ฮ่องเต้หนานรั่วหานยามนี้เป็นายโลมชั้นหนึ่งของหอคณิกาผู้ที่ถูกเข้าใจผิดเป็ฉินม่อซีถูกนำพามายังห้องส่วนตัวชั้นสอง แสงไฟจากตะเกียงถูกจุดไว้ตามมุมต่าง ๆ ร่างขาวนวลตัดสีแดงของชุดนั่งจิบสุราใบหน้าแดงระเรื่อหากแต่พอคลองสติได้ดี หลิวเซียงเอ๋อร์ยกยิ้มให้เขาเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยเรียกพร้อมกวักมือเล็ก ๆ นั่น
“มา มา มา คุณชายฉินท่านอย่าได้กังวลข้าเพียงแค่ชื่นชอบเสียงพิณที่ท่านดีดมิได้หวังสิ่งใดเลย” หลิวเซียงเอ๋อร์รีบเอ่ยเจตนาตนอย่างชัดเจนเธอมาที่นี่เพราะ้าตีสนิทผูกมิตรกับเขาเพื่อวันหน้าจะพอหาข้อมูลได้บ้าง หากแต่บุรุษตรงหน้าเงียบไม่มีเสียงเอื้อนเอยใด ๆ ออกมา ใบหน้าถูกปกปิดด้วยผ้าบางจับจ้องแววตาได้เพียงราง ๆ หลินเสียงนั่งลงข้างกายบ่าวก่อนจะนำพัดขึ้นมาพัดวีให้เธอ
“คุณชาย ท่านกังวลข้าหรอหรือ”
“........” หลินเสียงชะโงกใบหน้ามองบุรุษนั่นด้วยความไคล้รู้ก่อนจะทรุดตัวลงที่พื้นพร้อมก้มหน้ามองพื้น
“เป็อะไรหลินเสียง” หลิวเซียงเอ๋อร์หันมองหลินเสียงอย่างแปลกใจในท่าทาง
“คุณชายฉิน ข้าขออภัย” พูดจบร่างบางลุกเอื่อมมือจับผ้าปิดบังใบหน้าออก ก่อนที่ดวงตายาวเรียวจะเบิกกว้าง
“ฝะ…ฝ่าา? ” หลิวเซียงเอ๋อร์รู้ว่าฮ่องเต้หนานรั่วหานชอบมาที่นี่เหมือนกันแต่เธอไม่คิดว่าจะต้องมาพบกับเขา เพราะที่รู้คือถ้าวันไหนฉินม่อซีมีแสดงเขามักจะไม่มาดู เพียงแต่จะมาพบเพื่อหารือยามที่ฉินม่อซีไม่มีการแสดง หากแต่ในยามนี้เหตุใดเธอจึงมาได้จังหวะพบกับเขาเป็ได้ หลิวเซียงเอ๋อร์ก้มหน้าราวคนผิด มือไม้เริ่มอยู่ไม่สุขจนต้องบีบมือตนเองเบา ๆ
“มีอะไรรึ..เห็นเจิ้นแล้วไม่พอใจหรือ” หนานรั่วหานมองดูใบหน้าที่ก้มต่ำอย่างรู้สึกหงุดหงิด
“ปะ..เปล่าเพค่ะ แค่ใที่พบพระองค์”
“เจิ้นก็แปลกใจเช่นกันเหตุใดพระสนมถึงได้มาอยู่ที่นี่ มิได้รู้กฎวังหลวงเลยหรือไร”
“หม่อมชั้นรู้ดีเพค่ะ…เพียงแต่..” หลิวเซียงเอ๋อร์ไม่รู้จะหาทางหลบหลีกอย่างไรเพราะยามนี้มันจวนตัวเธอรู้ดีว่านอกจากเป็สนมที่ไม่ได้อยู่ในสายตาของฮ่องเต้แล้ว สตรีนางนี้ยังชอบหาเื่สนมรักของเขาอีก เธอจึงรู้สึกหวั่น ๆ
“เพียงแต่อะไรหรือ” หนานรั่วหานลุกเดินอ้อมมาด้านหลังนาง ก่อนจะส่งสายตามองไปที่หลินเสียงที่เที่ยวก้มหน้าเที่ยวเหลียวมองจนต้องรีบลุกออกจากห้องหอนี้ไป หลิวเซียงเอ๋อร์ใที่จู่ ๆ หลินเสียงลุกออกไปราวกับวิ่งหนี เธอคิดว่าฮ่องเต้คงยกดาบขึ้นแล้วแน่แท้ร่างบางจึงลุกขึ้นยืนก่อนจะเหยียบชายกระโปรงทำให้เซล้ม หากแต่วงแขนกำยำคว้ารั้งร่างเธอไว้ได้ หลิวเซียงเอ๋อร์รู้สึกตัวอีกทีเธอก็ล้มทับร่างเขาริมฝีปากบางประกบลงริมฝีปากหนาอย่างตรงจังหวะ เธอใจนรีบยันตัวลุกแต่แขนนั้นกลับยังรั้งไว้ที่เอวเธอ
“ทำไมกลัวเจิ้นรังแกเ้าหรือ”
“มิใช่เพคะ พระองค์ทรงคิดมากไปแล้วหม่อมชั้นแค่กลัวว่าพระองค์จะหนักที่หม่อมฉันทับพระองค์อยู่เช่นนี้”
“ตัวเ้าอีกซักคนเจิ้นก็มิเป็ไร” หนานรั่วหานมองแก้มที่แดงระเรื่อนั่นจนอดที่ยากจะแกล้งมิได้
“ฝ่าาทรงทำอะไรเพค่ะ” หลิวเซียงเอ๋อร์สะดุ้งที่อยู่ ๆ มือหนานั่นกดลำคอระหงส์พร้อมแนบจมูกโด่งลงลมหายใจที่รินรดทำให้รู้สึกขนลุก
“พระสนม เ้าเป็สนมเจิ้นเหตุใดเจิ้นจะทำเ้ามิได้” หลิวเซียงเอ๋อร์เบิกตากว้างเมื่อถูกกระชากลงที่แผลงอกนั่นอีกครั้งริมฝีปากอวบอิ่มถูกบดขยี้อย่างอุกอาจเอาแต่ใจ เธอพยายามยันกายออกแต่ดูเหมือนจะไร้ผล ซ้ำตัวเขากลับไม่ขยับกายเลยซักเล็กน้อย เธอพยายามที่จะเบือนหน้าหนีแต่ถูกมือหนาตรึงท้ายทอยจนไม่อาจขยับได้ ลิ้นสากหนาสอดเข้ามาหยอกเย้าลิ้นเล็ก ๆ ของเธอจนเธอเองเริ่มตอบสนองเขาอย่างไร้สติ ยิ่งทำให้เขารู้สึกพึงพอใจ และได้ใจ ฝ่ามือหนาขยับอีกข้างยกขึ้นค่อย ๆ ลูบไล้หน้าอกอิ่มของเธอก่อนจะบีบเข้นเบา ๆ จนร่างเล็กสะดุดดึงสติที่หลุดลอยกลับมา เธอรวบรวมกำลังที่มียันร่างแกร่งอย่างสุดกำลัง จนหลุดพ้นพันธการได้
“ฝ่าา!!” หลิวเซียงเอ๋อร์หน้าแดงเธอไม่คิดว่าหนานรั่วหานจะทำกับเธอเช่นนี้ หนานรั่วหานเองก็ไม่คิดว่าจะถูกอารมณ์ดึงไปชั่วจนได้กระทำเื่เช่นนี้กับนาง และรู้สึกผิดต่อสนมจูเสียนเฟย สนมเดียวที่เขาไว้ใจและพอใจนางอยู่ไม่น้อย
“ถึงอย่างไรเ้าก็เป็คนของเจิ้น หากเ้ายังมาอยู่ในที่แบบนี้อีกเจิ้นจะลงโทษเ้ายิ่งกว่านี้” พูดจบร่างสูงก็ลุกเปิดประตูห้องหอคณิกา ทำให้สองคนที่ยืนอิงแนบหูฟังต้องรีบถอยล้นออก
“เตรียมรถม้าส่งพระสนมกลับตำหนัก” เสียงเข้มสูงอย่างไม่พอใจจนร่างเล็กถึงกับเดินก้มหน้าออกมาอย่างรู้ตัว หลิวเซียงเอ๋อร์หันมองหน้าองครักษ์ไป่ก่อนจะเดินตามเขาไปอย่างท่าทางสงบ อาการมึนงงจากสุราท้อยามนี้กลับหายเป็ปลิดทิ้ง แม้จะนึกเสียดายที่ไม่ได้เจอตัวฉินม่อซี
……………………
หลังจากที่ผ่านเื่ราวในหอคณิกานั้นมาเกือบอาทิตย์ ชีวิตเธอก็ใช้ตามปกติสุขดังเช่นทุกวัน ไม่มีเสียงนินทาใด ๆ หลุดลอยมา หลิวเซียงเอ๋อร์นั่งมองปลาสีสวยในสระเล็ก ๆ หน้าตำหนักอย่างเบื่อหน่าย เธอรู้ดีว่าการที่เธอออกไปนอกตำหนักมีความผิดใหญ่หลวงหากแต่หนานรั่วหานกลับปิดเื่นี้เงียบจนเธอเองก็รู้สึกซึ่งน้ำใจของเขาเช่นกัน แต่มีเพียงความรู้สึกของััที่ริมฝีปากเธอประกบลงที่ฝีปากของเขากลับให้เธอรู้สึกมักคุ้นอยู่ในใจอย่างนึกไม่ออก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้