"อ้าว เหตุใดไปเสียแล้วล่ะ ก็บอกแล้วมิใช่หรือว่าจะคิดราคาถูกให้" เ้าอ้วนผู้นั้นยังไม่ถอดใจ คิดจะตามออกไป
"เหล่าซาน หยุดให้บิดาเดี๋ยวนี้เลยนะ เห็นสาวสวยเข้าหน่อย ก็จ้องจนตาแทบหลุด" อูควานเอ็ดบุตรชายประโยคหนึ่ง
"ท่านพ่อ สตรีผู้นั้นหน้าตาสะสวย ทั้งขาวผุดผ่อง สวยกว่าสตรีทุกคนในหมู่บ้านเรา" เ้าอ้วนบ่นกระปอดกระแปดยังไม่เลิกล้มความตั้งใจที่จะตามไป
"เ้าตาบอดหรือไร ไม่เห็นรึว่านางเกล้าผมแบบสตรีออกเรือนแล้ว"
อูควานด่าอีกประโยค เหล่าซานอายุปาเข้าไปยี่สิบแล้วยังไม่ได้แต่งงาน เพราะสายตาเขามองแต่รูปโฉม ทุกครั้งที่ตนเองพูดถึงเื่แต่งงาน เขาต้องไปดูด้วยตนเองก่อน สิบครั้งต้องมีเก้าครั้งที่หาเื่ปฏิเสธ ติว่าสูงไปบ้าง เตี้ยไปบ้าง อ้วนไปบ้าง ผอมไปบ้าง
ยากนักที่จะถูกใจใครสักคน แต่ผู้อื่นก็ไม่ยินดียกบุตรสาวให้ ผลสุดท้ายก็เลื่อนแล้วเลื่อนอีกจนมาถึงทุกวันนี้
"เกล้าผมแบบสตรีออกเรือน?" เ้าอ้วนชะโงกศีรษะออกไปข้างนอก เซวียเสี่ยวหรั่นยังเดินไปไม่ไกลนัก ทรงผมของนางเป็แบบสตรีออกเรือนแล้วจริงๆ "เฮ่อ บุปผางามทำให้มูลวัวหลงละเมออีกแล้ว..."
เสียงสนทนาของสองพ่อลูกไม่เบา เซวียเสี่ยวหรั่นได้ยินประโยคสุดท้ายก็แทบสะดุดหน้าคะมำ หันไปถลึงตาใส่เ้าอ้วนผู้นั้นอย่างเหลืออด แต่กลับพบว่าเ้าอ้วนสมควรตายผู้นั้นจดจ้องมาที่เธอ พลางใช้นิ้วก้อยแคะขี้มูกเอาออกมาปั้นเป็ก้อนแล้วดีดออกไป มิหนำซ้ำยังฉีกยิ้มให้อีกด้วย
อี๋ ไอ้คนทุเรศ น่ารังเกียจจนเธออยากเตะให้กระเด็นไปเลย
แต่พอใคร่ครวญถึงระวางน้ำหนักของเ้านั่น ไม่ใช่คนที่สตรีร่างเล็กอย่างเธอจะเตะให้ปลิวได้ เซวียเสี่ยวหรั่นจำต้องเร่งฝีเท้าเดินไปจากหัวหมู่บ้านพร้อมกับพวกซีหย่วน
ซีมู่เซียงสีหน้าไม่ดีนัก สองพ่อลูกนั่นคุยกันโดยไม่ปิดบังสักนิด นางย่อมจะได้ยิน
"ไอ้สารเลวอูเหล่าซานผู้นั้นมันเป็คนเ้าชู้เสเพล" ซีหย่วนมองเซวียเสี่ยวหรั่น ก่อนหันไปมองซีมู่เซียงแล้วกระซิบบอกว่า "มู่เซียง โชคดีที่บิดาเ้าไม่ตกลงรับหมั้นบ้านเขา"
ซีมู่เซียงหน้าเผือดสีลงทันควัน
เซวียเสี่ยวหรั่นก็รู้สึกใ "เ้าอ้วนผู้นั้นเคยหมายตาน้องมู่เซียงด้วยหรือ"
"ไม่มีอะไรหรอก" ซีมู่เซียงกลอกตาใส่ซีหย่วน ว่าเขาพูดมาก "แค่ให้คนรู้จักเป็คนกลางนำความมาบอก แต่บิดาข้าปฏิเสธต่อหน้าไปแล้ว"
ซีหย่วนหัวเราะแหะๆ ท่าทางเก้อเขิน
เื่นี้คุณสกุลซีส่วนใหญ่ต่างรู้กันหมดเขาแค่ปากไวไปหน่อย
"บิดาเ้าปราดเปรื่องนัก เ้าอ้วนผู้นั้นไหนเลยจะคู่ควรกับน้องมู่เซียงของเรา"
เซวียเสี่ยวหรั่นนึกถึงพฤติกรรมน่าสะอิดสะเอียนของคนผู้นั้น ก็รังเกียจจนเบ้ปาก ขอยอมกินมังสวิรัิตทุกวันดีกว่าไปซื้อเนื้อหมูบ้านเขา
"ต้าเหนียงจื่อก็รู้สึกเหมือนกันหรือขอรับ" ซีหย่วนดูเหมือนจะหาเสียงของตนเองพบแล้ว เริ่มเล่าเื่ราวของครอบครัวอูควานอย่างกระตือรือร้น
"อูควานเป็พวกจองหองและป่าเถื่อน เมื่อก่อนมีคนในหมู่บ้านเปิดแผงขายเนื้อ เขารู้สึกว่าถูกคนฉกเงินไปจากกระเป๋า ก็เลยหาเื่คนบ้านนั้นตลอดเวลา ข่มขู่จนผู้อื่นไม่กล้าเปิดแผงขายเนื้ออีกต่อไป ทุกคนต่างเกรงกลัวเขาทั้งนั้น ผู้ใดจะอยากหาเหาใส่หัว จึงไม่มีใครกล้าเปิดแผงขายเนื้ออีกเลย"
"ก็เลยผูกขาดกิจการขายเนื้อแต่เพียงผู้เดียวในหมู่บ้านสินะ มิน่าบ้านของเขาถึงได้ใหญ่โตนัก มาจากเงินสกปรกทั้งนั้น" เซวียเสี่ยวหรั่นเบ้ปาก
"ใช่แล้ว เพราะแบบนี้ พวกเขาถึงได้เห่อเหิม หยิ่งผยองจนลืมตัวตลอดมา ไม่ต้องบอกเลยว่าน่ารังเกียจแค่ไหน" ซีหย่วนพยักหน้าต่อเนื่องกัน ดวงหน้าอ่อนเยาว์เปี่ยมไปด้วยโทสะ
"ผู้นำตระกูลของพวกเขาไม่นำพาบ้างเลยหรือ" เซวียเสี่ยวหรั่นถาม
การวางตัวของซีต้าเฉียงซึ่งเป็ผู้นำตระกูลซีนับว่าใช้ได้ หรือว่าผู้นำตระกูลอูจะไม่รู้จักแยกแยะ?
"ผู้นำตระกูลอูเป็ลูกพี่ลูกน้องกับอูควาน อูควานส่งเนื้อให้เขาทุกปี เพียงพอที่จะทำให้เขาลืมตาข้างหนึ่งหลับตาข้างหนึ่ง" ซีหย่วนขุ่นเคืองอยู่บ้างในความไม่ชอบธรรม
ที่ไหนมีคนที่นั่นมีสายสัมพันธ์ เื่แบบนี้หาใช่แปลก เซวียเสี่ยวหรั่นกะพริบตาถี่ๆ
พวกเขาคุยกันไปจนกระทั่งกลับไปถึงท้ายหมู่บ้าน
"เหลียนเซวียน พวกเรากลับมาแล้ว"
เซวียเสี่ยวหรั่นทักเหลียนเซวียนที่นั่งอยู่หน้าระเบียง
เสียงพูดคุยของพวกเขาดังมาแต่ไกล เขามีหรือจะไม่รู้ เหลียนเซวียนทำหน้านิ่งหันมาทางพวกเขาช้าๆ
นางกับเ้าหนุ่มซีหย่วนคุยจ้อกันอยู่สองคน ไม่มีช่องว่างให้ซีมู่เซียงพูดแทรกได้เลย
"หลางจวินสบายดีแล้วหรือขอรับ" หลังจากนำของไปวางในห้องโถงแล้ว ซีหย่วนก็เข้ามาทักทายอย่างมีมารยาท
ซีหย่วนรู้สึกยำเกรงต่อชายสกุลเหลียนผู้นี้อยู่บ้าง แม้จะเห็นอยู่ว่าขาของเขากะเผลกไปข้าง ตาก็บอด แต่ยามดวงตาคู่นั้นปรายมาที่ตนเอง เขากลับรู้สึกสั่นอย่างบอกไม่ถูก
"สะ... สบายดี" เสียงแหบพร่าของเหลียนเซวียนตอบกลับมาจากลานสวน
แต่เสียงตอบกลับมาอย่างปุบปับของเขากลับทำให้ซีหย่วนใถอยหลังไปสองสามก้าว
"ทะ... ท่านพูดได้?"
"อ้อ ซีหย่วน เหลียนเซวียนดื่มยามาสองสามวันแล้ว คอเริ่มดีขึ้นมาก สามารถพูดได้แล้ว" เซวียเสี่ยวหรั่นยิ้มเดินออกมาจากห้องโถง "ต้องขอบคุณพวกเ้าที่ช่วยซื้อสมุนไพรมาให้"
"ที่แท้ก็เช่นนี้เอง" ซีหย่วนตะลึงพรึงเพริด เขานึกว่าทั้งคอและดวงตาของหลางจวินสกุลเหลียนจะไร้ทางเยียวยาแล้วเสียอีก
ซีหย่วนประหม่าเล็กน้อย "นี่เป็เื่ที่น่ายินดีมากจริงๆ"
"แน่นอนอยู่แล้ว รอให้ดวงตาของเขาหายดีเมื่อไร ข้าคงต้องซื้อประทัดมาจุดฉลองเลยล่ะ"
เซวียเสี่ยวหรั่นเดินเข้าครัวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเบิกบาน พูดถึงเื่คอ วันนี้ยังไม่ได้ต้มยาให้เหลียนเซวียนเลย
แต่พอเธอหายเข้าไปในครัวเท่านั้น ซีหย่วนก็อยู่ในสถานการณ์ตกประหม่า
"เอ้อ... หลางจวินสกุลเหลียน บ้านข้ายังมีธุระ ต้องขอตัวกลับก่อนขอรับ" ซีหย่วนถูฝ่ามือ กล่าวคำอำลาอย่างระมัดระวัง
เหลียนเซวียนผงกศีรษะช้าๆ
ซีหย่วนพลันโล่งใจ บอกกล่าวซีมู่เซียงซึ่งกำลังตัดเสื้อผ้าในห้องโถงก่อนรีบเดินออกไป
เซวียเสี่ยวหรั่นออกมาจากห้องครัว ก็ไม่เห็นเงาของซีหย่วนแล้ว
"อ้าว เหตุใดไม่รั้งซีหย่วนไว้ก่อนเล่า ผู้อื่นอุตส่าห์ช่วยเราขนของกลับมาตั้งไกล ดื่มน้ำสักถ้วยค่อยไปก็ยังดี"
เหลียนเซวียนเลิกคิ้ว ไม่มีความเห็น
เซวียเสี่ยวหรั่นกลอกตาใส่เขา แล้วเทสมุนไพรลงไปในหม้อ หลังจากนั้นก็ยกขึ้นไฟตั้งบนเตาหิน
พื้นค่อนข้างชื้น ก่อไฟไม่ง่ายนัก เซวียเสี่ยวหรั่นต้องออกแรงเป่าเสียงดังไปที่ก้นเตา
หลังจากไฟติดแล้วก็ลุกขึ้น ก็ลูบผมที่กระเซิงเล็กน้อยให้เรียบ
"เมื่อครู่... พวกเ้าคุยอะไรกัน"
น้ำเสียงกระด้างแหบพร่านิดๆ ลอยมาเข้าหูเซวียเสี่ยวหรั่น
เซวียเสี่ยวหรั่นหันไปมองเขา ลอบกลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว
โอ้โห เขาพูดได้ยาวขนาดนี้แล้วหรือ น้ำเสียงทุ้มต่ำแหบเล็กน้อยเช่นนี้มีเสน่ห์กว่าเสียงผู้ชายในหนังเื่ Late Nights on air อีกนะเนี่ย
ดวงตาของเธอฉายแววยิ้ม ยกม้านั่งเตี้ยมาตั้งตรงระเบียง แล้วนั่งเล่าเื่ที่ประสบพบเจอตอนเข้าหมู่บ้านให้เขาฟัง
"ท่านไม่เห็น เ้าหมูตอนนั่นยืนพิงข้างประตู ใช้นิ้วก้อยแคะขี้มูกไม่พอ ยังปั้นเป็ก้อนแล้วดีดออกไปอีก แล้วยังทำหน้าระรื่นเหมือนคนไม่ได้รับการอบรมสั่งสอน น่าสะอิดสะเอียนจริงๆ ชวนให้อยากเข้าไปเตะให้กระเด็นสักที"
เซวียเสี่ยวหรั่นพูดพลางขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
เื่น่ารังเกียจพรรค์นั้นจำเป็ต้องบรรยายละเอียดด้วยรึ เ้าอ้วนนั่นทำให้เ้าขยะแขยง เ้าก็เลยต้องมาทำให้ข้ารู้สึกขยะแขยงไปด้วย? เหลียนเซวียนรู้สึกได้ว่าเส้นเืที่ขมับของตนเองกำลังตุบเต้น
"ต่อไป... ก็ไม่ต้องเข้าหมู่บ้านบ่อยนัก"
เหลียนเซวียนสะกดอารมณ์พลุ่งพล่าน ก่อนที่จะกำชับเสียงเรียบ
แม้ไม่เคยเห็นว่านางหน้าตาเป็อย่างไร แต่ดูจากปฏิกิริยาของทุกคน น่าจะเป็สตรีที่โดดเด่นพอสมควร
เมื่อออกไปนอกบ้าน สตรียิ่งหน้าตาโดดเด่นเท่าไร ก็ยิ่งตกเป็เป้าสายตาของคนถ่อยได้ง่าย
ตอนนี้เขาไม่อาจปกป้องนางได้ตลอดเวลา หากเกิดเื่ขึ้น...
ดวงตาของเหลียนเซวียนแข็งกร้าวขึ้นทีละน้อย
