจู่โจมด้วยพลังที่แข็งแกร่งจนอากาศตรงหน้ากลายเป็คลื่นพลังไสยศาสตร์ขนาดใหญ่พุ่งทะลุการป้องกันของกระบี่คมจันทราและเจาะเข้ามาะเิในเกราะรบิญญาของข้าเสียงดังสนั่น
ปั้ง!!หลังจากที่พลังของมันะเิเข้าที่หน้าอกก็ทำให้รู้ว่าถึงแม้พลังของมันจะะเิออกทั้งที่ไม่ได้เข้ามาััความรุนแรงของพลังก็ยังสามารถเข้ามาทำร้ายข้าได้เหมือนเดิมแม้ว่าเกราะรบิญญาจะไร้ซึ่งรอยขีดข่วนแต่ข้ากลับรู้สึกเจ็บจนยากจะรับไหวถ้าจะบอกว่าพลังของหมาป่าทุ่งน้ำแข็งแข็งแกร่งแต่ก็ยังแข็งแกร่งไม่เท่าหมีั์ทุ่งน้ำแข็งตัวนี้ด้วยซ้ำ!
ข้าใช้พลังของเพลงขาเมฆาหมอกเหาะขึ้นไปบนผนังน้ำแข็งเพื่อหลบการโจมตีครั้งที่สองของมันขณะเดียวกันก็หาองศาเหมาะๆ แล้วใช้กระบี่คมจันทราแทงเข้าไปที่สีข้างของมันอย่างรวดเร็วพอกระบี่แทงเข้าไปในิัของมันแล้วข้าก็ไม่สามารถแทงเข้าไปได้อีกหมีตัวนี้มีเนื้อหนังที่เหนียวและทรงพลังจริงๆ ด้วยสินะ!
เมื่อหมีั์ทุ่งน้ำแข็งเห็นว่าขนของตัวเองเต็มไปด้วยเืก็เดือดจัดจนตวัดขาหน้าอันแข็งแกร่งเข้ามาพร้อมกับร่างั์ของมัน
ข้ากวัดแกว่งกระบี่เพื่อป้องกันการโจมตีก่อนจะถอยหลังไปหลายก้าวพลังของกระบี่ยาวในมือถูกเพิ่มเข้ามาอีกครั้ง ซึ่งตอนนี้ข้าไม่ได้ออมมือและจัดการใช้พลังของสองพลังรวมเป็หนึ่งอัดแน่นเข้าไปในกระบี่แล้วฟันลงไปอย่างรวดเร็ว
ฉึบ!ฉึบ!
พลังลมของกระบี่พุ่งเข้าไปสองครั้งติดกันจากนั้นจึงพุ่งทะลุคอของหมีั์ทุ่งน้ำแข็งตัวนั้นสองรูใหญ่ๆจนเืของมันสาดกระเซ็นออกมา
ข้าจัดการแทงเข้าไปอีกครั้งตรงหัวด้วยเพลงกระบี่วายุสังหารของสำนักจนหัวของหมีั์ทุ่งน้ำแข็งตัวนั้นเป็รูก่อนจะสิ้นลมหายใจ
หลังจากที่ร่างของมันล้มลงไปนอนแน่นิ่งบนพื้นข้าก็เห็นว่าหลี่ซูหนานถึงกับตะลึงงันเพราะนึกไม่ถึงว่าข้าจะสามารถจัดการกับหมีทุ่งน้ำแข็งได้เร็วถึงเพียงนี้ส่วนอีกด้านหนึ่งก็เป็จ้าวชูเยว่กับศิษย์ของสำนักอื่นที่กำลังต่อสู้กับหมีั์ทุ่งน้ำแข็งอีกสองตัวอย่างยากลำบากเพราะมีศิษย์หลายคนที่ร่างกายเต็มไปด้วยเืและาแจนเริ่มไร้เรี่ยวแรงในการต่อสู้แล้ว
พลังไสยศาสตร์ของหมีั์ทุ่งน้ำนั้นแข็งแกร่งจนอาจเกิดอันตรายต่อชีวิตสำหรับใครหลายๆคนได้เลยทีเดียว
ข้ารีบพุ่งเข้าไปด้านหลังของหมีั์ทุ่งน้ำแข็งตัวนั้นแล้วใช้พลังของสองพลังรวมเป็หนึ่งแทงทะลุหัวของมันในทันทีตามด้วยเสียงร้องอันน่าเวทนาจากนั้นร่างของสัตว์ิญญาระดับห้าก็ล้มลงไปนอนแน่นิ่งบนพื้นจนเกล็ดหิมะกระเพื่อมขึ้นมาลอยฟุ้งจ้าวชูเยว่ถึงกับอ้าปากค้างอย่างประหลาดใจทั้งที่นางใช้พลังลมของกระบี่ไปสิบกว่าครั้งก็ไม่สามารถแทงทะลุิัของมันได้แต่ข้ากลับสังหารมันได้เพียงครั้งเดียว...
สายรัดผูกิญญาดูดพลังไสยศาสตร์ของหมีั์ทุ่งน้ำแข็งทั้งสองเข้าไปและทำให้เส้นพลังของข้ายาวขึ้นอีกเพราะคะแนนที่สังหารสัตว์ิญญาระดับห้ามันไม่ใช่น้อยๆและตอนนี้ข้าก็น่าจะอยู่ในการจัดลำดับแล้วล่ะมั้ง
เชว้ง!เชว้ง!
หลังจากพลังกระบี่ฟาดฟันเข้าไปหมีทุ่งน้ำแข็งตัวที่สามก็ตายภายใต้กระบี่ของข้าเหมือนเดิม
และตอนนี้เองก็มีเสียงร้องคำรามอย่างน่าเวทนาเกิดขึ้นก่อนที่ร่างของหมีั์ทุ่งน้ำแข็งตัวที่สี่จะสิ้นลมหายใจและล้มลงกับพื้นภายใต้การสังหารของหลี่ซูหนานแต่เขาก็ได้รับาเ็จนหน้าอกเต็มไปด้วยเืเช่นกัน
...
“ท่านเป็อะไรหรือเปล่าศิษย์พี่!?” จ้าวชูเยว่ถามด้วยความเป็ห่วง
“ไม่เป็ไร”
หลี่ซูหนานค้ำผนังน้ำแข็งเพื่อพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นพร้อมกับการหายใจที่ยากลำบากทว่าสายตาของเขากลับมองมาที่ข้าขณะกำลังหลอมพลังของเืหมีั์ทุ่งน้ำแข็งด้วยแววตาที่ทั้งนับถือและไม่สบอารมณ์ในขณะเดียวกัน...
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้