ตอนที่มู่หรงฉือมาถึงหอเฟิ่งหวง ก็เห็นคุณชายหลี่ถูกจาวฮวาแขวนต่องแต่งอยู่กลางโถงใหญ่
วันนี้การแต่งตัวของนางธรรมดามาก สวมหน้ากากสีเงิน ซ่อนตัวอยู่ในบรรดาแขกที่มาล้อมดู ไม่ได้ทักทายหรงหลันเสียด้วยซ้ำ
จนกระทั่งมู่หรงอวี้พาผู้ติดตามสองคนมาถึง นางถึงได้เข้าใจแผนการของจาวฮวาในตอนนี้
น้องสาวเอ๋ย เปิ่นกงที่เป็พี่ชายย่อมต้องหวังให้ความหวังของเ้าเป็จริงอยู่แล้ว
ขุนนางหลายคนเ่าั้ต่างพากันโค้งคำนับตัวสั่นเทา ทั้งยังมีเหงื่อเย็นๆ ไหลออกมาจนชื้นไปทั้งแผ่นหลัง นางยืนอยู่ในกลุ่มลูกค้าที่ชั้นสอง ก้มหน้าลง แอบเห็นสายตาของมู่หรงอวี้กวาดมองมา หัวของขุนนางพวกนั้นก็ยิ่งก้มต่ำลง จนคอแทบจะหลุดออกไปอยู่แล้ว ขาทั้งสองข้างสั่นระริกกันเป็แถว
สายตาของเขาเลื่อนผ่านคุณชายชุดขาวสวมหน้ากากเงินที่กำลังก้มหัวลงคนหนึ่งไป เขาหยุดชะงักเล็กน้อย ก่อนสายตาจะเลื่อนผ่านไปราวกับขนนกลากผ่าน
ในเวลานี้ความเงียบชนะทุกคำพูดมากมาย
เขาไม่พูดอะไรสักคำ ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมาเลยสักนิด เหล่าขุนนางก็ยิ่งรู้สึกไม่มั่นคง ยิ่งเพิ่มความหวาดกลัวมากขึ้นไปอีก
ลูกค้าคนอื่นๆ รวมถึงคนในหอเฟิ่งหวงต่างโค้งตัวลงไม่กล้าหายใจแรง
“ท่านอ๋อง ช่วยข้าด้วย...”
มู่หรงฉางร้องขอความช่วยเหลือด้วยความหวาดกลัว ขนตางอนมีหยาดน้ำตาติดอยู่ เห็นแล้วน่าสงสารยิ่งนัก
เดิมทีคุณชายหลี่เห็นขุนนางพวกนั้นพากันทำความเคารพบุรุษที่เป็ดั่งเทพาแผ่กลิ่นอายน่ากลัวผู้นั้น ทั้งยังเรียกเขาว่าอวี้หวาง คุณชายหลี่คิดถึงชื่อเสียงอันเลื่องลือกับฝีมืออันเฉียบขาดของอวี้หวางก็ใจนปล่อยมือ หน้าซีดเผือดราวกับขี้เถ้า คิดอย่างหวาดกลัวว่าคืนนี้หัวจะหลุดออกจากบ่าหรือไม่
ที่เมืองหลวง ใครบ้างไม่รู้ถึงชื่อเสียงของอวี้หวาง? ใครบ้างไม่รู้ว่าหากทำผิดต่ออวี้หวาง จุดจบหากไม่อเนจอนาถก็ต้องใช้ชีวิตที่เหลือไปอย่างหวาดกลัว? ใครบ้างไม่รู้ว่ายามเจออวี้หวางที่ถนนจะต้องเดินอ้อมไปอีกทาง?
คิดถึงหัวที่อยู่บนคอก็ส่ายหน้า เขาคุกเข่าลงทันที
ในตอนนี้เอง คุณชายหน้าตาดีที่เขาชอบกลับพูดเสียงเบา “เปิ่นกงคือองค์หญิงจาวฮวา เ้ารีบเข้ามาจับเปิ่นกงเป็ตัวประกัน เปิ่นกงจะให้ทองหนึ่งร้อยตำลึง”
องค์หญิงจาวฮวา?!
คุณชายหลี่ราวถูกฟ้าผ่าอีกครั้ง ทำหน้าอยากจะร้องไห้แต่ไร้น้ำตา ใบหน้าหมดอาลัยตายอยาก คืนนี้คนที่เขาไปมีเื่ด้วยเป็ใครบ้างกันแน่?
องค์หญิงจาวฮวาผู้เป็ธิดาอันเป็ที่รักของฮ่องเต้!
ต่อให้เขามีความกล้ามากมายแค่ไหนเขาก็ไม่บังอาจจะจับองค์หญิงเป็ตัวประกันหรอก!
เขาจะล่วงเกินองค์หญิงจาวฮวาได้อย่างไรกัน?
ทว่าที่แปลกยิ่งกว่านั้นก็คือ องค์หญิงผู้สูงส่งนี้กลับบอกให้เขาลักพาตัวนาง?
หูของเขาไม่ได้พังไปแล้วใช่หรือไม่
“ยังไม่รีบมาจับเปิ่นกงอีก? หากไม่ทำตามคำสั่งของเปิ่นกง เปิ่นกงจะบอกว่าเ้าทำร้ายเปิ่นกง แล้วจะทำให้ศพของเ้าเละเป็ชิ้นๆ ทั้งยังจะปะาเ้าให้หมดทั้งตระกูล!” มู่หรงฉางพูดออกมาเสียงเบาอย่างโมโห
“อ่อ...”
คุณชายหลี่จับตัวนางด้วยร่างกายแข็งทื่อ ท่าทางเหมือนกินของแสลงเข้าไปสีหน้าจึงน่าเกลียดยิ่งกว่าร้องไห้
เห็นภาพนี้ มู่หรงฉือมองไปบนท้องฟ้าอย่างหมดคำพูด น้องสาว เ้าเล่นอะไรไม่เล่นจะเล่นแบบนี้ คิดว่ามู่หรงอวี้จะปล่อยให้เ้าจัดฉากเป็เด็กหนุ่มที่เขาไม่รู้จักหรือ?
มู่หรงอวี้กำลังจ้องคุณชายหลี่
ทั้งๆ ที่รูปร่างหน้าตาหล่อเหลา งดงาม แต่กลับเหมือนปีศาจที่คลานออกมาจากนรกขุมที่เก้า ทั้งๆ ที่ดวงตาสีดำระยิบระยับเหมือนดาวถึงเพียงนั้นกลับทำให้คนรู้สึกดุร้ายเหมือนกับลูกธนูที่แค่ยิงออกมาครั้งเดียวก็ตาย
คุณชายหลี่ใจนหน้าซีด ความกล้าหาญแตกสลายไป ‘ตึง’ เขาทิ้งเข่าทั้งสองข้างลงเบื้องหน้านาง คุกเข่าลงไปร้องไห้อยู่กับพื้น “อวี้หวางโปรดไว้ชีวิต...อวี้หวางโปรดเมตตา...กระหม่อมไม่ได้ตั้งใจลักพาตัวองค์หญิง เป็องค์หญิง...”
“สารเลว! บังอาจมาลักพาตัวเปิ่นกง ไม่อยากจะมีชีวิตอยู่แล้วหรืออย่างไร!”
มู่หรงฉางตวาดแล้วถีบเขาอย่างแรง
คุณชายหลี่ถูกถีบล้มลงไปกับพื้น ไม่กล้าลุกขึ้นมาได้แต่ร้องไห้ลั่น
มู่หรงฉือกุมขมับ คุณชายหลี่คนนี้นอกจากเงินแล้วที่เหลือก็อ่อนหัดเหลือเกิน!
แค่มู่หรงอวี้มองเขาเงียบๆ เขาก็ใกลัวไปหมดแล้ว
ลูกน้องของคุณชายหลี่แม้เห็นเ้านายทำท่าทางไม่ได้เื่เช่นนี้ แต่ก็รู้ถึงชื่อเสียงฝีมือของอวี้หวาง มีหรือจะกล้าขยับ?
หยวนซิ่วเข้ามาดึงองค์หญิง มู่หรงฉางก็เดินตามไปด้วยท่าทางอ่อนแอ ราวกับเจอเื่น่าใจนหวาดกลัวรู้สึกไม่ปลอดภัย “โชคดีที่ท่านอ๋องมาช่วยเปิ่นกงได้ทันเวลา ไม่เช่นนั้นเปิ่นกง...ไม่รู้ว่าผลลัพธ์จะเป็อย่างไร...”
ทั้งชั้นสองของโถงก็เงียบงันไร้สุ้มเสียง
เงียบเหมือนกับตายไปแล้ว
ที่แท้เด็กหนุ่มรูปงามผู้นั้นคือสตรีแต่งชาย คือองค์หญิงจาวฮวาธิดาที่ฮ่องเต้รักมากที่สุด
“ใครก็ได้มาที” สตรีงดงามอ่อนแออยู่ตรงหน้า มู่หรงอวี้กลับไม่สงสารเลยสักนิด พูดกับผู้ติดตามว่า “คุ้มกันองค์หญิงกลับวัง”
“พ่ะย่ะค่ะ” ผู้ติดตามรับคำสั่ง
“ท่านอ๋อง เปิ่นกงกลัว...” มู่หรงฉางพูดเสียงเบา ดวงหน้างามซีดขาวราวกระดาษ “ท่านอ๋องคุ้มกันเปิ่นกงกลับวังได้หรือไม่เพคะ?”
“นางกำนัลข้างกายองค์หญิงมีฝีมือไม่ธรรมดา เชื่อว่านางจะสาบานว่าต่อให้ตายก็จะปกป้ององค์หญิงให้ปลอดภัย” เขาพูดเสียงเรียบแล้วเลื่อนสายตาออก มองไปทางผู้ติดตาม
“องค์หญิง เชิญพ่ะย่ะค่ะ” บ่าวรับใช้พูดออกมาหน้านิ่ง
มู่หรงฉือมองดูสถานการณ์อย่างสนุกสนาน น้องสาวไม่มีทางกลับไปโดยไม่ได้อะไรกลับมาเช่นนี้หรอก
เป็อย่างที่คิด มู่หรงฉางกัดริมฝีปาก มองมู่หรงอวี้ด้วยดวงตาเศร้าสร้อย เพิ่งจะก้าวไปได้หนึ่งก้าวก็เป็ลม ทั้งตัวของนางเอนไปทางเขา ราวกับกลีบดอกไม้เบาหวิวที่ลอยมาตามลม
มู่หรงอวี้ทำได้เพียงยกมือขึ้นพยุงนาง แล้วพูดกับหยวนซิ่ว “ยังไม่มาประคององค์หญิงอีก?”
หยวนซิ่วรู้ถึงความคิดและนิสัยขององค์หญิง หากตอนนี้นางยื่นมือเข้าไปประคององค์หญิง หลังจากนี้องค์หญิงจะต้องจัดการนางแน่ๆ
ทว่า ตอนนี้คำสั่งของอวี้หวางนั้นถูกต้อง นางที่เป็นางกำนัลประจำตัวหากไม่ยื่นมือออกไปประคองแล้วใครจะทำเล่า? นางไม่ดูแลองค์หญิงให้ดี ไม่แน่ว่าเขาจะตำหนิเอาก็ได้
“เมื่อครู่หนูปี้ต่อสู้กับคนพวกนั้น ทำให้แขนาเ็เข้าโดยไม่ทันระวัง เกรงว่าจะจับองค์หญิงได้ไม่มั่นคงแล้วทำให้องค์หญิงล้มเพคะ”
หยวนซิ่วก้มหน้ากล่าวออกไป ถึงแม้จะถูกเขาบีบให้เป็ผุยผง ก็นับว่าได้แสดงความซื่อสัตย์ต่อองค์หญิงจนวาระสุดท้าย
ร่างทั้งร่างของมู่หรงฉางพิงเขาด้วยสภาพอ่อนปวกเปียก ในใจก็พูดว่า : นับว่าไม่ได้โง่จนเกินไป
เมื่อทำอะไรไม่ได้ มู่หรงอวี้จึงอุ้มนางลงจากชั้นสอง ขนตาของนางขยับน้อยๆ อารมณ์ดีเป็พิเศษ : มู่หรงอวี้ เ้าก็ตกอยู่ในมือของเปิ่นกงแล้วมิใช่หรือ?
หลังจากพวกเขาออกไปแล้ว เื่ราวอันวุ่นวายนี้ก็ปิดฉากลง
มู่หรงฉือคิดว่าเขาจะไปส่งจาวฮวากลับวัง แต่คิดไม่ถึงว่าเมื่อเดินไปถึงห้องโถงชั้นหนึ่ง มู่หรงอวี้ก็ส่งจาวฮวาให้กับผู้ติดตามสองคน แล้วสั่งให้พวกเขาไปส่งนางให้ดี
เป็คนใจแข็งอย่างเหล็กจริงๆ
หญิงงามถูกยื่นมาถึงอ้อมแขน เขากลับไม่คิดจะสนใจ แล้วส่งสาวงามให้กับผู้ติดตาม
ตอนนี้จาวฮวาย่อมไม่อาจฟื้นขึ้นมาได้ในทันที นางจะต้องใจสลาย กัดฟันด้วยความโกรธแน่ๆ
ในตอนที่นางคิดว่าเื่จบแล้วและเขาก็คงจะกลับไป คิดไม่ถึงว่าเขาจะหยุดฝีเท้าลงแล้วหมุนตัวมา ดวงตาเฉียบแหลมดั่งธนูคมปลาบพุ่งตรงเข้ามา ใจของนางกระตุก สัญชาตญาณบอกให้ก้มหัวลง
มู่หรงอวี้เหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้มหมุนตัวออกไป
เหล่าขุนนางที่เหงื่อแตกพลั่กพวกนั้น และบรรดาแขกที่ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจออกมาแรงๆ ต่างพากันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก รู้สึกว่ากระบี่ที่จ่ออยู่บนศีรษะในที่สุดก็หายไปแล้ว
หรงหลันโบกแขนเสื้อยาวไปมาพร้อมพูด “ไม่มีอะไรแล้ว ไม่มีอะไรแล้ว ทุกท่านดื่มสุราชมการร่ายรำกันต่อเถิด”
ขุนนางหลายคนมีหรือยังจะกล้าอยู่สนุกต่อที่นี่? ฝีเท้าประหนึ่งทาน้ำมันรีบจรลีออกไปไกลกว่าใคร
เห็นมู่หรงฉือสวมหน้ากากเงินยืนอยู่ ดวงตาของหรงหลันก็วาววับขึ้นมา แค่มองปราดเดียวก็ดูออกแล้วว่าเป็นาง
หรงหลันสวมชุดสีแดงเย้ายวน เดินบิดเอวคอดเข้ามาหา นิ้วเรียวสวยเชยเข้าที่ปลายคางของนาง “คุณชาย...”
นางส่งยิ้มโปรยเสน่ห์ ก่อนจะเดินออกไปด้วยท่วงท่างดงาม
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง มู่หรงฉือก็ตามไป ก่อนจะขึ้นไปยังชั้นสาม
หรงหลันรินน้ำชาเรียบร้อยแล้วก็คลี่ยิ้มสวย “เถ้าแก่ ดื่มชาก่อนเถิด”
“่นี้ไม่มีเื่อะไรใช่หรือไม่” มู่หรงฉือยิ้มแล้วถาม ยกถ้วยชาขึ้นจิบ
“หอเฟิ่งหวงไม่มีอะไรเ้าค่ะ” หรงหลันยิ้ม “แต่ว่าทางด้านน้องชายเหมือนจะเจอกับเื่แปลกๆ เข้าเื่หนึ่ง”
“อืม เขาบอกกับข้าแล้ว” มู่หรงฉือพยักหน้า
เมื่อหลายคืนก่อน ประมาณยามโฉ่ว หรงจ้านได้รับจดหมายจากลูกน้อง ให้รีบไปที่บ้านหลังหนึ่งด้านนอกเมืองทางตะวันออก เป็อย่างที่คิด เขาเห็นคนหลายสิบคนนำหีบไม้หนักๆ เข้ามาหนึ่งกล่อง รออยู่ครึ่งชั่วยาม ภายในบ้านในที่สุดก็สงบลง เมื่อเขาเข้าไปเปิดกล่องดูก็ใ
ในหีบมีอาวุธทางการทหารมากมายหลายชนิด
เขากำลังตรวจสอบว่าอาวุธทางการทหารพวกนี้เป็ของที่กองทัพตรวจสอบอาวุธสร้างขึ้นหรือไม่ ก่อนจะพบว่าด้านนอกมีคนมาจึงทำได้เพียงหลบออกมาก่อน
แต่จากรูปแบบการสร้างและอานุภาพของอาวุธแล้ว คงจะเป็กองทัพตรวจสอบอาวุธเป็คนสร้างขึ้นมา
แววตาเ็าของมู่หรงฉือฉายความสงสัย หรงหลันยิ้มแล้วถาม “กองทัพตรวจสอบอาวุธเกิดเื่ใหญ่ขนาดนี้ ข้าจะทำเป็มองไม่เห็นได้อย่างไร?”
“เถ้าแก่จะต้องระวังนะเ้าคะ” หรงหลันพูดเตือนด้วยรอยยิ้ม “ใช่แล้ว องค์หญิงคนนั้นเป็น้องสาวของเถ้าแก่หรือเ้าคะ? เหตุใดนางถึงได้มาที่หอเฟิ่งหวง? เหตุใดอวี้หวางถึงได้มาทันเวลา?”
“นี่เป็ละครฉากหนึ่งของจาวฮวา” มู่หรงฉือยิ้มออกมา
เื่ก็คงจะเป็เช่นนี้ จาวฮวาแต่งตัวเป็บุรุษเข้ามาที่หอเฟิ่งหวงเพื่อมาหาเื่น่าสนุกในสถานที่เริงรมย์นี้ ไม่มีปัญหาอะไรก็รั้นที่จะวิ่งหาปัญหา ที่บังเอิญก็คือ มีคนมาชอบเด็กหนุ่มหน้าตางดงามอย่างนางจริงๆ ครั้นเื่ราวใหญ่โตขึ้น นางก็ยิ่งมีความสุข ตอนที่คุณชายหลี่เริ่มมีปัญหาขึ้นมา นางก็แอบส่งคนที่คอยอารักขาอยู่ด้านนอกให้ไปรายงานอวี้หวาง เพื่อความปลอดภัยขององค์หญิงจาวฮวา อวี้หวางแม้จะไม่อยากมาเพียงใดก็ต้องจำใจมาสักรอบหนึ่ง
เวลาก็กะเอาไว้อย่างดี ตอนที่อวี้หวางมา นางถูกคุณชายหลี่จับตัวพอดี ได้แสดงท่าทางที่ถูกคนทำให้อับอาย อยู่ระหว่างความเป็ความตายได้อย่างเหมาะเจาะ
หากมู่หรงอวี้เป็บุรุษธรรมดาย่อมต้องโกรธเป็ฟืนเป็ไฟ แล้วทำตัวเป็วีรบุรุษช่วยหญิงงาม จากนั้นองค์ชายกับองค์หญิงก็แต่งงานกัน รักกันอย่างลึกซึ้ง ก่อนจะจับมือเข้าสู่ตำหนักของการสมรส กลายเป็คู่รักที่งดงาม ทว่าความจริงก็คือ เขาไม่ใช่บุรุษทั่วไป
เป็บุรุษที่ช่วยสาวงามจริงๆ แต่จาวฮวาก็ต้องโกรธจนแทบกระอักเลือก
มู่หรงฉือคาดเดา จากแผนการของจาวฮวา คืนนี้นางจะต้องอยู่พักที่จวนอวี้หวาง
นี่คือแผนที่จาวฮวา้า
แน่นอนมู่หรงฉือก็ไม่ได้เปิดเผยเื่พวกนี้ เพียงแค่พูดคุยธรรมดาสองสามประโยคก่อนจะกลับไป
มู่หรงฉางที่ออกจากหอเฟิ่งหวง หลังจากนั่งรถม้าแล้วก็สั่งกับคนขับรถว่าให้รอท่านอ๋องออกมาก่อนค่อยไป
ทว่าผู้ติดตามสองคนของมู่หรงอวี้ไม่ได้ฟังคำสั่งของนาง แล้วให้คนขับรถขับมุ่งหน้าไป
นางโกรธจนอยากจะทำร้ายคน พูดสั่งข้างหูของหยวนซิ่วเสียงเบาสองคำ
หยวนซิ่วเปิดผ้าม่านเงียบๆ ก่อนจะลงมือจี้จุดของผู้ติดตามสองคนนั้น จากนั้นก็บังคับให้คนขับรถหยุดรถ
มู่หรงฉางกับหยวนซิ่วะโลงจากรถม้า ก่อนจะให้คนขับรถจอดที่ข้างถนน แล้กดเข้าที่จุดหลับของเขาให้หลับไป
จากนั้นสองนายบ่าวก็ขับรถม้าพุ่งตรงไปที่จวนของอวี้หวาง ตอนที่มาถึงจวนอวี้หวาง มู่หรงฉางก็ให้หยวนซิ่วไปซ่อนตัวอยู่ที่ตรอกเล็กๆ อย่าออกมา ก่อนที่นางจะเข้าประตูไป
นายทหารที่คอยเฝ้าประตูเรียกนางเอาไว้ ถามว่านางเป็ใคร
“อวี้หวางกลับจวนมาแล้วหรือไม่?” นางถาม
“เ้าถามถึงท่านอ๋องของข้าทำไม? ไปๆๆ!” คนเฝ้าประตูไม่เคยเห็นองค์หญิงจาวฮวามาก่อน จึงเริ่มไล่คน
เนื่องจากทำอะไรไม่ได้ มู่หรงฉางจึงได้แต่นั่งรออยู่ที่ขั้นบันได
ตรงประตูแขวนโคมไฟเอาไว้สองดวง แสงสีเหลืองสลัวส่องลงมา
เพื่อที่คืนนี้จะได้อยู่ในจวนอวี้หวาง นางเองก็พยายามสุดชีวิตแล้ว
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้