ผัวะ!
ดาบในมือของผมฟาดปีกของเ้าผึ้งสังหารจนตาย
พร้อมกับแสงสีทองที่สาดส่องเวลานี้ทั้งผมและเ้าจุกนมจุ๊บๆ เลเวลอัปแล้ว เ้าจุกนมจุ๊บๆกระพือปีกบินเต้นระบำรอบตัวผมด้วยท่าทางมีความสุข
ค่าสถานะทั้ง 10 พอยต์ของผมและเ้าจุกนมจุ๊บๆ ถูกเติมเต็มไปยังพลังโจมตีทั้งหมดหลังผ่านไปหนึ่งชั่วโมงกว่าๆ เ้าจุกนมจุ๊บๆ ก็เลเวล 15 แล้วและพลังโจมตีของมันก็สูงถึง 150 พอยต์หลังจากเปิดตารางสัตว์เลี้ยงขึ้นมาผมถึงกับตะลึง ให้ตายเถอะ เลเวล 15 แท้ๆ แต่พลังโจมตีมากกว่าผมอีกนะเนี่ย!
[เ้าจุกนมจุ๊บๆ](ผึ้งแม่ทัพ)
เลเวล:15
พลังโจมตี:192-291
พลังป้องกัน:101
HP:305
MP:173
สกิล: [การโจมตีแบบคอมโบ (LV-1) ]
……
ช่างเป็พลังโจมตีที่น่าดึงดูดเหลือเกินพลังของมันในเวลานี้เทียบเท่ากับนักดาบเลเวล 15 การโจมตีและการป้องกันถือว่าไม่เลวเลยและมันก็พร้อมจะร่วมต่อสู้ไปกับผมแล้วด้วย!
ผมเปลี่ยนคำสั่งจากโหมดสัตว์เลี้ยงเป็โหมดต่อสู้ทันที
ผมจ้องเ้าผึ้งสังหารก่อนใช้ดาบชี้ไปข้างหน้า“จัดการซะ! ”
สวบ!
ทันทีที่ได้รับคำสั่งเ้าจุกนมจุ๊บๆ ก็บินไปอย่างไม่รีรอ จุ๊ๆ ความว่องไวระดับ 4.5 ดาวนี่ใช่เล่นเลยนะเนี่ย ค่าความเป็เลิศ 97% ของมันถือว่ายอดเยี่ยมสุดๆสัตว์เลี้ยงแบบนี้ถือเป็ฝันร้ายของผู้เล่นที่คิดจะเป็ศัตรูของผมเลยละ!
เ้าจุกนมจุ๊บๆบินไปด้านหน้าอย่างรวดเร็วก่อนจะกระดกก้นน้อยๆ ที่มีพิษจนเกิดแสงสีทอง “สวบๆ ”ซึ่งทำให้เกิดตัวเลขค่าเสียหายขึ้นติดต่อกัน 2 ครั้งทันใดนั้นมันก็ยืดตัวขึ้นเริ่มโจมตีครั้งที่ 3
“-197! ”
“-201! ”
“-312! ”
……
ในที่สุดเ้าผึ้งสังหารก็ถูกฆ่าตายภายในหนึ่งวินาที!
ผมถึงกับตาค้างเมื่อเห็นฉากตรงหน้าเ้าจุกนมจุ๊บๆ นี่สุดยอดเกินไปแล้ว สามารถฆ่ามอนสเตอร์เลเวล 24 ได้ภายในหนึ่งวินาทีทั้งๆ ที่มันยังแค่เลเวล 15 เนี่ยนะ
เ้าจุกนมจุ๊บๆบินกลับมาด้วยท่าทางร่าเริงทันใดนั้นผมก็เริ่มดูถูกความสามารถในการโจมตีของตัวเองในฐานะฮีลเลอร์สายบู๊ขึ้นมาเฮ้อ ช่างเถอะ กลับเมืองก่อนก็แล้วกัน ตอนนี้ยังเหลือเวลาอีกชั่วโมงเศษกว่าจะถึง 6 โมงเย็น รีบกลับไปหาเงินก่อนไปร่วมงานเลี้ยงต้อนรับ่ค่ำดีกว่าอันที่จริงเื่งานเลี้ยงเต้นรำพวกนี้ผมเองก็เคยเข้าร่วมเหมือนกันเมื่อคราวอยู่ที่บาหลี โตเกียว กรุงโซล ดังนั้นนอกจากภาษาอังกฤษแสนห่วยแตกแล้วอย่างอื่นผมค่อนข้างมั่นใจนะ
เมื่อกลับมาถึงเมืองแล้วผมก็เอาเ้าจุกนมจุ๊บๆ ไปเก็บทันทีการเปิดเผยเ้านี่ดูจะเป็เื่ประเจิดประเจ้อเกินไปหน่อยตอนนี้ผมเป็แค่ฮีลเลอร์เลเวล 22 คนหนึ่งยังไม่มีใครสนใจผมหรอก แต่ถ้าปล่อยให้เ้าจุกนมจุ๊บๆ ออกมาเพ่นพ่านผมอาจกลายเป็จุดเด่นทันที แถมยังตกเป็เป้าสายตาได้ง่ายๆ อีกด้วยเพื่อให้การเพิ่มเลเวลของผมเป็ไปได้เร็วขึ้น ตอนนี้ผมจึงต้องห้ามทำตัวเด่นเกินไป
พอกลับมาถึงเมืองปาหวางผมก็เริ่มเปิดแผงลอยทันทีโดยนำอุปกรณ์ระดับขาวมาวาง และเอาเ้าผึ้งสังหารที่มีค่าความเป็เลิศ 74% ออกมาขาย ก่อนจะะโเรียกลูกค้า “เร่เข้ามาๆ ผึ้งสังหารค่าความเป็เลิศ 74%ตั้งขายที่เมืองปาหวางแล้วจ้า พลังโจมตี 4.5 ดาวถือเป็สัตว์เลี้ยงที่มีระดับยอดเยี่ยมในเวลานี้เลยใครมีเงินอยากได้เ้านี่กลับไปก็เข้ามาดูได้นะจ๊ะ! ”
หลังจากะโออกไปคนจำนวนมากก็เริ่มสนใจและเดินเข้ามาสอบถาม
“ขี้โม้หรือเปล่าเนี่ย?การโจมตี 4.5 ดาวเลยเหรอ? เวอร์ไปหรือเปล่า”
“นั่นสิแถมยังมีค่าความเป็เลิศ 74% อีก โม้หรือเปล่าวะเนี่ยทั้งเมืองปาหวางสัตว์เลี้ยงที่มีค่าความเป็เลิศสูงที่สุดก็คือค้างคาวแวมไพร์ที่มีค่าความเป็เลิศ69% เท่านั้นแหละ”
“ฮ่าๆเ้าบ้านี่ประสาทชะมัด”
……
แต่หลังจากที่ผมเปิดค่าสถานะของเ้าผึ้งสังหารให้ดูคนพวกนั้นก็เงียบเสียงทันที พร้อมกับดวงตาที่เปล่งประกายนี่ถ้าไม่ใช่เพราะมีข้อห้ามไม่ให้มีการฆ่ากันภายในเมืองผมคงจะฆ่าชิงทรัพย์พวกบ้านี่ไปแล้ว!
เพียงไม่นานชายหนุ่มเลเวล 23 คนหนึ่งก็เดินเข้ามาพร้อมกับดาบและเสื้อคลุมที่ปกปิดใบหน้าของเขาแล้วเสียงที่แหบพร่าก็ดังขึ้น “เฮ้ เ้าผึ้งสังหารนี่ขายเท่าไร? ”
ผมชูนิ้วขึ้นมาสามนิ้ว“ราคานี้”
“30 เหรียญทอง?ตกลง! ”
“เปล่า 300เหรียญทอง”
“แพงไปหรือเปล่าฉันซื้อไม่ไหวหรอก...”
……
มีหลายคนที่เข้ามาถามราคาของเ้านี่แต่กลับไม่มีใครมีเงินเกิน 100 เหรียญทองเลยแม้แต่คนเดียวเงินจำนวน 100 เหรียญทองในเวลานี้เทียบเท่ากับเงินจริง 2,500หยวน จึงไม่ใช่เื่ง่ายที่จะมีคนยอมควักเงิน 7,500 หยวนเพื่อซื้อสัตว์เลี้ยงตัวนี้แต่ผมก็ยังเชื่อมั่นว่าต้องมีคนที่มีปัญญาซื้อในราคาที่ผมตั้งไว้โดยเฉพาะคนที่อยู่ภายในเกมนี้ ขอเพียงของมีคุณภาพ ต่อให้ขาย 7.5 หมื่นหยวนก็ยังคุ้มค่าที่จะซื้อ ผึ้งตัวนี้มีค่าความเป็เลิศ 74% ซึ่งยังไม่ถือว่าสูงที่สุด ถ้ามันมีค่าความเป็เลิศ 100% ละก็ ราคาของมันคงเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว
การโจมตีและค่าความเป็เลิศของสัตว์เลี้ยงเป็สิ่งสำคัญอย่างมากสัตว์เลี้ยงที่มีค่าโจมตี 5 ดาวและมีค่าความเป็เลิศ 50% หรือมีค่าการโจมตี 3 ดาว แต่มีค่าความเป็เลิศ 100%ต่างก็มีราคาขายเหมือนกันซึ่งมันมีความสมเหตุสมผลในการคำนวณราคาของสัตว์เลี้ยงพวกนี้
ติ๊ง!
ทันใดนั้นก็มีข้อความส่งมาหาผมและมันก็ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากเยว่ชิงเฉี่ยนที่เป็เพื่อนในเกมเพียงคนเดียว“นี่เซียวเหยา นายกำลังขายผึ้งสังหารที่มีค่าความเป็เลิศ 74% อยู่เหรอ? ”
“ใช่ เธอสนใจเหรอ?”
“ใช่นายอย่าเพิ่งขายนะ รอฉันแป๊บนึง อีก 2 นาทีถึง”
“อื้อ”
ผ่านไป 2 นาที เยว่ชิงเฉี่ยนก็ถือกริชแดงโลหิตแหวกกลุ่มคนมาหาผมก่อนส่งยิ้มหวานหลังจากตรวจสอบค่าสถานะของผึ้งสังหารแล้วเธอก็แลบลิ้นออกมา “ว้าวเป็สัตว์เลี้ยงที่ยอดเยี่ยมตัวหนึ่งเลยนะเนี่ย นี่เซียวเหยานายตั้งราคาเ้านี่ไว้เท่าไรน่ะ? ”
ผมยิ้ม “กำลังรอราคาน่ะใครให้มากกว่าก็ขายให้คนนั้น แต่ถ้าเธออยากได้ ฉันจะลดราคาให้ก็แล้วกัน”
เยว่ชิงเฉี่ยนยิ้มก่อนส่ายหน้า“ไม่ต้องหรอก ยังไงฉันก็ไม่มีปัญญาซื้อสัตว์เลี้ยงตัวนี้อยู่ดีแต่ลุงใหญ่ของพวกเราอยากได้น่ะ นายรอแป๊บนะ เดี๋ยวเขาจะมาคุยกับนายด้วยตัวเอง”
“อื้อ”
หลังจากรอไม่นานนักดาบเลเวล 26 คนหนึ่งก็เดินแหวกกลุ่มคนเข้ามาเหนือศีรษะของเขามีตัวอักษรลอยสะดุดตา
ID :เยี่ยนจ้าวอู๋ซวงเลเวล 26 อาชีพนักดาบ (ผู้เล่นอันดับหนึ่งของเมืองปาหวาง)
……
ให้ตายเถอะคนที่ถูกจัดอยู่อันดับต้นๆ มีสัญลักษณ์แสดงขนาดนี้เลยหรือนี่แถมชื่อยังเป็ตัวอักษรสีทองอีก เท่ชะมัดแม้แต่บนไหล่ของเยว่ชิงเฉี่ยนซึ่งถูกจัดอยู่ลำดับที่ 4 ก็ยังมีฉายาสีทองลอยอยู่เหมือนกันถือเป็สัญลักษณ์ระบุตัวตนและแสดงความแข็งแกร่งของเ้าของเลยนะเนี่ยน่าอิจฉาชะมัด!
เยี่ยนจ้าวอู๋ซวงซึ่งดูมีอายุแล้วมองผมพร้อมกับรอยยิ้มบนหน้า“นายคือเซียวเหยาจื้อจ้ายสินะ? ไม่เลวเลยนี่อายุแค่นี้แต่มีความสามารถขนาดนี้ คิดไม่ถึงว่าหลังจากนกขนสีเงินแล้วนายจะสามารถผนึกผึ้งสังหารด้วยตัวเองอีก ได้ยินว่านายไม่ต้องพึ่งพาใครสักคนเลยด้วยแถมยังสามารถเปลี่ยนคลาสเป็ฮีลเลอร์เต็มตัวได้อีก เยี่ยมจริงๆ ”
ผมยิ้ม“เถ้าแก่จะซื้อผึ้งสังหารหรือครับ? ”
เยี่ยนจ้าวอู๋ซวงพยักหน้า“ใช่ นายขายเท่าไรล่ะ? ”
ผมส่ายหน้า “ไหนๆของก็อยู่ตรงนี้แล้ว คุณเสนอราคามาเลยครับ ถ้าราคาสมเหตุสมผล ผมจะขายให้”
“งั้นเหรอ...”
เยี่ยนจ้าวอู๋ซวงเงียบไปก่อนจะชูนิ้วขึ้นมา5 นิ้ว “500 เหรียญทองขายหรือเปล่า? ถ้านายขาย ฉันจะเอาเงินมาให้ทันที”
ผมพยักหน้า “ตกลงครับ 500 เหรียญทอง”
“ได้ช่างเป็ความเ็ปที่มีความสุขจริงๆ ฮ่าๆ งั้นรอฉัน 10 นาทีนะ”
“ได้ครับ”
เยี่ยนจ้าวอู๋ซวงที่ถือดาบเหล็กสีดำเดินออกไปพร้อมกับเยว่ชิงเฉี่ยนพลางพูดคุยกันเป็การส่วนตัวในขณะที่ผมยังคงขายอุปกรณ์ระดับขาวให้ลูกค้ารายอื่น ผ่านไปไม่ถึง 10 นาที เยี่ยนจ้าวอู๋ซวงกับคนอีก 3 คนก็เดินมาหน้าแผงลอยของผมก่อนจะยิ้มและพูดขึ้น“น้องชาย เงินครบแล้ว มาแลกเปลี่ยนซื้อขายกันเลย”
“ได้ครับ”
ผมเปิดตารางแลกเปลี่ยนซื้อขายก่อนนำเ้าผึ้งสังหารวางลงในตารางในเวลาเดียวกันก็ตรวจสอบอย่างรอบคอบว่าจะไม่พลาดเอาเ้าจุกนมจุ๊บๆที่รักใส่ลงไปในช่องแลกเปลี่ยนซื้อขาย เพราะค่าสถานะของเ้าจุกนมจุ๊บๆ ของผมยอดเยี่ยมกว่าผึ้งสังหารเสียอีกและแน่นอนว่าหลังจากนี้ต่อให้มีคนเสนอเงินถึง 5,000 เหรียญทองผมก็ไม่ขายหรอก
……
ติ๊ง!เสียงการแลกเปลี่ยนซื้อขายเสร็จสิ้นพร้อมกับเงิน 500 เหรียญทองที่มาอยู่ในมือผมเยี่ยนจ้าวอู๋ซวงปรบมือก่อนจะนำผึ้งสังหารออกมาแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “เซียวเหยาจื้อจ้ายนายไม่คิดจะเข้าร่วมกิลด์ปรากของพวกเราจริงเหรอ? ถึงแม้ว่ากิลด์ในเมืองปาหวางจะเยอะมากแต่ฉันมั่นใจว่ากิลด์ปรากของพวกเรามีความแข็งแกร่งในการแข่งขันยอดเยี่ยมที่สุดถ้านายเข้าร่วมกับพวกเรา ความสามารถของนายในเวลานี้สามารถขึ้นมาอยู่อันดับต้นๆ ได้เลยนะ”
ผมยิ้ม “ขอบคุณมากครับแต่ผมคงจะไม่เข้าร่วมกิลด์หรอกครับ เพราะผมมีเพื่อนแล้ว”
“ก็ได้ๆงั้นไว้เจอกันใหม่นะ”
“ลาก่อนครับ”
เยว่ชิงเฉี่ยนเอามือไพล่หลังก่อนจะหันมายิ้มให้แล้วเดินออกไปพร้อมกับลุงใหญ่ให้ตายเถอะ หน้าตาของเยี่ยนจ้าวอู๋ซวงอัปลักษณ์อย่างกับอู๋เมิ่งต๋า ดันเอาคนสวยๆแบบเยว่ชิงเฉี่ยนไปอยู่กับตาลุงเนี่ยนะ น่าเสียดายชะมัด
……
หลังจากดูเวลาก็พบว่าใกล้จะ6 โมงเย็นแล้ว ท้องผมเริ่มร้องด้วยความหิวผมจึงตัดสินใจออกจากระบบไปรอสาวๆ ใต้หอพักหญิง
ตอนนี้ท้องฟ้าเริ่มมืดผมจึงเลือกไปยืนรออยู่ใต้แสงสว่างจากโคมไฟ หลังจากรออยู่ครู่หนึ่งหลินหว่านเอ๋อร์และตงเฉิงเยว่ก็เดินลงมา ั์ตาของผมลุกวาวเมื่อเห็นสองสาวหลินหว่านเอ๋อร์ในชุดเดรสสีน้ำเงินใบหน้ารูปไข่ของเธอยามอยู่ภายใต้แสงสว่างช่างน่าหลงใหลเสียเหลือเกินแถมยังเนินเขาขนาด D34 ที่นูนออกมานั่นอีกช่างเป็เนินเขาที่อวบอิ่มขาวเนียนดีจัง ไม่เพียงแค่เนินเขาเท่านั้นร่องลึกตรงกลางนั่นทำให้ิญญาผมแทบจะหลุดออกจากร่างแล้วะโลงไปแหวกว่ายในนั้นซะเดี๋ยวนี้เลย
ผมกลืนน้ำลายทันที เฮ้อเ้านายผมนี่สวยจังแฮะ อดทนไว้ๆ
ขณะเดียวกันตงเฉิงเยว่ในชุดเดรสสีขาวก็ควงแขนมาพร้อมหลินหว่านเอ๋อร์ตอนนี้ทั้งคู่ดูราวกับฝาแฝด จากนั้นหลินหว่านเอ๋อร์ก็เดินมาข้างหน้าเธอมองผมแล้วพูดขึ้น “ไปกันเถอะ”
ส่วนผมนั้นมองเธอด้วยสายตาเหมือนิญญาได้หลุดออกจากร่างไปแล้ว
“นี่จะมองอีกนานไหม? ” หลินหว่านเอ๋อร์หน้าแดง
ตงเฉิงเยว่ที่ยืนอยู่ข้างๆพูดขึ้น “นี่เซียวเหยา วันนี้หว่านเอ๋อร์ดูดีมากเลยใช่ไหมล่ะ? ”
ผมพยักหน้า “อื้อ”
ตงเฉิงเยว่ยิ้ม “นี่เลิกมองด้วยสายตาแบบนั้นได้แล้ว นายยังต้องอยู่กับหว่านเอ๋อร์อีกนานยังไงก็มีโอกาสได้เห็นอีก”
“อื้อ”
ผมรีบหมุนตัว “ไปกันเถอะรีบไปงานเลี้ยงกั...”
โป๊ก!เสียงศีรษะกระแทกกับเสาไฟ พร้อมด้วยหมู่ดาวที่ลอยคว้างอยู่เหนือศีรษะ ให้ตายเถอะ!เสาไฟบ้านี่มาตั้งอยู่ตรงนี้ั้แ่เมื่อไรฟะ!
สองสาวหัวเราะเบาๆก่อนเดินไปยังห้องโถงจัดงานเลี้ยงต้อนรับ ซึ่งเป็หนึ่งในห้องโถงที่หรูหราที่สุดของมหาวิทยาลัยแห่งนี้เมื่อก่อนผมกินแต่ข้าวผัดราคาถูกมาตลอด แต่ครั้งนี้มีโอกาสได้ร่วมงานเลี้ยงแบบนี้หึๆ ต้องมีอาหารอร่อยๆ รออยู่ตรงหน้าแน่ๆ หวานหมูละงานนี้!