หลิ่วจิ้งไม่ได้โง่นางรู้ว่าเวลานี้ตนเองตกเป็เป้าที่ทุกคนเพ่งเล็งมาจึงหยิบของว่างบนพื้นหนึ่งชิ้นขึ้นมากินในทันที
ทุกคนในห้องล้วนไม่คิดมาก่อนว่าหลิ่วจิ้งจะทำแบบนี้พากันตื่นในิ่งตะลึงตาค้างปากสั่นอยู่กับที่
ฝ่ายนางจ้าวกลับยิ่งยินดีและคอยดูจุดจบของหลิ่วจิ้งกลัวแต่ว่าถ้าหลิ่วจิ้งไม่ได้ถูกพิษจนตายก็จะเสียแรงที่นางคิดอุตส่าห์ลงแรงคิดแผนการมาอย่างรอบคอบไปเสียเปล่า
เวลานี้อิ๋งเหอคิดอะไรไม่ออก ได้แต่ใจนน้ำตาคลอเต็มสองตากลัวจะเกิดเื่ไม่คาดคิดขึ้นกับหลิ่วจิ้ง อวี้จิ่นเคยเห็นความสามารถในการเอาตัวรอดชั้นยอดของหลิ่วจิ้งมานานแล้วนางจึงมองหลิ่วจิ้งด้วยแววตาที่ไร้ซึ่งความหวาดกลัวใดๆ หันไปตบๆ ที่ตัวอิ๋งเหอพูดเบาๆ ว่า “วางใจเถิด ฮูหยินของเราไม่ตายง่ายๆ หรอก!”
ปรากฏว่าหลังจากหลิ่วจิ้งกินของว่างเข้าไปก็ไม่มีอาการผิดปกติใดเลยแม้แต่น้อยเห็นเพียงนางกวาดตาไปยังทุกคนในห้องด้วยแววตาเยือกเย็นมุ่งมั่นไม่สั่นคลอนซ้ำยังพูดอย่างมั่นอกมั่นใจว่า “ฮูหยินผู้เฒ่าเ้าคะแม้ข้าจะไม่รู้ว่าเหตุใดแมวจึงต้องพิษจนตาย แต่ข้าขอให้ฮูหยินผู้เฒ่าเชื่อข้าว่าพิษนี้มิใช่ข้าเป็คนลงมือแน่นอนเ้าค่ะ!”
ฮูหยินผู้เฒ่าเห็นหลิ่วจิ้งถึงกับใช้ตัวเองทดสอบพิษจึงไม่อาจไม่ล้มเลิกความระแวงในใจที่มีต่อหลิ่วจิ้งเมื่อครู่นี้ได้เพียงแต่หากหลิ่วจิ้งไม่ได้เป็คนวางยาแล้วจะเป็ผู้ใดเล่า?
เมื่อไตร่ตรองได้ดังนี้แววความดุดันก็ฉายเข้ามาในแววตาของฮูหยินผู้เฒ่าดังเหยี่ยวจ้องตะครุบเหยื่อจับจ้องคนในห้องรอบหนึ่ง ก่อนจะสั่งว่า “ไปพาตัวสาวใช้ที่เพิ่งยกของว่างออกมาข้าอยากจะดูนักว่าเป็ผู้ใดมาเล่นเล่ห์เพทุบายที่นี่!”
ครู่เดียว บ่าวก็ไปนำตัวสาวใช้เข้ามาสาวใช้เห็นว่าทุกคนในห้องมีสีหน้าเคร่งเครียด ซ้ำแล้วบนพื้นก็ยังมีซากแมวตายที่ยังไม่ได้เอาออกไปจึงอดตื่นใจนร่วงลงไปคุกเข่ากองกับพื้นไม่ได้
“ของว่างนี้เ้าเป็คนไปจัดมาใช่หรือไม่?” ฮูหยินผู้เฒ่าถามด้วยอาการเรียบเฉย
“เรียนฮูหยินผู้เฒ่า พี่อิ๋งเหอส่งให้บ่าวเ้าค่ะเมื่อครู่นี้บ่าวรีบเอาไปนึ่งอุ่นให้ฮูหยินผู้เฒ่าแล้วเอาให้เสี่ยวหลี่จื่อจัดจานเ้าค่ะ” สาวใช้ไม่กล้าพูดคำเท็จเล่าเื่ทั้งหมดโดยละเอียดรอบหนึ่ง
ฮูหยินผู้เฒ่าได้ฟังจึงให้คนไปเรียกเสี่ยวหลี่จื่อเข้ามา
เสี่ยวหลี่จื่อเข้าประตูมาก็เห็นว่าฮูหยินทุกคนล้วนอยู่ที่นี่มีสาวใช้ช่วยงานในครัวคุกเข่าอยู่ตรงกลาง ย่อมเข้าใจว่าเกิดเื่ใดขึ้น
นางเข้ามาคาราวะเป็อันดับแรก คุกเข่าวิงวอนว่า“ฮูหยินผู้เฒ่าโปรดตรวจสอบให้ชัดเจน บ่าวไม่รู้เื่ใดทั้งนั้นเ้าค่ะ”
นางจ้าวเห็นคนพาตัวเสี่ยวหลี่จื่อเข้ามา แววตาดุร้ายพลันฉาบในดวงตาแล้วเห็นว่าจือชิวที่อยู่ข้างๆ ขยิบตาให้ตน จึงสงบใจเตรียมตัวคอยดูเื่สนุก
หลิ่วจิ้งมองเห็นแววตาของคนทั้งคู่อยู่ในสายตาแอบคิดในใจว่าต้องเป็นางจ้าวคิดจะให้ร้ายตนจึงซื้อตัวคนในห้องครัวดีที่เมื่อครู่นี้ตนเองยอมเสี่ยง จึงคลายความสงสัยของฮูหยินผู้เฒ่าลงได้และไม่รู้ว่าตอนนี้นางจ้าวจะใช้ลูกไม้ใดมาจัดการตนอีก!
ในขณะที่กำลังคิดอยู่ดังนี้ นางก็ได้ยินฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยถามอีกว่า“ข้ายังไม่ทันได้ถามสักคำ เ้าก็ร้อนตัวขอร้องให้ข้าละเว้นเ้าแล้วไม่ใช่ตุ๊กแกกินปูนร้อนท้องแล้วจะเป็สิ่งใด?”
เสี่ยวหลี่จื่อนึกไม่ถึงมาก่อนว่าฮูหยินผู้เฒ่าจะพูดเช่นนี้นางใจนเข่าอ่อนฟุบนั่งลงกับพื้นทั้งตัว ร้อนตัวรีบบอกไปว่า“เป็ฮูหยินเรือนหลักบงการให้บ่าวทำเ้าค่ะ!”
“เ้าอย่ามาใส่ความนะ!ฮูหยินบ้านข้าไปบงการให้เ้าวางยาฮูหยินผู้เฒ่าเมื่อใดกัน?” แม้อิ๋งเหอจะเป็คนรอบคอบ แต่จนใจเหลือเกินที่สถานการณ์ในเวลานี้ตึงเครียดนักนางถลึงสองตางาม ชี้นิ้วใส่ พลางด่าว่าเสี่ยวหลี่จื่อ
“นังบ่าวไม่รู้จักกาลเทศะ นี่ใช่ที่ที่เ้าจะพูดได้หรือ?” จือชิวเข้าไปตบหน้าอิ๋งเหอ
อิ๋งเหอโดนตบจนเซ ยืนงงงันอยู่ตรงนั้น
หลิ่วจิ้งเข้าไปประคองข้างหลังอิ๋งเหอแล้วหันกลับมาสวนฝ่ามือไปที่หน้าของจือชิว“ฮูหยินผู้เฒ่าและฮูหยินทั้งหลายล้วนอยู่ที่นี่จะถึงคราวเ้าซึ่งเป็บ่าวคนหนึ่งพูดรึ? คงมิใช่ว่าฮูหยินเรือนเ้าไม่ใคร่ได้อบรมเ้าถึงได้มาทำเื่น่าขายหน้าที่นี่หรอกนะ!”
“เ้า!” นางจ้าวรู้ว่าตนเองไม่อาจเถียงชนะหลิ่วจิ้งได้ จึงสงสัญญาณให้จือชิวถอยออกไป
ฮูหยินผู้เฒ่ากวาดสายตาไปยังหลายๆ คนในห้อง แค่นเสียงเย็นกล่าวว่า“พวกเ้าเห็นผู้เฒ่าเช่นข้าอยู่ในสายตาหรือไม่? ข้ายังไม่ตายนะ!”
“ฮูหยินผู้เฒ่าโปรดพิจารณา องค์หญิงผู้นี้จิตใจโเี้นักวันนี้แม้แต่ชีวิตของฮูหยินผู้เฒ่านางก็ยังไม่เห็นอยู่ในสายตาเลยสักนิดเ้าคะ!”
อาหนูคอยดูอยู่ข้างๆ ไม่พูดไม่จา ดูทีว่าที่วันนี้นางจ้าวเป็ฝ่ายเข้ามาทำดีกับตนที่แท้แล้วเพราะ้าให้มาดูเื่สนุกที่เรือนฮูหยินผู้เฒ่ากระมัง?
นางหัวเราะเบาๆ คราวหนึ่ง กล่าวว่า “พี่หญิง ปกติท่านระมัดระวังตัวเสมอมาวันนั้นข้าเห็นว่าแมวตัวนี้ก็เคยกินของว่างชนิดนี้ตอนอยู่ในสวนและตอนที่มันกินก็ยังปกติดี เหตุใดของว่างในวันนี้จึงมีพิษเสียแล้วเล่าคงมิใช่มีคนจงใจวางแผนสกปรกหรอกนะเ้าคะ? ”
ว่าพลางกวาดตาไปยังเสี่ยวหลี่จื่อที่ดูคล้ายว่ากำลังอยู่ในอาการเหม่อลอย
“บ่าวไม่กล้าพูดปดนะเ้าคะ เป็ฮูหยินเรือนหลักบอกให้ทำจริงๆเ้าค่ะ!”
“ถ้าข้า้าทำร้ายฮูหยินผู้เฒ่าจริงเหตุใดถึงได้โง่ขนาดมาวางยาในของว่างที่ตนเองเป็คนทำ แล้วให้คนจับได้เล่า? เมื่อครู่นี้ข้าก็กินของว่างแล้วไม่เห็นมีอาการพิษกำเริบใดๆหรือเพราะคนที่วางยารู้สึกผิดจึงไม่ได้ใส่ยาพิษไว้จนทั่วถึง? หากข้าเป็คนใส่ยาพิษเอง ก็จะต้องใส่ยาพิษในของว่างทุกชิ้นยิ่งไปกว่านั้นก็จะเอาใส่ไว้ในไส้ ไม่ใช่ที่ผิวภายนอก หากทำเช่นนี้แล้วก็มิใช่ว่าจะไม่เกิดข้อผิดพลาดใดหรอกหรือ?”
หลิ่วจิ้งพูดทุกๆ คำอย่างหนักแน่นชัดเจนทำเอาเสี่ยวหลี่จื่อพูดอะไรไม่ออกสักคำ
“เพราะข้า... หวงฝู่จิ้งโง่เง่าจนถึงขั้นสังหารคนแต่ยังยั้งมือปราณีหรือพวกเ้ามีใจคดคิดจะให้ร้ายข้ากันแน่?”
“ข้า…” เสี่ยวหลี่จื่อถูกหลิ่วจิ้งถามพลันใบ้กินพูดไม่ออกเมื่อหันไปมองจือชิวที่อยู่ข้างๆ นางจ้าว ก็เห็นนางใจนหน้าซีดเผือดไปหมด
ตอนนี้ฮูหยินผู้เฒ่ามีข้อสรุปในใจแล้วนางจดจ้องเสี่ยวหลี่จื่อด้วยใบหน้าแดงก่ำเพราะความโกรธ “บอกมา เป็ผู้ใดจัดฉากให้เ้าทำกันแน่!”
“เสี่ยวหลี่จื่อมิกล้าให้ร้ายหรอกเ้าค่ะ!เป็ฮูหยินเรือนหลักบงการให้บ่าวทำเช่นนี้เ้าค่ะ!”เสี่ยวหลี่จื่อรู้ดีว่าวันนี้ตนเองไม่เหลือหนทางให้มีชีวิตรอดอีกแล้วจึงไม่รอให้ทุกคนถามอีก กลับกัดลิ้นตนเองฆ่าตัวตายเสีย
หลิ่วจิ้งคิดไม่ถึงว่าเสี่ยวหลี่จื่อจะคิดสั้นดังนี้คนร้ายตัวจริงจะต้องหมายมั่นปั้นมือให้ตนเองจนมุมจนตายแน่นอน
“ฮูหยินผู้เฒ่าโปรดพิจารณาให้ถ้วนถี่ ข้าถูกปรักปรำแล้วเ้าค่ะ!” หลิ่วจิ้งว่าพลางคุกเข่าลงจดจ้องฮูหยินผู้เฒ่าด้วยสีหน้าที่ไม่เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย“เื่นี้ต้องมีคนจงใจให้ร้ายข้า ใส่ร้ายป้ายสี สรรคำมาปั้นแต่งเ้าค่ะ”
“อาหนูก็รู้สึกว่าเื่นี้พิกลนักเ้าค่ะสองสามวันมานี้พี่หญิงล้วนส่งของว่างไปที่เรือนของทุกคน หากบอกว่าจงใจใส่ยาพิษไว้ในของว่างเพื่อให้ฮูหยินผู้เฒ่าถูกพิษจนสิ้นใจ มิใช่เป็เื่โง่เง่าอย่างยิ่งหรอกหรือเ้าคะ?” อาหนูจงใจเอ่ยด้วยน้ำเสียงเคลือบแคลง
“พี่หญิงเป็คนหลักแหลมนัก แล้วจะทำเื่โง่ๆ เช่นนี้ได้อย่างไร? อาหนูคิดว่าต้องมีคนจงให้ให้ร้ายแน่นอนเ้าค่ะ!”พูดจบตางามทั้งคู่ก็เหลือบไปยังนางจ้าวที่อยู่ข้างๆ เห็นนางไม่พูดจาซ้ำมีท่าทางลุกลี้ลุกลนอยู่โดยตลอด มิได้โอหังอวดดีเช่นในวันก่อนๆกลับทำให้คนอดสงสัยไม่ได้ว่าเื่นี้คงเป็นางที่ใช้ลูกไม้เดิมอีกครั้งแล้วกระมัง?
เมื่อเห็นว่าอาหนูมองมาที่ตน นางจ้าวอดสะท้านอยู่ในใจไม่ได้เหงื่อหยดเล็กๆ ผุดออกมาอาบเต็มหน้าผาก เอ่ยถามด้วยสีหน้าไม่พอใจว่า“น้องหญิงสงสัยข้าหรืออย่างไร?”
“ข้าก็ไม่ได้ว่าเช่นนั้นนี่เื่นี้เกี่ยวพันถึงชีวิตของฮูหยินผู้เฒ่า แล้วข้าจะมีสิทธิ์ไปคาดเดาอันใดได้? เดาถูก นั่นยังดี! เดาไม่ถูกก็มิใช่ว่าจะทำให้ผู้ไม่ประสงค์ดีจ้องจับผิดเอาหรอกหรือ?” อาหนูเอ่ย นางแสร้งทำทีสงบเสงี่ยมพลางหันมองฮูหยินผู้เฒ่าบอกอีกว่า “เพียงแต่... ปกติแล้วพี่หญิงเป็คนช่างเจรจา แต่ไฉนวันนี้จึงไม่กล่าวอันใดเลยสักนิด?”
_____________________________