“แม้ผู้เฒ่าจะเอะอะโวยวายออกมามากเกินไป! แต่มีประโยคหนึ่งที่ท่านกล่าวถูก! นั่นคือผู้ที่หยิ่งยโสมักไม่เคยมีจุดจบที่ดี!”
ปราณดาราที่ทรงพลังถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างกายของหยวนจุน คลื่นลมแรงพัดผ่านพื้นดินใต้ฝ่าเท้าของเขา ก่อนจะเกิดเป็รอยแยกที่แตกร้าวออกมา
“หยวนจุน ข้าจัดการกับชายชราผู้นี้เอง ส่วนเจียงชางมอบให้เ้าจัดการแล้วกัน!” เสี่ยวเมิ่งกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบเลียนแบบหยวนจุน
คำพูดไม่ค่อยสุภาพที่เพิ่งออกมาจากปาก ทำให้ในใจนางรู้สึกฮึกเหิมขึ้นมาเล็กน้อย หากมิใช่เพราะคนตระกูลเจียงยืนอยู่ตรงหน้า เสี่ยวเมิ่งคงไม่มีทางพูดแบบนั้นออกไปอย่างแน่นอน
“หึ ที่แม่หนูกล้าพูดจาโอหังเช่นนี้ เพราะคิดว่าตนเองมีความเกี่ยวข้องกับโรงประมูลแล้วข้าจะไม่กล้าฆ่าเ้าอย่างนั้นหรือ?”
“คนตายพูดสิ่งใดออกมามิได้! ต่อให้ข้าฆ่าเ้าตายอยู่ที่นี่ ผู้อื่นก็ไม่มีทางรู้! ในเมื่อตายโดยที่ไม่มีหลักฐาน ข้านั้นไม่มีวันยอมรับอย่างแน่นอน!”
หยวนจุนหยิบกระบี่ยาวออกมาจากแหวนมิติ แสงเยือกเย็นอันน่าพิศวงปรากฏอยู่เหนือกระบี่สีขาว เขาะโไปทางเจียงชาง จากนั้นเสียงอันดุดันจึงดังขึ้นทันที
“นึกไม่ถึงว่าเพื่อเ้านายที่ไม่มีปัญญาของเ้าแล้ว เ้าถึงกับยอมนำชีวิตมาทิ้งขว้าง คิดจริงๆ หรือว่าเราทั้งสองไม่มีกำลังพอที่จะฆ่าเ้า? วันนี้ข้าจะทำให้เ้าได้รู้ว่าความสิ้นหวังที่แท้จริงนั้นเป็อย่างไร!”
“ฟิ้ว”
เขากวัดแกว่งกระบี่หยวนจุนเป็รูปพระจันทร์เสี้ยว ทำให้พลังของปราณกระบี่ถูกปลดปล่อยออกมา คมแหลมของปราณกระบี่แตกออกเป็สี่ทาง ซึ่งพยายามขวางพลังของเจียงชางจากทั้งสี่ทิศ
“ฉั่ว ฉั่ว ฉั่ว”
พื้นดินโดยรอบถูกแรงของปราณกระบี่จนกลายเป็เศษกรวดเศษดินกระจัดกระจาย แม้เจียงชางจะบ่มเพาะพลังยุทธ์ถึงระดับวงแหวนเล็กขั้นหก แต่เขากลับถูกพลังของหยวนจุนที่เป็แค่ระดับวงแหวนเล็กขั้นห้าควบคุมจนไม่สามารถโต้ตอบได้
เมื่อหยวนจุนทำให้พื้นดินกลายเป็คลื่นเศษกรวดเศษดิน เจียงชางที่ไม่มีที่ยืนจึงจำต้องถอยหลัง ร่างกายของเขาลอยไปชนกับต้นไม้ใหญ่ ซึ่งทำให้กึ่งกลางลำตัวกระแทกจนเกิดเสียงดังสนั่น
เจียงชางหายใจหอบ เขาเห็นแสงสีดำสนิทรวมกับปราณกระบี่สีขาวหยกอยู่ตรงหน้า แสงเ่าั้ทำให้เขารู้สึกดวงตาพร่ามัว
แม้กระบี่หยวนจุนจะมิใช่อาวุธระดับิญญา แต่ก็มีประโยชน์มากทีเดียว เพราะตัวกระบี่กลั่นจากวัตถุเขี้ยวัที่มีความแข็งแรง จึงไม่ต้องกังวลว่าตัวกระบี่จะไม่สามารถต้านทานปราณดาราที่พุ่งเข้ามาได้
ปราณกระบี่กระจายไปทั่วฟ้าราวกับหิมะ เจียงชางรู้สึกหวาดกลัวจนเหงื่อเย็นเยียบไหลออกมาบนแผ่นหลัง
ปราณกระบี่สีขาวจำนวนมากพุ่งไปยังศีรษะของเจียงชางจากทุกทิศทางจนไม่สามารถหนีได้ การตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ทำให้เขาแทบหายใจไม่ออก
เมื่อเห็นเจียงชางปล่อยฝ่ามือวิชายุทธ์ออกมาอย่างสะเปะสะปะ หยวนจุนจึงควบคุมปราณดาราที่กำลังพุ่งอยู่ให้กลายเป็ลมพายุ ทำให้เจียงชางต้องรับมือจากแรงโจมตีที่กำลังถาโถมเข้ามาไม่หยุด
กระบวนการนี้ใช้เวลาไปเกือบครึ่งก้านธูป ตอนนี้ฝุ่นละอองได้กระจายหายไปแล้ว ส่วนเจียงชางนั้นกระเด็นตกไปอยู่ในหลุมที่ลึกลงไปหลายร้อยจั้ง
ในหลุมดำที่มองไม่เห็นก้นหลุม ได้ยินเสียงครวญครางอย่างเ็ปของเขาสะท้อนดังขึ้นมา
“กระบี่หยวนจุนนั้นยากที่จะออกมาจากฝัก แต่เมื่อได้ออกมาแล้วย่อมต้องประสบกับความตายเท่านั้น ไม่ว่าจะทำอย่างไรเ้าก็ไม่มีทางรอด เวลาที่เหลือคงทำได้เพียงแค่ร้องขอชีวิตเท่านั้น!”
หยวนจุนถือกระบี่ยาวอยู่ในมือ ร่างกายรู้สึกตื่นเต้น แววตาสะท้อนความมั่นใจและไม่ลังเลออกมา
ครั้งนี้เป็การต่อสู้ที่ถึงอกถึงใจที่สุดนับั้แ่หยวนจุนได้กำเนิดใหม่ เขาได้ทำตามใจ และกระบี่ก็ได้ไกวแกว่ง แม้จะดูเหมือนพุ่งออกไปอย่างสะเปะสะปะบ้างแต่ก็ทำได้ดี เพราะปราณกระบี่ที่พุ่งออกมาแต่ละครั้งนั้นล้วนตกใส่ตัวเจียงชางอย่างแม่นยำ
เป็ถึงนักยุทธ์ระดับวงแหวนเล็กขั้นหก แต่ภายในเวลาแค่ไม่กี่อึดใจกลับถูกปราณกระบี่ฟาดลงมาอย่างไม่ยั้ง
ทำให้พลังปราณลดลงจนเหลือไม่ถึงระดับห้า!
ในตอนนี้ แม้หยวนจุนจะไม่ใช้กลยุทธ์ก็สามารถฆ่าเขาได้อย่างง่ายดายแล้ว!
“กระสวยเสวียนหลง!”
กระสวยสีดำห้าอันพุ่งออกมาจากแขนเสื้อของหยวนจุน พวกมันส่งเสียงแหลมออกไปในอากาศก่อนจะพุ่งไปยังหลุมดำที่มองไม่เห็นก้นหลุม ไม่นานกระสวยทั้งห้าก็กลับขึ้นมาพร้อมกับหยดเื
เมื่อััอากาศในหลุมลึกนั้นอีกครั้ง เขาไม่รู้สึกถึงพลังของปราณดาราแม้แต่น้อย เช่นนั้นผู้ที่มีระดับวงแหวนเล็กขั้นหกคงถูกหยวนจุนจัดการไปอย่างง่ายดายเสียแล้ว
ขณะที่เจียงเทียนมิ่งกำลังถูกพลังจิตกดดัน แววตาได้ปรากฏความกระหายเืออกมาทันที เขากัดฟันแน่น แสดงท่าทีเหมือนดั่ง้าจะกินคน
“ไอ้สารเลว เ้ากล้าฆ่าพ่อบ้านของข้า!”
เมื่อหยวนจุนได้ยินน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธ เขาพลิกฝ่ามือเพื่อเก็บกระบี่ยาว ก่อนจะกล่าวออกมาอย่างเ็าว่า “แล้วเหตุใดจะมิกล้า!”
เจียงเทียนมิ่งกระทืบเท้าลงบนพื้นซึ่งทำให้เกิดดินถล่มลงมาทันที จากนั้นก้อนหินขนาดใหญ่ก็ได้ตกลงมา
“ครืน ครืน”
หยวนจุนแสดงเปลวเพลิงปางมือมรณาออกมา พลังปะทะเข้ากับก้อนหินขนาดใหญ่ที่กำลังจะตกใส่เขา จนทำให้ก้อนหินทุกก้อนที่กำลังจะตกลงพื้นกลายเป็ฝุ่นฟุ้งกระจาย
“ข้าจะต้องให้พวกเ้านั้นชดใช้!”
เมื่อเสียงสะท้านฟ้าะเืดินดังขึ้น พลังปราณดาราของเจียงเทียนมิ่งได้กลับมาแข็งแกร่งขึ้นอีกครั้ง หากหยวนจุนใช้พลังยุทธ์ต่อสู้เพียงอย่างเดียว เขาต้องถูกบดขยี้จนตายคาที่อย่างแน่นอน
หยวนจุนอยู่ไกลกับเสี่ยวเมิ่งมาก อีกทั้งยังต้องเจอกับเสียงอันน่ากลัวที่เต็มไปด้วยพลังซัดเข้ามาอย่างไม่ขาดสายอีก แต่ถึงอย่างไร เขาก็ไม่มีการกระอักเืออกมาแม้แต่น้อย
“อุตส่าห์ตั้งรับมาเป็อย่างดี ข้าไม่คิดเลยว่าหยวนจุนจะมีพลังแข็งแกร่งจนสามารถสังหารนักยุทธ์ระดับวงแหวนเล็กขั้นหกได้ แม้แต่สตรีไร้ชื่อเสียงที่อายุเพียงสิบหกสิบเจ็ด ก็ยังมีพลังจิตที่ทรงพลังเป็อย่างมาก!”
“บอกว่านางเป็เพียงนักสร้างธรรมดา ที่แท้ข้าก็ถูกหลอกเสียแล้ว! เพราะดูจากระดับของนาง น่าจะเป็นักสร้างระดับปรมาจารย์ตัวจริง!”
ตัวตนของเสี่ยวเมิ่งในฐานะนักสร้างระดับปรมาจารย์ เหมือนกับเหล็กในที่ทิ่มแทงเข้าไปในใจของเจียงเทียนมิ่ง
เขาคงจะเดาได้ตั้งนานแล้ว หากหญิงตรงหน้าเป็เพียงนักสร้างธรรมดา โรงประมูลคงไม่ปฏิบัติต่อนางราวกับเป็ผู้วิเศษ
และนักสร้างระดับปรมาจารย์ที่สามารถกลั่นอาวุธระดับิญญาขั้นสองได้ เพียงแค่เอ่ยปากออกมาก็สามารถทำให้ตระกูลเจียงมลายหายสิ้นไปได้
เมื่อคิดถึงตอนนี้แววตาของเจียงเทียนมิ่งได้แปรเปลี่ยนเป็ดุร้ายขึ้นมาทันที หากวันนี้เขาไม่สามารถฆ่าหยวนจุนกับเสี่ยวเมิ่งได้แล้วเื่ถูกเปิดเผยออกไป ทั้งตระกูลเจียงต้องหายสาบสูญไปจากเมืองเทียนอวิ่นอย่างแน่นอน
“ข้าจะสู้จนถึงที่สุด และจะฉีกพวกเ้าสองคนออกเป็ชิ้นๆ ให้ได้!”
“เสี่ยวเมิ่ง เตรียมใช้หงส์คู่องอาจ!”
หยวนจุนกางมือออกก่อนจะเค้นพลังจิตจากจุดตันเถียนบนออกมา ไม่นานเงาของหงส์ตัวผู้ที่ซ่อนอยู่ใต้ิัก็ส่งเสียงอันน่ากลัวออกมาราวกับ้าจะคืนชีพ
“นึกไม่ถึงว่าเ้ายังเป็ผู้ที่มีพลังจิตยุทธ์คู่ที่หายากอีกด้วย! แต่ไม่ทันแล้วล่ะ ไม่ว่าพวกเ้าคิดจะทำสิ่งใดตอนนี้ก็สายไปเสียแล้ว!”
แม้เจียงเทียนมิ่งจะตื่นตระหนกเพราะเสียงร้องที่ดังมาจากร่างกายของหยวนจุน แต่ถ้าจะให้เขาหยุดตอนนี้ก็สายไปแล้วเช่นกัน ไม่ว่าหยวนจุนจะใช้วิธีใด เขาต้องจัดการกับสองคนนั้นให้ได้!
เมื่อเชื่อมประสานกับเงาหงส์ตัวผู้แล้ว เงาหงส์ตัวเมียที่ซ่อนอยู่บริเวณเอวด้านหลังของเสี่ยวเมิ่งก็ตื่นขึ้นทันที ก่อนจะรวมพลังกับหยวนจุนเพื่อเค้นพลังจิตทั้งหมดออกมา
เพียงพริบตา ท้องฟ้ากลับเปลี่ยนเป็มืดสลัว บริเวณที่ห่างจากทั้งสองไปหลายพันเมตรเกิดการรวมตัวของพายุขนาดใหญ่หลายลูกทันที ฟ้าดินเปลี่ยนสี ลมเมฆกำลังก่อตัว ก่อนที่สายฟ้าสีทองจะส่องแสงวาบลงมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้