ิเทียนเยว่เพ่งตาไปมองแผ่จิตััไปสุมความสามารถเขากลับพบเข้ากับไข่ใบหนึ่ง ทั้งยังพบว่ามีผู้ทรงพลังจำนวนมากเพ่งจิตััไปในทิศเดียวกับเขาทำเอาเขาต้องดึงจิตัักลับมา
'สิ่งใดกัน' ิเทียนเยว่ครุ่นคิดเมื่อเขามองไปที่ไข่ใบจิตใจเขาสั่นไหวด้วยความกังวล คล้ายกับความกลัวแต่ก็ไม่เชิงเป็ความกลัว
พลังจากไข่นั่นประหลาดนักทำเอาเขากังวลไปหมดผู้ทรงพลังคนอื่นๆ ก็เช่นกันผ่านไปไม่นานก็เริ่มมีผู้บำเผ็ญหลายคนมุ่งหน้าไปยังไขบางคนถึงกับเหาะผ่านเขาสงบจิตของเขา บางคนก็หันมางอด้วยสายตาเปล่งประกายบ้างก็มองด้วยความโลภแต่ทุกคนล้วนรีบพุ่งไปยังไข่ใบนั้น
ปฏิกิริยาเช่นนี้ทำเอาิเทียนเยว่ตั่งไม่ติดเก้าอี้เลยทีเดียว...
ซวยแล้ว! ความคิดนี้แว็บเข้ามาในหัวเขาอย่างรวดเร็ว แม้ผู้ที่บินผ่านเขาของเขาไปล้วนเป็ระดับก่อกำเนิดทั้งสิ้น...แต่หากเ้าพวกนี้มีลูกพี่คุ้มกะลาหัวอีกที่เล่า หากมีกองกำลังนับหมื่นคนเล่า จะทำเช่นไร!
ความคิดแรกของเขาคือย้ายหนี แต่คิดอีกทีหากลูกศิษย์เขากลับมาเล่า แรกเริ่มเขาคิดว่าจะสงบไปสักอย่างน้อยร้อยปีเนื่องจาก บริเวณใกล้ๆ นี้ไม่มีสำนักทรงพลังใดๆ เลย
ิเทียนเยว่แสดงสีหน้าเหยเกขึ้นมา
ไข่ใบนี้ห่างจากูเาสงบจิต เพียงห้าพันลี้เท่านั้นนานวันเขาเริ่มมีผู้ทรงพลังเข้ามารวมตัวกันมากขึ้น แต่ยังไม่มีใครลงมือเนื่องจากมีคนเยอะเกินไป แค่ตอนนี้ก็มีระดับก่อกำเนิดนับพัน ระดับจิติญญานับร้อยแล้ว โชดีที่ยังไม่มีใครพุ่งเป้ามาทีเขาเลย
...
...
ณ ป่าลึกแห่งหนึ่งที่ปรากฏไข่ปริศนาขึ้น
"สหายทั้งหลายไข่ใบนี้มีวาสนากับสำนักของข้าไว้หน้าสักครั้งได้หรือไม่" ชายวัยกลางคนประสานมือกล่าวกับผู้ฝึกยุทธคนอื่นๆ ชายผู้นี้เป็ผู้ฝึกยุทธระดับจิติญญาขั้น 9
"เหอะๆ เ้าอาศัยสิ่งใดให้ข้าไว้หน้ากัน" ชายชราคนหนึ่งกล่าวโต้เถียง เป็ผู้ทรงพลังในระดับเดียว
เหตุการณ์เช่นนี้ดำเนินขึ้นนานหลายชั่วโมง บางคนก็ถอยกลับบางคนก็หาพรรคพวก ส่วนใหญ่ที่รั้งอยู่จะเป็ผู้ที่มีสำนักหนุนหลัง แต่ก็มีบ้างที่เป็ผู้ทรงพลังโดดเดี่ยวไร้ที่พึ่ง
...
"เช่นนั้นข้าขอูเาลูกนั้นได้หรือไม่ผู้ทรงพลังคนหนึ่ง" ชายวัยกลางคนหน้าตาคมคายเ็ากล่าวขึ้นพร้อมชี้ไปยังูเาสงบจิต ชายผู้นี้เองก็เป็ผู้ฝึกตนระดับจิติญญาขั้น 9 เช่นกัน
เมื่อเหล่าผู้คนได้ยินเช่นนั้นก็หยุดชะงักไป หันมองชายวัยกลางคนด้วยสายตาคมกริบพวกเขาทั้งหมดก็หมายตาเขาลูกนั้นไว้เช่นกัน เนื่องจาก พลังฟ้าดินที่สูงยิ่งทั้งยังไม่พบผู้ทรงพลังคนใดอยู่...ใช่แล้วไม่พบ
แม้ิเทียนเยว่จะไม่รู้ตัวแต่ต่างหูปิดฟ้าที่ใช้ซ่อนบ่วงกรรมนั้นทำให้เขาแทบไร้ตัวตนในสายตาสิ่งมีชีวิตระดับก่อกำเนิด หากคนพวกนี้ััได้ถึงพลังในตัวเขาแม้สักเล็กน้อยย่อมไม่มีใครกล้าหาเื่...เนื่องจากระดับพลังของิเทียนเยว่นะผิดปกติยิ่ง!
"ฮึ่ม เช่นนั้นท่านก็ออกจากการแย่งชิงไข่ฟองนึ้เสียเถอะ" ชายชราคนหรือกล่าวขึ้นคนอื่นเองก็พยักหน้าพร้อมกัน พวกเขาตัดใจจากเขาลูกนั้นแล้วเนื่องจากไม่มีกำลังพอสู้ชายวัยกลางคน สามารถกำจัดคู่แข่งที่แข็งแกร่งได้คนนึงนับว่าดียิ่ง
ชายผู้นี้นามว่าหลี่ฉาง เป็ลูกศิษย์ของผู้ทรงพลังระดับมหายาน ทั้งยังมีกองกำลังเบื่องหลังที่มีระดับฝ่าด่านเคราะห์นับสิบนับว่าเป็สำนักอันดับต้นๆ ของโลก ไม่มีใครอยากเป็ศัตรูด้วย...
'ประหลาดนัก' หลี่ฉางครุ่นคิดระหว่างกำลังเดินทางไปยังูเาลูกนั้นเขารู้สึกไม่ปลอดภัยแปลกๆ สับสนยิ่งแต่เขาจำไอเซียนได้ครั้งหนึ่งอาจารย์ของเขาก็เคยแผ่พลังเช่นนั้นออกมาบอกเขาว่าเป็พลังจากโลกเบื่องบน
อีกทั้งบนเขาลูกนั้นยังมีไอเซียนมหาศาล พลังฟ้าดินล้นทะลักดึงดูดเขายิ่งกว่าไข่ฟองนั้นเสียอีก...
...
ฝั่งิเทียนเยว่เองก็รู้สึกได้ว่ากำลังมีตัวตนระดับจิติญญาเข้ามาใกล้เขาอย่างรวดเร็ว เขามองตบะฝ่ายตรงข้ามไม่ออก
แย่แล้ว ตบะสูงกว่าข้า
ิเทียนเยว่เตรียมหาทางหนีทีไล่เตรียมไว้แล้ว เขาจะลองสู้ดูสักตั่งหากไม่ไหวเขาพร้อมทิ้งทุกอย่างแล้วหนิไปทันที เขาเก็บกำยานสามภพกับเบาะเซียนล่องนภาเข้าไปในระบบแล้ว เพราะเป็ของจากระบบสามารถเก็บไปมาได้ตลอดแต่ไม่สามารถใส่อย่างอื่นเข้าไปได้
เขาสะบัดมือเรียกกระบี่พฤกษาออกมาแววตาแสดงเจตนาสังหารเต็มเปี่ยม ทันทีที่เขาเห็นแววตาที่แฝงความโลภของพวกนั้นใจเขาก็ไม่ให้อภัยแล้ว!
เมื่อหลี่ฉางเข้ามาในรัศมีพันลี้หมิวุ่นวายเทียนเยว่พลันสำแดงจิตกระบี่าสรรค์สร้างกระบี่ขนาดั์พุ่งใส่หลี่ฉางทันทีด้วยความเร็วสูง
ซึบ! กระบี่ขนาดั์พุงมาทางหลี่ฉางอย่างรวดเร็วร่างเขาสิ้นสลายในทันทีแต่โชคดีที่อาจารย์เขาให้ของวิเศษรักษาชีวิตมาทำให้ร่างเขากลับไปปรากฏขึ้น ณ สำนักทันที
....
ณ ส่วนลึกของสำนักสิบนภาศักดิ์สิทธิ์
ร่างของหลี่ฉางพลันปรากฏขึ้นกลางห้องของตรง
สีหน้าสับสนถึงขีดสุดเมื่อครู่เขาไม่ทันรู้ตัวก็ตายเสียแล้วสมบัติรักษาชีวิตที่อาจารย์มอบให้เขาถึงกับแตกสลาย
'เป็ไปได้อย่างไรบนโลกนี้มีมหายานเพียงแค่อาจารย์มิใช่หรือ' หลี่ฉางใยิ่ง เนื่องจากอาจารย์ของเขาเป็ทายาทจากโลกเบื่องบน เป็ตัวตนหนึ่งเดียวที่ได้รับอนุญาตให้เป็ระดับมหายาน
นี่เป็สาเหตุที่เหล่าผู้ทรงพลังต่างๆ ไม่กล้าแตะต้องเขา ระดับฝ่าด่านเคราะห์ทุกคนล้วนรู้จักหน้าคร่าตาเขาทั้งสิ้น เนื่องจากอาจารย์ของเขาออกคำสั่งชัดเจน ไม่น่าเชื่อว่าอยู่ๆ ตนจะถูกโจมตีเช่นนี้
หลี่ฉากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจนำเื่นี้ไปบอกอาจารย์ตน
"ศิษย์หลี่ฉางของพบท่านอาจารย์ขอรับ" หลี่ฉางประสานมือคารวะยืนรออยู่พักหนึ่งร่างเขาก็ถูกเคลื่อนย้ายมาอยู่ตรงหน้าชายวัยกลางคน คนหนึ่งในพริบตา
ชายวัยกลางคนสีหน้าเรียบเฉย ดวงตาดูคล้ายคนอดนอน มองหลี่ฉางสักครู่ก่อนจะหรี่ตาลง ต่างฝ่ายต่าไม่พูดอะไร
"...รากไม้ตัวแทนถึงกับแหลกสลาย เ้าไปล่วงเกินเทพเซียนมาหรือ" ชายผู้นั้นขมวดคิ้วเล็กน้อย
"...ข้าไม่ได้ตั่งใจขอรับ ข้าเพียงอยากเข้าไปสำรวจูเาลูกหนึ่งเท่านั้นไม่คิดว่าจะถูกผู้าุโท่านนั้นโจมตีเข้า" หลี่ฉางเหงื่อตกเล็กน้อยเขากล่าวด้วยความประหม่า
"ข้าทำนายถึงเขาไม่ได้แม้ฆ่า ข้าไปแล้วแต่กลับไร้บ่วงกรรมเช่นนี้หากไม่มียิดสมบัติอยู่ก็คนเป็ตัวตนที่ระดับสูงกว่าข้า" อาจารย์ของหลี่ฉางหันมองนอกหน้าต่างด้วยสีหน้าครุ่นคิด
"...ไม่เป็ไรเช่นนั้นก็เลิกออกไปวิ่งเต้นวุ่นวายสักพักเถิด อย่างไรเสียเื่นี้เ้าก็เป็คนผิดที่ไปรุกล้ำด้วยเจตนาเช่นนั้น" อาจารย์ของหลี่ฉางกล่าวพร้อมสะบัดมือเบาๆ สื่อว่าให้ออกไป
"รับทราบขอรับ" หลี่ฉางประสานมือกล่าวแล้วหันหลังกลับไปทันที ในใจไม่ได้มีความโกรธแค้นอันใดมีเพียงความสงสัยและความอยากรู้เท่านั้น ไม่ว่าตัวตนผู้นั้นจะมีสมบัติวิเศษหรือตบะเหนือกว่าท่านอาจารย์ทุกอย่างล้วนน่าสนใจยิ่ง!
...
กลับมาทางด้านของิเทียนเยว่เมื่อรู้ว่ากลิ่นอายของฝั่งตรงข้ามหายไปแล้วเขาก็ถอนหายใจออกมาแรงๆ
"ฟูว...ข้าเก่งยิ่งนัก" ิเทียนเยว่ปาดเหงื่อเล็กน้อยพร้อมกล่าวให้กำลังใจตัวเอง...เมื่อครู่เขากลัวมากจริงๆ หากอีกฝากไม่ตายเขาอาจจะได้ตายแทนก็เป็ได้...
แน่นอนว่าเขาไม่นิ่งนอนใจยังคงเตรียมพร้อมทำศึกอยู่ตลอดเวลาอย่างไรเสียที่นี่ก็เปรี่ยบเสมือนบ้านเขาอีกอย่างเขาก็เก่งพอตัวนี่!
ิเทียนเยว่เผลอทำพองใจโดยไม่รู้ตัวแม้แต่น้อย...
...
อีกด้านหนึ่งในป่าลึกที่พบเจอไข่ประหลาด เหล่าผู้ทรงพลังมองไปยังูเาสงบจิตตาแข็งค้างกันไป พวกเขาใกันจริงๆ แล้ว
กลิ่นอายของหลี่ฉางหายไปในเสี้ยววิทั้งยังมีกระบี่ใหญ่ั์นั่นอีก แค่กลิ่นอายจางๆ ที่ส่งมาถึงก็ทำพวกเขากลัวแล้วไม่กล้ามีความคิดที่จะไปยุ่งกับเขาลูกนั้นอีก
'โชคดียิ่งนักที่ข้าไม่ยุ่งกับเขาลูกนั้น' ทุกคนล้วนคิดเป็เสียงเดียวกัน อีกใจก็ระแวงกลัวตัวตนท่านนั้นเข้ามาร่วมการแย่งชิง ไข่ฟองนี้..หากเป็เช่นนั้นพวกเขาคงได้แต่ถอยหนีแล้ว
แต่เมื่อผ่านไปสักพักยังคงไม่มีใครมาร่วมวงเพิ่มพวกเขาก็โค้งคารวะใหู้เาลูกนั้นหนึ่งที ก่อนจะกลับมาถกเถียงแย่งชิงกันต่อ แต่ล้วนไม่กล้าเปิดศึกต่อสู้กันเนื่องจากอาจเป็ชนวนก่อให้เกิดาได้
คุยเถียงกันอยู่นานสองนานจึงได้ตกลงกันว่าจะจัดงานประลองขึ้นผู้ใดชนะจะได้รับไข่ฟองนี้ กำหนดการคืออีกหนึ่งปีข้างหน้า ณ ที่แห่งนี้
ได้ผลสรุปเช่นนี้สำนักต่างๆ ก็เรียกคนมาค่อยเฝ้าไว้จำนวนหนึ่งกันไม่ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตุกติก
...
แต่เมื่อมีคนมากขึ้นิเทียนเยว่ถึงกับเหงื่อตก
'อะไรกัน จะก่อาหรือเหตุใดคนถึงเพิ่มขึ้นหลายเท่าเช่นนี้!'
โดยที่เขาไม่รู้ตัวสำนักต่างๆ ก็นับูเาสงบจิตเป็แดนต้องห้ามเสียแล้ว...
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้