~ ด้านในพระราชวังตระกูลขุนนางเล่ย ~
เล่ยตงเทียน ทายาทคนโตของตระกูลขุนนางเล่ยนั่งอยู่บนเก้าอี้บัลลังก์สีทองเมียงมองไปรอบๆ
ยามนี้มันกำลังรอรายงานจากลูกน้องทั้งสี่คนที่ส่งออกไป เมื่อผ่านไปนานถึงสามวันแล้ว มันเริ่มวิตกกังวลเมื่อลูกน้องทั้ง 4 ยังไม่มีการตอบกลับ
"พวกมันทำบ้าอะไรกันอยู่!?" เล่ยตงเทียนสาปแช่งเสียงดัง เมื่อมันส่งสัญญาณหยกสื่อสาร แต่ไม่มีการตอบกลับเลยแม้แต่น้อย
จู่ๆคนรับใช้วิ่งเข้ามาอย่างหน้าตาตื่น "นะ-นายน้อย ตอนนี้ตระกูลหยานถูกทำลายแล้ว ทุกอย่างกลายเป็ซากปรักหักพัง ไม่มีผู้รอดชีวิตแม้แต่คนเดียว!"
"อะไร! แล้วเ้าพวกนั้นกับพ่อบ้านที่ข้าส่งไป...พวกเขาอยู่ที่ไหน!?" เล่ยตงเทียนไม่ได้ให้ความสำคัญกับตระกูลหยานมากนัก ท้ายที่สุดพวกเขาก็เป็ได้แค่เบี้ยที่ใช้แล้วทิ้ง แม้ว่าจะมีแท่นบูชาสีดำอยู่ ก็ไม่มีทางที่ใครจะฝ่าข้อจำกัดของระดับลมปราณฟ้าเพื่อเข้าไปข้างในได้
"พะ-พวกเขา ตายกันหมดแล้ว..." คนรับใช้หน้าซีดในขณะกล่าว
"เ้าพวกไร้ประโยชน์!" เล่ยตงเทียนไม่สามารถรักษาความสงบได้อีกต่อไป
"ทหารรับคำสั่ง!" เล่ยตงเทียนะโเสียงดัง
จู่ๆหน้าพระราชวังทหารกลุ่มใหญ่ประกอบด้วยผู้บ่มเพาะในชุดเกราะเกือบ 200 คนวิ่งตรงเข้ามาดาหนาพระราชวัง
"ไปตรวจสอบที่พักตระกูลหยาน หาตัวคนร้ายและสอบปากคำชาวบ้านละแวกนั้น ข้าอยากจะรู้จริงๆว่าใครกล้าที่จะสังหารคนของข้า!" เล่ยตงเทียนสั่งการด้วยสีหน้าโกรธจัด
ในบรรดาลูกน้องทั้งสามคนของมัน เล่ยหยานนั้นแข็งแกร่งที่สุด อีกทั้งมันยังมียาเม็ดะเิฉีซึ่งสามารถเพิ่มระดับการบ่มเพาะถึงระดับลมปราณโลกได้
ผู้ที่ฆ่าเล่ยหยานได้ต้องอยู่เกินระดับลมปราณโลกอย่างแน่นอน แต่เล่ยตงเทียนไม่รู้ว่าผู้ฝึกตนระดับลมปราณโลกมาจากไหน เพราะในเมืองอาทิตย์สีชาดผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดอยู่เพียงแค่ระดับลมปราณหยกเท่านั้น...
'จะมีคนจากราชวงศ์โม่ เข้าไปเกี่ยวข้องกับเื่นี้หรือไม่?' จู่ๆเล่ยตงเทียนก็คาดเดาบางสิ่งอย่าง
"ไปซะ! ไปตามหาพวกมัน อย่าลืมไปตรวจสอบบ้านตระกูลหลี่ เ้าพวกนั้นเป็ศัตรูกับตระกูลหยานมาเนิ่นนาน ถ้าตระกูลหยานถูกทำลาย ผู้ที่ได้รับผลประโยชน์มากที่สุดคือตระกูลหลี่" เล่ยตงเทียนย้ำคำสั่งอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีข้อผิดพลาด
"รับทราบ!" นายทหารทั้งหมดรับคำสั่งพร้อมกับเคลื่อนทัพทันที
เล่ยตงเทียนหยิบหยกสื่อสารออกมา เพื่อส่งข้อความถึงใครบางคน
. . .
้าหลังคาหอคอยสูงของพระราชวังศ์ตระกูลขุนนางเล่ย มีร่างผอมบางอยู่ในชุดสีดำรัดรูป แต่ใบหน้าของนางถูกปกปิดไว้ด้วยหน้ากาก แต่แค่มองเพียงรูปร่างนางต้องเป็คนที่มีเสน่ห์ที่เย้ายวนดึงดูดใจผู้ชายได้อย่างแน่นอน
"ตระกูลเล่ยเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว ข้าต้องรายงานท่านพ่อในทันที" หญิงสาวในชุดสีดำหยิบหยกขึ้นมาพร้อมบดขยี้มัน จู่ๆ นางก็หายตัวไปในอากาศ ราวกับว่าไม่เคยมีใครเคยอยู่ในที่แห่งนี้มาก่อน
.
.
.
~ ที่พำนักตระกูลหลี่ ~
ตอนนี้นาหลันจ้านเริ่มย้ายคนเข้ามาอยู่ในบ้านพักของตระกูลหลี่ เพื่อปกป้องจากการตกเป็เป้าหมายของตระกูลเล่ย
่เวลานี้หลี่ชิงหยุนมักจะเดินเตร่และคุยเล่นอยู่กับสาวๆทั้งสองในลานบ้านของเขา เขาจะแนะนำการทักษะและศิลปะการต่อสู้ให้พวกนางเป็ครั้งคราว เพราะเขาคิดจะพานาหลันเสี่ยวฉีไปด้วยกันกับเขาที่เมืองหลวงเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์
นาหลันเสี่ยวฉีในขณะนี้ไม่ได้มีประสบการณ์การต่อสู้มากนัก ดังนั้นเพื่อผลประโยชน์ในอนาคต นางต้องฝึกฝนให้แข็งแกร่งและใช้มันในการปกป้องตัวเองแม้นจะไม่มีเขาอยู่
ขณะที่หลี่ชิงหยุนกำลังแนะนำการเคลื่อนไหวให้กับทั้งสอง จู่ๆเขาััได้ถึงเจตนาฆ่าที่เบาบางพุ่งตรงมาที่เขา แม้ว่ามันจะเบาบางแต่เขาสามารถรับรู้มันได้
ผู้ที่เคยเป็เครื่องจักรสังหารอย่างจักรพรรดิเมฆาแห่งอาณาจักรนภา แม้ว่าเป็เจตนาฆ่าที่เล็กน้อยเขาก็ไวต่อความรู้สึกประเภทนี้อย่างมาก
เขาหันกลับไปมองทางด้านเดียวกับที่เจตน่าฆ่านั้นพุ่งมา ทางด้านนั้นเป็ผู้อพยพจากตระกูลนาหลันทั้งหมด แต่ทิศทางที่หลี่ชิงหยุนมองไปนั้น เขาสามารถมองทะลุผ่านผู้คนจำนวนมากได้ผ่านเนตรปฐมกาลที่เขามี
เขาเห็นชายวัยกลางคนที่ดูอ่อนแรง เขาคือคนรับใช้ส่วนตัวของนาหลันจ้าน 'เฟิงเซวียน'
หลี่ชิงหยุนพยายามหาเบาะแส แต่เขาพบกับบางอย่างที่ไม่คาดคิด ระดับของเฟิงเซวียนผู้นี้อยู่ที่ระดับลมปราณหยกขั้นกลาง แม้แต่ผู้าุโส่วนใหญ่ของตระกูลนาหลันก็มีความแข็งแกร่งแค่ระดับลมปราณหยกขั้นเริ่มต้นเท่านั้น ดูเหมือนว่าเขามีสมบัติบางอย่างที่จะสามารถซ่อนระดับของเขาได้
จู่ๆหลี่ชิงหยุนกระซิบกับนาหลันเสี่ยวฉีด้วยเสียงเบาๆ "ฉีฉีชายวัยกลางคนที่ดูอ่อนแอคนนั้นเป็ใคร?"
"อาหยุน เ้าหมายถึงลุงเฟิงหรือไม่?" นาหลันเสี่ยวฉีมองเห็นชายวัยกลางคนได้อย่างชัดเจน
"เขาเป็ใคร? และเขามีที่มาอย่างไร?" หลี่ชิงหยุนเริ่มถามคำถามเกี่ยวกับตัวตนของชายผู้นี้ในทันที
นาหลันเสี่ยวฉีเริ่มเล่าให้ฟังเกี่ยวกับชายที่ชื่อเฟิงเซวียน ชายผู้นี้ไม่ทราบที่มา แต่เขาและบุตรชายของเขากำลังถูกสัตว์อสูรไล่ล่าเมื่อหนึ่งปีก่อนในป่าแถบชายแดนของเมืองอาทิตย์สีชาด จากนั้นเขาเป็หนี้บุญคุณนาหลันจ้านที่ช่วยชีวิตเขาไว้ เขาจึงเต็มใจเป็คนรับใช้ที่จัดการสิ่งต่างๆให้กับนาหลันจ้าน
หลังจากได้ยินที่มาที่ไปแล้ว คิ้วของหลี่ชิงหยุนขมวดอย่างหนัก
บัดนี้ข้อสงสัยของหลี่ชิงหยุนได้รับการยืนยันไปแล้วครึ่งหนึ่ง เขาลุกขึ้นพร้อมกับเดินไปที่เฟิงเซวียนในทันที
"ลุงเฟิง" เมื่อไปถึงด้านหน้าของเฟิงเซวียน หลี่ชิงหยุนทักทายอย่างนอบน้อม
"นายน้อยหลี่ไม่จำเป็ต้องสุภาพ มีอะไรให้ข้ารับใช้หรือไม่?" เสียงของเฟิงเซวียนเต็มไปด้วยคำเยินยอและสุภาพ พร้อมกับลุกขึ้นยืนและคำนับหลี่ชิงหยุนโดยทันที
'ไอ้จิ้งจอกเฒ่าผู้นี้ ช่างไร้ยางอายเสียจริง' หลี่ชิงหยุนอดไม่ได้ที่จะสาปแช่งในใจ เห็นได้ชัดว่าคนผู้นี้้าฆ่าเขาก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้สีของเขาเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วจริงๆ
"ท่านลุง ช่วยดื่มเป็เพื่อนข้าหน่อยได้หรือไม่?" หลี่ชิงหยุนหยิบไหสุราขึ้นมาพร้อมส่งมันให้กับเฟิงเซวียนหนึ่งไห
เฟิงเซวียนที่เห็นดังนั้นเขายังรู้สึกสงสัยอยู่บ้าง แต่เขาไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเื่นี้ "ถ้านายน้อยหลี่้าเพื่อนร่วมดื่ม ชายชราผู้นี้สามารถดื่มร่วมกับท่านได้"
เฟิงเซวียนยกสุราขึ้นมาเหนือหัวพร้อมกับกระดกลงคอในทันที
เมื่อเห็นว่าเฟิงเซวียนดื่มไปแล้ว หลี่ชิงหยุนเริ่มถามคำถามบางอย่างในทันที "ท่านลุง ตระกูลใดส่งท่านมาที่ตระกูลนาหลัน?"
แม้ว่าเขาจะถามด้วยน้ำเสียงที่สุภาพ แต่เนื้อหาในน้ำเสียงของหลี่ชิงหยุนนั้นกลับทำให้เฟิงเซวียนสะดุ้งโหยง
เฟิงเซวียนพยายามหลีกเลี่ยงคำถามและลดความตื่นตระหนกของเขาลง "นายน้อยหลี่ ท่านกำลังพูดเื่อะไร?"
"แน่นอนข้ากำลังพูดถึงเ้า เ้าเป็คนใช้ผงเรียกสัตว์อสูรเพื่อจัดการกับข้าและนาหลันเสี่ยวฉีในป่าสนดำ อีกทั้งเ้ายังวางยาพิษหญ้าหยินสีทองกับลุงจ้าน และสุดท้ายเ้าเองก็เป็คนที่นำทางผู้คนจากตระกูลเล่ย เข้าไปในตระกูลของนาหลันเพื่อลักพาตัวนาหลันเสี่ยวฉีไป... ที่ข้าพูดทั้งหมดไม่ถูกต้องหรือ? และอีกอย่างข้ายังได้กลิ่นสมุนไพรพวกนั้นจากร่างกายเ้าได้อย่างชัดเจน" เมื่อหลี่ชิงหยุนพูดจบเขาก็ยกสุราขึ้นมาดื่มอีกครั้งอย่างสบายๆ
ขณะที่หลี่ชิงหยุนเข้าใกล้เฟิงเซวียน เขาได้กลิ่นที่เป็กลิ่นของสมุนไพรเ่าั้จากตัวของเฟิงเซวียนได้อย่างชัดเจน ดูเหมือนว่าสิ่งที่หลี่ชิงหยุนจะคาดเดาถูกต้อง
เมื่อเฟิงเซวียนได้ยินดังนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน เจตนาฆ่าของเขาปะทุในทันทีโดยไม่มีการสำรองกำลังใดๆ พร้อมกับหยิบมีดสั้นออกมาและเฉือนไปทางหลี่ชิงหยุนพร้อมกับรัศมีสีหยกแผ่ซ่านออกมา!
ตอนนี้ความจริงของเฟิงเซวียนถูกเปิดเผยแล้ว มันไม่จำเป็ต้องซ่อนเื่ราวอีกต่อไป!
ผู้คนรอบตัวต่างตกตะลึงในคำพูดของหลี่ชิงหยุน เมื่อเห็นว่าเฟิงเซวียนกำลังจะลงมือฆ่าหลี่ชิงหยุน ทุกอย่างก็ได้รับการยืนยันโดยทันที คนผู้นี้มีเจตนาร้ายอย่างแน่นอน แม้แต่นาหลันเสี่ยวฉีก็ตกตะลึงในสิ่งที่หลี่ชิงหยุนเพิ่งพูดไปเมื่อครู่
"อาหยุน ระวัง!" นาหลันเสี่ยวฉีอดไม่ได้ที่จะะโออกมา
ขณะนี้มีดสั้นในมือของเฟิงเซวียนกำลังจะถึงคอ แต่จู่ๆหลี่ชิงหยุนใช้นิ้วชี้ของเขายื่นออกมา เขากำลังใช้นิ้วเดียวเพื่อหยุดการโจมตีจากเฟิงเซวียน
"ฉับ!"
เสียงทั้งสองปะทะกันราวกับเสียงสะท้อนของดาบสองเล่ม
นิ้วชี้ของหลี่ชิงหยุนถูกห่อหุ้มด้วยรัศมีสีขาวราวกับว่านิ้วนี่คือดาบที่แหลมคมของเขา
เฟิงเซวียนที่ได้เห็นดังนั้น มันก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันใด "เป็ไปได้อย่างไร! เ้าใช้นิ้วเพื่อรับการโจมตีจากมีดของข้าได้อย่างไร!?"
"พรึ่บ!"
หลังจากมีดของเฟิงเซวียนถูกดีดกลับ หลี่ชิงหยุนปลดปล่อยเข็มจำนวนมากจากมือซ้ายที่ซ่อนอยู่ พุ่งเข้าสู่ร่างกายของเฟิงเซวียนในทันที
เฟิงเซวียนเห็นดังนั้นก็พยายามที่จะตอบโต้ แต่จู่ๆมันกลับไม่สามารถหมุนเวียนฉีได้ ราวกับว่าตอนนี้ตันเถียนของมันกำลังยุ่งเหยิง
[นี่คืออะไร!? เหตุใดฉีของข้าไม่สามารถไหลเวียนได้!?]
"จึ้ก! จึ้ก!"
ตอนนี้เข็มสีเงินทั้งหมดของหลี่ชิงหยุนปักที่ร่างกายของเฟิงเซวียนหลายจุด เพื่อให้ร่างกายของเขาเป็อัมพาต
ก่อนหน้านี้เขาใช้เข็มพิเศษที่มีส่วนผสมของก้านบัวหยินที่เหลือของเขา ปรับแต่งหล่อหลอมเข้ากับสมุนไพรหยินอีกหลายชนิด สิ่งนี้เมื่อเข้าสู่ร่างกายเส้นลมปราณจะถูกแช่แข็งชั่วขณะ และไม่สามารถใช้ฉีจากตันเถียนเพื่อไหลเวียนไปสู่ส่วนต่างๆของร่างกายได้
"ลุงเฟิง ไม่จำเป็ต้องตื่นตระหนก ถ้าเ้าสามารถให้คำตอบดีๆแก่ข้าได้ ข้าสัญญาว่าจะให้เ้ามีโอกาสกลับชาติมาเกิดในนรก..." ตอนนี้เจตนาฆ่าของหลี่ชิงหยุนเริ่มควบคุมไม่อยู่ เฟิงเซวียนผู้นี้กล้าที่จะคิดร้ายกับนาหลันเสี่ยวฉี นี่ถือเป็การย้อนเกล็ดัของหลี่ชิงหยุนอย่างชัดเจน!