ผู้เฒ่าจี้มีลูกศิษย์อยู่ทั่วทุกหนแห่ง อดีตนักเรียนของเขา ตอนนี้อาจจะเป็ข้าราชการระดับหัวหน้ากันหมดแล้วก็เป็ได้
ขอเพียงสนิทกับตระกูลจี้สักเล็กน้อย ย่อมไม่มีใครไม่รู้จักจี้หย่า
จี้หย่าเวลาอยู่นอกบ้านย่อมไม่แสดงท่าทีเกรี้ยวกราดออกมา ภาพลักษณ์ของเธอที่เหล่าลูกศิษย์ของผู้เฒ่าจี้พบเจอล้วนหยุดอยู่ที่วันวาน
ตอนนั้นจี้หย่ามีบุคลิกภาพที่ดี มากด้วยความสามารถ เป็นางในฝันของใครหลายๆ คน หากวัยรุ่นผู้ชายทุกคนจะมีคนที่แอบรัก ก็คงเป็หญิงสาวแบบจี้หย่า สมบูรณ์แบบจนต้องแหงนหน้าขึ้นมอง
เมื่อนึกขึ้นได้ว่าผู้เฒ่าจี้เพิ่งจากไปได้เพียงไม่นาน หัวหน้าภาควิชาก็รู้สึกใจหาย
สรรพสิ่งยังคงเดิม แต่คนนั้นล้วนเปลี่ยนไป ไม่ทันไรทุกคนก็เข้าสู่วัยกลางคนกันหมดแล้ว
ทว่าสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปมีแต่รุ่นพี่ชายอย่างพวกเขา ทุกคนต่างต้องยอมก้มหัวให้กับชีวิต มีเพียงรุ่นน้องหญิงจี้ที่ยังคงเหมือนเดิมทุกอย่าง
“เกิดอะไรขึ้นรึ?”
ยามเล่าให้เขาฟังว่า นักศึกษาของภาควิชาสถาปัตยกรรมถูกผู้อื่นก่อกวน ผู้ปกครองของนักศึกษา้าเอาเื่ อยากขอคำอธิบายจากทางมหาวิทยาลัย หัวหน้าภาควิชาย่อมมีหน้าที่รับผิดชอบจัดการเื่นี้
จี้เจียงหยวน ลูกชายของรุ่นน้องหญิงจี้ก็เรียนที่หัวชิงเช่นกัน ทว่าเด็กคนนั้นไม่ได้เรียนอยู่ภาควิชาสถาปัตยกรรม ทำไมถึงต้องให้เขาเป็คนจัดการเล่า?
หัวหน้าภาควิชาคิดไม่ถึงว่า คนที่ก่อเื่จะเป็รุ่นน้องหญิงจี้ผู้สมบูรณ์แบบในดวงใจของเขา
แต่กวนฮุ่ยเอ๋อยืนส่งยิ้มให้เขาด้วยสีหน้าไม่พอใจอยู่ข้างๆ เซี่ยเสี่ยวหลานเองก็อยู่ด้วยเช่นกัน หัวหน้าภาคจึงเริ่มได้สติ
ดูท่าเซี่ยเสี่ยวหลานต่างหากที่เป็ ‘ผู้ร้องทุกข์’
หัวหน้าภาคจำเซี่ยเสี่ยวหลานได้เป็อย่างดี ทว่าไม่ใช่เพราะเซี่ยเสี่ยวหลานหน้าตาดีเท่านั้น
เด็กปีหนึ่งที่เพิ่งเข้าเรียนไม่ถึงหนึ่งเทอมก็ได้รับเลือกให้เป็ ‘ผู้สำเร็จการฝึกดีเด่นประจำการฝึกวิชาทหาร’ อีกทั้งยังเข้าร่วมการแข่งขันทักษะภาษาอังกฤษระดับประเทศ รวมถึงผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้ทั้งที่อยู่ชั้นปีที่หนึ่งเท่านั้น นักศึกษาของภาควิชาสถาปัตยกรรมรุ่นปี 84 มีผู้หญิงอยู่เพียงสิบกว่าคน หัวหน้าภาควิชาไม่อยากรู้จักเซี่ยเสี่ยวหลานก็ยังยาก
มิน่าเล่าตระกูลจี้ถึงกร่างนัก มหาวิทยาลัยหัวชิงคงมีเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ของตระกูลจี้อยู่มากสินะ กวนฮุ่ยเอ๋อเชื่อว่าหัวหน้าและอาจารย์ส่วนใหญ่อยู่ดีๆ คงไม่ไปรังแกนักศึกษาหญิงคนหนึ่งอย่างแน่นอน แต่หากมีจี้หย่าคอยปั่นหัว ใครจะไปรู้ว่าจะมีไอ้หน้าโง่ที่ไหนถูกจี้หย่าหลอกใช้หรือเปล่า
พวกหัวหน้าแค่ยกมือส่งสัญญาณเล็กน้อย หรือเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับเื่นี้เพียงนิดเดียว ก็อาจส่งผลกระทบต่อชีวิตของเซี่ยเสี่ยวหลานได้ทันที
ลำเอียงเวลาประเมินเผลต่างๆ การแข่งขันที่ควรเสนอชื่อก็คงไม่ให้เซี่ยเสี่ยวหลานเข้าร่วม ตอนเขียนวิทยานิพนธ์จบการศึกษาก็หาเื่ติเตียน ตอนจัดสรรงานก็คงจงใจกลั่นแกล้ง... อาจจะไม่ต้องลงมือชัดเจนขนาดนั้น ทว่าเมื่อสั่งสมนานวันเข้า นักศึกษาที่ยอดเยี่ยมแค่ไหนก็คงถูกบีบจนกลายเป็เด็กธรรมดาได้แน่นอน
“คุณคือหัวหน้าภาควิชาสถาปัตยกรรมสินะคะ เื่นี้คุณต้องให้ความยุติธรรมด้วย หากทางมหาวิทยาลัยไม่มีคำอธิบายให้ ฉันไม่มีทางยอมจบแค่นี้แน่”
พอกวนฮุ่ยเอ๋อเห็นว่าหัวหน้าภาควิชารู้จักกับจี้หย่า เื่วันนี้ยิ่งไม่ควรยอมถอยให้
ถ้าเธอยอมถอย ตระกูลจี้ก็จะรู้ว่าเซี่ยเสี่ยวหลานไม่มีคนหนุนหลัง เช่นนั้นพวกเขาคงยิ่งรังแกกันสุดชีวิต
ที่จริงเซี่ยเสี่ยวหลานไม่ค่อยรู้สึกกลัวสักเท่าไร เธอเพียงรู้สึกแปลกใหม่มากเท่านั้น การคบหาดูใจกับโจวเฉิงนำพาหลายสิ่งหลายอย่างมาให้กับเธอ อย่างเช่นการที่กวนฮุ่ยเอ๋อยอมออกหน้าแทนตระกูลโจวเพื่อเธอ เื่นี้เซี่ยเสี่ยวหลานไม่เคยประสบพบเจอเลยจริงๆ เธอรู้วิธีสร้างสายสัมพันธ์กับลูกค้า แต่ ‘ความสัมพันธ์ดั่งครอบครัว’ ที่ไร้ผลประโยชน์เช่นนี้มันช่างแปลกใหม่ไปเสียหมด เป็อะไรที่ไม่เคยพบพานในชาติก่อน!
พวกผู้ชายที่เธอเคยดูตัวด้วยในชาติก่อน อย่าเพิ่งคิดว่าครอบครัวอีกฝ่ายจะออกหน้าแทนเธอได้หรือไม่เลย อย่างน้อยๆ คนที่ยอมลุกขึ้นสู้เพื่อเธอ คงไม่มีทางเป็แม่ของอีกฝ่ายที่จะออกมาปกป้องเธอราวกับเป็ลูกตัวเองเช่นนี้
หัวหน้าภาควิชายังคงจับต้นสายปลายเหตุไม่ถูก “สหายหญิง ไม่ทราบว่าคุณคือ?”
“สวัสดีค่ะ ฉันคือผู้ปกครองของเซี่ยเสี่ยวหลาน นี่คือบัตรพนักงานของฉัน”
กวนฮุ่ยเอ๋อยื่นบัตรพนักงานให้กับหัวหน้าภาควิชา
เธอไม่ใช่หัวหน้าใหญ่ของกระทรวงศึกษาธิการ และไม่ได้มาเพื่อข่มเหงใคร สมัยนี้คนเราเจอกันมักจะแนะนำตัวว่าทำงานอยู่ที่ไหน แม้แต่ออกจากบ้านยังต้องพกจดหมายแนะนำตัวด้วยซ้ำ หากไม่แสดงบัตรพนักงาน ใครจะรู้ว่ามีหัวนอนปลายเท้าอย่างไร
ทำงานที่กระทรวงสาธารณสุข และเป็ข้าราชการ
ท่าทีของหัวหน้าภาควิชาดูระวังตัวมากขึ้น นี่ไม่ใช่การวางอำนาจของหัวหน้าภาควิชา ทว่านี่เป็เื่ปกติของมนุษย์
“สหายกวน เชิญว่ามาได้เลยครับ”
กวนฮุ่ยเอ๋อส่งสายตาไปหาเซี่ยเสี่ยวหลาน เซี่ยเสี่ยวหลานรู้ทันทีว่าถึงคิวตัวเองแล้ว จะว่าไปก็แปลก เพราะวันนี้เธอกับกวนฮุ่ยเอ๋อดูเข้าขากันได้ดีเป็พิเศษน่ะสิ
“อาจารย์คะ เื่เป็มาเช่นนี้ค่ะ คุณน้าจี้ท่านนี้เคยมาหาฉันที่มหาวิทยาลัยแล้วครั้งหนึ่ง เธอสั่งให้ฉันอยู่ให้ห่างจากเพื่อนนักศึกษาจี้เจียงหยวนลูกชายของเธอ ตอนนั้นฉันอธิบายกับคุณน้าจี้ไปแล้วว่า ฉันกับเพื่อนนักศึกษาจี้เป็แค่คนรู้จักกันเท่านั้น และฉันเองก็มีคนรักอยู่แล้ว ทว่าครั้งนี้คุณน้าจี้พาชาวต่างชาติมาด้วยกัน และดักรอฉันที่หน้ามหาวิทยาลัย แต่เธอกลับเปลี่ยนความตั้งใจและบอกให้ฉันไปเรียนต่างประเทศกับเพื่อนนักศึกษาจี้ การกระทำของเธอสร้างความเดือดร้อนให้กับฉันเป็อย่างยิ่ง ตอนนั้นมีเพื่อนนักศึกษาเห็นเหตุการณ์ที่หน้ามหาวิทยาลัยจำนวนไม่น้อย มันสร้างความเสื่อมเสียแก่ชื่อเสียงของฉันค่ะ”
รุ่นน้องหญิงจี้ทำเื่แบบนี้ได้อย่างไรกัน?
เดี๋ยวนะ ครั้งก่อนได้ยินว่ารุ่นน้องหญิงจี้มาดูข้อมูลบางอย่างที่ภาควิชา
หรือว่าจะมาดูข้อมูลของนักศึกษาเซี่ยเสี่ยวหลาน?
จี้หย่าหน้าซีดขาว หัวหน้าภาควิชาไม่กล้าถามเค้นเธอต่อหน้าผู้คนมากมายเช่นนี้ จึงถามเซี่ยเสี่ยวหลานกลับว่า
“แล้วเธออยากไปเรียนต่างประเทศหรือเปล่าล่ะ”
เซี่ยเสี่ยวหลานส่ายหน้า “ถึงฉันอยากก็คงไม่ใช้วิธีการเช่นนี้ค่ะ อาจารย์ไม่คิดว่ามันเป็การหยามเกียรติของฉันหรอกหรือคะ!”
ก็จริง สำหรับผู้หญิงที่มีความคิดเป็ของตัวเอง พฤติกรรมเช่นนี้ถือเป็การไม่ให้เกียรติกันแม้แต่น้อย
นักศึกษาของหัวชิง ต่อให้อยากไปเรียนต่อต่างประเทศก็ไม่ควรใช้วิธีการเช่นนี้!
จากจุดนี้ หัวหน้าภาควิชารู้สึกชื่นชมเซี่ยเสี่ยวหลานเป็อย่างมาก
“เธอปฏิเสธแล้ว เื่ก็ควรจบมิใช่หรือ สหายจี้เข้าใจผิดบางอย่าง ทุกคนมานั่งจับเข่าคุยกันให้กระจ่างเถอะ ทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน ทุกคนว่าดีหรือไม่”
เซี่ยเสี่ยวหลานคงปฏิเสธไม่ได้อย่างแน่นอน
แต่กวนฮุ่ยเอ๋อกล้าพูด
“เื่นี้จะจบแค่นี้ไม่ได้ ตอนฉันมาถึง รุ่นน้องหญิงจี้ของคุณตามรังควานเสี่ยวหลานไม่เลิก ตอนนี้ฉันกำลังสงสัยว่าเธอฟังคำปฏิเสธของคนอื่นไม่เข้าใจรึ หากเธอไม่ขอโทษต่อหน้าสาธารณชน ต่อไปนักศึกษาคนอื่นๆ จะมองเสี่ยวหลานอย่างไร จากข่าวลือก็จะกลายเป็ข่าวจริงในสายตาผู้อื่น ฉันไม่อยากให้มีคนนินทาเสี่ยวหลานลับหลังอีก เด็กคนนี้มาหัวชิงเพื่อศึกษาเล่าเรียน เธอไม่ได้มาเพื่อตกเป็ขี้ปากชาวบ้าน เด็กคนนี้อยู่ที่มหาวิทยาลัยผลการเรียนก็ไม่แย่ ไม่ใช่นักศึกษาที่สอบติดหัวชิงแล้วใช้ชีวิตไปวันๆ ถ้าทางมหาวิทยาลัยไม่ลุกขึ้นมาปกป้องเธอ อนาคตหากมีเื่แบบเดียวกันเกิดขึ้นอีก นักศึกษาของหัวชิงยังจะพึ่งพาใครได้!”
หลังกลับออกจากสำนักงานวันนี้ อีกไม่กี่วันจี้หย่าก็คงกลับมาอีก
คนบางประเภทใช้ชีวิตอยู่แค่ในโลกของตัวเอง ตราบใดที่ยังไม่บรรลุเป้าหมายก็จะไม่มีวันรามือ และในความคิดของกวนฮุ่ยเอ๋อ จี้หย่าใช่ว่าจะฟังภาษาคนไม่รู้เื่ ทว่าเธอเป็พวกเห็นแก่ตัว ทำอะไรคิดแต่ผลประโยชน์ของตัวเอง!
ั้แ่จี้หย่าเดินเข้าห้องทำงานมา เธอก็เงียบมาโดยตลอด
กวนฮุ่ยเอ๋อออกหน้าแทนเซี่ยเสี่ยวหลานเป็สิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมายของจี้หย่า
อีกอย่างกวนฮุ่ยเอ๋อก็ใช่ว่าเป็ชาวบ้านธรรมดาสามัญ เธอมีตำแหน่งหน้าที่การงาน พูดจาฉะฉาน จี้หย่าบีบฝ่ามือตัวเองไปมา เธออาจจะสติหลุดได้ทุกเมื่อ
เซี่ยเสี่ยวหลานมีคนรักแล้วจริงหรือ?
ถ้าอย่างนั้นที่เจียงหยวนยังชอบเซี่ยเสี่ยวหลานอยู่ ก็เท่ากับเด็กคนนี้หลอกลวงเจียงหยวนน่ะสิ!
เซี่ยเสี่ยวหลานเป็คนที่ทังหงเอินบงการอยู่เื้ั เธอจงใจตีสนิทเจียงหยวน
ตอนนี้ทังหงเอินไม่ยอมให้เธอกับเจียงหยวนออกนอกประเทศ ไม่รู้ว่าทังหงเอินทำได้อย่างไร แต่เอกสารยื่นขอออกนอกเขตแดนของเธอกับเจียงหยวนไม่ได้รับการอนุมัติ
สาเหตุที่เธอ้าพาเซี่ยเสี่ยวหลานไปต่างประเทศด้วยก็เพราะเธออับจนหนทางแล้ว
ทว่าตอนนี้วิธีการนี้คงใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไปแล้ว เธอกับเจียงหยวนถูกบังคับให้อยู่ที่จีน... ดังนั้นทังหงเอินอาจจะแย่งลูกชายไปจากเธอได้ทุกเมื่อ จี้หย่ารู้สึกคันปากไปหมด
“ฉันไม่ได้เข้าใจผิด ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ ทำไมเจียงหยวนถึงไม่ยอมกลับอเมริกา อีกอย่างถ้าเธอมีคนรักแล้วก็ไม่ควรมาเข้าใกล้ลูกชายของฉันสิ!”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้