เหม่ยฉีถูกทรมานอยู่่หนึ่ง โดยหาได้รู้ไม่ว่าบทรักหวามไหวนี้จะสิ้นสุดลงเมื่อไร
เรือนร่างของนางเปลือยเปล่าด้วยมือนางที่ถอดเสื้อผ้าออกโยนไปคนละทิศละทาง แถมนางเป็ฝ่ายเปลื้องผ้าสีเงินสะอาดของแม่ทัพเจี้ยนหยู่อย่างรีบร้อน
เหมือนนางถูกครอบงำด้วยอะไรบางสิ่งที่มองไม่เห็น นางขยับปลายนิ้วลูบไล้ไปทั่วเรือนแผงอกกว้าง ััแผลนูนบนหัวไหล่ ลักษณะคล้ายถูกฟันด้วยของมีคมเป็ทางยาว คาดว่าคงเป็าแจากครั้งที่เขาพลาดท่าแก่แม่ทัพท่านหนึ่งเพราะอาการติดฝิ่นกำเริบหนัก จนต้องถอยทัพหลังชนฝาในเมืองกู่หยาง...
ผิวละเอียดเนียนที่ปรากฏเกล็ดสะอาด แม้เต็มไปด้วยาแเยี่ยงบุรุษนักรบ ไม่ว่ามองสักกี่ครั้งก็น่าหลงใหลยิ่งนัก ใบหน้าระเรื่อยิ้มดีใจที่เขาไม่ผลักไสนาง หากต้อนรับนางสู้อ้อมแขนอย่างยินดี นางโอบกอดรอบลำคอแกร่ง เมื่อเขาพรมจูบไปทั่วใบหน้าลำคอ แนบชิดเรือนกายรุ่มร้อนเข้าหานาง บนฟูกนอนซึ่งคุ้นเคยสนิทสนม เขาและนางทำเื่ซุกซนประสาหนุ่มสาวนับหลายสิบครั้ง
‘เื่บุรุษรอบกายเ้า ไม่ควรมีมาเข้าหูให้ผิดใจกัน หากเ้าปฏิเสธได้ก็จงทำมันซะ’
ครู่นั้นั์ตาสีชาดฉาบประกายโทสะแทบหยุดลมหายใจนาง พริ้มปิดตาลงเมื่อบุรุษร่างกำยำก้มลงจูบริมฝีปากนางอย่างนิ่มนวล เขาฝังจุมพิตลงบนผิวกายเกลี้ยงเกลาผ่องขาวดั่งหยก ลิ้มชิมรสชาติิญญาหอมหวานด้วยอารมณ์หวงแหน มือหยาบกร้านลูบสะดือสวย ลอดผ่านเอวคอดบางเพื่อโอบกอดนางแแ่
“อื้อ... แม่ทัพเจี้ยน... ข้ารับปากท่าน ตอนนี้ข้าทรมานเหลือเกิน”
“ข้าจะทรมานเ้า เพื่อดับกระหาย เหม่ยฉี”
เหม่ยฉีล่วงรู้ว่าแม่ทัพปีศาจผู้นี้สามารถทำเื่เหนือจินตนาการด้วยวิธีใด เช่นคราวก่อนนางมองเห็นลิ้นงู เขาเปิดเผยปลายลิ้นที่สอดลึกเข้าไปถึงจุดกระสันภายในกายสาว กระหวัดเลียยอดเกสรงาม สอดปลายนิ้วเข้าไปในรูคับแคบ เขาทำเื่เดิมซ้ำ ๆ จนนางกรีดร้องตัวโยน
มือหยาบกร้านที่เคยจับแต่อาวุธมุ่งหน้าทำศึก บัดนี้บีบเคล้นเต้าอวบอัดจนเกิดรอยแดง ริมฝีปากหนาเข้าปลายยอดปทุมถันที่แข็งตึง ก่อนจะรุกเร้ายอดเกสรงามชุ่มฉ่ำหวานเบื้องล่างอย่างตะกละตะกลาม
หัวสมองของนางขาวโพลน นางขยุ้มกลุ่มผมสีเงินจนยุ่งเหยิง กระทั่งรับรู้ถึงปลายลิ้นอุ่นร้อนที่ดุนดันเข้าไปในช่องทางเปียกชุ่ม ปลายนิ้วชี้พลันสะกิดตุ่มไตอย่างเร็วแรง ง่ามขาของนางเปียกปอนไปหมด
โฉมสะคราญส่ายเอวเร่าราวโสเภณีโดยไร้สำนึกรู้ นางดิ้นพล่านเหมือนปลาขาดน้ำ ยามบุรุษอสรพิษบำรุงบำเรอใจนาง ทรมานนางด้วยปลายลิ้น นางกรีดร้องสุดเสียงทั้งดวงหน้าแดงก่ำ ปลายเท้าจิกเกร็ง เขาก็ยังไม่หยุดรังแกนาง!
“สองรอบแล้วพอหรือไม่?”
ทรวงอกงามกระเพื่อมตามลมหายใจหอบสั่น นางสั่นหน้าแรง ๆ “ข้าร้อนเหลือเกิน ใต้เท้า... ได้โปรด... ข้า้าท่าน ข้ารักท่าน”
ดวงตาไร้เดียงสาของนางขวยเขินเอียงอาย ทว่าปรารถนาในตัวเขานัก เขาจึงหยุดลงโทษนางแล้วขยับตัวขึ้นมาจูบแก้มแดงซ่านแ่เบา
“ได้... วันนี้ข้าจะไม่ให้เ้ากลับเรือน ในเมื่อเ้าพูดว่ารักข้า พิสูจน์ให้ข้าเห็น” จากนั้นเขาก็ต่อว่านางน่ะช่างยั่วยวน ใช้มารยาหญิงล่อลวงอสรพิษ ส่วนเขาก็โอนอ่อนต่อนางเพื่อล้วงความลับ นับว่าศีลเสมอ
ภายใต้สายลมพัดไหวผ่านบานหน้าต่างเข้ามา ต้นแขนของนางเย็นวูบ แม่ทัพเจี้ยนหยู่ลูบแขนนางให้อุ่น นางอาศัยจังหวะที่เขาเจรจา อิ่มเอมรสิญญาจากนางจนไอปีศาจลอยฟุ้งอยู่บนพื้นไม้ ลุกขึ้นผลักบ่ากว้าง นั่งคร่อมทับเอวสอบด้วยสีหน้าเร่าร้อนรัญจวน
“ข้าหวังเป็อย่างยิ่ง จะมอบความสุขให้ท่าน แม้ว่าฟ้าจะยังสว่างอยู่ ขอใต้เท้าอย่าได้เกรงใจ...”
ได้ยินคำพูดเช่นนั้นจากปากนาง เรือนกายกำยำที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเยี่ยงยอดขุนพล สั่นเกร็งเหมือนคนจับไข้ “จริงหรือ? สตรีไร้ยางอายเช่นเ้า ทำไมจึงอยากได้ข้าเป็สามีนัก”
“ข้ารักท่านมากกว่าเยว่ฉี ข้าจะปกป้องดูแลท่านเหมือนที่ท่านเอาใจใส่ข้า”
เจี้ยนหยู่หมดปัญญาจะโต้แย้งนาง สองมือสั่นเทาโอบกอดเอวบาง ต้อนรับนางสู่อ้อมอกอุ่น นางเป็ฝ่ายก้มหน้าลงจูบริมฝีปากหนาอย่างดูดดื่ม ซึ่งนางทำได้ดีกว่าครั้งไหน ๆ
ร่างผอมบางแอ่นเอวเข้าหาความแข็งขึง ราวกับว่านางมองเห็นด้วยตาว่าแท่งทวนของท่านแม่ทัพควรเข้าไปที่ตรงไหนอย่างไร นางเอาฝ่ามือวางทาบบนหน้าอกกำยำ กดสะโพกลงหาความลื่นไหลที่ดึงดูดเข้าหากันในขนาดสรีระซึ่งแตกต่างเป็อย่างมาก นางสะดุ้งเฮือก
“เหม่ยฉี... เ้า...”
“อ๊ะ ไม่ไหว... เจ็บ” นางสูดลมเข้าปาก หรี่ตาเล็กลง เจ็บเกินไป!
มือข้างหนึ่งของนางคว้ามือหนามาจับกุมอย่างไร้ที่พึ่ง นางบีบมือของเขาแน่น หนีบขาเข้าชิดติดสะโพกสอบ ด้วยหวังว่าจะบรรเทาความเ็ปลงบ้างไม่มากก็น้อย นั่นเป็การสร้างความทรมานสาหัสให้แก่บุรุษใต้ร่าง
เจี้ยนหยู่ส่งเสียงคำรามต่ำในลำคอ เขามองนางคล้ายกับเขาว่าจะดุนาง ไยนางจึงเอาแต่ใจเช่นนี้ นางฟังเขาเสียที่ไหนกัน...
กระนั้นแล้วกลิ่นอายสีชาดรอบกายอรชรยังทำให้เขาเคลิบเคลิ้ม
กลิ่นอบอวลของสตรีในอ้อมแขนช่างล้ำเลิศเสียจนมิอาจหาสิ่งใดเปรียบ ไม่ว่าจะเป็อาหารประเภทใดบนโลกมนุษย์ ทั้งอาหารรสชาติดีจากบุตรีนาง ทำมาส่งให้เขาเป็ประจำ แม้กระทั่งพระกระยาหารของฮ่องเต้ปัจจุบันทรงเชื้อเชิญแม่ทัพทั้งห้าไปลิ้มชิมอาหารที่ดีที่สุดในต้าเหลียง
ปีศาจจิ้งจอกที่พลัดหลงมายั่วยุกิเลศตัณหา เอ่ยถึงสตรีพรหมจรรย์ว่าพวกนางหอมหวานเท่าไร เนื้อสัตว์ที่ตายไปแล้วมีไอิญญาหลงเหลือไม่มากนัก จะเอร็ดอร่อยเท่าเนื้อกายสาวที่มีชีพจรเต้นตุบได้อย่างไร ร่องทางเปียกชุ่มนั้นจะทำให้ปีศาจขาดสติ คลุ้มคลั่ง! ไยเขาจึงไม่ลองลิ้มรสกามารมณ์ มีสัมพันธ์กับสตรีพรหมจรรย์ในคืนเพ็ญเพื่อเพิ่มพูนพลังปีศาจ
“เหม่ยฉี... รู้ไหมว่าข้าจะทำให้เ้าเสียใจ?”
“ข้าไม่มีวันเสียใจ”
ไฉนเลยนางจะโทษว่าเป็ความผิดของแม่ทัพปีศาจผู้นี้ได้ นางหลงรักเขาแต่แรกพบสบตา ความอ่อนโยนของเขาหลอมละลายหัวใจนาง กระทั่งในยามนี้