เหลยิก้าวขึ้นมาข้างหน้า สีหน้าเคร่งขรึมปรากฏในสายตาของเย่เฟิง พวกเขาต่างจ้องหน้ากันและกัน
“เย่เฟิง เรามาคุยกันหน่อยดีไหม?” เหลยิหยั่งเชิง
“พวกเราไม่มีเื่อะไรต้องคุยกัน” เย่เฟิงกล่าวต่อ “มันขึ้นกับว่าคุณจะยอมปล่อยผมไปไหม”
“ฮ่าๆ เื่นั้นไม่ใช่ปัญหา แต่นายต้องทิ้งของข้างกายนายไว้” เหลยิแย้มยิ้ม
เย่เฟิงได้ยินดังนั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที นี่เหลยิเรียกซูเฟยหยิ่งเป็ ‘สิ่งของ’ เหรอ?
“ผมจำเป็ต้องพาเธอไปด้วย คุณจะปล่อยไม่ปล่อย?”
เย่เฟิงจ้องเหลยิตาเขม็ง
“เป็เด็ก อย่าอวดดีให้มากนะ”
เมื่อได้ยินคำพูดของเย่เฟิงที่ดูท่าจะไม่ถอยง่ายๆ เหลยิก็ไม่สบายใจ ไม่ว่าอย่างไร ในฐานะที่เป็หน่วย NSA เขาก็เหมือนกับตัวแทนประเทศในการเจรจาครั้งนี้
“เห็นแก่หน้าคุณหนูหลิน ฉันสามารถปล่อยนายไปได้ แต่นายต้องทิ้งสิ่งนั้นเอาไว้เท่านั้น” เหลยิกล่าวด้วยใบหน้าจริงจัง นี่ถือว่าเขายอมให้ที่สุดแล้ว!
ในมุมมองของหน่วย NSA เย่เฟิงถือว่าไม่ได้เป็คนอันตรายอะไร ซ้ำยังช่วยพวกเขาเจาะทะลวงเกาะน้ำแข็งเข้ามา ซึ่งเป็เื่ดีอย่างยิ่ง แต่ถ้าเย่เฟิงคิดจะพา ‘สิ่งนั้น’ ไปจากเกาะน้ำแข็ง ย่อมเป็เื่ที่ยอมไม่ได้ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม!
เมื่อได้ยินเหลยิเรียกซูเฟยหยิ่งว่า ‘สิ่งนั้น’ เป็ครั้งที่สอง เย่เฟิงก็รู้สึกอยากกระทืบอีกฝ่ายจริงๆ
“หลินซือฉิง? เห็นแก่หน้าเธอ? ผมไม่มีความสัมพันธ์อะไรกับหล่อนอยู่แล้วนะ” เย่เฟิงกล่าวอย่างไร้เยื่อใย “ยังไงก็แล้วแต่ คุณจะยอมปล่อยผมไปดีๆ ไหม?”
หากไม่จำเป็จริงๆ เย่เฟิงก็ไม่อยากปะทะกับหน่วย NSA อยู่แล้ว หากอีกฝ่ายยังคงดื้อดึง เขาก็ไม่มีทางเลือก
จากท่าทางที่แสดงออก เหลยิรับรู้ถึงความหนักแน่นในดวงตาของอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย ทำให้เขาอดขมวดคิ้วไม่ได้ เขาไม่รู้จักเย่เฟิงมากนัก แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจคือ หน่วย NSA ก็ยังไม่อาจประเมินความแข็งแกร่งของเด็กคนนี้ได้แน่ชัดเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลเกี่ยวกับเย่เฟิงที่เขารวบรวม พบว่าอีกฝ่ายสามารถรวบรวมพลังมหาศาลได้ใน่เวลาหนึ่ง และความแข็งแกร่งของมันเทียบเท่ากับขีปนาวุธได้เลย แน่นอนว่าสิ่งนี้ไม่สามารถใช้ในการต่อสู้ทั่วไปได้ นอกจากนี้ยังมีกระบี่คมกริบเล่มหนึ่งที่สามารถเปลี่ยนสีได้
เขายังได้ยินข้อมูลเพิ่มเติมจากเ้าหน้าที่ระดับสูงทั้งสามคนในเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ซึ่งเพ่ยเค่อกรุ๊ปส่งมา พวกนั้นบอกว่าสาเหตุที่เรือดำน้ำะเิ เกิดจากการที่เย่เฟิงใช้กระบี่เจาะรูที่ผิวเรือจนน้ำทะเลทะลักเข้าไปภายใน แม้แต่เหล่าลูกเรือก็ไม่สามารถหยุดได้ทัน สุดท้ายพวกเขาจึงจำเป็ต้องใช้โหมดทำลายตัวเองในที่สุด
‘กระบี่เล่มนั้น เราจะมองข้ามไม่ได้...’ เหลยิคิดในใจขณะคงสีหน้าเคร่งขรึมไว้
หากภารกิจนี้ขึ้นตรงต่อหลี่เฟิงหรือหนิวเหมิ่ง พวกเขาไม่มีทางยอมปล่อยเย่เฟิงไปแน่ ดูเหมือนว่าสำหรับเด็กคนนี้แล้ว ทั้งผลึกน้ำแข็งและ ‘เทพธิดาแห่งทะเลตะวันออก’ จะมีค่ามากกว่างานวิจัยของหน่วย NSA หลายเท่านัก แต่การที่เหลยิบอกว่าเห็นแก่หน้าหลินซือฉิงนั้น เป็เพราะเขาไม่อยากสร้างความลำบากใจให้เย่เฟิง เขาไม่คิดเลยว่าเย่เฟิงจะไม่สนใจสถานการณ์แม้แต่น้อย ซ้ำยังคิดจะพาเทพธิดาหนีไปด้วย!
ทุกคนต้องเข้าใจว่า เทพธิดาแห่งทะเลตะวันออกและผลึกน้ำแข็งปรากฏในแถบทะเลตะวันออก เพราะฉะนั้นตามกฎหมาย ทั้งสองสิ่งจึงถือว่าเป็สมบัติของประเทศ แล้วเหลยิจะยอมปล่อยไปได้อย่างไร
“เย่เฟิง ฉันขอเตือนอีกครั้งนะ”
เดิมทีเหลยิ้าเจรจาอย่างสันติเพื่อโน้มน้าวคนตรงหน้า แต่เขาก็รำคาญใจเล็กน้อย เพราะสีหน้าของอีกฝ่ายแสดงให้เห็นว่าไม่สนใจสิ่งใดเลย เด็กคนนี้คิดจะต่อต้านหน่วย NSA อย่างนั้นหรือ?
“ไม่จำเป็ต้องพูดอะไรแล้ว ถ้าไม่ให้ผมพาเธอไป ก็ไม่ต้องเสียเวลาพูดอะไรให้มากความอีก”
เย่เฟิงรับรู้ความตั้งใจของเหลยิจากสีหน้าแล้ว ระหว่างที่พูดคุยกัน เขาจึงเตรียมพร้อมสำหรับการปะทะที่จะเกิดขึ้น
สำหรับร่างซูเฟยหยิ่งที่ถูกแช่แข็ง ดูเหมือนว่าเขาไม่ต้องปกป้องแล้ว จะมีใคร้าทำลายไหม? ถ้าอย่างนั้นก็ดีเลย เพราะเย่เฟิงจะได้ไม่ต้องลงมือเอง...
พลังชี่เริ่มไหลเวียนไปยังมือและขาของชายหนุ่ม เตรียมพร้อมใช้ทักษะย่างก้าวไร้เงาร่วมกับกระบี่เจินชี่ในเวลาเดียวกัน!
เมื่อเห็นท่าทางแน่วแน่ของเย่เฟิง เหลยิจึงล้มเลิกความคิดที่จะโน้มน้าวเด็กหนุ่ม ดูเหมือนว่าคงต้องใช้แผนที่คิดไว้สำหรับสถานการณ์แบบนี้ นั่นคือการทำให้เย่เฟิงหมดสภาพจนไม่อาจต่อสู้ได้อีก
เหลยิยกมือขึ้นเพื่อออกคำสั่งให้ทุกคนเปิดฉากยิง แต่ทันใดนั้นเองห่างไปไม่ไกล ร่างของคนคนหนึ่งพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วราวกับสายลม
ขณะนั้นพลังจิตหยั่งรู้ของเย่เฟิงก็รับรู้ได้ว่าคนผู้นั้นคือลิ่วจื่อไกว้ ซึ่งจู่โจมเข้ามาจากระยะไกลด้วยความรวดเร็วราวกับสายฟ้า
“นี่เป็ความแค้นภายในยุทธจักร หน่วย NSA ไม่จำเป็ต้องยื่นมือเข้ามาสอด!” ชายชราลิ่วจื่อไกว้คำรามอย่างน่ากลัว ขณะพุ่งโจมตีเย่เฟิง
ดวงตาของเย่เฟิงพลันเบิกกว้าง น่าใที่เฒ่าประหลาดคนนี้มีระดับวรยุทธ์ห้าสิบห้าปีแล้ว แข็งแกร่งยิ่งกว่าแม่เฒ่าเจวี๋ยฉิงเสียอีก หากเป็เช่นนี้ แม้จะใช้วิชากรงเล็บัระดับสามก็ไม่อาจจับกุมอีกฝ่าย
ว่าแต่ เขามีความแค้นอะไรกับตาเฒ่าคนนี้กัน? หรือว่ามันรู้เื่ที่เขาสังหารแม่เฒ่าเจวี๋ยฉิงแล้ว?
ไม่สิ ไม่น่าจะเป็ไปได้
ด้วยความว่องไวของพลังจิตหยั่งรู้ เย่เฟิงจึงพบว่าแม้ชายชราจะพุ่งเข้าหาเขาด้วยจิตสังหาร แต่ดวงตากลับมองชิ้นส่วนน้ำแข็งพันปีด้วยความโลภ
‘หลอกล่อเหรอ?’ เย่เฟิงคิดถึงความเป็ไปได้อย่างหนึ่ง ดูเหมือนว่าลิ่วจื่อไกว้จะไม่ใช่พวกสมองกลวง
ถ้าชายชรา่ชิงน้ำแข็งพันปีไป ย่อมต้องถูกหน่วย NSA ไล่ล่าแน่ ถ้าฉลาดพอ ชายชราควรจัดการกับเขาเสียก่อน ด้วยวิธีนี้ หน่วย NSA คงไม่มีเหตุผลที่ต้องเข้ามาก้าวก่าย ซ้ำยังเป็เื่ดีสำหรับพวกนั้นเสียอีก
แล้วก็เป็ไปตามคาด เมื่อได้ยินคำพูดของลิ่วจื่อไกว้ เหลยิรีบะโสั่งทันที “อย่าเพิ่ง รอรับคำสั่ง!”
หากมีใครก้าวเข้ามาจัดการเย่เฟิงย่อมถือเป็เื่ดีสำหรับเหลยิ ถึงเวลาที่เย่เฟิงตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก เขาค่อยช่วยเหลือ เพราะไม่ว่าอย่างไร อีกฝ่ายก็คือคู่หมั้นของคุณหนูหลิน หากเย่เฟิงตายที่นี่ ทั้งตำแหน่งและภาพลักษณ์ของเหลยิคงได้รับผลกระทบแน่นอน เพราะเขาคือผู้ใต้บังคับบัญชาที่ขึ้นตรงต่อหลินเต๋อเทียน
เหลยิและลูกน้องยี่สิบกว่าคนรีบหยุดการเคลื่อนไหวและสังเกตการณ์ ‘ความแค้นภายในยุทธจักร’ อยู่ห่างๆ สายตาของแต่ละคนเต็มไปด้วยความสงสัย
ตามข้อมูลของพวกเขา ชายชราคนนี้ควรมีระดับวรยุทธ์ห้าสิบปี แต่จากอุปกรณ์ตรวจจับ ดูเหมือนเขาจะแข็งแกร่งมากกว่านั้น และเย่เฟิงที่มีระดับวรยุทธ์สิบปีตอนต้น ซึ่งไม่รู้แน่ชัด เพราะเย่เฟิงก้าวหน้ารวดเร็วมาก พวกเขาจึงยังไม่มีข้อมูลใหม่
ในการต่อสู้ของทั้งคู่ เย่เฟิงคงไม่สามารถเอาชนะอีกฝ่ายได้หรอก ใช่ไหม? ถึงเย่เฟิงจะมีวิธีเจาะทะลวงเกาะน้ำแข็ง หรือทำลายเรือดำน้ำ แต่วิธีการเ่าั้ดูเหมือนจะไม่สามารถใช้ได้อย่างรวดเร็ว และไม่น่าจะนำมาใช้ระหว่างการต่อสู้กับผู้ฝึกวรยุทธ์คนอื่นได้ ไม่เช่นนั้น เขาคงใช้วิธีเหล่านี้สังหารหลงโม่หรานไปแล้ว
สำหรับความแค้นในยุทธจักร เหลยิไม่แปลกใจอะไร ดูเหมือนว่าผู้ฝึกวรยุทธ์ที่เย่เฟิงสังหารไปตอนที่อยู่ในปราการน้ำแข็งจะเป็เพื่อนกับชายชราลิ่วจื่อไกว้ เป็ธรรมดาที่ชายชราจะขุ่นเคืองเย่เฟิง
เย่เฟิงกวาดพลังจิตหยั่งรู้ไปรอบๆ และรับรู้ว่าชายชราคนนี้พยายามจู่โจมเขาจากระยะหนึ่งร้อยเมตร ชายหนุ่มหรี่ตามองขณะใคร่ครวญในใจ เหตุใดเฒ่าประหลาดคนนี้จึงเลือกจู่โจมในเวลานี้? หากเป็เขา คงไม่เลือกลงมือเวลานี้แน่...
แต่สิ่งที่เย่เฟิงไม่รู้ก็คือเรือเร็วลำหนึ่งกำลังแล่นเข้าใกลู้เาน้ำแข็งอย่างรวดเร็ว ซึ่งอยู่นอกเหนือขอบเขตพลังจิตหยั่งงรู้ของเขา
หลงโม่หรานและสวีเซียวหยู่!
แท่นน้ำแข็งที่เย่เฟิงยืนอยู่มีระดับค่อนข้างต่ำ สายตาของเขาจึงถูกบดบังด้วยยอดน้ำแข็งรอบๆ แต่ลิ่วจื่อไกว้นั้นต่างกัน ตำแหน่งที่ชายชราหลบซ่อนตัวอยู่ก่อนหน้านี้สามารถมองเห็นเรือเร็วที่กำลังแล่นเข้ามาได้อย่างชัดเจน หากเขาไม่ลงมือเวลานี้ สิ่งล้ำค่าย่อมถูกหลงโม่หรานและสวีเซียวหยู่ชิงไปแน่นอน!
ชายชราตัดสินใจลงมือทันที และคิดว่าระหว่างต่อสู้กับเย่เฟิง เขาจะหาโอกาส่ชิงผลึกน้ำแข็งมาเสีย!