“พี่สาม”เห็นซูเฟยซื่อทิ้งนางไปจริงๆ ซูจิ้งเถียนเพียงรู้สึกว่าตรงหน้าวูบไปทันที กระทั่งขายังอ่อนแรงยวบลงไปหมดแล้ว
ทำอย่างไรดีล่ะ? หรือว่านางต้องคลานเข่ากลับไปจริงๆ!
ไม่ได้คลานเข่ากลับไป ขานางก็ต้องพิการแล้ว
คิดถึงตรงนี้ซูจิ้งเถียนรีบคุกเข่าลงต่อหน้าอวี้เสวียนจี กล่าวอย่างคับข้องใจว่า “พี่สามไม่มีเหตุผลถูกคนร้ายหลอกลวง ต้องขอท่านอ๋องเก้าพันปีช่วยให้ความเป็ธรรมแก่จิ้งเถียนมิฉะนั้นผู้หญิงอ่อนแอคนหนึ่งเช่นจิ้งเถียนจะคลานเข่ากลับจวนอัครมหาเสนาบดีได้อย่างไรกันเ้าคะ?”
“อ้อ? คุณหนูสี่เป็ผู้หญิงอ่อนแอคนหนึ่ง? ข้าอุปราชเห็นเ้าตีหลี่ฉีเมื่อครู่ยังมีแรงมากคลานเข่ากลับไปไม่เป็ปัญหา ข้าอุปราชได้สั่งให้คนเตรียมน้ำแข็งไว้ถ้าคุณหนูสี่เป็ลมไปแล้วในระหว่างทางก็ให้สาดลงไปถังหนึ่งทันทีรับประกันว่าคุณหนูสี่สามารถคลานเข่ากลับจวนอัครมหาเสนาบดีได้อย่างปลอดภัย”อวี้เสวียนจีหัวเราะเบาๆ เหมือนจิ้งจอกเฒ่าตัวหนึ่ง
แต่วาจานี้แทบได้ใจของชาวบ้านโดยรอบอย่างสุดซึ้ง
ไม่ผิดจะจัดการกับผู้หญิงที่โหดร้ายเช่นซูจิ้งเถียนนี้ก็ควรทำเช่นนี้
“ท่านอ๋องเก้าพันปี...”ซูจิ้งเถียนร้องอย่างใเสียงหนึ่ง ดูเหมือยังคิดวิงวอนขอความเมตตา
ในฝูงชนไม่รู้ว่าใครด่านังสารเลวก่อนแล้วประโยคหนึ่งหลังจากนั้นก็ขว้างปาใบไม้เน่าใส่ซูจิ้งเถียน ชั่วพริบตา ทั้งใบไม้เน่า ทั้งไข่เน่า...ชาวบ้านแทบจะเอาของใกล้มือที่สามารถหยิบฉวยได้ทั้งหมดขว้างเข้าไป
ซูจิ้งเถียนถูกขว้างปาของใส่ก็ใร้องเสียงหลงขึ้นมาคิดจะหลบ แต่กลับถูกอวี้เสวียนจีเตะอย่างเหี้ยมโหดไปกองบนพื้นแล้ว
เพียงได้ยินเสียงของเขาเย็นะเืราวน้ำแข็งแฝงคำสั่งที่มิยอมให้ปฏิเสธ “คลานเข่ากลับไป!”
เป็ครั้งแรกที่ผู้คนรู้สึกถึงการดำรงอยู่ของเทพผู้ชั่วร้ายนี้ช่างได้ใจมากจริงๆอดไม่ได้ที่จะะโตามขึ้นมา “คลานเข่ากลับไป! คลานเข่ากลับไป!คลานเข่ากลับไป...”
ทั้งไข่เน่าใบไม้เน่า และเสียงก่นด่าสาปแช่งดุจกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากกลบซูจิ้งเถียนให้จมมิดอย่างรวดเร็วกลิ่นเหม็นคาวกระแสนั้นทำให้นางทนไม่ไหวโก่งคออาเจียนออกมา
แต่ยิ่งนางอาเจียนเหล่าฝูงชนยิ่งรู้สึกว่านางกำลังแกล้งทำตัวให้น่าสงสาร ข้าวของในมือก็ยิ่งถูกขว้างให้แรงขึ้นด้วย
หลังจากนั้นไม่นานทั่วร่างของซูจิ้งเถียนก็ไม่มีสักแห่งที่สะอาดแล้ว ลักษณะที่ดูสกปรกนั้นแม้แต่ขอทานยังเทียบไม่ได้
“หยุดมือหยุดมือ ข้าจะคลานเข่ากลับแล้ว ยังไม่ได้หรือ?” ซูจิ้งเถียนทนไม่ไหวอีกต่อไปะโเสียงดังทันที
นางมองฝูงชนรอบด้านด้วยความหวาดกลัวคราหนึ่งนี่จึงพับกระโปรงขึ้นมาหนุนใต้เข่า ค่อยๆ ขยับคลานเข่ากลับไปยังจวนอัครมหาเสนาบดี
เห็นทุกคนต่างมุ่งความสนใจไปยังซูจิ้งเถียนหลี่ฉีไม่ใส่ใจความเ็ปของนางรีบคลานหนีไปข้างนอกฝูงชนอย่างช้าๆ
คิดไม่ถึงว่าเขาเพิ่งคลานไปได้ไม่เท่าไรอวี้เสวียนจีก็เหยียบแผ่นหลังของเขาไว้ด้วยเท้าเดียวแล้ว“ไม่มีคำอนุญาตของข้าอุปราช แล้วเ้าคิดจะไปไหน?”
หลี่ฉีถูกเสียงชั่วร้ายคมกริบของอวี้เสวียนจีข่มขู่ทั่วร่างสั่นเทิ้มทันที
เขากลืนน้ำลายหันศีรษะกลับมาอย่างช้าๆ “ท่านอ๋องเก้าพันปี ข้า...”
“ลากออกไปโบยยี่สิบไม้กระดานใหญ่” อวี้เสวียนจีพูดออกมาอย่างเ็า ยกเท้าเตะหลี่ฉีราวกับลูกบอลมุ่งไปที่องครักษ์โดยตรง
หลี่ฉีถูกเตะกลิ้งไปสองตลบยังไม่ทันได้มีโต้คืนก็ถูกองครักษ์ลากออกไปนอกฝูงชนแล้ว
ยี่สิบไม้กระดานใหญ่?
ตอนนี้เขาถูกอวี้เสวียนจีเตะซี่โครงหักเหลือลมหายใจร่อแร่
ถ้ายี่สิบไม้กระดานนี้โบยลงมาชีวิตน้อยๆ ของเขายังเหลืออยู่อีกหรือ?
“ท่านอ๋องเก้าพันปี...”หลี่ฉีกำลังคิดอ้อนวอนขอความช่วยเหลือจั๋วจื่อมือไวก็ยัดผ้าก้อนหนึ่งเข้าไปในปากของเขาแล้ว “ฮือๆๆ...”
เสียงสะอื้นของหลี่ฉีทำให้ขั้วหัวใจของซูจิ้งเถียนเย็นวาบทว่ากระโปรงที่หนุนหัวเข่าไว้ได้ถูไถจนขาดวิ่นไปนานแล้วถนนหินขรุขระไม่เรียบกำลังทำลายหัวเข่าอันบอบบางของนาง นางเกือบจะจินตนาการถึงขาทั้งสองข้างที่เืเนื้อเละเทะของตนได้ทว่ายังต้องอยู่ในท่าคลานเข่า
แต่นางไม่กล้าเป็ลมอวี้เสวียนจีไม่ปล่อยให้นางหมดสติด้วย
ดังนั้นความเ็ปที่ร้าวรานหัวใจเช่นนี้จะค่อยๆเพิ่มขึ้น จนกว่านางจะคลานเข่ากลับไปถึงจวนอัครมหาเสนาบดี
“คุณหนูซูจิ้งเถียนกลับมาแล้วเ้าค่ะ” ซางจื่อรีบเร่งวิ่งกลับมา
ดูจากสีหน้าของนางก็รู้ว่าจุดจบของซูจิ้งเถียนน่าอนาถมาก
แต่าแบนร่างของซูเฟยซื่อกับจือฉินก็ได้เชิญหมอมาจัดการรักษาเรียบร้อยตั้งนานแล้วกำลังนั่งพักผ่อนอยู่ในเรือน
เมื่อได้ยินคำพูดของซางจื่อจือฉินลุกขึ้นยืนด้วยความตื่นเต้นทันที “มิใช่คลานเข่ากลับมา?”
ซางจื่อภูมิใจยักคิ้วแล้ว “นั่นแน่นอน มีท่านอ๋องเก้าพันปีอยู่ ซูจิ้งเถียนกล้าที่จะไม่คลานเข่า? พวกเ้าไม่ได้เห็นสภาพทุลักทุเลขณะที่ซูจิ้งเถียนกลับมาแบบนั้นก็เหมือนคนทั้งคนกลิ้งกลั้วผ่านถังขยะมา แม้แต่ยามเฝ้าประตูเห็นนางยังบอกว่าไสหัวไปๆๆ ขอทานน้อยมาจากที่ไหนเลยเ้าค่ะ”
“อืมก็ควรเป็เช่นนี้ ในเมื่อนางวางแผนประทุษร้ายคุณหนูของเรา”จือฉินระบายความโกรธอย่างดุดันออกมา
ซูเฟยซื่อกลับไม่ได้แสดงความประหลาดใจออกมามากนักเดิมก็เป็สิ่งที่นางคาดไว้
รถม้าวันนี้ทำให้ชาวบ้านหลายคนรู้สึกไม่พอใจทั้งใในใจเหล่าชาวบ้านมีความคับข้องใจแต่ไม่กล้าที่จะรุดไปข้างหน้าตีลูกสาวของอัครมหาเสนาบดีโดยตรงดังนั้นจึงขว้างปาสิ่งของระบายออกไปแทน
แต่...ซูเฟยซื่อกลอกตาไปคราหนึ่ง “ซูจิ้งเถียนคลานเข่ากลับมาจริงๆ?”
แม้ว่าหนทาง่นี้ไม่ได้ไกลมากแต่ทั้งนี้ซูจิ้งเถียนเป็คุณหนูทองพันชั่งคนหนึ่งสามารถคลานเข่ากลับมาจากที่นั่นยังให้นางได้เปิดหูเปิดตาโลกของนางแล้ว
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ซางจื่อกะพริบตาอย่างมีเลศนัยทันที “บ่าวก็แปลกใจมากเ้าค่ะ ว่าซูจิ้งเถียนสามารถทำได้อย่างไรจึงถามจั๋วจื่อไปเ้าค่ะ ได้ความว่า ซูจิ้งเถียนคลานเข่าได้ไม่นานก็ไม่ไหวแล้วระหว่างทางก็เป็ลมไปหลายยก ล้วนเป็ท่านอ๋องเก้าพันปีให้คนใช้น้ำเย็นสาดให้ตื่นขึ้นมาภายหลังซูจิ้งเถียนยืนหยัดต่อไปไม่ไหวจริงๆ แม้ว่าได้สาดน้ำไปหลายถังแล้วก็ยังลุกขึ้นมาไม่ไหวท่านอ๋องเก้าพันปีก็ให้คนฝังเข็มไปบนหัวเข่าของนาง กระตุ้นให้นางคลานเข่าต่อไป เป็แบบนี้ตลอดทางได้ฝังเข็มไปหลายครั้งแล้วจึงคลานเข่ากลับมาได้เ้าค่ะ”
เป็ความจริงที่ว่าฝังเข็มที่หัวเข่าสามารถฟื้นฟูพลังของเข่าขึ้นมาใหม่ได้เหมือนยามปกติ
แต่วิธีนี้ถึงจะมีประสิทธิภาพได้ผลเร็วทว่าผลข้างเคียงกลับใหญ่มาก ซูจิ้งเถียนถูกฝังเข็มไปหลายครั้ง แม้ว่าขาไม่พิการ อนาคตเวลาเดินก็ไม่สามารถเดินได้ตามปกติเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
สิ่งที่ซูจิ้งเถียนภูมิใจมากที่สุดก็คือการร่ายรำของนางเดินได้ไม่สวย กล่าวไปแล้ว สำหรับนางแทบเป็การโจมตีถึงชีวิต
ต้องบอกว่าวิธีการของอวี้เสวียนจีนี้ช่างอำมหิตแต่ก็สะใจไม่น้อย
เห็นซูเฟยซื่อยกริมฝีปากยิ้มเบาๆซางจื่อจึงกล่าวต่อไปอีก “ไม่เพียงแค่นั้นนะเ้าคะ ท่านอ๋องเก้าพันปียังเอาเงินบางส่วนออกมาชดใช้ให้ชาวบ้านที่ตามมาถึงจวนอัครมหาเสนาบดีตลอดทางบอกว่าให้เงินพวกเขาไปซื้อไข่ไก่และผักสดใหม่ๆส่วนคนเ่าั้ที่ได้รับความใกลัวหรือเสียหายเพราะเื่ครั้งนี้ก็ให้สองเท่าถึงสามเท่าตอนนี้เหล่าชาวบ้านต่างชื่นชมท่านอ๋องเก้าพันปีน่ะเ้าค่ะ”
ประกายตาในดวงตาซูเฟยซื่อแวบผ่านทันทีดูไปแล้ว ความเข้าใจที่นางมีต่ออวี้เสวียนจียังน้อยเกินไปจริงๆ
แต่อวี้เสวียนจีทำเช่นนี้ไม่เพียงชดเชยชาวบ้านแล้วยังช่วยไขปัญหาในใจนางไปเื่หนึ่งด้วย มิฉะนั้นชาวบ้านหลายคนได้รับความเสียหายเพราะนางไยมิใช่เป็การทำบาป
“ดูไปแล้วก่อนหน้านี้เราเข้าใจอวี้เสวียนจีผิดไปแล้วจริงๆ” เซ่าชิงเอ่ยปากพูดช้าๆ
ซูเฟยซื่อพยักหน้านับว่าเห็นด้วย นี่จึงหันไปถามซางจื่อต่อ “นอกจากนี้ล่ะ? นางแซ่หลี่และซูเต๋อเหยียนต่างมีปฏิกิริยาอย่างไร?”
เื่นี้ถือเป็เื่ใหญ่เป็ไปไม่ได้ที่นางแซ่หลี่และซูเต๋อเหยียนจะไม่รู้ แต่ปฏิกิริยาของพวกเขา จึงจะเป็สิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุด
“ท่านอ๋องเก้าพันปีจงใจปิดข่าวทั้งนางแซ่หลี่และซูเต๋อเหยียนต่างรอจนซูจิ้งเถียนคลานเข่ามาถึงจวนอัครมหาเสนาบดีภายหลังจึงรู้เื่นี้ ซูเต๋อเหยียนมัวต้อนรับท่านอ๋องเก้าพันปีไม่สนใจความเป็ความตายของซูจิ้งเถียนทั้งสิ้น ยังด่าว่าเลี้ยงลูกสาวไม่ได้ความแบบนี้ออกมาแทบเป็เคราะห์ร้ายของวงศ์ตระกูลนางแซ่หลี่ร้องไห้เ้าน้ำตาไปแล้ว รีบให้บ่าวไพร่หามซูจิ้งเถียนกลับเรือนยังคิดเชิญหมอหลวง ท่านอ๋องเก้าพันปีกลับบอกว่านักโทษแบบนี้ไหนเลยคู่ควรให้หมอหลวงมารักษานางแซ่หลี่ไม่กล้าพูดมาก ได้แต่ให้คนไปเชิญหมอแล้วเ้าค่ะ” ซางจื่อเล่าอย่างสนุกปาก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้