ชายหนุ่มผู้ถูกเรียกว่าหัวหน้ากวาดตามองไปยังสถานที่เกิดเหตุ ก่อนจะพบกับศพไร้หัวเข้า จากนั้นเขาจึงกล่าวขึ้นอย่างเย้ยหยันว่า “ศพนั่นดูคล้ายกับพี่ใหญ่เจิ้งยิ่งนัก”
ทหารรับจ้างผู้หนึ่งเร่งรุดเข้าไปพลิกร่างของศพขึ้นมาเพื่อตรวจสอบ ไม่นานเขาก็ค้นพบรอยแผลเป็บริเวณแขน ชายผู้นั้นจึงพยักหน้าและกล่าวรายงานว่า “หัวหน้า เป็พี่ใหญ่เจิ้งจริงๆ ขอรับ”
“พี่ใหญ่เจิ้งเป็ถึงยอดฝีมือระดับจื่อฝู่ขั้นเก้า เขาจะถูกเด็กหนุ่มสามคนนี้สังหารได้อย่างไร”
สีหน้าของทุกคนต่างก็มีร่องรอยของความใ จากนั้นก็มีคนผู้หนึ่งกล่าวขึ้นอย่างประหลาดใจ
“ไม่ใช่หรอก พี่ใหญ่เจิ้งถูกงูเหลือมไฟกินเข้าไปต่างหาก สามารถตรวจสอบได้จากรอยน้ำเมือกบนร่างกายของเขา ชีวิตคนเราช่างสั้นนัก เมื่อวานข้ายังขอให้เขามาเข้าร่วมกลุ่มทหารรับจ้างเพลิงโชนของเราอยู่เลย ตอนนั้นเขาไม่เต็มใจ มาตอนนี้เขากลับต้องกลายเป็ศพหัวขาดไปเสียแล้ว โชคชะตาช่างเล่นตลกนัก”
ชายหนุ่มผู้นั้นยิ้มเยาะ
“พี่เฟิง ตอนนี้ทำอย่างไรกันดี ต้องสังหารพวกเขาเพื่อฝ่าออกไปหรือไม่?”
เมื่อเด็กหนุ่มทั้งสามถูกห้อมล้อม มู่ขวงก็กระซิบถามเสียงต่ำพร้อมกับกระชับดาบในมือเอาไว้แน่น
“อย่าเพิ่งใจร้อน รอดูสถานการณ์ไปก่อน”
มู่เฟิงส่ายหน้าขณะกล่าวอย่างใจเย็น ภายในหัวของเขากำลังคิดหาวิธีในการหลบหนี
“หึๆ สหายน้อยทั้งสาม ข้าคือกู้เทียนชื่อ เป็หัวหน้ากลุ่มย่อยของกลุ่มทหารรับจ้างเพลิงโชน งูเหลือมไฟตัวนั้นคงถูกสหายน้อยทั้งสามสังหารสินะ ช่างเป็เื่ที่ดียิ่งนัก!”
ชายหนุ่มที่เรียกตัวเองว่ากู้เทียนชื่อแสยะยิ้มออกมา
หากเป็คนในพื้นที่ย่อมต้องรู้จักเขาอย่างแน่นอน กลุ่มทหารรับจ้างเพลิงโชนนี้เป็กลุ่มทหารรับจ้างที่ขึ้นชื่อของหุบเขาอัคคี หัวหน้ากลุ่มของพวกเขาคือผู้แข็งแกร่งระดับหนิงกัง ภายในกลุ่มมีสมาชิกอยู่นับร้อยคน
กู้เทียนชื่อผู้นี้เป็หัวหน้ากลุ่มย่อยของกลุ่มทหารรับจ้างเพลิงโชน วรยุทธ์ของเขาอยู่ในระดับจื่อฝู่ขั้นหก
“แท้จริงแล้วก็เป็พี่กู้นี่เอง ไม่ทราบว่าพี่กู้มาขวางหน้าพวกเราสามพี่น้องด้วยเหตุอันใดงั้นหรือ?”
มู่เฟิงกำหมัดทำความเคารพอีกฝ่ายอย่างมีมารยาท ก่อนจะกล่าวถามอย่างตรงไปตรงมา
“เช่นนี้นะ ข้าเห็นว่าพวกเ้าสามพี่น้องมีฝีมือไม่ธรรมดา ไม่สู้มาเข้าร่วมกลุ่มทหารรับจ้างเพลิงโชนของเราดีหรือไม่? จากความแข็งแกร่งของพวกเ้าแล้ว ข้าสามารถให้เ้าอยู่แถวหน้าของกลุ่มได้ และในอนาคตพวกเราก็จะรวยไปด้วยกัน”
กู้เทียนชื่อกล่าวด้วยรอยยิ้ม ท่าทีของเขาดูเหมือนเป็มิตรเข้าถึงได้ แต่หากมองลึกเข้าไปในดวงตาของเขาแล้วจะพบว่ามีประกายแสงอันเย็นะเือยู่ภายใน
“เื่นี้คงไม่จำเป็ เราสามพี่น้องล้วนสังกัดอยู่ในตระกูล เคยชินกับชีวิตอิสระ ไม่้าเข้าร่วมกับกองกำลังใด ขอบคุณสำหรับความเมตตานี้ของพี่ชายกู้”
แน่นอนว่ามู่เฟิงย่อมปฏิเสธ
“ไอ้หนุ่ม เ้านี่ช่างไร้ยางอายนัก หัวหน้าของเราเชิญเ้าเข้ากลุ่มก็ถือว่ารักษาหน้าให้เ้ามากแล้ว”
ทหารรับจ้างผู้หนึ่งกล่าวขึ้นอย่างเ็า ส่วนทหารรับจ้างคนอื่นต่างก็มองมาทางพวกเขาด้วยเจตนามุ่งร้าย
รอยยิ้มของกู้เทียนชื่อเลือนหายไป เขากล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ในเมื่อสหายน้อยทั้งสามไม่้าเข้าร่วม เช่นนั้นข้าก็จะไม่บังคับ”
จากนั้นเขาก็กล่าวต่อด้วยน้ำเสียงเ็าว่า “แต่สหายน้อยทั้งสามได้เก็บผลิญญาสีแดงของเราไป ฉะนั้นจงส่งคืนมาเสีย”
“น่าขัน ผลิญญาสีแดงเหล่านี้เติบโตขึ้นด้วยตัวเอง เหตุใดเ้าถึงกล้าบอกว่ามันเป็ของเ้ากัน”
ไป๋จื่อเยว่ยิ้มเยาะ ในขณะที่ใบหน้าของมู่เฟิงยังคงราบเรียบไม่เปลี่ยนแปลง
“เป็พวกเราที่ค้นพบผลิญญาสีแดงนี้ก่อน เรากำลังรอให้มันสุกงอมดีก่อนจึงจะเก็บ ในเมื่อพวกเ้าเก็บผลิญญาสีแดงของเราไป ดังนั้นพวกเ้าก็ต้องคืนมันกลับมา ไม่อย่างนั้นในวันนี้สหายน้อยทั้งสามจะไม่สามารถออกไปจากที่นี่ได้”
คำกล่าวของกู้เทียนชื่อนั้นแฝงไว้ด้วยจิตสังหาร ขณะเดียวกัน บรรดาทหารรับจ้างคนอื่นต่างก็ดึงดาบและกระบี่ของตัวเองออกมา
“มารดามันเถอะ...”
มู่ขวงขุ่นเคืองกับการกระทำของอีกฝ่ายเป็อย่างมาก เขาะเิอารมณ์ออกมาทันที แต่มู่เฟิงคว้าไหล่ของเขาเอาไว้เพื่อปรามไม่ให้เด็กหนุ่มกระทำการบุ่มบ่าม
มู่เฟิงมองไปยังกู้เทียนชื่อและกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้ม “ในเมื่อมันเป็ของพี่กู้ เช่นนั้นพวกเราก็จะคืนให้”
ขณะกล่าวถ้อยคำเหล่านี้ มือของมู่เฟิงก็พลันส่องแสงสว่างสีขาวออกมา ไม่นานกล่องไม้ก็ปรากฏขึ้นในมือของเด็กหนุ่ม
“แหวนเฉียนคุน”
ดวงตาของกู้เทียนชื่อเป็ประกายขึ้นมาทันที เผยให้เห็นถึงร่องรอยของความโลภที่แล่นผ่านดวงตา
แหวนเฉียนคุนนั้นเป็เครื่องมือปราณขั้นสามที่แสนล้ำค่า แม้แต่บิดาของเขาก็ยังไม่มีใน
มู่เฟิงถือกล่องไม้และพูดว่า “นี่คือผลิญญาสีแดง ข้ามอบให้พี่ใหญ่กู้”
หลังจากมู่เฟิงกล่าวจบ เขาก็โยนกล่องไม้นี้ให้อีกฝ่าย กู้เทียนชื่อรับมันเอาไว้อย่างรวดเร็ว
“ไปกัน!”
มู่เฟิงกล่าวเสียงเย็น เขาดึงตัวไป๋จื่อเยว่และมู่ขวงให้รีบเดินฝ่าวงล้อมของอีกฝ่ายออกไปในทันที
เมื่อกู้เทียนชื่อเปิดกล่องไม้ก็พบว่าด้านในเป็เพียงหญ้าเพลิงอัคนี เขานึกโมโหขึ้นมาจึงร้องคำรามสั่งการในทันที “กล้าเล่นตลกกับข้ารึ ไล่ตามไป!”
จากนั้นเหล่าทหารรับจ้างพลันตอบสนองในทันที พวกเขาถือดาบและกระบี่ในมือไล่ตามพวกมู่เฟิงไปอย่างรวดเร็ว
“เ้าหนุ่ม อย่าหนีนะ!”
กลุ่มคนมากกว่าสิบคนกำลังไล่ตามมาอย่าว่องไว ในขณะที่พวกมู่เฟิงต่างก็วิ่งสับขาไปข้างหน้าอย่างสุดกำลัง
“พี่เฟิง เราจะหนีไปที่ใดกันดี?”
ไป๋จื่อเยว่เอ่ยถาม
“ยังไม่ต้องสนใจ วิ่งขึ้นไปบนูเาจากนั้นค่อยกำจัดพวกเขา”
มู่เฟิงะโไปไกลเจ็ดถึงแปดเมตรในก้าวเดียว ร่างของคนทั้งสามวิ่งเร็วราวกับควบม้า แม้ต้องเจอโขดหิน แต่พวกเขาก็ยังสามารถะโได้อย่างว่องไว
กู้เทียนชื่อนำกลุ่มคนไล่ตามมาอย่างรวดเร็ว
แผ่นยันต์สีแดงจำนวนหนึ่งปรากฏขึ้นในมือของมู่เฟิง เขาหันกลับไปก่อนจะขว้างแผ่นยันต์ออกมาทันที จากนั้นเด็กหนุ่มก็หลบหนีต่ออย่างรวดเร็ว
แผ่นยันต์มากกว่าสิบแผ่นถูกขว้างใส่ผู้คนที่กำลังไล่ตามพวกเขามา
ทหารรับจ้างผู้หนึ่งที่กำลังมุ่งไปข้างหน้าถูกแผ่นยันต์สามแผ่นแปะติดกาย
ตูม...!
ปรากฏเสียงะเิพลังดังตูม แผ่นยันต์เมื่อครู่เป็แผ่นยันต์สำหรับใช้ะเิพลัง เปลวไฟลูกใหญ่ปะทุขึ้นและกวาดไปทั่วบริเวณ ทหารรับจ้างผู้นั้นกรีดร้องโหยหวนอย่างเ็ป แรงะเิทำให้ร่างของเขาถูกไฟครอกจนไหม้เกรียม
นี่คือแผ่นยันต์ที่ถูกสลักลายเส้นไฟอัคคี ซึ่งมันทรงพลังที่สุดในบรรดาลายเส้นเครื่องรางขั้นหนึ่ง
ตูม...!
ยันต์อื่นๆ ก็ะเิเช่นกัน และคลื่นไฟก็สะพัดไปทั่ว ทำให้คนอื่นๆ ใกลัว
ใน่เวลานั้นเอง พวกมู่เฟิงก็สามารถทิ้งระยะห่างไปได้อีกหนึ่งร้อยเมตร!
“ให้ตายเถอะ นึกไม่ถึงว่าจะมียันต์โจมตี รีบไล่ตามไป! ต้องสังหารเ้าเด็กสามคนนั้นแล้วคว้าผลิญญาสีแดงมาให้ได้!”
ผมยาวสลวยของกู้เทียนชื่อถูกพลังะเิเมื่อครู่เผาไหม้จนส่วนปลายของมันหงิกงอ ทำให้เขาคำรามสั่งการด้วยความโกรธ
“หัวหน้า พวกเขากำลังหลบหนีเข้าไปยังส่วนลึกของหุบเขาอัคคี ที่นั่นอาจจะมีอสูรร้ายระดับหนิงกังปรากฏตัวออกมา ท่านยัง้าให้ไล่ตามพวกเขาไปหรือไม่ขอรับ?”
ทหารรับจ้างผู้หนึ่งเอ่ยถามด้วยความกังวล
“ไล่ตามไป วันนี้ข้าต้องสังหารเ้าเด็กสามคนนั้นให้ได้”
กู้เทียนชื่อกัดฟันกรอด ในเมื่อเขาถูกอีกฝ่ายหยอกล้อเช่นนี้ เขาจะสามารถอดทนต่อความโกรธได้อย่างไร
จากนั้นกลุ่มทหารรับจ้างก็ไล่ตามไปอย่างรวดเร็ว
เด็กหนุ่มทั้งสามหลบหนีมาไกลกว่ายี่สิบลี้ แต่คนกลุ่มนั้นก็ยังคงไล่ตามพวกเขามาไม่ห่าง
เบื้องหน้าของพวกเขาคือพื้นที่ของป่าสนสีเหลือง ซึ่งต้นสนสีเหลืองเหล่านี้เป็ต้นไม้ที่ทนต่ออุณหภูมิสูงได้ดีเป็อย่างมาก
“โฮก!”
ภายในป่าสนสีเหลืองแห่งนี้มีเสียงคำรามของอสูรร้ายดังขึ้นเป็ครั้งคราว เห็นได้ชัดว่ามันไม่ใช่สถานที่ที่ดีนัก
เด็กหนุ่มทั้งสามหยุดยืนอยู่เบื้องหน้าของป่าสนสีเหลืองครู่หนึ่ง
“เข้าป่า!”
มู่เฟิงหันไปมองยังเงาร่างที่กำลังไล่ตามพวกเขามา จากนั้นพวกเขาก็มุ่งหน้าเข้าไปในป่าทันที เพียงไม่นานร่างพวกเขาก็อันตรธารหายเข้าไปในป่าอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้นไม่นาน กลุ่มทหารรับจ้างที่ไล่ตามพวกเขามาก็หยุดชะงักลง
สีหน้าของพวกเขาดูลังเลเล็กน้อย
“หัวหน้า”
ทุกคนต่างหันมองไปยังกู้เทียนชื่อ ใบหน้าของกู้เทียนชื่อพลันเปลี่ยนเป็น่าเกลียด สายตาของเขาค่อนข้างลังเลเล็กน้อย แต่ไม่นานมูลค่าของผลิญญาสีแดงก็ทำลายความลังเลใจของเขา “ป่าสนแห่งนี้ไม่ได้ใหญ่นัก ทุกคนแยกย้ายกันค้นหา ระวังตัวให้ดี อย่าได้เข้าไปยั่วยุพวกอสูรร้ายเป็อันขาด”
ทุกคนมุ่งหน้าเข้าไปในป่าสน โดยแบ่งกลุ่มออกเป็กลุ่มละสองคน จากนั้นก็กระจายตัวกันออกค้นหาในป่าสนสีเหลืองแห่งนี้ทันที
ภายในป่าสนสีเหลืองมีต้นสนสูงใหญ่ปกคลุมอยู่ทั่วบริเวณ ซึ่งความสูงของมันบดบังแสงแดดที่ส่องลงมา
“มารดามันเถอะ เ้าเด็กบัดซบนั่นช่างสมควรตาย วิ่งหนีก็ว่าแย่แล้ว แต่เหตุใดต้องหนีมาที่นี่ด้วย!”
ทหารรับจ้างผู้หนึ่งสบถด่าออกมาขณะกำดาบในมือเอาไว้แน่น
“เงียบเสียงหน่อย แถวนี้เป็พื้นที่ของพยัคฆ์เกล็ดเพลิงนะ”
เพื่อนอีกคนของเขากระซิบบอกเสียงต่ำ
พรึ่บ!
ทันใดนั้นเอง ได้ปรากฏประกายแสงอันเย็นะเืฟาดฟันลงมาจากท้องฟ้า พร้อมกับเงาร่างหนึ่งที่กระโจนตัวลงมาจากต้นไม้ เป็มู่ขวงที่ใช้ดาบฟันไปยังศีรษะของทหารรับจ้างผู้นั้น
ฉึก!
ดังนั้นจึงไม่จำเป็ต้องกล่าวถึงผลลัพธ์ เพราะดาบเมื่อครู่ได้สังหารทหารรับจ้างผู้นั้นไปโดยตรงแล้ว
ทหารรับจ้างที่เหลืออีกหนึ่งคนใกลัวสุดขีด แต่ก่อนที่เขาจะทันได้เปล่งเสียงร้องออกมา สำแสงสีทองจากดรรชนีนิ้วก็พุ่งทะลวงผ่านศีรษะของเขาไปเสียแล้ว ทำให้ศีรษะของเขาะเิและแตกออกเป็เสี่ยงๆ
มู่เฟิงและไป๋จื่อเยว่ะโลงมาจากต้นไม้ จากนั้นมู่เฟิงก็นำหยกเทพชูร่าออกมาดูดซับพลังเืจากศพทั้งสองอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของเขาแสยะยิ้มออกมา “ความสนุกมันเพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น”