หลังจากคำพูดของหญิงสาวในชุดแม่ชีจบลง คนจากตระกูลกวนก็เปิดฉากโจมตีทันทีโดยไม่มีการลังเล พลังงานอันมหาศาลพุ่งตรงไปหากลุ่มขององค์กรตะวันสาดส่อง
แต่แม่ชีคนนั้นเพียงแค่หัวเราะเบา ๆ และกล่าวขึ้น "ก็อยากจะเล่นด้วยอยู่หรอกนะ... แต่ฉันเองก็มีธุระเหมือนกัน"
เธอโบกมือเบา ๆ ความว่างเปล่าบิดเบี้ยวตรงหน้าหลานฮวาและหลานซือหรง พื้นที่รอบตัวทั้งสองเกิดรอยฉีกขาดของมิติ และช่องว่างปริศนาก็เปิดขึ้นพร้อมดูดกลืนร่างของพวกเธอเข้าไป
ในขณะเดียวกัน ความว่างเปล่าที่ด้านหน้าของคนจากตระกูลกวนดูดการโจมตีของพวกเขาทั้งหมดเข้าไปก่อนที่มันจะสะท้อนการโจมตีกลับออกมาจากความว่างเปล่านั้นทันที
ตูมมม!
เสียงะเิดังกึกก้อง พลังโจมตีทั้งหมดสะท้อนกลับไปยังผู้โจมตีเอง ทำให้บางคนกระเด็นไปไกล ร่างของแม่ชีและพวกพ้องจากองค์กรตะวันสาดส่องหายไปจากที่นั่นอย่างสมบูรณ์ เช่นเดียวกับหลานฮวาและหลานซือหรง
ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบงัน
กวงลี่เหมยมองดูเหตุการณ์ทั้งหมดก่อนจะถอนหายใจและพูดขึ้น "ฉันบอกแล้วว่าการใช้กำลังบังคับให้คนจงรักภักดีเป็เื่ไร้สมองมากแถมยังโง่ซ้ำกว่าเดิมตรงที่พวกแกไม่ทำสัญญาเืกับพวกเธออีกต่างหาก..."
กวงลี่เหมยเหลือบตามองคนจากตระกูลกวนด้วยสายตาเ็า "ฮิฮิ อย่างงี้คงจะต้องกลับไปขอโทษตระกูลโอวหยางแล้วรึเปล่านะ พอพวกแกไม่ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลโอวหยางแล้ว งั้นพันธมิตรที่พวกเราร่วมสร้างกันมาก็เอาเป็การจบกันแค่นี้ก็แล้วกันนะ"
เมื่อเธอพูดจบ กวงลี่เหมยก็หยิบหนังสือสัญญาขึ้นมาเผาทิ้งก่อนจะจากไปพร้อมกับจักรพรรดิอีกสิบคนที่มากับเธอ
คนจากตระกูลกวนกำหมัดแน่น สีหน้าเต็มไปด้วยความโกรธแค้น แต่พวกเขาก็ตั้งสติก่อนจะรีบลงไปสำรวจพื้นที่ความเสียหายทันที
หนึ่งวันผ่านไป ข่าวเกี่ยวกับการโจมตีมหาวิทยาลัยจักรพรรดิสัตว์ร้ายแพร่กระจายไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว
แต่แทนที่จะได้รับความเห็นใจ ประชาชนส่วนใหญ่กลับเฉยเมย เพราะคนมากกว่า 80% ไม่ได้ชอบมหาวิทยาลัยแห่งนี้อยู่แล้ว เหตุผลก็มีหลายอย่าง ในสายตาของประชาชนทั่วไป มหาวิทยาลัยจักรพรรดิสัตว์ร้ายไม่ได้ติดแม้แต่ในสิบอันดับแรกด้วยซ้ำ ภายในมหาวิทยาลัยเต็มไปด้วยการแบ่งชนชั้น การเลือกปฏิบัติ ทรัพยากรก็แย่ และผู้คนส่วนใหญ่เลยไม่เคยมองว่าที่นี่เป็มหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของโลก แต่ที่นักเรียนเก่งๆ มากมายเลือกที่จะเรียนที่นี่เป็เพราะว่า ตระกูลโอวหยาง แต่เมื่อเร็วๆ นี้มีข่าวเลวร้ายขึ้นมา เมื่อลูกสาวของหัวหน้าตระกูลศักดิ์สิทธิ์กวน เ้าของมหาวิทยาลัยจักรพรรดิสัตว์ร้าย กำลังจะยกเลิกงานหมั้นกับบุตรพระเ้าของตระกูลที่ซ่อนอยู่ นั้นคือตระกูลโอวหยาง เมื่อมีข่าวนี้ออกมากองกำลังทั้งหมดต่างตัดความสัมพันธ์กับตระกูลศักดิ์สิทธิ์กวนทันที
หลังจากเหตุการณ์ความเสียหายในครั้งนี้ ทางมหาวิทยาลัยจักรพรรดิสัตว์ร้ายได้ออกแถลงการณ์โยนความผิดทั้งหมดให้กับอดีตผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการ โดยกล่าวหาว่าพวกเขาเป็สายลับขององค์กรตะวันสาดส่องที่แอบเข้ามาบ่อนทำลายมหาวิทยาลัยจากภายใน
พร้อมทั้งประกาศแต่งตั้งผู้อำนวยการคนใหม่ และคนที่ได้รับตำแหน่งนี้ก็คือ ฟานฉี รองผู้อำนวยการคนเดิมที่เคยอยู่ฝ่ายบริหาร หลังจากการเข้ารับตำแหน่งของฟานฉี ก็ได้มีการตัดสินใจไล่นักเรียนปีหนึ่งออกจากมหาวิทยาลัยทันที 2 คน ได้แก่ กู่เทียน และอู๋ซวง
นอกจากนี้ ยังมีนักเรียนอีก 170 คนที่ตัดสินใจลาออกเอง หนึ่งในนั้นมีชื่อของ ซูเหม่ยหลิน เหลียงอวี้เฟิง ลี่จวน เย่เฟิง หลินไท่ ไป๋เฉิน เมิ่งหลิน
นักเรียนที่ลาออกทั้งหมดต่างแยกย้ายไปเข้ามหาวิทยาลัยแห่งใหม่ โดยอู๋ซวง ซูเหม่ยหลิน และเหลียงอวี้เฟิง ได้เข้าศึกษาที่ มหาวิทยาลัย์า ซึ่งเป็มหาวิทยาลัยอันดับสองของโลก
ส่วนคนอื่น ๆ ก็กระจายตัวไปตามมหาวิทยาลัยชั้นนำต่าง ๆ ทั่วโลก
ภายในเวลาเพียงวันเดียว มหาวิทยาลัยจักรพรรดิสัตว์ร้ายสูญเสียทั้งทรัพยากร สถานที่ และบุคลากรที่มีพร์ไปอย่างมหาศาล และชื่อเสียง ความน่าเชื่อถือรวมถึงการสนับสนุนด้านต่างๆ นั้นก็หายไปมากเช่นกัน
ในโรงพยาบาลที่ได้รับการยกย่องว่ามีการรักษาที่ดีที่สุดในโลก ภายในห้องพักพิเศษ กู่เทียนนอนอยู่บนเตียงโดยมีผ้าพันแผลพันรอบตัว สายน้ำเกลือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ติดอยู่กับร่างของเขาแทบทุกส่วนของร่างกาย ข้างเตียงมีร่างของกวงเยว่ กู่โม่ และกู่หลงนั่งเฝ้าอยู่ไม่ห่างด้วยความเป็ห่วง
เสียงเคาะประตูดังขึ้นเบา ๆ ก่อนที่อู๋ซวงจะพูดขึ้น "ผมเข้าไปได้ไหมครับ?"
กวงเยว่เงยหน้ามองก่อนจะพยักหน้าด้วยรอยยิ้มจาง ๆ "เข้ามาได้เลยจ้ะ"
เมื่ออู๋ซวงเดินเข้ามา เขามองไปที่ร่างของกู่เทียนที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียง ภาพที่เห็นทำให้เขาขมวดคิ้วแน่น สายเข็มฉีดยาหลายเส้นปักอยู่ที่แขนของกู่เทียน ดูแล้วสภาพของเขาคงไม่ได้ดีขึ้นมากนัก
"เขาฟื้นแล้วหรือยังครับ?" อู๋ซวงถามด้วยน้ำเสียงเป็กังวล
กวงเยว่ส่ายศีรษะ "ยังเลยจ้ะ"
อู๋ซวงพยักหน้าเบา ๆ ก่อนที่เขาจะหรี่ตาลงมองค่าพลังโชคของคนในตระกูลกู่ และสิ่งที่เขาเห็นทำให้เขาตกตะลึง
[ชื่อ: กู่เทียน]
[อายุ: 18 ปี]
[พร์: สูญสลาย]
[ระดับการควบคุมสัตว์ร้าย: พังทลาย]
[สัตว์ร้ายที่ควบคุม: -]
[ค่าโชค: ดำ (-1,525,410,000) ]
………….
[ชื่อ: กู่หลง]
[อายุ: 43 ปี]
[พร์:???]
[ระดับการควบคุมสัตว์ร้าย:???]
[สัตว์ร้ายที่ควบคุม:???]
[ค่าโชค: ดำ (-182,158,000) ]
………….
[ชื่อ: กวงเยว่]
[อายุ: 43 ปี]
[พร์:???]
[ระดับการควบคุมสัตว์ร้าย:???]
[สัตว์ร้ายที่ควบคุม:???]
[ค่าโชค: ดำ (-198,988,100) ]
………….
[ชื่อ: กู่โม่]
[อายุ: 71 ปี]
[พร์:???]
[ระดับการควบคุมสัตว์ร้าย:???]
[สัตว์ร้ายที่ควบคุม:???]
[ค่าโชค: ดำ (-158,780,910) ]
โชคของทุกคนในตระกูลกู่ไม่มีใครต่ำกว่าติดลบหนึ่งร้อยล้านเลย และเมื่อลองมองไปที่ตัวของกู่เทียนเอง อู๋ซวงก็ต้องกลั้นหายใจ โชคของกู่เทียนติดลบถึงหนึ่งพันล้าน
อู๋ซวงส่ายหัวเบา ๆ ไม่รู้จะพูดอะไรดี ก่อนจะหันกลับไปมองกู่เทียนแล้วกำหมัดแน่น "ผมจะมาเยี่ยมเขาอีกทีนะครับ"
หลังจากกล่าวลา อู๋ซวงก็ฝากน้ำส้มปั่นกับเกี๊ยวทอดของโปรดของกู่เทียนไว้กับกวงเยว่ ก่อนจะเดินออกจากห้องไประหว่างเดินไปตามทางเดินของโรงพยาบาล อู๋ซวงถอนหายใจแล้วเอ่ยถามระบบ "ชะตากรรมของตัวร้าย... มันถูกกำหนดมาแล้วงั้นเหรอ?"
ระบบตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
[ใช่แล้วครับโฮสต์ หากว่าตัวร้ายไม่พบเจอสิ่งที่สามารถเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของพวกเขาได้ ชะตากรรมเดียวที่รอพวกเขาอยู่คือความตาย หรืออาจจะดีขึ้นมาหน่อยไม่ก็พิการก็อาจจะาเ็สาหัสจนใช้ชีวิตปกติไม่ได้แทน]
อู๋ซวงกำหมัดแน่นกว่าเดิม ความรู้สึกไม่พอใจเอ่อล้นขึ้นมาภายในหัวใจของเขา
"ไอ้เวรตัวไหนเป็คนกำหนดกฎบ้า ๆ นี่กัน?! ฉันสาบานเลยว่าจะทำลายพวกมันเอง"
สิ้นคำพูดของเขา อู๋ซวงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดโทรออกไปหาใครบางคน
ที่ห้องพักของกู่เทียน กวงเยว่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วติดต่อพยาบาล แจ้งความประสงค์ในการพาลูกชายของเธอกลับไปรักษาตัวที่เมืองบ้านเกิด
หลังจากนั้นไม่นาน กวงเยว่ก็จัดการเื่เอกสารและจ่ายค่ารักษาพยาบาลทุกอย่างให้เรียบร้อย ก่อนที่พวกเขาทั้งหมดจะออกเดินทางจากโรงพยาบาล โดยทางโรงพยาบาลได้ส่งเครื่องบินพิเศษไปส่งพวกเขาถึงเมืองแห่งสายฝนทันที