โจวซั่วดูสะอาดสะอ้าน สง่างามมีมารยาท หากผู้ที่มิรู้จักคงคิดว่าเขาเป็สุภาพบุรุษอ่อนน้อมถ่อมตน สถานการณ์เช่นนี้เขาควรหลีกเลี่ยงมิให้เกิดข้อครหา แต่กลับขอซ่งเฉวียนติดรถไปด้วยอย่างไร้ยางอาย
“อาเฉวียน พวกเ้ากำลังจะไปที่ใดกันหรือ?พวกเราขอติดรถไปด้วยได้หรือไม่”
“อาเฉวียน พวกเราสองพี่น้องจะเข้าไปซื้ออาหารในเมือง ให้พวกเราติดรถไปด้วยเถิด ข้าจะจ่ายค่ารถให้” โจวซู่ซินเองก็มิอยากเดินเช่นกัน นางนั่งรถเมื่อต้องออกไปข้างนอกตลอด เมื่อเทียบกับโจวซั่วแล้ว คำพูดของนางชวนให้คล้อยตามมากกว่า
“ท่านอาซู่ซิน เื่นี้ท่านต้องถามท่านอาห้ากับท่านอาสะใภ้ห้าขอรับ” ซ่งเฉวียนรู้สึกมิดีที่จะปฏิเสธตรงๆ แม้เขาจะมิค่อยชอบโจวซู่ซิน แต่นางก็ยังเป็เพื่อนบ้านในหมู่บ้านสกุลโจว ทุกคนต้องพบปะกันบ่อยๆ เขาจึงมิอยากทำเกินไป
“ซู่ซิน พวกเ้าขึ้นมาเถิด พวกเราคนบ้านเดียวกัน พูดเื่เงินเช่นนี้ ดูหยาบคายเกินไป” จิ่นเซวียนชะโงกหน้ามามองโจวซู่ซินที่อยู่นอกรถ และให้นางขึ้นมาอย่างใจกว้าง หลังจากที่โจวซู่ซินขึ้นมาบนรถแล้ว นางก็เข้าไปนั่งด้านใน ส่วนพี่ชายของนางนั่งอยู่ด้านนอกกับซ่งเฉวียน
วันนี้จิ่นเซวียนใส่ชุดกระโปรงสีชมพู ตรงกับสีชุดของโจวซู่ซิน สีเหมือนกันแต่เมื่อโจวซู่ซินสวมใส่แล้ว นางเทียบกับจิ่นเซวียนมิได้แม้แต่น้อย
“พี่สะใภ้เล็กใจดีจริงๆ พี่จื่อเฉินช่างโชคดียิ่งนักที่ได้แต่งกับภรรยาเช่นนี้” โจวซู่ซินสังเกตจิ่นเซวียนอย่างละเอียด นางพบว่าจิ่นเซวียนใส่ชุดกระโปรงสีนี้แล้วดูดีกว่านาง ในใจจึงรู้สึกมิค่อยมั่นใจเล็กน้อย
โดยเฉพาะใบหน้าอันงดงาม แม้ปราศจากเครื่องสำอางของจิ่นเซวียน คือสิ่งที่นางมิอาจเอื้อมถึง
หากเป็ของอย่างอื่น นางยังพอพยายามหามาได้ แต่ใบหน้าที่พ่อแม่ให้มาเช่นนี้ นางเลือกมิได้
“เ้าควรกล่าวว่าเป็โชคดีของข้าที่ได้แต่งงานกับพี่จื่อเฉิน เขาจะทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ในวันข้างหน้าแน่นอน ถือว่าข้าได้กำไรแล้ว” จิ่นเซวียนขยับเข้าไปหาซ่งจื่อเฉิน นางจับมือเขาและหันไปมองโจวซู่ซินด้วยความอ่อนโยน “ซู่ซิน ดูเหมือนเ้าจะอายุมากกว่าข้า เ้ามิเคยคิดหาคู่ครองหรือ?”
ซย่าจิ่นเซวียนกำลังถากถางว่านางแก่หรือ?
“โชคชะตาฟ้าลิขิต การบังคับให้แต่งงานจะอยู่กันมิยืดเ้าค่ะ” โจวซู่ซินยิ้มบางตอบกลับ คล้ายนางจะบอกว่าการแต่งงานของจิ่นเซวียนคือการบังคับให้พวกเขาแต่งงานกัน
“การแต่งงานของเซวียนเซวียนกับน้องห้าเป็์ที่ลิขิต เซวียนเซวียนคือดาวนำโชคของตระกูลซ่ง ั้แ่นางมาถึงบ้านซ่ง พวกเราก็เปลี่ยนไปมิเหมือนแต่ก่อน เวลานี้น้องห้าของข้ายังกลับมาสุขภาพแข็งแรงด้วย เป็เื่ที่ควรค่าแก่การยินดี”
“พี่สะใภ้รองพูดถูก พี่สะใภ้เล็กเป็ดาวนำโชคจริงๆ เ้าค่ะ” โจวซู่ซินเผยยิ้มอึดอัด สำหรับนางแล้ว จิ่นเซวียนเป็นางมาร หากจิ่นเซวียนมิแต่งงานกับซ่งจื่อเฉิน ความลับของท่านปู่ท่านย่าคงมิถูกเปิดเผยเช่นนี้
“ท่านอาซู่ซิน ข้าได้ยินว่าท่านจะแต่งงานกับคุณชายหวังในเมือง ยินดีกับท่านด้วยเ้าค่ะ!” โจวซู่ซินประหลาดใจยิ่งนัก เมื่อซ่งหยวนหยวนพูดเื่นี้ ท่านแม่ของนางจงใจปล่อยข่าวลือออกมา นางยังมิทันได้ห้าม ทุกคนก็รู้กันหมดแล้ว
หากคุณชายหวังรู้เข้า เขาต้องโกรธนางมากแน่
“คุณชายหวังหรือ เ้าหมายถึงคุณชายหวัง ลูกชายเพียงคนเดียวของหวังฮุย เศรษฐีหวังใช่หรือไม่?” จิ่นเซวียนเคยได้ยินเกี่ยวกับคุณชายหวังผู้นี้มาก่อน เขาเป็คุณชายเ้าสำราญ มีชื่อเสียงโด่งดัง ท่านพ่อของเขา หวังฮุยคือเขยแต่งเข้า แม่ของเขานามว่าเคอลี่ นางต่างหากคือเ้าของตระกูลหวังที่แท้จริง
เพื่อให้เกียรติสามี เคอลี่จึงให้ลูกชายใช้แซ่ของสามี เมื่อเวลาผ่านไปทุกคนจึงเรียกขานหวังฮุยว่าเศรษฐีหวัง
กิจการภายใต้ชื่อสกุลหวังมีร้านขายของชำและร้านตัดเสื้อ ร้านของพวกเขาพอมีชื่อเสียงอยู่บ้างในเมืองจินจู๋ ความจริงแล้วพวกเขามิได้ร่ำรวยมากเช่นนั้น
เทียบกับตระกูลฉิว ตระกูลกัวและตระกูลอู่สายรองแล้ว ตระกูลหวังนับเป็สิ่งใดได้?
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้