เว่ยจวินหยางได้รับาเ็ภายใน แม้ภายนอกจะดูไม่ออกก็ตาม แต่ความเป็จริงเขาาเ็หนักกว่าอวี๋มู่มากนัก
เขากล้ำกลืนทนมาจนถึงที่พักของอวี๋มู่ จากนั้นเปลี่ยนชุดโดยใส่เสื้อผ้าวัยเด็กของเสี่ยวเหยียน จากนั้นนอนตะแคงหันหลังให้อวี๋มู่ ตั้งใจหลับไปทั้งแบบนี้
ทว่านับตั้งแตวินาทีที่เขาผล็อยหลับไปบนหลังอวี๋มู่ เว่ยจวินหยางก็ตัดสินใจแล้วว่าจะเชื่อใจคนผู้นี้ ขอเพียงตอนนี้มีอวี๋มู่อยู่ข้างกาย เขาก็จะนอนหลับได้อย่างสบายใจ
เสี่ยวเหยียนเป็เด็กที่ค่อนข้างใสซื่อ โม่เหิงเองก็ไม่ได้บอกกับเสี่ยวเหยียนว่าเด็กคนนี้ก็คือเว่ยจวินหยางที่ชื่อเสียงเหม็นโฉ่คนนั้น เพราะว่าเห็นเว่ยจวินหยางยังมีไข้ จึงรีบไปต้มยา
อวี๋มู่กล่าวขอบคุณเขา มือซ้ายรับถ้วยยามา แล้วตบตัวเรียกเว่ยจวินหยางเบาๆ
เด็กน้อยหลับสนิท ยังไม่ทันตื่นดีก็ลุกขึ้นนั่ง สองมือกุมถ้วยยา รสขมพุ่งเข้าจมูกทันใด เขารีบขมวดคิ้ว แสดงท่าทีรังเกียจอย่างมาก
“ขม ไม่อยากดื่ม”
อวี๋มู่ตลกกับท่าทางของเขา แต่ในใจกลับมีความรู้สึกแปลกประหลาดบางอย่าง
ชีหย่วนเป็คนที่เกลียดรสขมชอบรสหวาน ตอนเด็กเวลาไม่สบาย หากไม่ใช่อวี๋มู่เป็คนดูแล รับรองว่าชีหย่วนจะต้องเทยาทิ้งอย่างแน่นอน แม้อาการป่วยจะหนักขึ้นก็ไม่ยอม
เหลียงเสี่ยวหานก็เป็แบบนี้
เื่บังเอิญเหรอ?
“นายท่าน หากกินยาจะรู้สึกสบายตัวขึ้น” อวี๋มู่ใช้มือยกถ้วยขึ้นสูงจรดริมฝีปากของเว่ยจวินหยาง ทำท่าทางให้เขาลองดื่ม
เมื่อเว่ยจวินหยางเริ่มได้สติก็หวนนึกถึงสมัยก่อนตอนอยู่สำนักชิงอี หากว่ามีคนปรุงยารสขมแล้วไม่แปลงรสชาติก่อนยกมาให้เขา อย่างน้อยคนผู้นั้นก็คงถูกลงโทษด้วยการโบยสามสี่สิบครั้ง แต่พอเป็อวี๋มู่แล้ว…
ใบหน้าเล็กของเว่ยจวินหยางยู่ขึ้นเล็กน้อย เขาจ้องมองถ้วยยาสีดำตรงหน้าด้วยสีหน้าคิดหนัก พลางชำเลืองมองใบหน้าคาดหวังของอวี๋มู่ จนสุดท้ายตัดสินใจยกถ้วยยาขึ้นซดรวดเดียวลงคอ
กระเพาะเหมือนดีด รสขมจนลิ้นชา สมองเบลอ เว่ยจวินหยางแทบอยากอาเจียนออกมา
แต่หลังจากนั้น ริมฝีปากเย็นชืดก็มีผลไม้แช่อิ่มชิ้นหนึ่งถูกป้อนเข้ามา ฉับพลันรสขมในปากก็หายไป ทำให้เว่ยจวินหยางคลายคิ้วที่ขมวดเป็ปมลงและรู้สึกดีขึ้น
ชายหนุ่มรูปงามเบื้องหน้ายิ้มแย้ม ในมือถือจานผลไม้แช่อิ่ม ยื่นใส่มือเขา “รู้ว่านายท่านขยาดรสขม ข้าน้อยเลยให้เสี่ยวเหยียนเตรียมผลไม้แช่อิ่มไว้ นายท่านกินให้หมดจะได้ไม่รู้สึกขม”
เว่ยจวินหยางถือจานเล็กไว้ ปากก็เคี้ยวผลไม้แช่อิ่มไป สายตาเลื่อนไปหยุดที่ริมฝีปากของอวี๋มู่อย่างไม่รู้ตัว
ริมฝีปากที่เขาเคยจูบและกัดมานับครั้งไม่ถ้วน
แววตาลึกซึ้ง เว่ยจวินหยางรีบยัดผลไม้แช่อิ่มเข้าปากง่ำๆ จนหมดแล้วหันหลังลงนอน
ตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกว่าพิษแปลกประหลาดนั่นก็มีข้อดีอยู่เหมือนกัน
เพราะถูกพิษนั่นเขาถึงได้อวี๋มู่ ฉีกการเสแสร้งแกล้งเป็ของเขาที่ผ่านมา เผยความหื่นกระหายด้านนั้นให้ตัวเองเห็น
อวี๋มู่โตกว่าเขาห้าปี ตอนนี้ยี่สิบแปดแล้ว อวี๋มู่เข้าสำนักตอนอายุยี่สิบสองด้วยเหตุผลที่อยากตอบแทนพระคุณของอาจารย์ และตอนนี้ก็เป็คุณชายมู่แห่งสำนักชิงอีมาได้หกปี
เว่ยจวินหยางไม่ได้รู้เื่ของอวี๋มู่มากนัก เขารู้ว่าคนๆ นี้มีนิสัยไม่คาดหวัง ไม่มีตัณหา และไม่ว่าเขาจะทรมานอวี๋มู่อย่างไร ก็ไม่ค่อยได้รับการตอบรับกลับมาเท่าไร
คิดไม่ถึงว่าท้ายที่สุดแล้ว คนๆ นี้คือคนที่ช่วยชีวิตเขา
เว่ยจวินหยางถึงกับเริ่มรู้สึกเสียใจทีหลัง หากว่าได้เขาคนนี้มาแต่แรก คงได้รับความสุขเ่าั้มากกว่านี้
มนุษย์มักมากในกาม
เว่ยจวินหยางนึกถึงรสชาติที่เคยได้ลิ้มลอง บวกกับความรู้สึกที่มีกับอวี๋มู่ที่ไม่เหมือนเดิม ตอนนี้นอนข้างเขาเริ่มรู้สึกคันไม้คันมือ
รอจนรักษาตัวเสร็จ เขาจะบุกล้างบางสำนักชิงอี แย่งชิงตำแหน่งประมุขและจะจับอวี๋มู่มากักขังไว้ให้เขาคนนี้อยู่ในเงื้อมมือ ไม่ให้ใครได้มาทำเขาแปดเปื้อน
อวี๋มู่ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ รู้สึกเพียงว่าเด็กน้อยผู้เย่อหยิ่งก็เชื่อฟังว่าง่ายเป็เหมือนกัน
อย่างไรก็ตามแต่ น่าอัศจรรย์!
เขาเองก็เหนื่อยมากพอสมควร เห็นเว่ยจวินหยางหลับสนิท จึงล้มตัวลงนอน แต่นอนตะแคงซ้ายจะทับแผลที่น่องซ้าย ตะแคงขวาก็ทับแผลที่แขนขวา สุดท้ายต้องนอนหงาย ไม่ค่อยสบายตัว
พอไม่สบายใจ เขาก็หลับตาสนทนากับระบบ : ระบบ วิธีที่โม่เหิงพูดถึงการรักษาเว่ยจวินหยาง ชั่วร้ายทีเดียว เหมือนว่าพอเว่ยจวินหยางฟื้นคืน ฉันก็ต้องตาย ถ้าอย่างนั้นจะเพิ่มคะแนนยังไงล่ะ?
ตอนนั้นที่พูดกับโม่เหิงคำสาบานเป็มั่นเป็เหมาะ บอกว่าเพื่อเว่ยจวินหยางกระทั่งชีวิตตัวเองก็ยกให้ได้ แต่นั่นเป็เพราะว่าต้องเติมคะแนนความประทับใจเ้าหมอนั่น หากตัวเองตายไป คะแนนความประทับใจอีกฝ่ายยังไม่เต็ม ก็เท่ากับภารกิจล้มเหลวน่ะสิ?
เื่ที่ทำแล้วเปลืองแรง เขาไม่อยากทำ
[โฮสต์ไม่ต้องห่วงครับ] ระบบเริ่มร่ายให้เขาฟัง [ไม่แน่ใจว่าโฮสต์เคยได้ยินคำว่า ‘หนีตาย’ ความเจ็บถึงทรวงที่เป็ที่นิยมบนเว็บเพจนิยายออนไลน์ไหมครับ ก็คือคุณทำดีกับเว่ยจวินหยางแทบตาย ได้รับความเชื่อใจจากเขา สุดท้ายก็ใช้วิธีตายเพื่อเขาแล้วจากไปตลอดชีวิต เท่านี้ก็จะสร้างความช็อกให้เขาอย่างมาก ทำให้เขาไม่มีทางลืมคุณไปตลอดชีวิต อีกทั้งยังรู้ตัวด้วยว่า ‘อา นี่มันเป็ความรัก ที่แท้ ข้าก็รักเขา’ แบบนี้ครับ]
อวี๋มู่ : …….บอกมาซิ ระบบ นี่นายอ่านนิยายบ้าบอพวกนี้ไปเท่าไรกันแน่?
[ไม่เยอะครับ แค่สองสามหมื่นเล่มเอง]
อวี๋มู่ช็อกและเงียบไปชั่วขณะ ถามต่อ : …ที่นายพูดมาได้ผลแน่นะ?
[ได้ผลสิ! ต้องได้ผลแน่นอน! เชื่อผมสิครับ!]
อวี๋มู่คิดๆ ดู แล้วตอบเขา : อย่าหลอกฉันนะ
[ไม่แน่นอนครับ!] ระบบเปลี่ยนหัวข้อทันใด แล้วเอ่ยต่อ [แต่ว่า โฮสต์ครับ คุณต้องแสดงละครบทบาทนี้ให้ดี…]
*
วันรุ่งขึ้น อวี๋มู่พบว่าเว่ยจวินหยางกระเถิบมาหาเขาั้แ่เมื่อไหร่ไม่รู้ โอบแขนเขาแล้วซบที่ไหล่นอนหลับสบายใจเฉิบ ใบหน้านั้นมองแวบหนึ่งคล้ายกับหน้าชีหย่วนตอนเด็ก
อวี๋มู่สะบัดหน้า นึกถึงเื่ที่ระบบเตือนสติเขาเมื่อวาน ขณะเดียวกันก็เริ่มรู้สึกเห็นใจไอ้ลูกหมาเว่ยที่กำลังจะถูกปั่นจนหัวหมุน
ทว่าเมื่อนึกถึงเื่ราวที่ไอ้ลูกหมานี่เคยทำกับเขา บวกกับเนื้อแท้ของหมอนี่ที่เป็พวกดุร้ายเหี้ยมโหดชอบเข่นฆ่าคนแล้ว เขาก็รู้สึกว่าเป็สิ่งที่เว่ยจวินหยางทำ สมควรได้รับผลตอบแทน
ระบายความโกรธผ่านการหยิกแก้มขาวเนียนนุ่มของเว่ยจวินหยาง อวี๋มู่ลุกลงจากเตียง เปิดประตูเดินออกไปตรงสวน
เห็นโม่เหิงกับเสี่ยวเหยียนกำลังจัดการกับผักที่ปลูกอยู่ตรงสวน คีบต้นกล้าที่ถูกฝนซัดกระหน่ำให้ตั้งตรงขึ้นมา
โม่เหิงเห็นเขาออกมา สีหน้าไม่ค่อยดี เดาว่าคงยังเป็กังวลเกี่ยวกับเื่เมื่อวาน
อวี๋มู่เดินไป น้ำเสียงสุภาพ “หมอเทวดาโม่ ข้าขอคุยด้วยสักเดี๋ยวได้หรือไม่?”
โม่เหิงมองสำรวจเขา ถือตะกร้ามะเขือเทศแล้วเดินมาข้างหน้า “ไปเถอะ”
อวี๋มู่รีบเดินตาม
โม่เหิงกังวลแผลตรงขาเขา จึงไม่ได้เดินเร็วมาก อวี๋มู่สังเกตเห็นจุดนี้ แน่ใจได้อีกครั้งว่าโม่เหิงเป็พวกปากแข็งแต่ใจอ่อน
โม่เหิงพาเขามาที่ห้องนอนตัวเอง อวี๋มู่ดมกลิ่น แทบจะเป็กลิ่นเฟิงเยี่ยนทั้งห้อง
เขากวาดตาดู ในห้องมีเตาหลอมเล็กๆ มีธูปหอมปักอยู่หนึ่งก้าน กลิ่นคงออกมาจากตรงนั้น
จังหวะนั้น อวี๋มู่แทบอยากวิ่ง
จมูกสุนัขของเ้าบ้าเว่ยจวินหยาง ดมกลิ่นเก่งอย่างกับอะไรดี เขาต้องงานเข้าแน่
“หมอเทวดาโม่ พวกเราออกไปคุยด้านนอกดีกว่าหรือไม่?”
โม่เหิงชำเลืองมองดูเขา “คุยที่นี่แหละ ทำไม? เ้ารังเกียจที่พักของข้าถึงเพียงนั้นเชียวหรือ?”
“ไม่ใช่ๆ” อวี๋มู่รีบปฏิเสธ แต่ท่าทางก็ราวกับเสือติดจั่น
“อยากพูดอะไรก็พูดมาเถอะ” โม่เหิงหยิบตำราฝึกคู่ขนานต้องห้ามในลิ้นชัก แล้วยื่นให้อวี๋มู่ “นี่คือสูตรลับหนึ่งเดียวที่สามารถช่วยชีวิตเว่ยจวินหยางได้ วันนี้ข้ารักษาคำพูดให้มันกับเ้า จากนี้ไปข้าจะไม่ยุ่งเื่ของเ้าอีก แต่ข้าหวังว่าเ้าจะไม่เสียใจทีหลัง…”
โม่เหิงพ่นลมหายใจแล้วเอ่ย “ไม่เสียใจทีหลังที่ช่วยเ้าสารเลวนั่น”
“ขอบคุณหมอเทวดา” อวี๋มู่กล่าวขอบคุณ “แต่ว่า ข้าหวังว่าหมอเทวดาจะช่วยรักษาเื่นี้เป็ความลับ ไม่ต้องบอกกับนายท่านของข้าว่าข้าใช้วิธีนี้ช่วยเขา”
“ทำไมล่ะ? ” โม่เหิงขมวดคิ้ว “เ้าช่วยเขาโดยไม่สนแม้กระทั่งชีวิตตัวเอง เขาจำต้องรับรู้น้ำใจข้อนี้! จดจำสิ่งที่เ้าทำเพื่อเขาทั้งหมด! ”
“ไม่มีความจำเป็” อวี๋มู่ใช้คำพูดที่ระบบสอนเขามาตอบกับโม่เหิง “ในสายตาเขา ข้าไม่ได้มีความสำคัญถึงเพียงนั้น เทียบกับการให้เขาหัวเราะเยาะการกระทำของข้า สู้ไม่ต้องให้เขารู้เสียดีกว่า”
“......” โม่เหิงเงียบไป
เขากำหมัดแน่น ผ่านไปเนิ่นนานค่อยเอ่ย “อวี๋มู่ข้าอ่านเ้าไม่ออกจริงๆ ไม่รู้ด้วยว่าแท้จริงแล้วเ้า้าอะไรกันแน่…….”
ไม่นาน จู่ๆ เขาก็นึกถึงเื่รอยช้ำจากการร่วมรักของอวี๋มู่ บวกกับสถานะนายบำเรอในสำนักชิงอี สีหน้าเปลี่ยนไปชะงัด เขาเอ่ยถามอวี๋มู่ “หรือว่าเ้าหลงรักเขาอย่างนั้นหรือ?”
โม่เหิงมีนิสัยชอบอ่านตำรารัก เขาอ่านเื่ราวความรักมาจากในตำรา มีเพียงความรัก ที่จะก่อให้เกิดการทุ่มเทแบบไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ถึงขนาดที่ว่ายอมตายเพื่อคนรักได้โดยไม่ขออะไรตอบแทน
อวี๋มู่ชะงัก เหมือนถูกคำพูดนี้ผ่าจนกรอบนอกนุ่มใน
เขาใช้เวลาสักพักกว่าจะกลั้นหัวเราะไว้ได้ ท่าทางหัวเราะก็ไม่ใช่ จะร้องไห้ก็ไม่เชิง ในสายตาโม่เหิงคิดว่าตัวเองทายความในใจอีกฝ่ายถูกต้อง ดังนั้นอวี๋มู่จึงมีปฏิกิริยาแบบนั้น
โม่เหิงรู้สึกว่าตัวเองทายได้แม่นยำ เขาปล่อยมืออย่างหดหู่ เอ่ยพร้อมถอนใจ “ที่แท้ก็เป็เช่นนี้เอง เพราะรักเขา ดังนั้นเ้าจึงยอมทำถึงขั้นนี้…”
“ข้ารับปากเ้า จะไม่ยอมบอกเื่นี้กับเขา และให้คนไร้หัวใจใช้ชีวิตแบบนี้ต่อไป”
เมื่อรับตำรามาแล้วซ่อนไว้ที่อก อวี๋มู่เดินออกจากห้องโม่เหิง แล้วไปทางห้องไม้ข้างๆ สะกดความอยากหัวเราะไว้จนตัวสั่น
อวี๋มู่ : ฮ่าๆๆๆๆ ระบบ อีกหน่อยถ้านายจะเขียนนิยายต้องลากโม่เหิงมาด้วย ในหัวนี่กลวงขนาดไหนกัน ฉันจะไปชอบเว่ยจวินหยางได้อย่างไร? ไม่ถูกสิ ฉันจะหลงรักเว่ยจวินหยางได้อย่างไรกัน? ตลกสิ้นดี ฮ่าๆๆ…
ระบบฟังเขาหัวเราะเงียบๆ ชั่วครู่ แล้วถอนหายใจ ไม่ได้เอ่ยต่อ
รอจนอวี๋มู่หยุด จึงนึกขึ้นได้แล้วถามระบบ : ระบบ ฉันแสดงละครตามที่นายบอก ต่อจากนี้ต้องทำยังไงบ้าง?
[ต่อจากนี้แค่ต้องคอยรักษาภาพลักษณ์ของนายบำเรอจงรักภักดีที่แอบรักเว่ยจวินหยางก็พอครับ เพิ่มคะแนนความประทับใจของเขา ดีกับเขา รอจนตอนใกล้จะตาย เขาจะเอ่ยถามว่าทั้งหมดนี่มันเื่อะไรกัน คุณค่อยสารภาพ ทำให้เป็รักโลดโผนเข้าไว้ แล้วคะแนนความประทับใจจะเต็มแน่นอนครับ]
พูดจบ ระบบนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งแล้วเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง [โฮสต์ครับ หากว่า ผมหมายถึงสมมติ สมมติว่าเขาไม่ทรมานคุณอีก ทั้งยังดีกับคุณ คุณจะมีทางชอบเขาไหมครับ?]
อวี๋มู่ตอบโดยไม่ต้องคิด : ไม่
เดิมเขาก็ไม่ได้รักผู้ชายอยู่แล้ว บวกกับนิสัยอย่างเว่ยจวินหยางเขาชอบไม่ลงจริงๆ
ชอบ ไม่มีทางเป็ไปได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ชาตินี้ก็อย่าหวัง
[เฮ้อ…...]
อวี๋มู่ : ระบบ นายถอนหายใจอะไร?
[ไม่มีอะไรครับ เพียงแค่รู้สึกปวดใจ]
ปวดใจแทนท่านผู้นั้น
----------------------------------------------------------------------