ตองนวลบอกกับสาวใช้ที่ชื่อแสงหล้า เมื่อพากันเดินออกมาที่สนามหญ้าหน้าบ้าน ทว่าไม่ทันที่แสงหล้าจะกดโทรศัพท์โทรหาอินทร์ถา หรือที่ผู้คนในบ้านพากันเรียกเขาว่า ‘ลุงอินทร์’ ก็เดินออกมาจากหลังพุ่มต้นแก้วที่มุมบ้าน
“ผมอยู่นี่แล้วครับคุณท่าน”
คนถูกตามตัวปรากฏกายขึ้นตรงหน้า ในมือถือสายยาง ลุงอินทร์กำลังรดน้ำต้นไม้ไปพลาง ในระหว่างรอรับ่พาอลังค์เข้าไปชมไร่
“นี่ลุงอินทร์… ”
แสงหล้าแนะนำชายวัยห้าสิบด้วยท่าทางนอบน้อม บอกให้รู้ว่า ‘อินทร์ถา’ คนนี้คงไม่ใช่คนงานธรรมดา ดูจากท่าทีเคารพนบนอบที่แสงหล้ามีต่อบุรุษร่างล่ำคนนี้
“สวัสดีครับลุง… ผม ‘อลังค์’ ครับ”
ชายหนุ่มแนะนำตัว สายตาจ้องมองชายร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อลายสก๊อตสีเขียวขี้ม้าสลับแดงเข้ม เข้ากันกับกางเกงยีนส์ สวมหมวกสีดำปีกกว้าง เหมือนในหนังคาวบอยไม่มีผิดเพี้ยน รองเท้าบูทสีเทาช่วยส่งให้ร่างซึ่งสูงตระหง่านเฉียดร้อยแปดสิบเิเนั้นยิ่งดูสูงเด่นขึ้นไปอีก ผิวสีน้ำตาลเข้มยิ่งเสริมส่งให้บุคลิกของลุงอินทร์ดูราวพระเอกหนังคาวบอยรุ่นใหญ่ยังไงยังงั้น
“สวัสดีครับ… ”
ลุงอินทร์ทักทายด้วยน้ำเสียงและแววตาเป็มิตร ก้าวยาวๆ ไปปิดก๊อกน้ำ ม้วนสายยางเก็บแล้วเดินกลับมาหาชายหนุ่มพร้อมกับพูดว่า
“คุณตัวใหญ่มาก… ยังหนุ่มมาก ท่าทางบึกบึนแข็งแรงแบบนี้น่าจะช่วยแบ่งเบาภาระของผมได้มาก”
ลุงอินทร์หรี่ตามองอลังค์ด้วยสีหน้าครุ่นคิด
“ที่นี่งานหนักมากหรือครับ”
อลังค์สงสัยกับคำพูดที่ลุงอินทร์บอกว่าการมาของเขาจะช่วยแบ่งเบางานของแกได้มาก
“งานในไร่ไม่เท่าไรครับ… แต่งานในเรือนหนักกว่า เพราะว่าบ้านหลังนี้มีผู้หญิงถึงสี่คน”
ลุงอินทร์ตอบ แต่คำพูดที่ได้ยินก็ไม่ได้ไขความสงสัยให้กระจ่างแต่อย่างใด อลังค์นึกสงสัยว่าอะไรคือ ‘งานในเรือน’ ที่ลุงอินทร์ว่า?
“ถ้าพร้อมแล้วก็ไปกันเลยนะครับ”
ลุงอินทร์กล่าวพลางเดินนำไปยังรถกอล์ฟที่จอดอยู่ในโรงจอดรถ
“ครับ”
อลังค์ก้าวตาม ตามองตามแผ่นหลังกว้างของลุงอินทร์ เดินลิ่วๆ นำหน้าไปอย่างกระฉับกระเฉง
อลังค์เชื่อว่าลุงอินทร์คนนี้คงไม่ใช่คนงานธรรมดาอย่างแน่นอน เพราะว่าแกดูหล่อเข้มจนมีออร่าเปล่งประกายออกมาให้รู้สึกได้
ลุงอินทร์เป็คนตัวใหญ่ มือใหญ่ แขนใหญ่ ต้นขาใหญ่รับกับสะโพกและ่เอวอันทรงพลัง ท่าทางแข็งแรงมาก แขนเสื้อที่ถูกถกขึ้นมาถึงข้อพับเผยให้เห็นผิวสีทองแดงคร้ามแดด ที่หลังแขนมีเส้นขนสีดำเป็แพแผ่คลุมลงมาถึงหลังมือ ปั้นไหล่เป็มัดกล้ามกลมสวย เนื้อตัวกำยำล่ำสันไปด้วยกล้ามเนื้อ ทำเอาคนเดินตามมองด้วยสายตาชื่นชมในรูปร่างและบุคลิกลักษณะสมชายชาตรีของลุงอินทร์คนนี้
“เส้นทางเข้าไร่แคบมากครับ… ขับรถใหญ่เข้าไปลำบาก นั่งรถกอล์ฟไปสะดวกกว่าครับ”
ลุงอินทร์กล่าวพลางก้าวขึ้นมานั่งในตำแหน่งคนขับ สตาร์ทเครื่องแล้วขับพาอลังค์เข้าไปชมไร่องุ่นและไร่กาแฟ ทอดยาวไปถึงเชิงเขาด้านหลัง
กลับจากเที่ยวชมไร่ ลุงอินทร์พาอลังค์กลับเข้ามาในบ้าน แวะเอารถจอดไว้ที่เรือนพักหลังย่อมตั้งอยู่หลังเรือนใหญ่
“โอ้โห… ลุง นี่มันยาดองเหล้าสูตรบำรุงพลังทางเพศทั้งนั้นเลยนี่นา”
เมื่อเข้ามาในเรือนนอนของลุงอินทร์ อลังค์กวาดสายตามองโหลยาดองที่ตั้งเรียงรายอยู่ริมผนัง ล้วนแต่เป็สูตรบำรุงพลังทางเพศของผู้ชายทั้งนั้น อย่างเช่นม้ากระทืบโรง ถั่งเช่า กระชายดำ รากปลาไหลเผือกและหมามุ่ยอินเดีย
“ต่อไปคุณจะต้องมาขอผมกิน… เชื่อเหอะ”
ลุงอินทร์กล่าวยิ้มๆ ทำเอาอลังค์เขินหน้าแดง รู้สึกว่าในบ้านหลังนี้มีเื่ราวแปลกๆ เมื่อครุ่นคิดและเชื่อมโยงทุกอย่างเข้าด้วยกัน ก็ทำให้อลังค์รู้สึกตื่นเต้น
“ลุงครับ… เลิกเรียกผมว่า ‘คุณ’ เสียที เรียกว่า ‘เอ็ง’ ก็ได้ครับ”
“จะดีหรือ… อีกไม่กี่วันคุณก็จะเข้ามาเป็เขยของบ้านหลังนี้”
“ดีสิครับ… ”
อลังค์กล่าว เขาเป็คนง่ายๆ ไม่ชอบพิธีรีตอง
อีกสัปดาห์ต่อมา
งานวิวาห์ของ ‘ฝ้ายคำ’ กับ ‘อลังค์’ ได้ถูกจัดขึ้นอย่างเงียบๆ ที่ม่อนหุบเขากามา
ในงานมีแต่คนกันเอง ซึ่งอลังค์ก็ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน ด้วยเขาเป็เด็กกำพร้า เติบโตมาจากการเลี้ยงดูของพระภิกษุรูปหนึ่งที่อลังค์เรียกจนติดปากว่า ‘หลวงพ่อคำแปง’ ทุกวันนี้ท่านจำพรรษาอยู่ในวัดป่าแห่งหนึ่งตั้งอยู่บนดอยสูง
