เมื่อหวานหว่านเห็นเช่นนั้น ในใจก็ใยิ่ง รีบใช้กำลังทั้งหมดเพื่อพุ่งตัวไปทางบิดามารดา “ตาเฒ่า จำเป็ต้องรังแกข้าเช่นนี้ด้วยหรือนี่ข้ายังเป็แค่เด็กนะ? ”เมื่อพูดจบ นางก็เบะปาก และใน่เวลาสำคัญก็เป็จวินเหยียนที่ลงมือแล้วอุ้มเด็กน้อยไว้ในอ้อมแขนตน
ชายหนุ่มร่อนกายลงมาอยู่ข้างภรรยาอย่างมั่นคง วางลูกสาวลงบนพื้น ขณะเดียวกันเหล่าองครักษ์ที่รอจังหวะต่างก็พากันกรูมาด้านหน้าเมื่อผู้เฒ่าผมขาวเห็นฉากเช่นนี้ก็ชี้นิ้วไปทางจวินเหยียน แค่นเสียงเ็า “เ้าคนเนรคุณริอาจรังแกอาจารย์ล้มล้างบรรพบุรุษทำไม? นี่เ้าคิดจะให้คนพวกนี้มาซ้อมข้าที่เป็อาจารย์อาของเ้าหรือ? ”
อวิ๋นซีที่ในใจเริ่มรู้สึกสับสน “...”
จี้หยวน “...”
ผู้ใดสามารถบอกพวกเขาได้บ้างว่า นี่มันเกิดเื่อันใดขึ้นกันแน่ เหตุใดผู้เฒ่าผมขาวผู้นี้ถึงได้เรียกตนเองว่าเป็อาจารย์อาของจวินเหยียน?
จวินเหยียนแค่นเสียงเ็าพูดว่า “ท่านคิดจะนำตัวบุตรสาวของข้าไปอย่าว่าแต่ซ้อมท่านเลย ต่อให้จะต้องจับท่านเปลื้องผ้าแล้วโยนลงไปบนเตียงของอาจารย์อาน้อยเปิ่นหวางก็กล้าทำ” เมื่อวานเขาค้นพบตัวตนของเ้าเฒ่า ผู้ใหญ่ที่ไม่น่าเคารพผู้นี้แต่กลับเพิ่งเข้าใจว่า อยู่ดีๆ เหตุใดคนถึงได้มาโผล่ที่นี่ ที่แท้ก็มีเป้าหมายเป็บุตรสาวเขา
ทั้งยังจะมี เ้าหลิ่วเซิง! อีกคน
หลิ่วเซิง เ้ารอเปิ่นหวางได้เลย หากได้เจอกันอีก หากไม่ส่งนางระบำเย้ายวนสิบคนแปดคนไปให้เ้าเปิ่นหวางก็ไม่ใช่คนแซ่โอวหยางแล้ว
เมื่อผู้เฒ่าผมขาวได้ยินก็โกรธจัดจนหนวดชี้ “เ้ากล้า!” ผู้เฒ่าชราหวนนึกถึงศิษย์น้องหญิงเล็กของเขาชั่วขณะนั้นก็ให้รู้สึกขนลุกขนพอง ยามนี้ตัวเขาอายุห้าสิบกว่าปีแล้ว ทว่า ศิษย์น้องหญิงเล็กของเขาเพิ่งจะสี่สิบหน้าตาสวยสด ทั้งยังรักษาความทรงเสน่ห์เอาไว้ได้อีกด้วย
หากให้ว่ากันตามหลักแล้วคนเช่นนี้ควรจะหาผู้ชายดีๆ มาอยู่เคียงคู่สักคนทว่า ศิษย์น้องหญิงเล็กผู้นี้กลับตกหลุมรักเพียงเขา อีกทั้ง สิ่งที่แย่ที่สุดก็คือั้แ่นางอายุได้ยี่สิบกว่าก็ไล่ตามเกี้ยวพาตนมาโดยตลอดจนถึงตอนนี้ที่ระยะเวลาล่วงผ่านไปกว่าสิบปีแล้วแต่นางก็ยังคงไม่ยอมออกเรือน แต่งงานให้ชายอื่น
สำหรับเื่นี้ เขาปวดหัวยิ่ง
“ท่านก็ลองดูเถิดว่า ข้า จะกล้าหรือไม่? ” จวินเหยียนมองไปยังผู้เฒ่าผมขาวเงียบๆ “ถึงแม้อาจารย์อารองจะหน้าตาอัปลักษณ์ไปหน่อยจนตัวข้าเองก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใดอาจารย์อาน้อยผู้เป็หญิงงามเช่นนั้นถึงได้ไปชอบท่านได้ มิรู้ว่าคนไปชอบท่านที่ตรงไหนถึงกระนั้นข้าก็ไม่อาจปฏิเสธได้ เพราะอาจารย์อาน้อยปรารถนาในความเป็บุรุษของอาจารย์อารองมาหลายปีแล้วดังนั้น ตัวข้าในฐานะศิษย์หลานก็ย่อมสมควรช่วยให้ความปรารถนาของอาจารย์อาน้อยเป็จริง”
อวิ๋นซีที่ได้ฟังบทสนทนานั้น ยามนี้ก็ไม่รู้ว่าตนควรจะนิยามบุรุษตรงหน้าผู้นี้ว่าอันใดดีหากคนเป็ผู้อื่นก็ช่างเถอะ แต่ตามที่ได้ฟังมาก็พอจะเดาได้ว่า อีกฝ่ายถือเป็อาจารย์อาของจวินเหยียนดังนั้น บุรุษของนางพูดจาเช่นนี้ จะดีจริงๆ หรือ?
ไม่นานหลังจากนั้น จวินเหยียนก็ได้สำแดงความปากร้ายอันเป็นิสัยดั้งเดิมของตนออกมาอีกครั้ง“อาจารย์อารอง วางใจเถอะ ยามนี้ตัวท่านก็อายุห้าสิบกว่าแล้ว ไม่แน่ว่าอาจารย์อาน้อยที่งดงามราวเทพเซียนผู้นั้นของข้าเมื่อได้เห็นท่านเปลือยกายล่อนจ้อนก็อาจไม่สนใจสิ่งใดแล้ว เช่นนี้ อย่างน้อยๆ ่สุดท้ายของชีวิตท่านก็ยังรักษาไว้ได้”
จี้หยวนและอวิ๋นซีมองท่าทางของเขา ก่อนจะหันมองเฒ่าชราผมขาวตรงหน้าที่ยามนี้โกรธจนแทบะเิแล้วจากนั้นนางจึงจูงมือบุตรสาวตนมุ่งหน้าไปยังรถม้า ส่วนจวินเหยียน ยามนี้นางไร้กำลังแล้วจริงๆเฒ่าชราผู้นี้แตะต้องบุตรสาวเขา หากไม่ถูกเขาซัดสักสองหมัด ไม่แน่วันหน้าเขาอาจได้เปลื้องผ้าเฒ่าชราจนล่อนจ้อนแล้วส่งไปยังเตียงของอาจารย์อาน้อยจริงๆก็ได้
ทางด้านอวิ๋นซี ด้วยเื่ในสำนักของผู้อื่น นางที่เป็คนนอกจึงไม่คิดเข้าไปยุ่มย่ามอย่าได้เข้าไปยุ่งจะดีกว่า
หลังจากนั้นเพียงไม่นานในป่าก็มีเสียงต่อสู้ดังขึ้น ขณะที่อวิ๋นซีได้สั่งให้คนจัดที่ทางบริเวณใกล้เคียงก่อนจะนำของว่างที่หลิงเยว่เซวียนให้คนเตรียมให้ออกมา นางและเด็กทั้งสาม รวมถึงจี้หยวนต่างก็นั่งลงกินด้วยกัน
ผ่านไปเพียงครู่ จวินเหยียนก็กลับมาพร้อมด้วยเฒ่าชราที่มุมปากบวมแดงเดินตามมาอยู่ด้านหลังทันทีที่ผู้ชราเห็นของว่างเ่าั้ ดวงตาทั้งสองข้างก็ทอประกายวาววับ ทว่า ตอนที่คิดจะหยิบมากินมือข้างหนึ่งที่ยื่นออกไปกลับถูกเข็มเงินของอวิ๋นซีแทงเข้า ชั่วขณะนั้นแขนทั้งข้างเป็อันชาวาบ
เมื่อจวินเหยียนเห็นเช่นนั้นก็ได้แต่อมยิ้มและนั่งรอรับชมเื่สนุกๆ อยู่อีกด้านหนึ่งปกติแล้วภรรยาเขาน้อยนักจะแสดงฝีมือ ทว่าหากครั้งใดลงมือเอง คนผู้นั้นต่อให้ไม่ตายหนังก็ต้องหลุดไปสักชั้น ซึ่งผู้เคราะห์ร้ายในคราวนี้อย่างอาจารย์อารองของเขาก็ถือเป็คนที่สมควรโดนอย่างยิ่งให้อาซีได้สั่งสอนบทเรียนเขาสักหน่อยก็ย่อมดี
“เ้า สาวน้อย นี่เ้าทำอันใดกับข้า” เข็มเงินเล็กๆ เพียงเล่มเดียวกลับทำให้มือตนชาได้สมควรตายนัก เห็นผีแล้ว ตกลงนี่มันคือสิ่งใดกัน
คิดดูเถอะ ตัวเขาที่เป็ถึงเซียนพิษ แต่กลับโดนพิษเล่นงานเสียเอง?
อวิ๋นซีพูดด้วยสีหน้าคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “กับโจร ข้ายังจะทำอันใดได้เล่า”
อาจารย์อารองมิคาดว่าอวิ๋นซีจะมองตนเป็เหมือนโจร เขารู้สึกราวกับบนหัวตนมีอัลปาก้า[1] เป็แสนตัวกำลังวิ่งอย่างบ้าคลั่ง “สาวน้อยเคารพผู้ใหญ่รักใคร่เด็ก เ้ารู้จักหรือไม่ รู้จักหรือไม่”
อวิ๋นซีไม่สนใจเขา หยิบของว่างชิ้นหนึ่งให้เอ้อนี นางแค่นเสียงเ็า“เ้าเฒ่า ผู้าุโเยี่ยงเ้ายังไม่เข้าใจเลย แล้วเหตุใดตัวข้าจักต้องเข้าใจด้วย”
จวินเหยียนมองภรรยาที่น่าเกรงขาม ก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้เขานั่งอยู่ข้างกายนาง โอบบ่านางเบาๆ พลางมองไปยังอาจารย์อารองด้วยสายตาท้าทายราวกับกำลังจะบอกว่าท่านดูสิ ข้ามีภรรยาที่รักใคร่อยู่นะ
“ตัวข้าผู้ชราจะไม่เข้าใจการเคารพผู้ใหญ่รักใคร่เด็กได้อย่างไร”อาจารย์อารองมีทีท่าไม่ยินยอม เมื่อครู่เขาก็เพิ่งจะทะเลาะวิวาทมาย่อมท้องหิวเป็ธรรมดาอีกทั้ง นับแต่เล็กแต่น้อยตัวเขาก็ชื่นชอบการกินของหวานเป็ชีวิตจิตใจ ตอนนี้เมื่อต้องเห็นแต่กินไม่ได้ มารดาเถอะ มันช่างทรมานจริงๆ
อวิ๋นซีไม่สนใจหรอกว่าอีกฝ่ายจะทรมานหรือไม่เพียงใด เพราะตัวนางก็เป็คนเช่นนี้หากผู้ใดกล้าล่วงเกินขีดจำกัดของนาง ไม่ว่าคนผู้นั้นจะเป็ใคร นางก็มักจะสั่งสอนก่อนแล้วค่อยคุยอีกทั้ง เมื่อครู่นี้ยามที่เ้าเฒ่าผู้นี้เห็นของว่างก็อาจเรียกได้ว่า ดวงตาทั้งคู่ของชายชราเกิดเป็ประกายทำให้นางพอจะคาดเดาได้ว่า คนผู้นี้ชอบกินของหวาน ดังนั้น นางจะไม่ให้เขาได้กิน และจะให้เขาต้องนั่งมองทุกคนกินของว่างจนหมดเกลี้ยง
“พาลูกสาวข้าขึ้นไปบนต้นไม้ โดยไม่สนใจด้วยซ้ำว่าชีวิตนางจะมีอันตรายใดหรือไม่นี่คือรักใคร่เด็กที่ท่านพูดถึงหรือ? หากเมื่อครู่หวานหว่านผลัดตกลงมาจาก้าจริงๆท่านเคยตรองดูหรือไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็อย่างไร? หากมิใช่ว่าตัวท่านเป็อาจารย์อารองของสามีข้าข้าคงได้ฉีกหนังท่านไปนานแล้ว” อวิ๋นซีแค่นเสียงเ็า ไม่มองคนตรงหน้าอีก
อาจารย์อารองเห็นท่าทีของนางดูไม่สนใจตนแล้วจริงๆ อีกทั้ง ขนมตรงหน้าก็จวนจะหมดแล้วเขาก็ร่ำร้องอย่างไร้น้ำตาในทันที หากไม่ใช่เพราะได้เจอเด็กที่มีความสามารถร้อยพิษไม่กล้ำกลายจนเป็เหตุให้ตื่นเต้นเพียงนั้นตัวเขาก็คงไม่พาเด็กขึ้นไปบนต้นไม้เช่นนั้นหรอกกระมัง
ใครจะรู้ เ้าสองสามีภรรยานี่จะใจแคบเพียงนี้ ทั้งๆที่เขาเป็ผู้าุโชัดๆ แต่คนทั้งสองกลับกล้าปฏิบัติไม่ดีต่อเขาอย่างออกนอกหน้า ช่างชั่วร้ายจริงๆ
จวินเหยียนและอวิ๋นซีไม่ได้สนใจสายตาตัดพ้อที่กำลังจดจ้องพวกตน กระทั่งทุกคนกินขนมจนหมดแล้วนางจึงได้ดึงเข็มบนมือเขาออก ทันทีที่เข็มเงินถูกดึงออกมา ชายชราก็สามารถกลับมาขยับกายเคลื่อนไหวได้อีกครั้ง
ในใจเขาคั่งแค้น เ้าพวกลูกกระต่าย!
“ถ้ายังจะถลึงตาต่อไป ข้าจะทำให้ท่านมองไม่เห็นอะไรอีกเลย ตลอดชีวิต”เมื่อพูดจบ นางก็แค่นเสียงเ็า
อาจารย์อารองถูกข่มขู่เข้าก็ยิ่งกรุ่นโกรธ “สาวน้อย เ้าทำเช่นนี้ไม่ได้นะแท้จริงแล้วการเป็สตรีก็ควรจะมีจิตใจอ่อนโยนดีงาม แต่หากเ้ายังจะดื้อด้านประพฤติตัวเช่นนี้ก็ย่อมจะไม่ได้รับการยอมรับจากครอบครัวสามี”
“ครอบครัวสามีข้า นอกจากสามีข้าแล้ว คนอื่นล้วนไม่สำคัญ”
“เช่นนั้นข้าจะหาสตรีอีกคนที่อบอุ่นอ่อนโยนมารับใช้ศิษย์หลานข้าเ้าดุร้ายเช่นนี้ ไม่มีความเป็สตรีเลยสักนิด”
เมื่ออวิ๋นซีได้ยินก็เริงร่า เดินไปตรงหน้าอาจารย์อารองพลางมองท่าทีได้ใจตอนเขาพูดถึงว่าจะหาภรรยาให้จวินเหยียนเพิ่ม มุมปากอวิ๋นซีโค้งขึ้นน้อยๆ “ท่านกล้าหา เขากล้านอน ตัวข้านี้ก็จะทำลายพวกท่านทั้งคู่เสีย”
————————————————————————————————
เชิงอรรถ
[1] อัลปาก้า(草泥马)ชื่อเรียกหนึ่งของอัลปาก้าในภาษาจีนคือ เฉ่าหนีหม่าซึ่งออกเสียงคล้ายกับคำด่าในภาษาจีนที่ว่า เฉาหนี่มา ซึ่งมีความหมายในเชิงด่าแม่คำนี้ในที่นี้จึงเป็คำด่าไม่ได้แปลว่า อัลปาก้าแต่อย่างใด
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้